หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่230 เจ็บเจียนตาย

บทที่230 เจ็บเจียนตาย

บทที่230 เจ็บเจียนตาย

ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่ลืมเรื่องส่วนผสมยาตัวสุดท้าย

“กลางผืนดอกกระดูกขาวสีแดง มีเพียงดอกสีขาวเพียงดอกเดียว ร้อยปีมันถึงจะขึ้นมาหนึ่งต้น เป็นสิ่งล้ำค่าหายาก แล้วนั่นก็เป็นส่วนผสมของพิษกู่จิ้น”

ไม่ใช่แค่ดอกกระดูกขาวสีขาวดอกเดียวอย่างนั้นเหรอ?

บอกนางไปแล้วจะยังไง?

ก็แค่คนกำลังจะตาย……

ได้ยินดังนั้น!

ตัวของหลานเยาเยาก็สั่นเล็กน้อย นัยน์ตาประกายความเศร้า

ที่แท้ก็เป็นสีขาว

มิน่าหล่ะภาพวาดดอกกระดูกขาวสองหน้าบนหนังสือทำเนียบบรรพชน นางไม่เข้าใจมาตลอดว่ามันหมายความว่าอะไร ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ที่แท้มันก็หมายถึงสีสองสี

เพียงแต่……

ดอกกระดูกขาวสีขาวนั้นมันหายากมาก

อีกทั้งยังเติบโตท่ามกลางหนอนพิษกู่จิ้น ที่เติบโตอยู่ในดอกกระดูกขาวสีแดง

รู้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?

ไม่มีทางที่จะเก็บมาได้อยู่แล้ว!

“ในเมื่อเจ้าเลี้ยงหนอนพิษกู่จิ้นมากขนาดนั้น ก็น่าจะสามารถรู้วิชาการควบคุมพิษกู่สิ! เจ้าอยากจะสร้างกองทัพซอมบี้ที่ควบคุมได้ แล้วกลายเป็นประมุขรวมทั้งโลก?”

เสียงของนางเบาลงทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยคำดูแคลน

เมื่อสิ้นเสียงหลานเยาเยา

ใบหน้าของราชครูใหญ่ก็แปรเปลี่ยนไป

“จะ เจ้าเป็นใครกันแน่? มาจากไหน? ทำไมถึงรู้เรื่องซอมบี้?”

ซอมบี้……

คำพูดที่ไม่ได้ยินมาตั้งนาน จนเขาแทบจะลืมไปแล้ว

ไม่คิดเลยว่าในโลกใบนี้ จะมีใครอีกคนที่พูดคำๆนี้ออกมา

ฮ่าฮ่า!

ไม่ธรรมดาจริงๆ!

“ดูท่าเจ้าเองก็รู้อยู่แล้ว!”

ราชครูใหญ่คนนี้เป็นคนประเภทเดียวกับนาง

นางบอกแล้วยังไงหล่ะ!

พิษกู่จิ้นโหดเหี้ยมแค่ไหน สามารถควบคุมจิตใจคนได้แค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ได้

ที่แท้ก็มีคนพาเชื้อซอมบี้ไปแพร่ที่แผ่นดินใหญ่นี่เอง

พยายามจะควบคุมโลก!

หลานเยาเยายกริมฝีปากขึ้นมา ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นเบาๆ:

“การที่มาบนโลกนี้ เดิมทีก็เป็นโอกาสแต่ไม่ยอมใช้ชีวิตให้มันดีๆ เจ้ากลับทำให้บรรยากาศของที่นี่เลวร้าย ระวัง ทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น”

ในเมื่อได้รู้แล้วว่าเขาคือใคร

แล้วก็รู้แล้วด้วยว่ายังไงเสียราชครูใหญ่ก็ไม่มีทางปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ แต่นางก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งรอความตายเฉยๆ

ก็ไม่รู้ว่าประโยคไหนดันไปยั่วยุราชครูใหญ่ ถึงทำให้ราชครูใหญ่กำหมัดแน่น ใบหน้าเคร่งขรึม

“แม่สาวน้อย เจ้ายังรู้น้อยนัก ก็กล้ามาพูดโอ้อวดเช่นนี้ ท่าจะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง”

จากนั้น เสียงเขาก็เปลี่ยน “ช่างเถอะ มีชีวิตมาตั้งหลายปีข้าได้มาเจอคนบ้านเดียวกัน ชีวิตนี้ก็ไม่เสียเปล่าแล้วหล่ะ ข้าจะให้มารยาทในการพบกันต่อเจ้าแล้วกัน เพราะเจ้าจะได้ไปเพลิดเพลินในนรกได้”

ทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น?

เหอะ!

เขาเคยทุ่มเทกับราชวงศ์เก่ามาตลอดหลายปี ให้ทั้งชีวิต แต่ท้ายที่สุด เขาก็ยังเป็นได้แค่ราชครูใหญ่

มันด้วยเหตุผลอะไรกัน?

เขาไม่สามารถได้ค่าตอบแทนในสิ่งที่เขาควรที่จะได้?

ทำไมเย่นเฉิงเสี้ยนที่ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าเขา แต่กลับได้อยู่ในตำแหน่งเฉิงเสี้ยง?

ดังนั้น!

จะอยากรับใช้ราชวงศ์เก่าไปทำไม? สู้ทำลายไปเสียดีกว่า โลกทั้งโลกก็จะได้อยู่ในอำนาจของเขา

พูดจบ ราชครูใหญ่ก็หันหน้าไปมองเย่แจ๋หยิ่งที่ยังคงเย็นชา

“อ๋องเย่ เรื่องที่แม่สาวน้อยคนนี้รู้นั้นมากกว่าท่านเยอะ ท่านคงไม่อาลัยอาวรณ์หรอกจริงมั้ย?

ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย

แต่ว่า!

เขามองออกว่าหลานเยาเยานั้นมีความผูกพันกับอ๋องเย่ ถ้าอย่างนั้นก็ให้อ๋องเย่ฆ่านางด้วยมือของตัวเองดีกว่า

แบบนี้ถึงจะเป็นมารยาทในการพบกันที่ดีที่สุด

“แน่นอน!”

เสียงของเย่แจ๋หยิ่งเย็นชามาก สายตาที่เขามองไปยังหลานเยาเยาอย่างไร้ซึ่งความรู้สึก

“งั้นก็ดี ลงมือด้วยตัวเองซะเถอะ! ให้ข้าผู้เป็นครูได้เห็นว่า ไม่เจอกันมาหลายปี เจ้าได้เติบโตบ้างหรือไม่?

“ครับ!อาจารย์”

คำว่าอาจารย์นั้น ได้พังทลายท่าทางที่แสร้งทำเป็นนิ่งสงบของหลานเยาเยาไปจนหมด

เดิมคิดว่าเย่แจ๋หยิ่งมองนางเป็นเพียงคนแปลกหน้านั้นมันเป็นเหตุจำเป็นต้องจำใจ

นางถึงขนาดรู้สึกว่า ด้วยความฉลาดของเขานั้นควรที่จะรับรู้ถึงแผนร้ายของราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่า ดังนั้นนางจึงเลือกกล้ำกลืนความอัปยศอดสู

ตอนนี้ดูท่านางจะคิดผิด

ทั้งยังผิดมากๆเสียด้วย!

เย่แจ๋หยิ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาโดยตลอด หลอกใช้นางมาโดยตลอด บางทีเขาอาจจะรู้ด้วยว่านางกับราชครูใหญ่มาจากโลกเดียวกัน

ดังนั้น!

เขาจึงค่อยๆหลอกนางมาจนถึงเวลานี้

เหตุเพราะอยากเห็นพวกเขาเข่นฆ่ากันเอง ทั้งยังได้มารู้จักคนบ้านเดียวกัน

แล้วความรู้สึกที่เขาแสดงออกมาแต่ก่อนนั้น……

มันมีความจริงสักเท่าไหร่กัน?

และส่วนไหนที่แสร้งบ้าง?

นางมองเย่แจ๋หยิ่งที่ค่อยๆก้าวมาทางนางทีละก้าวๆ ทุกๆก้าวนำพามาถึงการตัดเยื่อใยและความอาฆาต ทุกๆก้าวนั้นค่อยๆทำลายความหวังสุดท้ายเพียงน้อยนิดของนางไป

“เย่แจ๋หยิ่ง นี่เจ้าต้องการจะฆ่าข้าด้วยตนเองจริงๆอย่างนั้นเหรอ?”

ประโยคนี้ หลานเยาเยาไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกมา

ตายหน่ะได้ แต่ทำไมต้องให้เขาลงมือฆ่าเองด้วย?

ในสุดท้าย!

สมองของนางว่างเปล่า หัวใจถูกมือใหญ่ทั้งสองข้างคว้าเอาไว้

นั่นทำให้นางแทบจะหายใจไม่ออก

ตายหน่ะไม่ได้กลัวหรอก แต่สิ่งที่กลัวก็คือต้องมาเห็นชายที่ตนเองรัก มาฆ่าตนเองกับตา

มันน่าเศร้ามากจริงๆ!

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ตอบ แต่ก็ไม่หยุดฝีเท้า ทันทีที่มาถึงตรงหน้าของนาง ก็ใช้มือบีบคอนางอย่างเลือดเย็น อีกทั้งยังกดจุดที่ทำให้นางไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้

นั่นทำให้นางขยับตัวไม่ได้

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะสงสัย

ในใจของนางเกิดความสิ้นหวังที่ไม่เคยมีมาก่อน……

นางไม่ใช่คนที่มานั่งรอความตาย

นางมีท่าไม้ตาย……

แต่ตอนนี้นางก็ดันขยับร่างกายไม่ได้ คิดอยากจะหยิบระเบิดยาพิษมาใช้ แต่นางก็ตอบโต้อะไรไม่ได้

คิดไม่ถึงว่า……

เขาจะรู้ถึงความคิดของนาง

ดังนั้นจึงกดจุดของนางเอาไว้ก่อน

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง!

น้ำเสียงเยือกเย็นของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้นข้างหู: “เจ้ารู้มากเกินไปแล้ว”

มือที่จับที่คอของหลานเยาเยา มันทั้งแข็งแกร่งรุนแรง และก็ค่อยๆแน่นขึ้นแน่นขึ้น หลานเยาเยาที่ถูกจับไว้จนหมดทางพูดนั้น ใบหน้าของนางจากแดงๆ ก็ค่อยๆกลายเป็นซีดขาว……

จื่อซีนั่งคุกเข่าช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้า เจ้านายของเขา ดูเหมือนจะกลับไปเป็นแบบเดิม เหมือนก่อนที่จะได้พบกับพระชายา

เขาจะทำยังไงดี?

ฝั่งหนึ่งก็เป็นเจ้านายที่เขาไม่อาจจะทรยศได้ตลอดชีวิต……

อีกฝ่ายก็เป็นพระชายาที่เจ้านายให้เขาปกป้องด้วยชีวิต……

ตอนนี้ทั้งสองมาเผชิญหน้ากันแบบนี้ เขาควรที่จะเลือกยังไงดี?

จู่ๆนั่นเอง!

“ชิ้ง………”

ข้างหูก็มีเสียงชักดาบขึ้นมา

นัยน์ตาของจื่อซีฉายเงาคนขึ้นมาคนนึง ซึ่งก็คือเห็นจื่อเฟิงแทงดาบตรงไปยังเจ้านาย

น่าเสียดายที่เจ้านายดูเหมือนจะรู้ว่าจื่อเฟิงจะทำอะไร เขาจึงลงมือจัดการตีจื่อเฟิงตกลงหน้าผาไป

มองเห็นถึงตรงนี้

จื่อซีก็ตกตะลึง

จากนั้นจึงลุกขึ้นชักดาบ ก่อนจะแทงตรงไปยังเย่แจ๋หยิ่งก็โรยผงยาไว้

เย่แจ๋หยิ่งต้องปล่อยมือจากหลานเยาเยาด้วยความจำใจ จากนั้นก็จัดการจื่อซีจนกระอักเลือด ก่อนจะโยนตกลงไปที่หน้าผา

“แค่กแค่กแค่ก……”

หลานเยาเยาต้องหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป แต่ด้วยเพราะยังขยับไม่ได้ จึงทำได้เพียงมองจื่อซีและจื่อเฟิงถูกโยนตกหน้าผาไป

ส่วนเย่แจ๋หยิ่งไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลยสักนิด

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้ามันโหดร้าย พวกเขาซื่อสัตย์ต่อเจ้ามาก ทำตามคำสั่งอย่างไม่บกพร่อง เจ้ายังทำได้ลง”

เสียงของหลานเยาเยาเกือบจะเป็นคำราม

ดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นอกจากร่างคนแล้ว ที่เหลืออยู่ก็คือเย่แจ๋หยิ่งที่นางไม่รู้จักเลย นางอยากที่จะควักหัวใจเขาออกมาดูจริงๆว่ามันจะดำขนาดไหน

“คนทรยศต้องตาย!”

เสียงน่าดึงดูด พูดสี่คำออกมาอย่างเย็นชา

เมื่อฟังประโยคนี้ จู่ๆหลานเยาเยาก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่าฮ่าฮ่า……”

“คนทรยศต้องตายอย่างนั้นเหรอ? มันน่าขำชะมัด ทรยศ? พวกเขาไปทรยศเจ้าตอนไหน? คนพวกนี้เป็นคนที่เจ้าส่งมา เป็นคนที่จะเจ้าส่งมาเพื่อปกป้อง……”

ยังพูดไม่ทันจบ

หลานเยาเยาขมวดคิ้ว สีหน้าเจ็บปวด มองดูดาบที่แทงเข้ามาที่ท้อง……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท