หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 179 ข้าจะเป็นผู้คุ้มกัน

บทที่ 179 ข้าจะเป็นผู้คุ้มกัน

บทที่ 179 ข้าจะเป็นผู้คุ้มกัน

ตั้งแต่เข้ามาในห้อง หลานเยาเยาก็รู้สึกกดดันจนแทบหายใจไม่ออก

ก่อนหน้านี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าท่าทีของเขาอบอุ่นขึ้นเยอะ เหตุใดพอเข้าห้องถึงได้เปลี่ยนไปแล้ว

ผู้ชายคนนี้ เปลี่ยนหน้าไวยิ่งกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสืออีก

“เจ้าสนิทสนมกับป่ายเม่ยเซิง?”

“ห๊า?”

หลานเยาเยาสับสนเล็กน้อย

สักครู่นี้กำลังพูดถึงหานแสอยู่หรอกรึ?เหตุใดถึงพูดถึงป่ายเม่ยเซิงเสียแล้วหล่ะ? ในสมองของเย่แจ๋หยิ่งกำลังคิดสิ่งใดอยู่กันนะ?

“ไม่สนิทไม่สนิท พวกเราเคยเจอกันเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง ”

นางรีบสะบัดมือปฏิเสธเพื่อบอกว่านางไม่ได้สนิทสนมอะไรกับป่ายเม่ยเซิงเลย จากนั้นนางก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับพูดด้วยความต้องการคำปรึกษา

“นี่ เย่แจ๋หยิ่ง มีสิ่งหนึ่งที่ข้สรู้สึกแปลกใจ หานแสที่ข้าเคยเจอเมื่อคราก่อนนั้นครั้งหนึ่ง ครานี้ข้าได้พบเขาในคลังสินค้าใต้ดินของเรือแห่งความสิ้นหวัง อยู่ๆเขาก็พูดว่าที่เขาเป็นอยู่เช่นนี้เพราะข้าเป็นคนทำร้ายเขา ข้าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขา แล้วข้าจะไปทำร้ายเขาได้อย่างไร? ”

สำหรับเรื่องนี้นางไม่เข้าใจจริงๆ

เดิมทีไม่ได้วิเคราะห์ถึงปัญหานี้เพราะเวลาเร่งด่วน

ตอนนี้ก็พ้นออกมาจากเหตุการณ์นั้นแล้ว อีกทั้งนางยังอยากได้หานแสมาเป็นหนูทดลอง พอเหมาะที่เย่แจ๋หยิ่งก็อยู่ด้วย นางเลยอยากฟังความคิดเห็นจากเขา ในเมื่อเขาก็เป็นเหมือนสุนัขจิ้งจอก ที่ทั้งเจ้าเล่ห์และเจ้ากลยุทธ์

” เจ้าเอาของบางอย่างจากตัวเขาไป”

สำหรับเย่แจ๋หยิ่งที่ได้ยินนางเรียกชื่อเขาอีกครั้ง คิ้วของเย่แจ๋หยิ่งก็ขมวดขึ้นมา พร้อมด้วยสายตาที่เหลืออด

“สิ่งของ?”

ของอะไรกัน?คราวก่อนพวกเขาก็เจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว แล้วอาชีพของนางก็ไม่ใช่โจรขโมยอีกด้วย นางจะไปเอาของอะไรจากของ?

อ๋อ!

ไม่สิ

เลือด……

คราวแล้วเป็นเพราะองค์รัชทายาทจงใจมาสร้างความเดือดร้อนที่จวน แต่ก็ถูกนางจัดการอย่างง่ายดาย หานแสในฐานะองค์รัชทายาทที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับนาง ก่อนที่จะออกเดินทางนางจึงได้ให้หานแสมอบเลือดเอาไว้ให้ในขวดเล็กเพื่อใช้ในการค้นคว้า

ตอนนี้พอได้รับการเตือนจากเย่แจ๋หยิ่ง นางก็เข้าใจทันทีว่าเป็นเพราะเหตุใด

“ท่านคิดว่าเจ้าของเรือของเรือแห่งความสิ้นหวัง จะกักขังหานแสไว้บนเรือเพราะเลือดบนตัวเขานั้นหรือ? ”

หลังจากที่นางเอาเลือดของเขาไปได้ไม่นาน เขาก็ถูกจับขังไว้ ก็ไม่แปลกที่ใจของเขาจะคิดว่าข้าเป็นคนทำร้ายเขา

“อืม!”

ดูแล้วก็มีความเป็นไปนี้เท่านั้น

“ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะช่วยเขาหรือไม่?เขามีความสำคัญในการค้นคว้าอย่างมาก”

“ช่วยแน่นอน!”เสียงของเขาดูสงบนิ่งราวกับว่าได้คิดเรื่องไว้ก่อนแล้ว

“จะช่วยจริงๆหรือ?”

คนๆนี้นางจะช่วยอยู่แล้ว แต่เพียงคิดไม่ถึงว่าเย่แจ๋หยิ่งจะตอบตกลงไวถึงเพียงนี้ ทั้งยังตอบด้วยความสงบมากด้วย

เมื่อก่อนเขาพูดเองไม่ใช่หรือว่าหานแสเป็นคนลึกลับ ไร้ร่องรอยที่มา ให้นางติดต่อกับเขาให้น้อย

แล้วยังพูดอีกด้วยว่าหานแสมีการติดต่อคบค้ากับเรือแห่งความสิ้นหวัง

เหตุใดตอนนี้ถึงได้ตอบตกลงเร็วขนาดนี้?

สิ่งนี้ทำให้หลานเยาเยารู้สึกสงสัย

“ท่านชายหยิ่งเป็นเด็กน้อยที่ไม่ทำอะไรตรงไปตรงมา ในใจของเขาสักแต่อยากจะเอาชนะข้า ในตอนนี้พอแพ้ให้กับข้า แต่เขาจะต้องหาวิธีมาจัดการกับข้าในวันข้างหน้าแน่นอน เจ้าคิดว่าที่เจ้าเจอกับหานแสนั้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญงั้นรึ?ฮึ!ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”

“……”

หลานเยาเยาถึงกลับหมดคำพูดกับเขา

ว่าแต่……

ท่านชายหยิ่ง?

ท่านชายหยิ่งที่เย่แจ๋หยิ่งพูดถึงอยู่นั้นคงไม่ใช่เจ้าของเรือของเรือแห่งความสิ้นหวังหรอกนะ!

แต่ว่า!

สิ่งที่เย่แจ๋หยิ่งพูดก็ไม่ได้ไร้เหตุผล ป่ายเม่ยเซิงที่อยู่ๆก็เขียนบทกวีลามกมาให้ เพื่อกระตุกต่อมโมโหของนาง การชี้ทางของซาหมั่นเฉิง รวมทั้งความกลัวหานแสตอนพิษออกฤทธิ์ของหมุ่นชายชุดเขียว จึงทำให้นางเกิดความอยากรู้อยากเห็นในตัวหานแส

เพียงเท่านี้ก็พูดได้ชัดแล้วว่าท่านชายหยิ่งได้เริ่มลงมือในที่ลับแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดจะใช้หานแสทำสิ่งใดกับพวกเรา ?

ตอยนี้เย่แจ๋หยิ่งบอกจะช่วยหานแส ดูท่าแล้วเขาน่าจะคิดวิธีรับมือไว้อยู่แล้ว

ดังนั้นตาทั้งสองของนางก็ประกายวับออกมา ก่อนจะถามอย่างรอไม่ได้

“เช่นนั้นพวกเราจะช่วยคนเมื่อใด?”

หากฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีเย่แจ๋หยิ่งที่คอยพยุงไว้ นางเพียงเป็นผู้ช่วยเท่านั้น หลังภารกิจสำเร็จ นางก็จะได้เอาหนูทดลองไปค้นคว้าก็พอแล้ว

“เรือเข้าฝั่งครั้งต่อไป”

ท่านชายหยิ่งบอกแล้วมิใช่หรือ?เรือเข้าฝั่งยังต้องใช้เวลาอีกหลายวัน เช่นนั้นก็ต้องรออีกหลายวันถึงจะเริ่มทำการช่วยเหลือได้

คิดได้เช่นนี้ใจของหลานเยาเยาตื่นเต้นมาก พอถึงเวลาก็เป็นเวลาในการแสดงฝีมือของนางเสียแล้ว

แค่คิดก็รู้สึกรอคอยเสียแล้ว!

หลังจากที่ได้รู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะช่วยเหลือคน หลานเยาเยาก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องเขานานสองนาน แต่กลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยความดีใจ

เย่แจ๋หยิ่งจ้องมองไปยังประตู แววตาซับซ้อน จากนั้นถึงได้ขยับสายตาไปยังนอกหน้าต่าง มองไปยังทะเลอันกว้างใหญ่พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง

“เมื่อใดในใจของเจ้าถึงจะมีข้าเพียงคนเดียว?”

……

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

ถึงแม้ว่ายังเหลือเวลาอีกนานที่จะถึงเขตชายฝั่ง แต่ว่าในที่สุดเรือแห่งความสิ้นหวังก็เข้าใกล้ชายฝั่งมากแล้ว

หลานเยาเยาที่อยู่ข้างหน้าต่างในยามเช้าตรู่ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นเมืองชายฝั่งที่ใกล้เข้ามาทุกที แล้วนางก็หยิบกริชขึ้นมา

หลายวันมานี้นางทายาลงบนกริชเล่มนี้ทุกวัน สายตาที่เห็นว่าเรือใหญ่กำลังจะแล่นเข้าสู่ชายฝั่ง พอหันมาดูกริช มุมปากของนางก็ยิ้มขึ้นมา

“เตรียมพร้อมหรือยัง?”

เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากด้านหลังก็ยิ่งทำให้หลานเยาเยายิ้มกว้างขึ้น

สำหรับการปรากฎตัวกระทันหันของเย่แจ๋หยิ่ง นางกลับไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะตอนที่เย่แจ๋หยิ่งเข้ามาเขาไม่ได้ใช้วิชาตัวเบา ดังนั้นตอนที่เขาเข้ามานางก็รู้อยู่แล้ว

“จะลงมือเมื่อใด?”

“ตอนนี้!”

“ตอนนี้?”เร็วขนาดนี้เชียวรึ?

เรือยังไม่เข้าใกล้ฝั่งเลย! แล้วช่วยคนแบบนี้ พวกเขาจะลงเรือกันอย่างไร?

“เร็วเกินไป เช่นนั้นก็รอให้เรือจอดในครั้งหน้า”

“ไม่เร็วๆ เช่นนั้นก็ลงมือเถิด!ข้าจะต้องทำสิ่งใด?”หลานเยาเยาที่เปลี่ยนตัวเองเป็นองครักษ์ลับ พลางมองไปอย่างเย่แจ๋หยิ่ง

“เจ้าไปช่วยคน ส่วนข้าจะคอยระวังให้!”

ได้ยินเช่นนั้น!

มุมปากของหลานเยาเยาก็กระตุก

ไม่ควรเป็นเขาหรอกหรือที่ต้องไปช่วยคน ส่วนนางเป็นคนคอยระวัง?

แล้วร่างกายของนางก็บอบบาง จะไปอุ้มชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ได้อย่างไร?

ช่างเถอะๆ นางมีความทางการแพทย์ นางเป็นคนไปช่วยนั้นดีที่สุดแล้ว ถ้าถึงเวลาแล้วอุ้มหานแสไม่ไหว เช่นนั้นนางก็ลากเขาออกมาแทนแล้วกัน

“เช่นนั้นก็ได้!”

หลังจากพยักหน้ารับหลานเยาเยาก็เริ่มทำการ นางรีบไปยังบันได แต่ดันชนเช้ากับคนสวมหน้ากากที่กำลังลาดตระเวนพอดี

คนลาดตระเวนเหล่าต่างมองมาที่นางอย่างระวัง ก่อนที่จะเดินลาดตระเวนต่อไป

เอ่อ……

ไม่ถามอะไรสักหน่อยรึ?

หลานเยาเยาส่ายหน้า แล้วเดินลงบันไดลงมาต่อ หลังจากมาถึงยังห้องที่คุมขังหานแสก่อนหน้านี้ ก็เห็นประตูที่ถูกลงกลอนกุญแจเอาไว้ แม้แต่หน้าต่างก็ถูกล็อกมาจากด้านใน

และแล้ว! นางจึงรีบหยิบยาออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บปวดหนึ่ง แล้วเทมันลงไปยังกลอนประตู

“ซืดๆๆ……”

ในไม่ช้ากลอนประตูที่ถูกยาลงไปก็ละลาย แล้วนางก็สามารถใช้แรงเบาๆผลักเข้าไปก็เปิดแล้ว

เพียงแต่น่าแปลกใจ ในห้องกลับไร้คน แม้แต่กองเลือดบนพื้นก็ไม่มีแล้วเช่นกัน

“คนหล่ะ?”

ในขณะที่นางกำลังรู้สึกงุนงง

คนลาดตระเวนก็ตะโกนดังมาจากข้างนอก

” จับนาง นางอยู่ข้างในห้องนี้แหละ”

เรื่องบ้าบออะไรกัน?

แล้วคอยระวังให้ที่ตกลงกันไว้เล่า? ไปตายที่ไหนแล้ว? น่าโมโหเสียจริงๆ….

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท