หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 195 อิ่มตายแล้วจะคิดบัญชีที่ใคร?

บทที่ 195 อิ่มตายแล้วจะคิดบัญชีที่ใคร?

บทที่ 195 อิ่มตายจะคิดบัญชีที่ใคร?

“ข้าบอกว่าเจ้าทำเพื่อผู้อื่น ก็คือทำเพื่อผู้อื่น”

“ได้ได้ได้ ท่านว่าใช่ก็ใช่” หลานเยาเยาแอบทำปากจู๋ พูดจาเผด็จการอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ คาดว่าคงจะมีเพียงเย่แจ๋หยิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ผู้เดียว

ไม่ว่ายังไงก็โดนกัดแล้ว จะอธิบายให้มากมายไปทำไม?

เสียแรงเปล่าตั้งแต่แรก

แต่ทว่า!

นางนี้เป็นคนที่ใจแคบมาก ดังนั้น ใช้ช่วงที่เย่แจ๋หยิ่งไม่ทันระวังกัดไปที่แขนของเขาอย่างแรง

หลังจบเรื่อง ก็ยังปัดๆที่แขนของเขา

“ถือว่าเสมอกันแล้ว!”

พูดจบก็ยิ้มอย่างตลก ก่อนที่เย่แจ๋หยิ่งจะเปลี่ยนสีหน้า ก็วิ่งหนีออกไปก่อนแล้ว

เพียงแต่ว่าทางที่นางวิ่งไปเดิมทีควรจะเป็นประตูห้อง ทว่าทำไมที่นางเห็นอยู่ด้านหน้าเป็นหน้าต่างไปได้นะ?

หากแต่ว่าช้าไปแล้ว ดังนั้นนางจึงได้ตกลงไปทางหน้าต่างอย่างน่าสงสาร……

เย่แจ๋หยิ่ง : “…..”

ห้องพักของพวกเขาอยู่ชั้นสาม แม้ว่าตกลงไปแบบเช่นนี้จะไม่ถึงกับตาย แต่ว่าเรื่องแขนขากระดูกกระเดี้ยวหักพวกนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้

หลานเยาเยาหลับตาลง สีหน้ารอคอยยอมรับความเจ็บปวดที่กำลังจะมาถึง

แต่กลับตกลงมาอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นอย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อนางลืมตาขึ้น ก็ได้ยินเสียงของเย่แจ๋หยิ่งดังมา

“เดินยังไงให้ตกไปทางหน้าต่างได้ เจ้ากินข้าวจะสามารถกินจนตัวเองสำลักตายหรือไม่?”

“……”

ทีแรกหลานเยาเยายังมีความซาบซึ้งใจอยู่บ้างเล็กน้อย ที่สำคัญร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งก็ยังมีบาดแผลอยู่ ไม่เหมาะที่จะใช้วิชาตัวเบา แต่เขาเพื่อที่จะไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่สนใจนึกถึงร่างกายของตัวเลย

แต่ทว่า!

ฟังคำพูดเช่นนี้ของเขา ความซาบซึ้งใจได้มลายหายไปสิ้น

“ท่านวางข้าลง”

เดิมทีนางอยากดิ้นอยู่ในอ้อมกอดสักครู่ แต่เพื่อเลี่ยงการกระแทกเข้ากับแผลที่หน้าอกเขา ดังนั้นจึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูด

“ดี!”

เย่แจ๋หยิ่งปล่อยนางลงอย่างระมัดระวัง

“หึ!” หลานเยาเยาหึออกมาเบาๆ จากนั้นก็เดินจากไป

นางเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินน้ำเสียงเหนื่อยๆของเย่แจ๋หยิ่งแว่วมา : “คำถามที่เจ้าอยากถามเขาจะไม่ถามข้าแล้วหรือ?”

คราวนี้ ร่างกายของหลานเยาเยาชะงักไปครู่หนึ่ง โบกมือให้ แล้วก็เดินหน้าต่อไป

“ไม่ล่ะ ข้าชอบท่าทางของท่านในตอนนี้”

แม้จะรู้ว่าสัญญาสามปีของพวกเขาในตอนแรกนั้น เป็นเพราะเย่แจ๋หยิ่งจะใช้นางเป็นเครื่องมือกีดกันหญิงอื่นที่จะเข้ามาหาเขาในจวน

แต่ว่าตอนนี้เรื่องราวกับพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ นางเกิดความอาลัยอาวรณ์ต่อเย่แจ๋หยิ่ง

อีกทั้ง เซียวจิ่นหยูที่อาจจะมีความสัมพันธิ์กับราชวงส์เก่า เคยคิดจะฆ่านาง จากนั้นมาอาจจะเป็นเพราะรู้ความลับบางอย่างของนาง จึงเริ่มเข้าใกล้นาง ตอนนี้นางก็ได้รู้ตัวตนของเขาอีกตัวตนหนึ่งแล้ว

งั้นก็……

ตอนที่อยู่ด้านล่างของป่าแห่งความลับที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ เย่แจ๋หยิ่งทำไมจึงต้องจงใจไว้ชีวิตเขานะ?

นางไม่อยากไปคิดถึงปัญญาเหล่านี้ และก็ไม่อยากสาวถึงรากถึงโคน

แต่นางก็ไม่ได้โง่

ในวันนี้เย่แจ๋หยิ่งพูดว่า เบาะแสที่นางอยากได้จากเซียวจิ่นหยู เขาสามารถบอกนางได้ทั้งหมด เขากำลังคิดที่จะเปิดไพ่ในมือกับนางงั้นหรือ?

แต่นางไม่อยากทำลายสถานการณ์ในตอนนี้ที่มีกับเขา ดังนั้น นางจึงยอมหาเบาะแสจากปากผู้อื่น แต่จะไม่ยอมฟังความจริงจากปากของเขา

เย่แจ๋หยิ่งมองดูเงาร่างของหลานเยาเยาหายไปจากสายตา ข้างหูยังคงคิดย้อนคิดถึงคำที่นางพูดเมื่อสักครู่ พึมพรำออกมาเบาๆคำหนึ่ง

“ชอบ?”

จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่ทว่า เมื่อเขายื่นมือออกมาดูก็เห็นบาดแผลบนฝ่ามือของเขา นั้นถูกขีดข่วนโดยไม่ได้ระวังตัว เพียงแต่เมื่อครู่เพื่อรองรับหลานเยาเยาไว้ จึงได้ปริออกอีก

เลือดไหลออกจากฝ่ามือไม่หยุด หยดลงบนต้นหญ้าเล็กๆบนพื้นดิน ต้นหญ้าเล็กที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา กลับสูญเสียความมันวาวไปทันที จากนั้นก็ค่อยๆแห้งเหลืองตายไป……

เช้าวันที่สอง หลานเยาเยายังคงตกอยู่ในความฝัน ถูกห่อหุ้มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่ทะลุไปถึงกระดูก เมื่อนางลืมตาขึ้น ก็ถูกคนอุ้มขึ้นมาแล้ว

“เช้าตรู่ขนาดนี้ท่านทำอะไร?”

เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นคนที่อุ้มนางไว้คือเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาไม่ได้ตอบโต้ แต่กลับแอบเอาเข็มเงินในมือเก็บเข้าไว้ในระบบ

“พาเจ้าไปพบคนบางคน”

พบคน?

พบใครนะ?

คงไม่ได้คิดจะเปิดไพ่ในมือกับนางหรอกนะ?

“ข้าไม่ไป” สีหน้านางเต็มไปด้วยการแสดงออกถึงการปฏิเสธ

“วางใจเถอะ เจ้ารู้จักทั้งหมด เอาของกินมากมายมาให้เจ้า”

“จริงหรือ? งั้นรีบไปเถอะ”

แค่ได้ยินคำว่าของอร่อย ดวงตาของหลานเยาเยาก็เปล่งประกายวับวาว เบิกตากว้างขึ้นมาทันที ในแววตาเต็มไปด้วยความโลภ

ของอร่อย รอข้าไปลิ้มรสของพวกเจ้าเถอะ!

หลังจากนั้น ที่น่าเศร้าก็คือ

หลานเยาเยาตามเย่แจ๋หยิ่งไปอย่างดีอกดีใจ สุดท้ายตามเย่แจ๋หยิ่งกลับมาด้วยสีหน้าเบื่อชีวิตเป็นที่สุด

เหตุผลหนึ่งในนั้นคือ คนที่เย่แจ๋หยิ่งพานางไปพบเป็นคุณชายเหลียงเฉินและจื่อซีพวกเขาได้มาถึงที่นี่ก่อนพวกเขานานแล้ว แม้แต่ฮัวหยู่อันก็อยู่ด้วย

เดิมทีก็ไม่มีอะไร เพราะว่าเย่แจ๋หยิ่งพูดกับนางว่า ฮ่องเต้รู้ข่าวที่ตราลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าปรากฏอยู่ที่ชนเผ่าหยินไห่แล้ว จึงได้ออกราชโองการ ให้เขามาตามหาที่ชนเผ่าหยินไห่

มีอีกจุดประสงค์เบื้องหลังที่ชัดเจน

หากว่าเย่แจ๋หยิ่งหาตราลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าพบแล้ว งั้นก็เป็นไปตามความต้องการของฮ่องเต้พอดี หากว่าหาไม่พบ ก็จะได้ยัดเยียดโทษให้ได้ตามใจนึก

แต่เย่แจ๋หยิ่งที่มีอำนาจล้นฟ้านั้นสามารถที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้โดยสิ้นเชิง ส่วนที่ว่าทำไมเขาเลือกมาที่นี่ หลานเยาเยาไม่อยากไปถามเจาะลึก

แต่ว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นที่สำคัญคือฮัวหยู่อันเอาของอร่อยมามากมาย ใส่มาจนแทบจะเต็มตู้รถม้า

ใครจะรู้……

เมื่อถึงที่นี่ ของอร่อยที่อยู่ในรถม้า ถูกกินไปเกลี้ยงแล้ว

ของกินทั้งรถ!

ฮัวหยู่อันเป็นหมูหรือไง?

คนเดียวกินไปได้ตั้งเยอะ อีกทั้งนางก็ได้เสาะหาอาหารรสเลิศมาตลอดทาง จะกินได้รวดเร็วเช่นนั้นได้ยังไง?

ฮัวหยู่อันแสดงถึงความหมดอาลัยตายอยาก นางเสาะหาอาหารรสเลิศมาตลอดทางจริงๆ เตรียมไว้เอามาให้หลานเยาเยา แต่ว่าก็ถูกกินหมดเกลี้ยงไปอย่างน่าประหลาดใจ

ขณะที่พาหลานเยาเยาไปดู เหลือเพียงอาหารรสเลิศใส่กล่องกระดาษไม่กี่กล่อง

หลานเยาเยาเดินไปเดินมาในห้อง แต่ในสมองกลับรู้สึกว่าเหมือนเห็นกับตาตัวเองว่า ของอร่อยทั้งรถมีปีกงอกออกมาแล้วบินไป

“ปั่ง…..”

ความโกรธของหลานเยาเยาที่ยากจะสงบลง มือตบลงไปบนโต๊ะ

ของอร่อยที่กำลังจะถึงปากอยู่แล้วกลับบินไป หลานเยาเยาแสดงความฉุนเฉียว เฉกเช่นกับสุนัขตัวผู้ที่ไม่มีที่ระบายอารมณ์ติดสัตว์

ฮัวหยู่อันที่กลับมาพร้อมกับพวกเขา โม่เหลียงเฉินและจื่อซี ทั้งหมดยืนอยู่ห่างจากนางออกไป เกรงว่านางจะไม่พอใจ แล้วพวกเขาจะซวย

เย่แจ๋หยิ่งที่เดินเข้ามาทางประตู เห็นท่าทางของหลานเยาเยา ก็ซ่อนแววตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

“ลองอันนี้สิ?”

เขาหยิบของเป็นห่อกระดาษชิ้นหนึ่งมาไว้ที่หน้าของหลานเยาเยา ยังไม่ได้เปิดออกก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นแล้ว จึงทำให้อารมณ์ฉุนเฉียวของหลานเยาเยาสงบลงได้ในทันที

“ไก่ขอทาน?”

นี่เรียกว่า แค่ดมก็รู้ว่าคืออะไร ในฐานะที่เป็นสุดยอดนักกินผู้หนึ่งที่จะพบได้เพียงคนหนึ่งในหนึ่งพันปี หลานเยาเยาคุ้นเคยกับกลิ่นพวกนี้ถึงขั้นหาคนเปรียบเสมือนยาก

“อืม ในที่สุดก็มีอาหารรสเลิศรอให้ข้าลิ้มลองแล้ว”

หลานเยาเยากอดไก่ขอทานไว้ จากนั้นก็แทะกินอย่างเมามัน สุดท้ายเมื่อเหลือเพียงน่องไก่ นางเหลือบมองฮัวหยู่อันที่มีแววตาตะกละแวบหนึ่ง ก็ยกน่องไก่ขึ้นมาแล้ววิ่งหายไปอย่างไร้ร่อยรอยด้วยความรวดเร็ว

เย่แจ๋หยิ่ง : “……”

เหล่าคนที่หลบอยู้ข้างหน้าต่าง : “……” โชคดีที่พวกเขาไม่ใช่อาหาร

หลานเยาเยาออกไปครั้งนี้ จนถึงตอนบ่ายก็ยังไม่พบเงาร่างคน

“เจ้านาย พระชายายังไม่กลับมา พวกเราต้องออกไปตามไหมพะยะค่ะ?”

จื่อซีค่อนข้างเป็นห่วง

เกรงว่าหลานเยาเยาจะตะกละจนถึงขั้นแทะเปลือกต้นไม้กิน

“ไม่ต้อง!” นอกจากบนถนนที่มีของกินเหล่านั้น นางก็คงไม่ไปที่ไหนอีก

หลานเยาเยาที่โดนเย่แจ๋หยิ่งคาดเดาไว้อย่างแน่วแน่นั้น ในเวลานี้กำลังนั่งกินนั่งดื่มอาหารรสเลิศอยู่ที่โรงเหล้าแห่งหนึ่งอย่างสำราญ ท่าทางการกินของนางทำให้พนักงานที่ดูแลอยู่ข้างๆ ตกใจจนตัวสั่นไปหมด

เคยเห็นคนขอทานที่หิวจนสามารถกินคนได้ แต่ยังไม่เคยเห็น คุณชายหนุ่มที่หิวมากจนคิดจะแทะโต๊ะ โดยเฉพาะคุณชายที่มีรูปโฉมท่าทางที่สง่าผ่าเผยที่อยู่ต่อหน้านี้

“เออะ เออะ เออะ……”

หลานเยาเยาที่กินจนเรอแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างยังคงเหมือนดั่งหมาป่าหิวโหยที่จับจ้องอาหารบนโต๊ะอยู่ตลอด

“คุณ คุณชาย ยังกินอีกหรือ?” พนักงานร้านถามด้วยความระมัดระวัง

อิ่มตายแล้วจะคิดบัญชีที่ใคร?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท