หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 173 เหตุใดถึงยังอยู่

บทที่ 173 เหตุใดถึงยังอยู่

บทที่ 173 เหตุใดถึงยังอยู่

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่หลานเยาเยากลับรู้สึกว่ามันนานมากราวกับผ่านแล้วหลายศตวรรษ

ตอนนี้ในชั้นล่างสุดของเรือได้ถูกน้ำท่วมเอาไว้หมดแล้ว และผู้โดยสารบนเรือก็ได้หนีขึ้นมายังชั้นบนสุดของเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยในหลายๆครั้งก็มีคนพยายามจะมายังห้องขับเรือเพื่อที่จะถามความรับผิดชอบจากเจ้าของเรือว่าควรจะทำอย่างไร? พวกเขาจะตายหรือไม่? แต่ก็ถูกองครักษ์ลับกันเอาไว้

หลานเยาเยามองดูเจ้าของเรือที่ยังคงหลับไม่ได้สติ พลันหันไปมองเย่แหยิ่งที่ยังคงยืนต้านลมอยู่ เขาเป็นเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง ยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่

นางจึงเงยหน้าขึ้นไปดูท้องฟ้าก็มองเห็นกลุ่มเมฆดำที่ค่อยๆสลายไปแล้วจำนวนไม่น้อย พร้อมทั้งเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าก็ค่อยๆอ่อนตัวลงแล้วเช่นกัน

ถึงแม้ว่าดูแล้วภัยจากธรรมชาติจะค่อยๆผ่านไปแล้ว แต่ว่าเรือที่กำลังจะจมนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

คนบนเรือเยอะขนาดนั้น แต่บนเรือกลับมีเรือเล็กเพียงสี่ลำเท่านั้น แล้วในเรือเล็กทุกลำก็บรรจุคนได้มากที่สุดเพียงแค่ห้าถึงหกคนเท่านั้น

เท่าที่นับออกมาได้ คนที่จะสามารถนั่งเรือหนีออกไปได้ก็มีเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น ส่วนผู้คนที่เหลือก็ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้น

ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเรือหลบหนีที่มีเพียงสี่ลำล้วนอยู่ในมือของเย่แจ๋หยิ่ง

ดังนั้นความเป็นความตายของคนจำนวนมากขึ้นอยู่กับความคิดของเขา รวมถึงนางด้วย

ในขณะนี้!

คนที่ยืนนิ่งอยู่นานอย่างเย่แจ๋หยิ่งก็สะบัดมือ แล้วก็มีองครักษ์ลับนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาทันที

“เจ้านาย!”

“พาทุกคนมาที่นี่”

“ขอรับ!”

หลังจากที่องครักษ์จากไป เย่แจ๋หยิ่งก็หันหลังมามองหลานเยาเยา พลันขยับริมฝีปากเบาๆ

” สามารถทำให้ทุกคนที่สลบอยู่ฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่?”

“ได้สิ! เพียงแต่……”หลานเยาเยาอยากจะเจรจาเรื่องเงื่อนไข

ถึงแม้สัญชาตญาณของนางจะว่าเย่แจ๋หยิ่งจะต้องให้นางขึ้นเรือเล็กเป็นแน่ แต่เพื่อเป็นการรับประกันนางจำเป็นต้องหาโอกาสรักษาชีวิตของตัวเองไว้

หากเกิดว่าเขาทำผิดพลาดขึ้นมาแล้วทิ้งนางไว้ เช่นนั้นนางก็ถือว่าจบเห่แล้ว

การเกิดใหม่ของนางอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งไม่อยากตายอยู่ในน้ำทะเลอันเยือกเย็นนี้…..

“ไม่มีแต่ว่า!”

น้ำเสียงของเย่แจ๋หยิ่งไม่สามารถที่ปฏิเสธได้

พูดจบ เขาก็ตวาดสายตาไปยังผู้โดยสารที่องครักษ์ลับกำลังพาเดินเข้ามา ราวกับว่านางจะทำให้คนที่หมดสติให้ฟื้นขึ้นมาหรือไม่ สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้สำคัญมากนัก

เอ่อ!

ช่างเป็นคาที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเสียจริง!

หลานเยาเยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบยาขวดหนึ่งออกมา แล้ววางยาลงบนจมูกของเจ้าของเรือเพื่อปลูกเขา

หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา หลานเยาเยาก็กล่าวอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระชับ ก่อนจะหันหน้าไปยังเย่แจ๋หยิ่ง

ก็พบว่าเขาได้ให้องครักษ์ลับปล่อยเรือเล็กทั้งสี่ลำลงไปในทะเลเสียแล้ว และให้องครักษ์เลือกเอาเด็กจากกลุ่มผู้โดยสารขึ้นไปบนเรือก่อน

พอคนเหล่านั้นได้ยินว่าจะเลือกผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น จนหลายคนที่กำลังกังวลอยู่สุดท้ายก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา

แต่ก็มีบางคนที่หน้าเริ่มซีดเปือกขึ้นเรื่อยๆ…..

ด้วยเหตุของความละโมบกลัวความตาย จนบางคนถึงกับแสร้งทำเป็นว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่กลับถูกจับโยนลงทะเลไปโดยไม่ให้ขึ้นเรือ รอจนเกือบจะจมน้ำตายถึงค่อยดึงกลับขึ้นมาบนเรือ

หลังจากรู้ถึงความร้ายกาจนี้แล้ว ผู้คนก็มองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่ไม่พูดจาใดๆ สีหน้าเยือกเย็น และแววตาที่ดูลึกล้ำนั้น โดยที่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะแสร้งทำเป็นว่ายน้ำไม่ได้อีกเลย

ด้วยความรวดเร็ว เรือเล็กสามลำก็มีคนนั่งเต็มแล้ว โดยที่ในแต่ละลำจะมีองครักษ์ลับเฝ้าดูแลอยู่ ในตอนนี้ก็เหลือเพียงเรือเล็กลำสุดท้ายแล้ว

สายตาของผู้คนที่เหลือก็จ้องมองไปยังเรือลำนั้นอย่างจดจ่อ

และก็มีสิ่งที่ทำให้หลานเยาเยาประหลาดใจก็คือ เรือเล็กลำที่เหลือนั้นเย่แจ๋หยิ่งกลับไม่ได้ให้คนของเขาขึ้นไปและไม่ได้เหล่าสตรีขึ้นไปนั่ง แต่ให้คนที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นไปยังเรือเล็กแทน จนในที่สุดเรือก็ถูกอัดจนเต็มเหลือเพียงที่นั่งสุดท้าย

ในที่สุดเย่แจ๋หยิ่งก็เดินมายังข้างกายของหลานเยาเยา พร้อมพูดด้วยเสียงเรียบเฉย

” ไปสิ !”

“แล้วท่านหล่ะ?” หลานเยาเยารู้สึกลังเล

ใครจะรู้ว่า จู่ๆเย่แจ๋หยิ่งจะโน้มตัวลงมาแล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆและทุ้มต่ำ

” ทำไม ทิ้งข้าไม่ลงหรือไงกัน? อยากจะไปตายกับข้างั้นหรือ? ”

“ท่านคิดเยอะเกินไปแล้ว!”

หลานเยาเยาเหลือบสายตามองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินห่างจากเขาออกมา กำลังจะเดินไปยังเรือเล็กลำสุดท้าย ก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวคนหนึ่ง

“แม่……แม่……แม่ ท่านอยู่ที่ไหน……”

ขณะนั้นเอง นางรีบชะงักเท้าทันทีแล้วหันหน้าไปเย่แจ๋หยิ่ง

“ยังมีเด็กเหลืออยู่?”

“รีบไปดู!”

เย่แจ๋หยิ่งลดตาลง ท่าทางเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันใด

ในไม่ช้า เด็กสาวตัวน้อยที่กำลังร้องไห้ก็ถูกพาตัวมา ทุกคนถึงค่อยได้รู้ว่า แม่ของเด็กน้อยนั้นถูกฟ้าผ่าจนสภาพเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้แล้ว จึงทำให้เด็กน้อยหาแม่ไม่เจอ

เมื่อมองไปยังเด็กสาวที่หน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา หลานเยาเยาก็ถึงกับถอนหายใจออกมา

” เห้อ ช่างเถิด แม้ว่าข้าจะไม่อยากตาย แต่ให้ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดกับเด็กสาวคนหนึ่ง ข้าทำไม่ได้ ใครใช้ให้ข้าใจดีเกินไปกันนะ!”

พูดจบ นางก็นั่งลงกับพื้นโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

หลังจากนั้นไม่นาน

เรือเล็กทั้งสี่ลำก็พายออกไป สายตาของผู้โดยสารที่เหลืออยู่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ต่างพากันนั่งลงอย่างหมดอาลัย

“แล้วจะอยู่ไปทำสิ่งใด?”

ร่างของชายหนุ่มรูปงามผอมเพรียวนั่งลงข้างกายของหลานเยาเยา

หลานเยาเยาไม่หันไปดูก็รู้ได้เลยว่าคนที่นั่งข้างๆเป็นใคร ดังนั้นนางจึงไม่ตอบแต่ถามกลับแทน

“นอกจากรอคอยการช่วยเหลือแล้ว ท่านยังมีวิธีการจะช่วยเหลือตัวเองบ้างหรือไม่?

เรือใหญ่ลำนี้ทำมาจากไม้ ต่อให้เรือจมแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะจมลงไปถึงก้นบึ้งทะเล มีแต่จะลอยอยู่เหนือน้ำทะเลเท่านั้น

คนที่ยังเหลืออยู่นั้นพวกเขาต่างก็ว่ายน้ำได้ บนเรือก็ยังมีอาหารแห้งอยู่จำนวนมาก พวกเขาเพียงแค่ต้องแยกชิ้นส่วนเหลือแล้วก็เกาะขึ้นไป คงไม่มีปัญหาอะไรในการรักษาชีวิตให้รอดในไม่กี่วัน

เพราะพอถึงเวลา คนที่นั่งเรือเล็กกลับไปก็จะต้องหาทางกลับมาช่วยพวกเขาแน่นอน

แต่ว่า!

ขนาดนางยังคิดถึงเรื่องนี้ได้ ทำไมเย่แจ๋หยิ่งจะคิดไม่ถึง ?

ดังนั้นเขาไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ แต่เขาก็กลับอยู่ นี่มันเป็นเพราะเหตุใดกันแน่?

สิ่งนี้จึงทำให้หลานเยาเยาคิดไม่ตก

“เพีงแค่คนๆนั้นไม่ตาย เรือลำนั้นจะต้องกลับมาแน่” เย่แจ๋หยิ่งกล่าวออกมาอย่างมีนัยยะ

“เรือ?เรือของผู้ใด?เรืออะไรกัน?”

เมื่อเห็นท่าทางอันมั่นใจขนาดนี้ของเขา มุมปากของหลานเยาเยาก็ค่อยปรากฎรอยยิ้มออกมา

นางรู้อยู่แล้วว่าเขมจะต้องมีหนทางอื่น ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อยู่ตรงนี้แล้ว

เพียงแต่ว่าในทะเลอันกว้างใหญ่เช่นนี้ จะมีเรือลำอื่นได้อย่างไรกัน?

หรือต่อให้มี ก็คงหลบไม่พ้นจากสายฟ้าฟาดจากกลุ่มเมฆดำเมื่อก่อนหน้านี้หรอก ! นอกจากว่ามันจะใหญ่กว่า…..

พอพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของหลานเยาเยาก็ถึงกับเบิกกว้าง

ไม่หรอกมั้ง….

นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เรือที่เย่แจ๋หยิ่งพูดถึงคงจะไม่ใช่เรือแห่งความสิ้นหวังหรอกนะ……

และแล้ว นางก็ได้รู้ความจริง

“เรือแห่งความสิ้นหวัง!”

ในตอนที่เย่แจ๋หยิ่งกล่าวประโยคห้าคำนี้ออกมา ในใจของน้ำก็เกิดชั้นน้ำแข็งขึ้นมาทันที ความหนาวทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมา

“ท่านมักคุ้นกับเจ้าของเรือของเรือแห่งความสิ้นหวังหรือ?”

ทันทีที่คิดถึงเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง หลานเยาเยาก็นึกถึง ชีวิตของผู้คนที่ถูกฝีมือเจ้าของเรือผู้นั้นทำให้กลายเป็นบ่อเลือด แล้วยังเป็นเรื่องที่เกิดเพียงขั่วพริบตา

เจ้าของเรือผู้นั้นน่าเกรงกลัวเกินไปแล้ว…..

ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้เห็นหน้าของเจ้าของเรือผู้นั้น แต่นางก็เชื่อเลยว่า หน้าตาเจ้าของเรือผู้นั้นจะต้องเลวร้าย คงไม่มีทางเหมือนเซียวซื่อจื่อที่แสนอ่อนโยนดังหยกหรอก

“เขาอยากให้ข้าตาย!”

ดสียงอันเยือกเย็นดังแทรกเข้ามาให้หูของหลานเยาเยาทีละคำๆ จนสีหน้าของนางราวกับไปกินแมลงมาเป็นร้อยจนดูไม่ได้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท