หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่181 เจ้าเชื่อใจข้าบ้างไหม

บทที่181 เจ้าเชื่อใจข้าบ้างไหม

บทที่181 เจ้าเชื่อใจข้าบ้างไหม

หลานเยาเยาหาที่นั่งหลบข้างชายฝั่ง ในปากคาบดอกหญ้าไว้ต้นหนึ่ง มือข้างนึงเท้าคาง มืออีกข้างนึงเขี่ยหญ้าบนพื้นอย่างเบื่อหน่าย

บ่อยครั้งก็ใช้มือปัดใบเฮาเช่าที่ติดอยู่บนตัว มองเรือแห่งความสิ้นหวังที่กำลังจะเข้ามาใกล้ฝั่งว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ในไม่ช้า!

นางเห็นว่ามีคนเอาคนที่ไม่รู้ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิตขึ้นมาจากน้ำไปไว้บนเรือ มองจากรูปร่างและร่างกายเปลือยท่อนบนแล้วน่าจะเป็นป่ายเม่ยเซิงหยิ่งผยองนั่น

ตายหล่ะ เย่แจ๋หยิ่งคงจะไม่ได้ตีคนตายจริงๆใช่ไหม?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้

แอบดีใจกับตนเองเงียบๆที่อยู่ฝั่งเดียวกับเขา

พอเห็นมีคนมารักษาป่ายเม่ยเซิงนางก็เข้าใจว่าไม่ได้ถูกตีตาย เพียงแค่ถูกตีอย่างโหดร้ายเท่านั้น

ชิ!

บาปที่ทำไม่สามารถจะหนีได้ ป่ายเม่ยเซิงก็เป็นอย่างนั้นล่ะ

“ยังไง? สงสารเขา?”

เสียงที่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลันทำให้หลานเยาเยาตกใจสะดุ้งโหยงอีกครั้ง

คนนี้……

เสียงกระโดดลงทะเลดังขนาดนั้น ทำไมเสียงขึ้นฝั่งถึงเงียบเชียบ?

นางจึงมองรอบๆฝั่งอย่างตั้งใจและละเอียด แต่ก็ไม่เห็นใครขึ้นมาจากน้ำเลย!

เย่แจ๋หยิ่งขึ้นมาได้อย่างไร?

“สงสารอะไรหล่ะ ข้าแทบอยากจะตีเขาให้ตาย”

นางเก็บสายตาตกใจและเหล่ตามองเย่แจ๋หยิ่งเงียบๆ เห็นว่าเขาเปียกโชกไปทั้งตัว สายน้ำบางๆยังไม่หยุดไหลลงพื้น

เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ แม้แต่จะบิดเสื้อผ้าให้แห้งก็ยังไม่มีเวลา ตรงดิ่งมาหานางทันที

แต่นางยังพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า:

“ผู้อื่นหล่ะ?”

นางหมายถึงหานแส

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บนเรือแห่งความสิ้นหวัง เย่แจ๋หยิ่งบอกให้นางคอยดูต้นทาง ที่จริงเขาได้ช่วยหานแสออกมาแล้ว

ใช้นางไปช่วยคนเป็นเพียงแค่ให้นางดึงดูดความสนใจของผู้อื่นไปก็เท่านั้น แล้วเขาจะเป็นคนพาหานแสออกจากเรือแห่งความสิ้นหวังอย่างเงียบๆ

อุบายนี้ดีก็ดี

แต่ทำไมไม่บอกนางก่อนเสียหน่อย?

นางกลัวจนแทบไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“อยู่ในที่ที่ปลอดภัย”

หลานเยาเยามองเขาอีกครั้ง เม้มริมฝีปากแดงแล้วพูดเรียบๆว่า: “งั้นไปกัน!”

พูดจบก็ลุกขึ้นหันกลับเดินนำหน้าไปด้วยตนเอง

แต่เดินไปไม่กี่ก้าว นางก็ต้องถอยกลับมามองเย่แจ๋หยิ่งด้วยสีหน้าจำใจ:

“เจ้านำทางไป!”

ผีที่ไหนจะรู้ว่าเขาเอาคนไปซ่อนไว้ที่ไหน เขาไม่นำทางแล้วนางจะไปหาคนได้ที่ไหน?

“เจ้ายังโกรธอยู่รึ?”

สายตาลึกซึ้งมองนางนิ่ง เม้มริมฝีปากแน่น

“ไม่โกรธได้หรือ? อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเราก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว เจ้ามีแผนอะไรไม่บอกข้าก่อนสักคำ

ถ้าเจ้าไม่เชื่อใจข้าแต่อย่างน้อยเจ้าก็ต้องบอกมาเป็นนัยๆเสียหน่อยว่ามีอันตรายหรือไม่ ถ้าข้าตายขึ้นมาเจ้าก็จะไม่สนใจใช่ไหม?”

ที่นางโกรธก็คือโกรธตรงนี้

ให้นางมาเป็นเป้าแม้แต่คำอธิบายสักคำก็ไม่มี ไม่โกรธได้หรือ?

ตอนนี้หน้าของหลานเยาเยามองไปยังเย่แจ๋หยิ่งอย่างหดหู่ นัยน์ตาเหมือนมีความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง

เย่แจ๋หยิ่งมองนางนิ่งๆจากนั้นเอื้อมมือไปจับคางนางเบาๆ ริมฝีปากเปิดออกเสียงเรียบๆ:

“เจ้าหล่ะ เคยเชื่อใจข้าไหม?”

เมื่อประโยคนี้ออกไป!

หลานเยาเยาก็ตกตะลึงนิ่ง

นางไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย

ลองถามใจตนเองดูว่า นาง……เคยเชื่อใจเขาไหม?

ดูเหมือนจะไม่……

ตั้งแต่เจอเขาไปจนถึงแต่งงาน จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเชื่อใจเขาเลย

เมื่อมองสีหน้าของนางโดยรวม นัยน์ตาของเย่แจ๋หยิ่งก็ประกายความโดดเดี่ยวออกมา จากนั้นพูดเสียงแผ่วเบาว่า:

“ไปเถอะ!”

พูดจบ เขาก็เดินไปข้างหน้า นำนางไปพบหานแส

ระหว่างทาง หลานเยาเยาเงียบกริบไม่ส่งเสียง เพียงแค่เดินตามหลังเขาชิด บ่อยครั้งที่มองไปยังเบื้องหลังสูงหล่อของเขา

ทันใดนั้น!

ก็มีเสียง “โครม” หลานเยาเยาล้มลงไปที่พื้น

“โอ๊ย เจ็บจะตายแล้ว”

หลานเยาเยาจับเท้าอย่างโอดโอยด้วยท่าทางจะเป็นจะตาย

“เจ็บมาก?”

เย่แจ๋หยิ่งหยุดฝีเท้าลงหันกลับมามองนาง อดขมวดคิ้วไม่ได้

“อื้อ! เจ็บมากถึงขนาดไม่อุ้มก็ลุกไม่ขึ้นอย่างนั้นเลย”

“……”

“แต่ดูรูปร่างเจ้าสูงใหญ่ กำลังอย่างกับวัว ดูแล้วจะอุ้มข้าไม่ขึ้นแน่ ช่างเถอะ เจ้าก็ปล่อยข้าไปอย่างโหดเหี้ยมอย่างนี้หล่ะ!”

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ มุมปากของเย่แจ๋หยิ่งก็ยกขึ้น

เขายกเท้าหมุนตัวเตรียมจะไปแต่จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องไห้ฮือฮือฮือของหลานเยาเยา

“ฮือฮือฮือ……เจ้าคนที่เล่นกับความรู้สึกคนอื่น ตอนอยู่ด้วยกันกับข้าพูดคำหวานมากมาย ตอนนี้ข้าท้องลูกของเจ้า เจ้ากลับจะทิ้งข้าไป”

พูดๆไปก็ไม่รอให้เย่แจ๋หยิ่งเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลานเยาเยาก็ร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลบอกกับคนที่เดินบนถนน

“วะฮ่าๆๆ……คุณอาคุณน้า คุณลุงคุณป้าทุกท่าน พวกท่านตัดสินให้แก่ข้าหน่อย พวกท่านดูเขาสิ ไม่สนใจความสัมพันธ์สามีภรรยาเลยสักนิด ข้าล้มลงอย่างนี้ยังไม่มาประคองเลย

เขาช่างใจร้าย! แล้วหลังจากนี้จะให้ข้ากับเด็กในท้องอยู่ต่อไปได้อย่างไร? ฮือฮือฮือ……”

หลานเยาเยาร้องไห้ได้สมจริงมาก ไม่รู้ว่าน้ำลายหรือน้ำตาจริงๆที่ไหลออกมาจากดวงตานาง

ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาท่าทางใครเห็นก็สงสาร ทำให้คนเห็นแล้วสงสารเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้นคนที่ล้อมดูอยู่ก็พากันพูดคุย คนส่วนใหญ่เห็นอกเห็นใจนาง พากันตำหนิเย่แจ๋หยิ่ง

“คุณชาย ท่านทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ ภรรยาของท่านท้องอยู่ ท่านจะทอดทิ้งไม่สนใจนางได้อย่างไร?”

“ว่ากันว่าสามีภรรยาก็คือนกในป่าเดียวกัน พอเจอภัยพิบัติจะมาบินไปคนเดียวได้อย่างไร! รีบไปพยุงภรรยาท่านขึ้นมาเร็ว พานางไปหาหมอเถิด!”

“ใช่! คุณชาย ท่านดูภรรยาท่านสิเปียกไปหมดแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะได้รับอากาศหนาวเอา”

“……”

ทุกคนต่างแย่งกันต่อว่าเย่แจ๋หยิ่งว่าไม่ถูก ส่วนหลานเยาเยาที่ได้รับความเห็นใจก็ยิ่งแสร้งทำเป็นร้องไห้อย่างหนัก

เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกได้ทันทีว่านี่มันวุ่นวายไปแล้ว เมื่อเห็นนัยน์ตาหลานเยาเยาประกายความภูมิใจ เขาก็ถอนหายใจอย่างหมดคำพูด

เดินมาไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ตรงหน้าหลานเยาเยา ก้มตัวแล้วอุ้มนางขึ้นมา แทบจะในเวลาเดียวกันหลานเยาเยาก็ใช้สองมือโอบคอเขาไว้ทันทีแล้วก็มีรอยยิ้มอวดๆยกขึ้นที่มุมปาก

เย่แจ๋หยิ่งเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นท่าทางนั้นของนาง พานางออกไปจากถนนที่นับว่าครึกครื้น

ไม่นานก็มาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ไม่เล็กไม่ใหญ่

ตอนอยู่ในอ้อมแขนของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาเห็นว่าโรงเตี๊ยมนี้นับว่าอยู่ห่างจากชายฝั่ง จึงอดถามไม่ได้ว่า:

“ในเวลาสั้นขนาดนี้ เจ้าพาหานแสออกมาจากเรือแห่งความสิ้นหวังแล้วพามาที่โรงเตี๊ยมที่ไกลขนาดนี้ แล้วยังกลับไปอีก เจ้าทำได้อย่างไร?”

แม้ตลอดทางจะใช้วิชาตัวเบาบินไปก็น่าจะทำไม่ได้นะ!

“เจ้าจะโง่ที่จะลงมือทำเองรึ?”

เอ่อ……

ไม่ลงมือทำเอง หรือจะหาเหล่าองครักษ์ลับมา?

เป็นไปไม่ได้หรอก!

จะเร็วขนาดนี้ได้ที่ไหนกัน

ถ้าไม่ใช่หาเหล่าองครักษ์ลับมา หรือว่าจะเป็น……

“เจ้าจ้างนักฆ่าที่นี่”

ใครจะรู้ เย่แจ๋หยิ่งมองนางราวกับมองคนโง่แล้วอธิบายอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า: “ข้าแค่จ้างรถม้าคันนึงให้คนขับม้าพาเขามายังโรงเตี๊ยมที่ไกลจากที่นี่ที่สุด”

“เป็นอย่างนั้น?”

“เจ้าคิดว่าไงหล่ะ?”

ถูกแล้ว!

ดูเหมือนแค่นั้นก็ได้แล้ว

จู่ๆหลานเยาเยาก็พบว่าไอคิวของตนเองค่อยๆลดลง จนวันนึงอาจจะโง่ไปหมดเลยก็ได้!

ผ่านไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงเย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งก็ดังขึ้น

“ลงมา!”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท