หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่160 ท่านอนที่มีความยากสูง

บทที่160 ท่านอนที่มีความยากสูง

บทที่160 ท่านอนที่มีความยากสูง

พอมาถึงหน้าเตียงของหลานเยาเยาก็ต้องตกใจกับท่านอนของนาง นางเพ่งมองอยู่นาน เพ่งเท่าไหร่ก็ดูไม่ออกว่านางจัดท่านอนยังไง?

มันระดับยากไปแล้ว!

พอได้ยินประโยคนี้ หลานเยาเยายกมุมปากขึ้น

น่าจะเพราะเมื่อคืนฝันว่าเล่นโยคะ……

ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้น หลังจากใส่เสื้อผ้าล้างหน้าล้างตาเสร็จจึงจับชีพจรให้โหลวเย่ว

แม้ร่างกายนางจะยังอ่อนแออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร

“ข้าว่าข้าเจอแล้ว ตั้งแต่ข้าตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ เจ้าก็จ้องข้าตลอด เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าไม่ยินยอมเจ้าหรอกนะ”พูดจบหลานเยาเยาก็ป้องกันตัวเองแน่นหนาทำท่าเหมือนกับให้ตายยังไงก็ไม่ยินยอม”

จึงทำให้โหลวเย่วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ที่นางมองนางอย่างนั้นมันก็มีเหตุผล

“เยาเยา จู่ๆข้าก็รู้สึกว่าเจ้าน่าดึงดูดมาก แค่มองเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้ผู้ชายพันหมื่นคนหลงได้……”

“หยุดๆๆ เจ้าอยากจะพูดอะไร?”

โหลวเย่วยังไม่ทันพูดจบก็ถูกนางตัดบท

เช้าตรู่อย่างนี้โหลวเย่วจะทำอะไร?

“เมื่อวานคุณหนูแต่ละตำหนักมาเยี่ยมชม วันนี้เช้าตรู่ฟ้ายังไม่ทันสว่างก็มีเสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทและคุณชายคุณหนูตระกูลขุนนางสองสามคนมาที่ตำหนักแล้ว จนถึงตอนนี้ก็รอมาเกือบสองชั่วยามแล้ว

บอกว่ามีคนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ จึงตั้งใจมาเชิญท่านไปตรวจ ข้าดูแล้วท่าทางมันผิดปกติดังนั้นจึงมาหาเจ้าที่นี่เพื่อดูว่าเจ้ามีวิธีการอะไรไหม”

โหลวเย่วลูบคางเบาๆทำท่าราวกับตนเองเป็นนักสืบ

ดวงตาของหลานเยาเยาหรี่ลงอย่างพินิจพิเคราะห์

เมื่อวานเป็นแค่การเรียกน้ำย่อย

วันนี้ความวุ่นวายที่แท้จริงมาแล้ว!

ฮองเฮาเพิ่งเสียไปไม่นานซึ่งนับว่าเป็นการตายที่ไม่ปกติ ยศของฮองเฮาก็ถูกถอนไม่สามารถจัดงานศพได้ตามฐานะฮองเฮา แต่ในฐานะองค์ชายรัชทายาทผู้เป็นลูกแท้ๆไม่ว่ายังไงก็ควรไว้ทุกข์สักช่วงนึงไหม?

มาด้วยความรีบร้อนขนาดนี้ คาดว่าคงเกลียดนางเข้ากระดูก……

“มานี่สิ ไปส่งอาหารเช้า”กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรงโต้ตอบความวุ่นวาย “แล้วก็เอาติ่มซำไปวางไว้ที่ห้องโถงให้แขกด้วย”

“เพคะ!”

สาวใช้เฝ้านอกประตูรับคำแล้วจากไป

หลังจากโหลวเย่วตกใจก็อุทานขึ้นมาทันทีว่า: “เยาเยา ตอนนี้มันเวลาเท่าไหร่กันแล้ว เจ้ายังมีกะจิตกะใจกินอีก?”

เป็นความจริงที่ว่าฮ่องเต้ไม่รีบแต่คนที่รีบตายคือขันที(คนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยนี่มักกังวลแทน) โหลวเย่วรู้สึกกังวลแทนนาง

โหลวเย่วรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงมาก

อีกทั้งการตายของฮองเฮามีความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อนางมาก ตอนนี้ที่เสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทมาหาแน่นอนว่าต้องเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว

เสด็จอาไม่อยู่ก็ไม่รู้ว่าเยาเยาจะสามารถรับมือได้หรือไม่?

“กลัวอะไร? ไม่กินให้อิ่มแล้วจะมีแรงไปทำอะไรได้ยังไง รอครู่เดียวเจ้าก็กินเยอะๆหน่อย”

หลานเยาเยารู้ว่าโหลวเย่วกำลังกังวลแทนนาง

ถึงอย่างไร!

คนคนนึงที่ยังต้องนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยสามารถพาร่างกายที่อ่อนโรยมาอยู่ตรงนี้ได้มันไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้นคนคนนี้ยังเป็นองค์หญิงอีก

“อื้ม ได้!”

เมื่อเห็นว่าหลานเยาเยาไม่กังวลเลยสักนิด ใจที่กังวลของโหลวเย่วก็ผ่อนคลาย

……

กลางห้องโถง

องค์ชายรัชทายาทที่นั่งอยู่บนเก้าอี้——เย่หลีเฉิน ใบหน้าหล่อเหลาและผอมๆมีเมฆดำคลุมอยู่ มองดูน้ำชาที่ส่งไปให้นานแล้วอยู่นาน สายตาหม่นๆ มีที่ถือถ้วยชาอยู่เส้นเลือดก็ปูดขึ้นมาแทบระเบิด

หลานเยาเยานี้นี่ นางไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆรึไง?

ก็รู้อยู่ว่าเขามาแล้ว ยังจะกล้าให้เขารออยู่ที่นี่นานขนาดนี้……

แต่ว่า ไม่เป็นไร

หลังจากวันนี้ ถ้าหลานเยาเยาไม่ตายก็จะกลายเป็นจุดน่าหัวเราะ ที่น่าขันที่สุดในโลก เขาจะทำให้นางพลิกตัวไม่ได้ตลอดไป

หลังจากครึ่งชั่วยาม

ตอนที่หลานเยาเยาก้าวเข้าห้องโถง ทุกสายตาในห้องโถงก็มารวมอยู่ที่นางทั้งความหนาวเหน็บ อันตราย ไตร่ตรองตลอดจนสายตาแบบมองการแสดงสนุกๆก็มี

แต่ทว่า……

จู่ๆฝีเท้าของหลานเยาเยาก็หยุดลง นางรู้สึกถึงสายตาแปลกๆ

จึงหันไปมองตามสายตานั้น……

นางเห็นเครื่องหน้าที่กระจัดกระจายไปอย่างน่าทึ่งเมื่อเอามารวมกันใบหน้าที่สวยงาม

นั่นเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับองค์ชายรัชทายาท ผู้ที่ครอบครองนัยน์ตาสงบสลัวๆเป็นประเภทที่ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้คนมองไม่ออก

คงเป็นเพราะถูกนางจ้องนานไป ชายหนุ่มนั้นจึงกระแอมขึ้นและหันหน้าหนีไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

ทุกคนเมื่อเห็นนางมาก็ต่างพากันลุกขึ้นคำนับ

มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่แยแส

คนนึงคือเย่หลีเฉิน เดิมทีเขาไม่ชอบหลานเยาเยาอยู่แล้วแล้วยิ่งเพิ่มเรื่องการตายของฮองเฮาไปอีกเหลือแต่ความจงเกลียดจงชังไว้ให้นาง แม้นางจะเป็นอาสะใภ้แต่เขาก็ไม่เห็นหัวนางแม้แต่น้อย

ส่วนอีกคนคือชายหนุ่มที่หลานเยาเยาเพิ่งมองเมื่อครู่

เขาหน้าซีดเผือด ร่างกายผอมโซนั่งอยู่บนเก้าอี้เพียงแค่คำนับมือน้อยๆ

ในไม่ช้าก็มีคนอธิบายกับนางว่าเขาชื่อหานแสเป็นคนที่คลุกคลีกับเตียงคนไข้ตลอดเวลา แต่เขาไม่ใช่คนของประเทศก่วงส้า

สำหรับว่าเขาเป็นคนอะไร พวกเขาไม่ได้บอกหลานเยาเยาก็ไม่ได้ถาม

เดาว่าอาหารจานหลักวันนี้น่าจะเป็นเขา!

หลานเยาเยาเดินมานั่งตรงที่นั่งตนเองอย่างไม่รีบร้อน ก้นยังนั่งไม่ทันร้อนเย่หลีเฉินก็เอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา

“ได้ยินมาว่าวิธีการรักษาของอาสะใภ้นั้นยอดเยี่ยมมาก สามารถฟื้นชีพคนตายได้เก่งกาจเหมือนกับหมอหัวโถ ข้ารู้ว่าเสด็จอาซื่อสัตย์จริงใจ มีจิตใจดีราวแม่กวนอิมซึ่งหาได้ยาก

พอดีว่าตรงนี้ข้ามีเพื่อนที่ดีสองคนทุกข์ทรมานจากโรคประหลาด หาหมอเทวดาไปทั่วหล้าก็ไม่มีทางรักษาได้ จึงตั้งใจพามาที่นี่ให้ดู

มองอาสะใภ้ที่มองหน้าเสด็จอา มองๆดูก็เลี่ยงเพื่อไม่ให้กระทบต่อหน้าตาของจวนอ๋องเย่

น้ำเสียงของเย่หลีเฉินเต็มไปด้วยความรู้เหมือนดินระเบิด ดูราวกับว่าถ้านางกล้าพูดคำว่าไม่ขึ้นมาเขาก็จะระเบิดมันทันทีเลย

คิดไม่ถึงจริงๆ……

เย่หลีเฉินไม่ได้โง่ รู้ที่จะเยินยอนางพร้อมกับใช้ชื่อเสียงของจวนอ๋องเย่มาขู่นาง

เฮอะ!

น่าตลกจริงๆ

นางไม่ได้โตมาด้วยการถูกคุกคาม จะกลัวเขาเหรอ?

อีกอย่างเย่หลีเฉินกล้าพูดเช่นนี้ ก็เป็นเพราะเห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้อยู่ที่ตำหนักและปฏิบัติกับนางเหมือนกับผู้หญิงที่ขี้ขลาด

ดังนั้น นางจะกางมือออกอย่างหมดคำพูดและถอนหายใจออกมา

“หลานชาย! เจ้าอย่าพูดเช่นนี้สิ มันทำร้ายข้าจริงๆ ข้าจะไปเข้าใจวิธีการรักษาได้ที่ไหนกัน? มันก็เป็นการแพร่ข่าวมั่วๆของภายนอก”

“อาสะใภ้ถ่อมตัวเกินไปแล้ว ได้ยินมาว่าโรคที่ไม่มีทางรักษาของจาวหยางกับโรควิกลจริตของเสด็จแม่ก่อนสิ้นพระชนม์ล้วนเป็นท่านที่รักษาจนหาย ที่พูดแบบนี้นี่เป็นการดูถูกข้ารึเปล่า?”

หลานชาย?

นางกล้าเรียกจริงๆ……

เรื่องของฮองเฮาเป็นความอัปยศเรื่องอื้อฉาวของราชสำนัก ฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยให้เปิดเผยต่อสาธารณะแน่ เพียงแค่แถลงต่อภายนอกว่าฮองเฮาไม่มีศีลธรรม หลังจากสิ้นชีวิตตำแหน่งก็ถูกปลด

คนนอกไม่รู้แล้วเย่หลีเฉินที่เป็นองค์ชายรัชทายาทจะรู้ได้ยังไง?

แม้ตอนนั้นเขาจะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แต่หลังจากเขากลับมาก็พอเข้าเรื่องราวทั้งหมดคร่าวๆ

ดังนั้น!

การตายของเสด็จแม่เป็นเพราะหลานเยาเยาผู้เดียว

สามารถเป็นองค์ชายรัชทายาทได้แล้วยังดำรงตำแหน่งนี้มาได้ตั้งนาน จะไม่ฉลาดเลยได้ยังไง?

ไม่สนว่าวิธีการรักษาของหลานเยาเยาจะเก่งกาจหรือไม่?

หานแสที่ตามหาหมอเทวดาไปทั่วหล้าก็ยังรักษาไม่ได้แล้วหลานเยาเยาจะรักษาได้อย่างไร?

ตราบใดที่รักษาไม่ได้ งั้นเขาก็มีวิธีที่ทำให้หลานเยาเยาเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อถึงเวลาก็ค่อยทรมานนางช้าๆให้นางรู้สึกว่าการตายมันดีกว่าการอยู่ เพื่อคลายความเกลียดชัง

“หลานชายอย่าพูดมั่วๆสิ โรคของโหลวเย่วได้รับรักษาจากหมอผู้ลึกลับท่านหนึ่ง ฮองเฮา……โรคของฮองเฮาองค์ก่อนก็ได้รับการรักษาทั้งหมดจากจื่อซี ไม่เกี่ยวกับข้าเลยสักนิด”

“ท่าน……”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน