หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 175 ร้อยพิษไม่กล้ำกราย

บทที่ 175 ร้อยพิษไม่กล้ำกราย

บทที่ 175 ร้อยพิษไม่กล้ำกราย

คนที่ยืนด้านหลังของเขาคือลุงวัยกลายคนอย่างซาหมั่นเฉิง แล้วยังมีป่ายเม่ยเซิงที่เปลือยอกอยู่ พร้อมทั้งชายหมุ่นชายชุดเขียวที่แววดูมืดครึ้ม และพวกเขาทุกคนต่างก็สวมใส่หน้ากากอยู่

เพียงแค่ได้ยินเสียงหลานเยาเยาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าชายผมขาวสวมชุดคลุมสีม่วงเข้มคนนั้นเป็นเจ้าของเรือของเรือแห่งคสามสิ้นหวัง

เพราะเสียงทุ้มต่ำและเย็นชานั้นฟังแล้วติดหูอย่างมาก

“เป็นอย่างไรบ้าง!”

เสียงอันเย็นชาดังออกมาจากปากของเย่แจ๋หยิ่ง โดยไม่รับรู้ถึงความดุดันอันใด

“เหอะๆๆ……”

“คิดไม่ถึงว่าอ๋องเย่แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ แล้วยังสงบนิ่งได้ ช่างน่าชื่นชมจริงๆ!”

แม้ปากของชายผมขาวจะกล่าวชื่นชม แต่ใบหน้ากลับไม่ได้มีท่าทางชื่นชมเลยแม้แต่น้อย เพียงปรากฎสีหน้าที่หยิ่งผยองบนใบหน้าของเขาอย่างเห็นได้ชัด

“ข้ามาเพื่อให้ท่านสรรเสริญ”

“ท่าน……”

ความหยิ่งยโสบนใบหน้าของชายปมขาวจางกายกลายเป็นความโกรธแทน ราวกับนึกถึงบางอย่างขึ้นมาเขาก็หัวเราะออกมา

“ฮิๆๆ เมื่อได้เห็น ตำนานแห่งสนามรบอย่างอ๋องเย่ผู้ยโสโอหัง ที่ในตอนนี้กำลังเจอกับสถานการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ ข้านั้นรู้สึกดีจริงๆ”

ชายผมขาวตรงหน้าพูดประชดออกมา แต่สีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งกลับไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่กวาดสายตาไปมองยังเรือแห่งความสิ้นหวัง

“เหอะ เช่นกันๆ!”และถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถที่จะหลบหลีกจากภายธรรมชาติอันใหญ่ได้

ตัวเรือของเรือแห่งความสิ้นหวังเองก็ถูกฟ้าผ่าไปไม่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนักแต่ดูแล้วก็น่าจะสาหัสใช่น้อย ชายผมขาวที่เห็นเย่แจ๋หยิ่งกำลังกวาดสายตามองไป ก็อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น……

“นี่ พวกท่านทั้งสองคงไม่คิดจะยืนคุยกันหรอกนะ?ไม่เหนื่อยหรือ?ข้าว่าเจ้าของเรือน่าจะใจกว้างสักหน่อย เชิญพวกข้าเข้าไปนั่งดื่มชาสักถ้วย แล้วค่อยๆคุยกันเสียดีกว่า?”

หลานเยาเยามองดูน้ำบนดาดฟ้าเรือที่ท่วมเท้าขึ้นมา ก็อยากจะรู้เลยว่าหากไม่สามารถขึ้นเรือแห่งความสิ้นหวังได้ นางจะได้นั่งถังไม้ล่องไปในทะเล

เพียงแต่เย่แจ๋หยิ่งกับชายผมขาวไม่แต่พูดจาประชดประชันกัน แล้วยังน่าเบื่ออีก ซึ่งมันน่ากังวล

แล้ว!

นางก็ออกมาจากที่หลบมายังด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่ง

นางที่ปากฎตัวมาในชุดของบุรุษ และท่าทางที่ไม่ธรรมดา ราวกับเทพบุตรผู้สำรวม เพียงครู่เดียวก็ดึงดูดสายตาของคนบนเรือแห่งความสิ้นหวัง

แล้วปฏิกิริยาของพวกเขาจากนั้นก็เปลี่ยนไป

“ท่านผู้นี้คือ?”

ชายผมขาวมองไปยังหลานเยาเยาอย่างสนใจ

ไม่รอให้เย่แจ๋หยิ่งได้ตอบกลับ หลานเยาเยาก็ชิงพูดก่อน

“จะถามเรื่องไร้ประโยชน์ไปทำไมกัน? ควรถามสิ่งที่เป็นสาระสำคัญดีกว่า”

“อ๋อ?แล้วสิ่งใดคือสิ่งที่มีสาระเล่า?”

ในตอนนี้เองแววตาของหลานเยาเยาก็ประกายวาบขึ้นมา นางจึงชะโงกหน้าออกมาจากหลังของเย่แจ๋หยิ่งพลันพูด

“บนเรือของท่านมีของกินหรือไม่?”

การกินก็คอการเสริมสร้างโภชนาการอาหาร

เย่แจ๋หยิ่ง“……”

ชายผมขาว:“……”

จากนั้นไม่นาน

หลานเยาเยาก็มองไปยังจานอาหารอันหอมเย้ายวนบนโต๊ะใหญ่ น้ำลายก็ไหลไม่หยุด แล้วสายตาของนางก็หันไปยังเย่แจ๋หยิ่งอย่างไม่ได้

ราวกับว่ากำลังถามอีกครั้งว่า : กินได้หรือยัง?

แต่เย่แจ๋หยิ่งที่เห็นท่าทางราวกับแมวน้อยของนาง เขาก็หันหน้าหนีทันทีราวกับพูดว่า ‘ข้าไม่รู้จักเจ้า’

เมื่อไร้ความช่วยเหลือ แต่มีอาหารวางอยู่ตรงหน้า นางจึงทำได้เพียงหันหน้าไปยังชายผมขาว แล้วพิจารณาสิ่งที่จะพูดอยู่ครู่หนึ่ง

“ท่านคงไม่ได้วางยาพิษหรอกนะ?”

ใครจะรู้ว่า……

ชายผมขาวไม่ได้ตอบคำถามของนางแต่กลับถามกลับแทน“กล้ากินหรือไม่?”

“กล้าสิ ข้ามีอะไรที่ไม่กล้าบ้าง?”

พูดจบ หลานเยาเยาก็หยิบเข็มเงินออกมา จากนั้นก็ตรวจว่าบนอาหารมิษหรือไม่ โดยไม่สนสายตาของคนที่นั่งตรงข้ามเลย

หลังจากตรวจเสร็จเห็นว่าเข็มเงินไม่ได้มีการเปลี่ยนสีแต่อย่างใด นางก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ แล้วคีบอาหารให้กับเย่แจ๋หยิ่งกับมือตัวเอง

“อาหารจานนี้ดูน่าทาน ท่านลองสักหน่อยสิ”

เมื่อพิจารณาจากบทสนทนาก่อนหน้านี้ระหว่างเย่แจ๋หยิ่งและชายผมขาวแล้ว ทั้งสองคนน่าจะเป็นคู่แข่งกัน และชายผมขาวก็คงเกลียดเย่แจ๋หยิ่งมากและคงจะไม่สามารถทำดีอะไรมากต่อเย่แจ๋หยิ่ง

ดังนั้น!

ตอนนี้ต้นขาของเย่แจ๋หยิ่งถูกนางรัดแน่นไว้แล้ว

แม้ว่าจะเดาไม่ออกว่าตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งหิวหรือไม่ เพียงแค่นางคีบอาหารใส่จานอาหารข้าว เขาก็จะกินมันลงไปโดยไม่แสดงท่าทีใดๆ

บนโต๊ะมีอาหารอยู่สิบกว่าอย่าง แต่นางทานอาหารไปได้เพียงสามอย่างซ้ำๆอยู่เท่านั้น แต่คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางอย่างชายผมขาวกลับชิมอาหารทั้งหมดนั้นในรอบเดียว

หลานเยาเยาจ้องมองเขากินอย่างไม่กระพริบตา ยิ่งดูยิ่งตกใจ ยิ่งดูม่านตาของนางก็เบิกกว้างยิ่งขึ้น รอจนชายผมขาวชิมอาหารจานสุดท้ายเสร็จ สุดท้ายนางก็ทนไม่ได้

“ท่านทนต่อพิษนี่?”

ทันทีที่นางพูด เย่แจ๋หยิ่งก็หรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงหันหน้าไปมองนาง ก่อนจะมองไปยังชายผมขาวด้วยท่าทางประหลาดใจ พลันกล่าวราวกับยิ้ม

“เหตุใดจึงพูดเช่นนี้?”

จากนั้นหลานเยาเยาจึงเชยคางขึ้นอย่างเฉิดฉาย แววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แล้วพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“ถ้าข้าทายไม่ผิด นอกจาก….อาหารสามอย่างที่คีบเมื่อกี้ นอกนั้นล้วนมียาพิษหมด”

“มียาพิษ?เมื่อกี้เจ้าใช้เข็มเงินจิ้มหมดแล้วมิใช่หรือ?ก็เห็นอยู่ว่าเข็มเงินไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีดำ จะมีพิษได้อย่างไร?”

คนที่พูดคือป่ายเม่ยเซิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายผมขาว

ตั้งแต่ที่ได้เห็นหลานเยาเยา สายตาของเขาไม่อยากจะละไปจากนาง แต่ด้วยความที่เขาถูกสายตาอันทรงพลังสะกดเอาไว้ จึงทำให้เขาที่อยากมองหลานเยาเยานั้นรู้สึกกดดันอย่างมาก

แต่ตอนนี้ดีแล้ว เพียงเขาแค่เอ่ยถาม แล้วยังเป็นการถามแทนเจ้าของเรือเสียด้วย จึงทำให้เขาสามารถมองไปยังหลานเยาเยาได้อย่างเต็มตา

“ใครบอกกันเล่าว่าเข็มเงินจะสามารถตรวจได้ชัดเจนว่ามีหรือไม่มีพิษ?”

แม้จะกล่าวว่าเข็มเงินจะสามารถพิสูจน์พิษในอาหารได้ แต่เข็มเงินก็ไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น ไม่ใช่ว่ายาพิษทุกชนิดเข็มเงินจะพิสูจน์ออกมาได้ และบางอย่างที่ไม่มีพิษแต่กลับมีปฏิกิริยากับเข็มเงิน ก็สามารถทำให้เข็มเงินเปลี่ยนเป็นสีดำได้

ดังนั้นการใช้เข็มเงินในการพิสูจน์ไม่ได้น่าเชื่อถือเลย!

พูดจบนางก็หันหน้าไปสบตากับเย่แจ๋หยิ่ง แต่กลับเห็นเพียงสายตาที่ล้ำลึกของเขาที่ยังของลึกล้ำอยู่ นางจึงอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากแล้วกลอกตาใส่เขาก่อนจะหันหน้ากลับมา

“การใช้เข็มเงินในการตรวจหาพิษไม่ใช่มีใช้มาตั้งแต่โบราณแล้วหรอกหรือ?แล้วหากที่ท่านกล่าวว่าอาหารพิษ เจ้าของเรือของเราก็ได้กินหมดแล้ว เหตุใดจึงไม่เห็นเป็นอันใด?”

ในตอนนี้หลานเยาเยาก็ถึงกับขมวดคิ้วอย่างหน่ายๆ

“ดังนั้นข้าถึงได้พูดว่าเขาทนต่อพิษไง!ไม่แน่เจ้าของเรือของพวกเจ้าก็อาจจะเติบโตมากับพิษเหล่านี้ก็เป็นได้!”

หรือไม่ก็อาจจะเพราะว่าก่อนหน้านี้ชายผมขาวได้กินยาแก้พิษที่ต่างกันเอาไว้หมดแล้ว

แต่ว่า!

สิ่งนี้คงจะเป็นไปไม่ได้

ใครกันที่เพราะอยากจะหยั่งเชิง แล้วกินยาแก้พิษเยอะขนาดนั้น?

นอกจากจะป่วย!

แท้จริงแล้ว ก็คือยามีพิษส่วนสิบ เพราะหลังจากที่กินยาถอนพิษที่ผสมกับยาถอนพิษลงไปแล้วจะทำให้เกิดยาพิษแบบใหม่ขึ้นหรือไม่มีอาการใดๆปรากฎ !

ดังนั้นนางถึงได้สรุปว่าชายผมขาวนั้นทนต่อพิษ

ป่ายเม่ยเซิงสะอึก

เจ้าของเรือเป็นคนที่ทำตัวลึกลับ ต่อให้เขาจะตามเขามาได้หลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจถึงตัวตนของเขาเลย สำหรับเรื่องที่ร่างกายทนต่อพิษเขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน……

“ท่านพูดจาเหลวไหล เจ้าของเรือหาใช่เด็กน้อยไม่ ไม่มีทางวางยาลงในอาหารหรอก …

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท