หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 193 เก็บผู้ชายมาอีกคนหนึ่ง

บทที่ 193 เก็บผู้ชายมาอีกคนหนึ่ง

บทที่ 193 เก็บผู้ชายมาอีกคนหนึ่ง

ดังนั้นนางจึงไปตรงข้างหน้าต่างอย่างรวดเร็ว มองไปทางตำแหน่งที่นางยืนอยู่บนถนนเมื่อสักครู่

ก็คือตรงนี้

เมื่อสักครู่คนผู้นั้นยืนมองนางอยู่ตรงนี้ เป็นไปได้ว่าคนอาจจะจากไปแล้ว หรือว่าเขาอาจจะซ่อนตัวอยู่

คิดถึงตรงนี้ หลานเยาเยาก็ยกขาขึ้นไปเหยีบยที่หน้าต่าง เมื่อกำลังคิดจะกระโดดลงไป ทันใดนั้นก็มีคนมาดึงแขนไว้

“แม่นาง ท่านอย่าคิดสั้นสิ! นี่คือชั้นสี่ หากไม่มีวิทยายุทธแล้วกระโดดลงไปได้คอหักขาหักแน่นอน”

คนที่ดึงนางไว้คือผู้หญิงที่ได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งตัวของนางมีกลิ่นชาดสีแดงแผร่กระจายออกมา

หลานเยาเยาหันกลับไป แล้วยิ้มทันที : “ท่านรู้ได้เช่นไรว่าข้าไม่มีวิทยายุทธ? และรู้ได้เช่นไรว่าข้าเป็นผู้หญิง?” ซึ่งตอนนี้นางแต่ตัวเป็นผู้ชาย

ผู้ที่เพียงแวบเดียวก็ดูออกว่าคนอื่นมีวิทยายุทธหรือไม่ แสดงว่าเป็นยอดฝีมือ

“คำพูดนี้ของแม่นางหมายความเช่นไร?” เหมือนว่าผู้หญิงจะรู้ตัว รีบชักมือกลับ ถามด้วยความระมัดระวัง

“แสดงได้แย่มาก!”

“ห๊ะ?”

“เห็นได้ชัดว่าในดวงตาของพวกท่านไม่ได้กันและกันอยู่ แล้วได้เปลือยท่อนบนเห็นท่อนแขนกันแล้ว แม้ว่าจะเป็นชายอยู่บนหญิงอยู่ล่าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน นี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่าพวกท่านเพียงทำการแสดงอย่างกะทันหัน จึงมีความไม่คุ้นเคยกัน”

จะพูดให้ถูก พวกเขาไม่เหมือนคนที่เป็นคู่รักกัน

“แม่นางนี่เฉลียวฉลาดจริงๆ!” ผู้หญิงพยักหน้าด้วยความชื่นชม ถึงอย่างไรก็โดนมองออกแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องแสดงอีกต่อไป

หลานเยาเยาไม่ได้ใส่ใจพวกเขาสักนิด แต่กลับมองที่หน้าต่าง แล้วถอนหายใจอย่างฉับพลัน

“ช่างเถอะ”

เรื่องบางเรื่องก็ไม่เห็นอาจจะจำเป็นต้องสาวให้ถึงรากถึงโคน?

ยิ่งรู้เยอะก็เท่ากับยิ่งตายไวขึ้นนี่?

ยิ่งไปกว่านั้น!

เจ้าไม่สามารถปลุกคนที่แกล้งหลับให้ตื่นขึ้นมาได้

คิดถึงตรงนี้ นางจึงได้หมุนตัวเดินไปทางประตู เจ้าของร้านและพนักงานก็ดักรออยู่ที่ประตู เห็นท่าทีของนาง ในใจก็รู้ ที่แท้ก็มาจับชู้นี่เอง!

รีบหลีกทางให้ ไม่ต้องพูดถึงคุณชายที่ดูหน้าตาสง่าผ่าเผย แม้แต่พวกปัญญาชนที่ดูเรียบร้อยแต่ร่างกายอ่อนแอ เมื่อแสดงอำนาจขึ้นมา ก็ดูน่ากลัวเช่นกัน พวกเขาไม่ไปควรหาเรื่อง

หลังจากที่หลานเยาเยาจากไป

ผู้ชายมองไปที่ประตู ถามด้วยความสงสัยว่า : “ทำไมนางจึงได้เดินไปแล้ว?”

“ไม่เดินไปแล้วจะให้ทำยังไง? หรือจะให้กระโดดลงไป” ผู้หญิงกรอกตาขาวใส่เขา

“แต่เมื่อครู่ถ้าเจ้าไม่ดึงนางไว้ นางก็กระโดดไปแล้ว”

“กระโดด? เจ้าไร้เดียงสาจริงๆ!”

นั่นเป็นเพียงแค่การหลอกพวกเขาเท่านั้น และเพียงแค่แวบเดียวก็มองเห็นเบาะแสได้ ชั่งเป็นหญิงที่ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก หากภายหลังต้องกลายเป็นศัตรูกันงั้นก็น่าเสียดายแย่

“ห๊ะ?” ผู้ชายยิ่งสับสนไม่เข้าใจ

“ห๊ะอะไร? รีบไปเถอะ!”

เมื่อหลานเยาเยากลับไปที่เดิมที่พวกเขาอยู่กันก่อนหน้านั้น หานแสก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว และศพของชายชุดขาวก็ไม่อยู่แล้ว

คาดว่าน่าจะมีคนยกไปแล้ว

หลังจากนั้นนางจึงได้เดินอยู่ที่บนถนนเงียบๆผู้เดียว บนถนนยังคงมีผู้คนมากมาย แต่นางกลับไม่ได้มองสิ่งใดเลย

“เจ้าได้ยินหรือไม่? คืนนี้ไม่ค่อยสงบนะ! ก่อนหน้านี้มีชายชุดขาวตายบนถนน จากนั้นยังมีคนพบศพคนอีกสองศพตายอยู่ในซอย”

“อันนี้ข้ารู้ ได้ยินว่าสองศพที่ตายในซอยนั่นแปลกประหลาดมาก ยังเป็นถึงนักการเชียว! คนหนึ่งถูกดูดเลือดจนแห้ง อีกคนหนึ่งเหลือเพียงแค่โครงกระดูก น่ากลัวยิ่งนัก มีแต่คนพูดว่าเป็นฝีมือของปีศาจ……”

เสียงพูดคุยกันของทั้งสองคน แว่วเข้าหูมาเป็นระยะระยะ

เหลือเพียงโครงกระดูก?

นี่ทำให้หลานเยาเยาอดนึกถึงฉากที่เคยเห็นบนเรือแห่งความสิ้นหวังไม่ได้

หรือว่าเรือแห่งความสิ้นหวังมาเทียบท่าที่นี่แล้ว?

เป็นไปไม่ได้?

ตอนที่ช่วยจื่อเฟิง นางได้จับตาดูสถานการณ์พื้นผิวทะเล เรือลำใหญ่ขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่เห็น

หรือว่ามีผู้อื่นอีกนอกเหนือจากนี้?

เมื่อถึงตอนนี้

ฝีเท้าของหลานเยาเยาชะงักลง นางก็จับได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่ขาดๆหายๆได้อีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ก็ได้กลิ่น เพียงแต่ที่นี่กลิ่นอาหารทะเลค่อนข้างรุนแรง ตามธรรมชาติแล้วนางจึงไม่ได้ไปสนใจ

แต่ตอนนี้ กลิ่นคาวเลือดที่โชยมาเป็นระยะนี้ทำให้นางคิดจะไม่สนใจไม่ได้เลย

ดังนั้นจึงได้เงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ยังหาที่มาของกลิ่นคาวเลือดไม่ได้ แต่ก็พบเงาร่างสีดำหนึ่งบนหลังคาซะก่อน

เป็นเขาอีกแล้ว?

ชายชุดดำที่ใส่หน้ากาก

ทำไมเขาจึงปรากฏตัวที่นี่? ควรที่จะหลบหนีไปไกลเท่าที่จะไกลได้ หรือว่าหาที่ถอนพิษ?

เมื่อนางเห็นว่าด้านล่างหลังคาเป็นร้านยา ก็เข้าใจได้ทันที

ที่แท้แล้วก็มาหายา!

หลานเยาเยาคิดไปคิดมา ตัดสินใจว่าจะตามไปดูสถานการณ์

ด้านบนบ้านที่ดูเปลี่ยวสงัด ชายชุดดำที่โซซัดโซเซเหาะลงมา จากนั้นก็เข้าไปภายในบ้าน หลังจากนั้นก็คือ “ปั่ง” เสียงหนึ่ง แล้วก็ไม่มีเสียงใดใดดังออกมาอีก

เอ่อ……

คงจะไม่ได้หมดสติไปแล้วนะ?

เพื่อความปลอดภัย หลานเยาเยารออยู่สักพัก หลังพบว่ายังคงไม่มีเสียงใดใดเล็ดลอดออกมา จึงได้เดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีบร้อน

เห็นเพียงชายชุดดำที่ครึ่งท่อนบนนอนคว่ำอยู่บนเก้าอี้ ไม่มีการเคลื่อนไหว มือข้างหนึ่งยื่นไปบนพื้น บนพื้นมีขวดอยู่หนึ่งขวด

หลานเยาเยาหยิบขึ้นมาแล้วถาม

“ถอนพิษหรอ?”

ถูกหลอกหล่ะสิ?

ยาลูกกลอนด้านในขวดนี้ เห็นได้ชัดว่าคุณภาพไม่เพียงพอ และมีสารเจือปนมากมาย ถอนพิษธรรมดายังถอนไม่ได้เลย

แล้วชายผู้นี้มือข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีดำไปหมดแล้ว

ไม่ต้องตรวจก็รู้ เขาโดนพิษที่ร้ายกาจมาก

ยาลูกกลอนชนิดนี้ไม่มีผลใดใด

นางจะช่วยหรือไม่ช่วยดีนะ?

นี่คือปัญหาที่ร้ายแรงมากที่สุด

ก่อนหน้านี้ที่ด้านล่างป่าแห่งความลับ นางและจื่อเฟิงเกือบจะตายด้วยน้ำมือของเขา ตามหลักเหตุผลแล้วไม่ควรจะช่วย

แต่ว่า……

ดูจากวันนี้ที่เขาแย่งชิงตราลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าจากชายชุดขาว ยังมีสิ่งเบาะแสที่นางอยากได้จากปากของเขา

ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว

ดูโฉมหน้าก่อนค่อยว่ากัน คนที่ใส่หน้ากากส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีความลับที่ไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้

ดังนั้น นางจึงอยากดูซิว่า ภายใต้หน้ากากอันนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่?

ดังนั้น!

นางจึงยื่นมือไปถอดหน้ากากของชายชุดดำออก

“หึ ข้าจะดูซิว่า เจ้า……”

มองเห็นหน้าของคนนั้น หลานเยาเยาตะลึงงันไปทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“เคร้งคร้าง…….”

หน้ากากตกลงสู่พื้น จากนั้นนางก็นั่งลงกับพื้น

“ทำไมจึงเป็นท่านได้นะ?”

ชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองหลวง เป็นที่รู้จักในเรื่องความสุภาพอ่อนโยน เป็นหนึ่งในคุณชายทั้งเจ็ดแห่งเมืองหลวง มีอำนาจมีอิทธิพล ทำไมถึงได้ดั้นด้นมาไกลเพื่อแย่งชิงตราลัญจกรหยกได้?

เซียวจิ่นหยู ท่านเป็นใครกันแน่นะ?

หลานเยาเยาคิดกลับไปกลับมาครู่หนึ่ง ก็เหมือนกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง ยิ้มอย่างเวทนาออกมาทันที แล้วก็ยื่นมือไปจับชีพจรตรวจร่างกายให้เซียวจิ่นหยู

แล้วก็ฝังเข็มเพื่อขับพิษให้เขา สุดท้ายก็พาคนกลับไปยังโรงเตี๊ยม

นางจัดแจงให้เซียวจิ่นหยูและจื่อเฟิงอยู่ห้องเดียวกัน ไม่ใช่ว่านางขี้เหนียว ไม่อยากเปิดให้อีกห้องหนึ่ง แต่ว่าคนโดนพิษทั้งสองคนอยู่ด้วยกันจะสะดวกต่อการรักษามากกว่า

แน่นอนอยู่แล้ว!

คนมาอยู่กินที่ห้องพักตั้งมากมาย นางยังต้องควักเหรียญเงินเพียงผู้เดียว รายจ่ายเยอะมาก!

ใช่ แล้วยังพาคนป่วยกลับมาด้วยอีกคนหนึ่ง

อีกทั้ง นางได้ค้นตัวดูแล้ว ในตัวเซียวจิ่นหยูมีเพียงเศษเหรียญเงินไม่เท่าไหร่

เป็นเจ้านายอีกคนที่ไม่มีเงิน

พระเจ้า!

ตัวตนของพวกเขาสองสามคนนี้หากถูกเปิดเผยออกมาต้องทำให้หลายๆคนตกใจแน่ๆ มีอำนาจมีอิทธิพล ครอบครัวร่ำรวย ทำไมออกจากบ้านถึงได้พกเหรียญเงินมานิดเดียว?

น่าโมโหนัก!

เพื่อที่จะทำให้จิตที่ไม่สงบสงบลง นางจึงดื่มชาเพื่อคลายความไม่สงบ จากนั้นเพิ่งจะนึกได้ว่าต้องไปดูว่าหานแสกลับมาถึงโรงเตี๊ยมหรือยัง

นางยังไม่ทันจะลุกขึ้น ก็ได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดออก ไม่ใช่เพียงหานแสผู้เดียวที่เดินเข้ามา ยังมีเย่แจ๋หยิ่งที่หน้าตาเย็นชาด้วย

เพียงแต่สายตาของพวกเขาจ้องมองไปที่ร่างกายของผู้ที่เพิ่มเข้ามาทันที เงียบไปไม่กี่วินาที พวกเขาก็ส่งสายตาไปทางนางพร้อมกัน

ราวกับกำลังถาม : นี่ไปเก็บผู้ชายมาจากไหนอีก?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท