หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 217 จำเป็นต้องไป

บทที่ 217 จำเป็นต้องไป

บทที่ 217 จำเป็นต้องไป

ฮัวหยู่อันตกใจเล็กน้อย

แต่นางกลับไม่ได้ถามสิ่งใดมากมาย แล้วก็ดึงหลานเยาเยาออกไปต่อ

“เพราะเหตุอะไร?”

หลานเยาเยาห้ามนางเอาไว้

เมื่อมองเห็นหางตาของนางยังมีคราบน้ำตาอยู่ ก็เข้าใจได้เลยว่า นางคงไปรับรู้เรื่องบางอย่างมาเป็นแน่

” พ่อใหญ่หายตัวไปแล้ว ข้าเลยไปช่วยพวกเขาค้นหา แต่ว่าไม่ว่าจะหาที่ไหนก็หาไม่พบ จึงบังเอิญไปได้ยินบทสนทนาของพ่อรองและพ่อสาม พวกเขาต้องการที่จะสังหารพวกท่าน พวกเขาต้องการที่จะหลอกล่อพวกท่านให้เข้าไปในหุบเขาจิ้น ถ้าเกิดพวกท่านไม่ไป พวกเขาก็ยังมีหนทางอื่นที่จะสังหารพวกท่าน ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอะไรไปกันหมด ข้ารู้เพียงว่าการกลับมาครั้งนี้ ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปจนหมดแล้ว”

พ่อใหญ่ พ่อรองและพ่อสามพวกเขาไม่ได้จิตใจดีเหมือนภาพในความทรงจำของนางอีกต่อไปแล้วตอนนี้พวกเขาเป็นเพียงคนโหดร้ายที่นางได้ละทิ้งไปแล้ว

” เสี่ยวฮัวฮัว เรื่องนี้ข้ารู้อยู่แล้ว ”

หลานเยาเยายื่นกระดาษในมือส่งในนางดู ก่อนจะพูดต่อ

” สิ่งนี้ผู้อาวุโสสามเป็นคนมอบให้ข้า สิ่งที่บันทึกไว้ในนี้คือยาถอนพิษหนอนกู่จิ้น ยาต้นกำเนิดสองตัวข้าได้หาเจอแล้ว เหลือยาตัวสุดท้ายที่มันอยู่ในหุบเขาจิ้น ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาสร้างแผนการใดๆ ข้าก็ต้องไปอยู่ดี ”

ฮัวหยู่อันตะลึง!

“เยาเยา ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าในหุบเขาจิ้นมีสิ่งใดอยู่ข้างใน ทั้งยังไม่เคยมีใครมีชีวิตรอดออกมาจากข้างในได้ ท่านไม่ควรเข้าไป หากเข้าไปแล้วก็เหมือนไปหาที่ตาย ”

นางร้อนรนจนเผลอเรียกชื่อออกมา ฮัวหยู่อันไม่เข้าใจว่าเหตุใดหลานเยาเยารู้อยู่แล้วว่านั่นเป็นกับดัก รู้อยู่แล้วว่าหากไปแล้วก็เท่ากับตายเท่านั้น เหตุใดนางถึงยังจะไปอีก ?

” ขอบใจเจ้ายิ่งนัก เสี่ยวฮัวฮัว ยามนี้น้ำในชนเผ่านั้นลึกยิ่งนัก เจ้าอย่ากระโดดเข้าไปเป็นอันขาด รีบออกเดินทางในยามค่ำคืนเถิด! ”

นางสามารถพูดได้เพียงเท่านี้ สำหรับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในชนเผ่า นางเองก็ไม่สามารถรู้ได้ และก็ไม่อยากรู้ด้วย นางแค่เพียงหวังว่าทุกคนที่ห่วงใยนาง จะเป็นอยู่อย่างปลอดภัย

เมื่อเห็นหลานเยาเยานิ่งอยู่นาน ฮัวหยู่อันก็ส่ายหน้า นางมองดูห่อสัมภาระที่กลับมาอยู่ในมือของตัวเองแล้ว ก็พลันพูดออกมาอย่างตั้งใจ

“เช่นนั้นตายก็ตายเถอะ ข้าจะไปกับท่านด้วย”

“เจ้าก็อยากตายงั้นรึ? ”

“ข้า ข้าไม่อยาก แต่ข้าไม่อยากเห็นท่านเดินเข้าไปหาความตาย ”

ที่จริงแล้วนางกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าเสียมากกว่า

แล้วเหล่าผู้อาวุโสของพวกเขา ยังมีเรื่องอะไรมากมายปิดบังนางอีก ? นางก็กลัวที่จะต้องรู้เสียแล้ว !

” เช่นนั้นก็ดี มีคนเพิ่มมาอีกก็ยิ่งมีกำลังเพิ่มขึ้น ”

” ด้วยความที่นางรู้ว่าพูดกับฮัวหยู่อันก็คงไร้ประโยชน์ ดังนั้นหลานเยาเยาจึงไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากมาย

จากนั้น!นางก็รินชาแก้วหนึ่งมาวางไว้ตรงหน้าของฮัวหยู่อัน

” ฟ้าใกล้สว่างแล้ว เวลานี้เป็นช่วงที่ง่วงนอนมากที่สุด ดื่มชาสักแก้วเสียก่อน ช่วยให้การตื่นตัว

“อ๋อ!”

ฮัวหยู่อันวางห่อสัมภาระในมือลง จากนั้นก็ค่อยๆดื่มชาทีละนิดๆ เพียงครู่เดียวนางก็ล้มลงไปกับนอนกับโต๊ะ

เมื่อมองดูคนที่สลบไม่ตื่นอย่างฮัวหยู่อัน หลานเยาเยาก็ถอนหายใจออกมาฟอดหนึ่ง

“เหตุใดถึงต้องไปหาที่ตายด้วย……”

พูดจบ !นางก็หันไปพูดกับใครอีกคนที่อยู่ตรงหน้าต่าง

” เจ้าพานางไปเถอะ ! ออกไปจากชนเผ่า เดี๋ยวฟ้าสว่างแล้วจะสายเกินไป ”

หลังจากที่ฮัวหยู่อันเข้ามา นางก็รับรู้ถึงการมาของใครอีกคน คนๆนั้นตามฮัวหยู่อันมา ซึ่งคนที่สามารถอยู่ข้างกายของนางในเวลาเช่นนี้ก็คงมีเพียงเจี่ยนหมิงเท่านั้น

คนที่หลบตัวอยู่ด้านนอกหน้าต่างก็ถึงกับตกใจ

สิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือหลานเยาเยานั้นไร้วรยุทธ์ ไม่มีกำลังภายใน แต่สามารถรับรู้ถึงเขาได้ ทั้งยังรู้ตำแหน่งของเขาได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

ในเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลบอีกต่อไป เขาจึงก้าวเข้ามาในห้อง

“ท่านจะไปหุบเขาจิ้นจริงหรือ?”

สิ่งที่พวกนางคุยกันเมื่อสักครู่นี้เขาล้วนได้ยินหมดแล้ว นับตั้งแต่ที่อาฝูและโม่ซางหนีออกไป เหล่าผู้อาวุโสก็แอบทำการเปลี่ยนตัวผู้สังเวย เขาก็ได้เริ่มสงสัยถึงความถูกต้องของการบูชายัญแล้ว

ยิ่งไม่กี่วันมานี้ เขาได้เห็นด้านที่ชั่วร้ายของเหล่าผู้อาวุโส เขาได้เริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดอาฝูและโม่ซางถึงได้หนีไป และคาดว่าเขาคงจะรู้ด้านแท้จริงของเหล่าผู้อาวุโสตั้งนานแล้ว

“อืม เพราะจำเป็นต้องไป!”

คำตอบของนางนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง

“สิ่งที่ท่านตามหาคือดอกกระดูกขาวสินะ?”

ได้ยินเช่นนั้น !ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของหลานเยาเยา จากนั้นนางจึงหันไปมองยังตัวเขา ด้วยสีหน้าที่งุนงง

เจี่ยนหมิงกล่าวออกมายังจริงจังโดยไม่ปิดบังสิ่งใดทั้งสิ้น

“ในตอนที่ข้ายังเด็ก บังเอิญไปได้ยินประมุขเผ่ากล่าวว่าดอกกระดูกขาวมีอยู่สองชนิด สีแดงนั้นมีความอันตราย ส่วนสีขาวนั้นยังไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นมาก่อน ดังนั้นหากเจอเข้ากับดอกสีแดง ระวังอย่าสัมผัสมันเด็ดขาด ”

ในเมื่อเป็นคนที่ฮัวหยู่อันให้ความสำคัญ เขาจึงควรจะบอกสิ่งที่รู้ออกไป

กล่าวจบ เขาก็เดินมายังข้างโต๊ะ แล้วอุ้มฮัวหยู่อันมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเดินจากไป

หลานเยาเยาที่นั่งอยู่ก็ลองคิดไตร่ตรอง แล้วดวงตาก็ประกายขึ้นมา ‘ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!’

……

……

ท้องฟ้าค่อยๆสว่าง หลานเยาเยาเปลี่ยนกลับมาสวมชุดสตรี ในแบบที่เรียบง่ายไม่ยุ่งยาก สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกยามพบกับอันตราย

และทุกอย่างก็เตรียมพร้อมอย่างเรียบร้อย

ทันทีที่นางเปิดประตูออกมา ก็เจอกับซิ่วซิ่วลูกสาวของผู้อาวุโสใหญ่ นางแอบยืนทำลับๆล่อๆอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่

โดยในมือกำลังถือขนมไว้จานหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่านางกำลังจะทำสิ่งใด ?

เมื่อเห็นหลานเยาเยาเดินออกมา นางก็ถึงกับตกใจในทันที

มีสาวงามเช่นนี้เข้ามาในชนเผ่าตั้งแต่เมื่อใดกัน ?

เหตุใดนางถึงไม่ได้ข่าวคราวเลยแม้แต่น้อยนะ ?

ผู้ที่พักอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นบุรุษ ทุกคนล้วนแต่เป็นบุรุษหน้าตาหล่อเหลาอย่างท่านชายเย่ แต่วันนี้กลับมีสตรีเพิ่มมาอีกคน

อีกทั้งยังออกมาจากในห้องในยามเช้าตรู่เช่นนี้

เช่นนี้เมื่อคืนนี้…..

นางค้างคืนอยู่ที่นี่งั้นหรือ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของซิ่วซิ่วก็เปลี่ยนไป มือเกร็งแน่น จนเกือบจะทำขนมในมือตกลงไปแล้ว

แล้วนางก็ตะโกนออกมา

” หญิงโสเภณีจากไหนกัน ที่นี่ล้วนมีแต่บุรุษอาศัยอยู่ เหตุใดถึงมาทำสิ่งใดที่นี่โดยไม่รู้จักอาย ? ”

ได้ยินเช่นนี้ ! หลานเยาเยาก็เลิกคิ้ว พลางมองซิ่วซิ่วขึ้นลงๆอยู่หลายครั้ง

เหอะ!

ดูไม่ออกสินะ!

ไม่เพียงแต่ชอบยั่วยวนแล้ว ยังสามารถทำเรื่องผิดให้เป็นถูกทำถูกเป็นผิดได้ อะไรที่เป็นเรื่องสกปรกๆก็โยนให้ผู้อื่นเสียหมด

นางไม่อยากไปสนใจสุนัขที่เห่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้หรอก นางจึงหันไปยังห้องที่หานแสพักอยู่ แต่ประตูหน้าต่างกลับปิดสนิท ดูท่าแล้วคงจะไม่อยู่ข้างใน ราวกับว่าหลังเมื่อคืนนี้หลังจากออกไปก็ยังไม่ได้กลับมาเสียอย่างนั้น ดังนั้นนางจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องรออีกต่อไป

ดังนั้น นางจึงเริ่มเดินทางไปยังทางหุบเขาจิ้นทันที

แล้วคนที่ถูกเพิกเฉยในใจก็รู้สึกโมโหขึ้นมา จึงรีบเดินเข้าไปขวางทางหลานเยาเยาเอาไว้

” นี่ ข้าถามเจ้าอยู่นะ ผู้หญิงชั้นต่ำ เจ้ากล้าไม่ตอบข้างั้นหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”

หลานเยาเยามองไปที่นางพลางยิ้มออกมาอย่างเฉยชา

“โดยปกติแล้วผู้ใดที่ว่าผู้อื่นต่ำช้าคนผู้นั้นมักจะต่ำช้ายิ่งกว่า นี่บ้านเจ้าไม่ได้สอนคำพูดเหล่านี้ให้กับเจ้าหรอกหรือ? ”

คำพูดนั้นช่างมีความหมายลึกล้ำยิ่งนัก ทำให้บางคนก็ฟังไม่เข้าใจเช่นเดียวกับซิ่วซิ่ว

นางไม่ได้สนใจสิ่งที่หลานเยาเยาพูดเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่นางสนใจก็คือใบหน้าของหลานเยาเยา และเมื่อคืนนี้นางไปค้างคืนกับใครมา

“เจ้านั่นแหละที่ต่ำช้าที่สุด! พ่อของข้าเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของชนเผ่าและอีกไม่นานเขาก็จะได้ขึ้นตำแหน่งประมุขเผ่า เจ้ากล้ามีเรื่องกับข้า ข้าสามารถทำให้เจ้าตายทั้งเป็นได้ คนชั้นต่ำ เจ้ารีบพูดมาซะ เมื่อคืนนี้เจ้าไปค้างอยู่ห้องของผู้ใด? หากเจ้าไม่บอกมา ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ”

ซิ่วซิ่วเคยเรียนวิชากังฟูมาจากท่านพ่อของนางมาบ้าง

เคยชนะคนที่ไม่มีวิชากังฟูมาเพียงไม่กี่คน ก็คิดว่าตัวเองนั้นเก่งกาจล้นฟ้า

คนที่ถูกตามใจมาแต่เด็กอย่างนาง มีแต่คนตามเอาใจ

มีผู้ใดกันที่กล้ามาพูดกับนางเช่นนี้?

“เจ้าถามแล้วข้าจำเป็นต้องตอบงั้นรึ? เจ้าถือว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

หลานเยาเยาเหลือบไปจ้องนางพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท