หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 169 น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นผู้แสวงหาประโยชน์

บทที่ 169 น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นผู้แสวงหาประโยชน์

บทที่ 169 น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นผู้แสวงหาประโยชน์

ผืนน้ำในยามค่ำคืน คลื่นความไม่สงบพลิ้วไหวภายใต้ลมแรง และเรือลำใหญ่ที่จ้างโดยหลานเยาเยา ก็ดูมีขนาดเล็กมากในแม่น้ำกว้างเช่นกัน

แต่!

แม้ว่าผืนน้ำจะไม่สงบมากเท่าไร แต่ก็ไม่มีผลกระทบกับด้านในเรือลำใหญ่มากนัก

หลานเยาเยานั่งอยู่บนเตียงในห้องโดยสาร มองไปที่ถ้วยน้ำชาที่แกว่งไปมาเล็กน้อยบนโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปที่หน้าต่างเรือ ปากขยับเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับถอนหายใจ

เฮ้อ!

ดูเหมือนว่าคลื่นลมจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้ารู้จะเป็นเช่นนี้ก็คงหาคนที่รู้ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ดูสภาพอากาศเป็นมาแล้ว ยิ่งคลื่นพายุใหญ่มากเท่าไหร่ ความปลอดภัยก็ยิ่งลดลงเท่านั้น นางเป็นคนที่หวงแหนชีวิตมาก

ณ ขณะนี้!

มีเสียงดังโวยวายมาจากนอกห้องโดยสาร หนึ่งในหมู่พวกเขานั้นเสียงของฮัวหยู่อันดังเป็นพิเศษ แต่ไม่รู้ว่านางทะเลาะกับผู้ใดอยู่

ผ่านไปไม่นาน หลานเยาเยาก็ได้ยินเสียงเท้าเดินมาทางนางดัง “ต๊อกแต๊กๆ” ขึ้น

ก่อนที่คนจะเข้าใกล้ประตู เสียงเข้มของฮัวหยู่อันก็ดังเข้ามาในหูของนาง

“น่าโมโหจริงๆ เลย คุยกันไว้แล้วว่าจะเหมาเรือทั้งลำ จู่ๆ ตอนนี้ก็มีคนมากมายขนาดนั้นแอบเข้ามา คุณหนู ท่านไปดู ชั้นล่างสุดของเรือลำนี้ยังมีผู้โดยสารอีกเยอะมาก ท่านไปบอกให้เจ้าของเรือลำนี้ไล่พวกเขาไปให้หมด”

ทันทีที่เสียงด่าฉอดๆ ของฮัวหยู่อันเงียบลง นางก็ก้าวเข้ามาแล้ว

หลานเยาเยาไม่สนใจ เพียงแค่พูดอย่างเฉยเมย:

“ไล่คนเหล่านั้นไปที่ไหนได้?ลงแม่น้ำเหรอ?”

แม่น้ำสายใหญ่นี้นำไปสู่ชาวโพ้นทะเล ระหว่างทางจะผ่านเมืองหลายแห่ง เมืองเล็กๆ และหมู่บ้านผู้โดยสารคนอื่นๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมีเรื่องเร่งรีบ ก็เป็นเพราะเจ้าของเรือจงใจปกปิดเรื่องที่ว่าเป็นเรือจ้างเหมาลำ

ไล่พวกเขาลงแม่น้ำมีประโยชน์อะไร?

ดีไม่ดีอาจถึงแก่ชีวิตได้……

อย่างไรก็ตาม แม่นำสายนี้กว้างขวางมาก และอากาศในยามค่ำคืนก็หนาวเย็น ต่อให้พวกเขาทุกคนว่ายน้ำเป็น ก็ยากที่จะว่ายขึ้นฝั่งได้!

“งั้นจะปล่อยไปเช่นนี้หรือ?”

“ใครบอก? อยากกินของอร่อยหลายอย่างเมื่อเรือเทียบท่าชั่วคราวหรือไม่?”

“กิน?”

เมื่อได้ยินคำนี้ ฮัวหยู่อันดวงตาเป็นประกายทันที รูปลักษณ์ท่าทางความอยากกินปรากฏขึ้น

“อยากกินก็ดี เจ้าไปบอกกับเจ้าของเรือ ต้องคิดหัวต่อหัว ผู้โดยสารที่ไม่ใช่คนของข้าต้องให้เหรียญเงินกับข้าคนละห้าตำลึง และเหรียญเงินเป็นเจ้าของเรือ ที่จะต้องจ่าย

หากไม่ตกลง ก็ไล่ผู้โดยสารคนอื่นๆ ลงเรือให้หมด”

พูดจบ หลานเยาเยายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย นี่เป็นข้อตกลงซื้อขายที่คุ้มค่ามาก

“ฮะ ไล่ลงเรือ? คุณหนู ท่านบอกเองว่าไล่ลงเรือถึงแก่ชีวิตไม่ใช่หรือ?” สิ่งนี้ทำให้ฮัวหยู่อันงุนงง

หลานเยาเยากำลังจะมาไม้ไหน?

แม้ว่านางจะติดเชื้อจากหลานเยาเยา นางได้รับเชื้อความตะกละ แต่นางก็ไม่มีทางฆ่าใครเพื่อเรื่องกิน

“ไม่ต้องห่วง! เจ้าของเรือจะไม่ขับไล่ผู้ใดลงเรือ และเขาเองก็จะไม่เสียเปรียบ”

“เพราะ เพราะอะไร? เมื่อคู่ข้าเห็นชั้นล่างสุดมีคนไม่น้อยกว่ายี่สิบแน่นอน เรือยังใหญ่ขนาดนี้ สามารถซ่อนคนได้สี่ห้าสิบคน คิดเช่นนี้ จู่ๆ เจ้าของเรือจะต้องสูญเสียเหรียญเงินหลายร้อยตำลึง เขาจะยินยอมหรือ?”

ยอมก็โง่แล้วสิ!

ถ้าเป็นนาง นางไม่ทำแน่

“จะไม่ยอมได้อย่างไร? เก็บผู้โดยสารเรือทุกคนอย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต่ำกว่าห้าเหรียญตำลึง ข้าเก็บค่าขึ้นเรือของพวกเขาเพียงแค่คนละห้าตำลึงเท่านั้น เงินที่เหลือก็ยังเป็นกำไรของเจ้าของเรือ

อย่างไรก็ตาม ข้าเป็นผู้จ้างเหมาเรือของเขา เดิมเขาควรจะได้รับเพียงแต่ส่วนที่ข้าจ้างเหมาเรือของเขาเท่านั้น ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือ?”

เป็นเช่นนี้ ดีกับทุกคน

ตนเองได้เหรียญเงินกลับคืนมาไม่น้อย ผู้โดยสารเรือคนอื่นๆ ไม่ต้องลงเรือ เจ้าของเรือก็ได้กำไร เพียงแค่ได้กำไรน้อยกว่าปกติเล็กน้อยเท่านั้นเอง

“พูดมีเหตุผลมาก! แต่รู้สึกว่าจู่ๆ คุณหนูก็ทำเงินได้มาเยอะมาก……เหรียญเงินที่เป็นลาภปาก”

ทันใดนั้น!

ฮัวหยู่อันตบหัวของตนเอง ท่าทางเข้าใจขึ้นมาโดยฉับพลัน

เดิมนางคิดว่าตนเองรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลานเยาเยา ต่างกันราวกับฟ้ากับดินจริงๆ

“คุณหนู น่าเสียดายมากที่ท่านไม่ไปเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์”

ยังพูดไม่จบ ฮัวหยู่อันก็วิ่งหนีไป ราวกับว่ากลัวว่าหลานเยาเยาจะกินนาง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

ฮัวหยู่อันมาพร้อมกับเจ้าของเรือด้วยใบหน้าร่าเริง เจ้าของเรือหีบไว้ในมือ ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ว่าใส่อะไร

หลังจากเจ้าของเรือขอโทษด้วยใบหน้าสำนึกผิด แล้วก็ส่งมอบหีบให้

หลานเยาเยารับหีบด้วยใบหน้าเย็นชา โบกมือทันที ให้ฮัวหยู่อันส่งเจ้าของเรือทันที

คนเพิ่งเดินออกจากห้อง ใบหน้าที่เย็นชาของหลานเยาเยาก็ทรุดฮวบ เปลี่ยนเป็นยิ้มทันที สุดท้ายก็เปิดหีบ

เมื่อเห็นตั๋วเงินสองร้อยตำลึงนอนแนบนิ่งอยู่ข้างใน นางยิ้ม!

ผ่านสองวันติด เรือลำใหญ่เทียบท่าชั่วคราวสองครั้งเนื่องจากลมและคลื่น ทำให้หลานเยาเยาตื่นตระหนก โชคดีที่ลมมีเป็นบางเวลา และไม่มีการเกิดคลื่นลมแรง

อาหารเย็น ตกกลางคืน

หลานเยาเยาเหยียดตัวบิดขี้เกียจอย่างสบายๆ จากนั้นตัดสินใจเดินเล่นไปบนดาดฟ้า

เดินไปตามทางเดินที่มีแสงสลัว ไม่มีใครเลย ได้ยินเพียงเสียงลมหวีดหวิวในหู

ทันใดนั้น!

“โอ๊ย……”

นางเจ็บที่ข้อเท้า ร่างเอนตัวลงล้มลงไป โชคดีที่นางตาไวมือไว จับกำแพงเรือไว้ทันเวลา จึงรอดจากการล้มลง

อะไรกันเนี้ย!

ทางเรียบยังสามารถทำให้เป็นตะคิวได้ เสียชื่อนางจริงๆ เลย

ยังดีที่เจ็บเพียงครู่เดียวก็หาย ไม่ต้องเดินเหมือนคนพิการ

ทันทีที่ยืนขึ้น หลานเยาเยาเย็นวาบไปทั้งตัว หันกลับมาในทันที

แต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลัง……

เอ๊ะ?

จะไม่มีใครได้ยังไง?

เมื่อกี้รู้สึกได้ชัดว่ามีดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องมองนาง ความรู้สึกนี้ไม่มีผิดพลาดแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่นางขาแพลง ความรู้สึกของการถูกจับจ้องนั้นชัดเจนมากเป็นพิเศษ

และแล้ว นางหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ไปถึงตรงมุมอย่างรวดเร็ว

เงาดำที่สะท้อนในดวงตาสว่างวาบและหายไปจากสายตา นางเหลือบมอง ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว

ไล่จากด้านบนลงล่าง ภาพที่โดยตรงหน้าที่เห็นทำให้นางตะลึง

ชายหญิงคนแก่และเด็กทุกประเภทในชุดต่างๆ หลังจากที่เห็นนาง ทั้งหมดหลบเลี่ยงและแสดงอาการตื่นตระหนก

แววตาของนางมีความสงสัย แต่สายตาของนางไม่ได้หยุดอยู่ที่คนเหล่านี้ แต่ค้นหาเงาดำนั้นอย่างรวดเร็ว

แต่หลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง เงานั้นก็ได้หายไปนานอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

และในขณะที่นางจะเดินเข้าไปค้นหาทีละห้อง

ทันใดนั้น!

ป้าวัยกลางคนคุกเข่าลงต่อหน้านางพร้อมกับเด็กคู่หนึ่ง

“คุณชาย โปรดจงเห็นใจ อย่าปล่อยให้เจ้าของเรือทิ้งพวกเราไว้ในแม่น้ำ เราอยู่ที่ด้านล่างอย่างเป็นระเบียบอยู่เสมอ ท่านเข้ามาเอง

ลูกชายและลูกสาวของข้าว่ายน้ำไม่เป็น ทิ้งลงไปจะตายได้ ได้โปรดคุณชาย ท่านจงเห็นใจเถิด!”

เจ้าของเรือพูดแล้ว พวกเขาสามารถอยู่ที่ชั้นล่างสุดเท่านั้น ห้ามเดินออกไป มิฉะนั้นถ้าเจ้าของที่จ้างเหมาเรือใหญ่ลำนี้มาเห็น พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้แม้แต่ชั้นล่างสุด ทำได้เพียงโยนลงแม่น้ำไป

เห็นแม่ของตนร้องไห้ เด็กทั้งสองก็ ”ฮือๆๆ” ร้องไห้ตาม

“พวก พวกเจ้าลุกขึ้นมาก่อน”

นี่เกิดอะไรขึ้น?

คงเป็นเพราะเจ้าของเรือกลัวว่านางจะโกรธเมื่อเห็นผู้โดยสารเรือคนอื่นๆ แอบขึ้นเรือ จึงตั้งใจให้พวกเขาอยู่ชั้นล่างสุดห้ามออกไป?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท