หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 236 ไม่กินองุ่นก็เป็นความผิด

บทที่ 236 ไม่กินองุ่นก็เป็นความผิด

บทที่ 236 ไม่กินองุ่นก็เป็นความผิด

ยามพระอาทิตย์ตกดิน โรงเตี๊ยมหยิงไหล

โรงเตี๊ยมหยิงไหลที่อยู่นอกเมือง ข้างๆถนน เป็นโรมเตี๊ยมขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่แห่งหนึ่ง ตกแต่งอย่างธรรมดา แต่การจัดวางห้องด้านใน ไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงเตี๊ยมขนาดกลางในเมืองหลวงเลย

แม้ว่าจะอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ แต่ธุรกิจดีมาก

ลูกค้าเต็มแทบจะทุกวัน

แต่วันนี้กลับไม่มีลูกค้าสักคน

หลานเยาเยารู้ว่า นี่เป็นการจัดเตรียมการเป็นพิเศษของหานแส เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นรับรู้ถึงร่องรอยเบาะแสของนางก่อน

ซึ่งนางพอใจมาก!

อาบน้ำอาบท่าอย่างสบาย คลายความเหนื่อยล้าของสิบกว่าวันที่ผ่านมานี้ออกไป

หลานเยาเยาอยู่ในห้องชั้นดี ปกคลุมด้วยผมที่เปียกปอน มือถือตระกร้าองุ่นไว้ กินอย่างเอร็ดอร่อย บนโต๊ะยังมีของอร่อยอีกมากมายเป็นกอง

นางตอนนี้ก็คือ……กินในถ้วยตามองในหม้อ

แม้นาทีเดียวก็ไม่ได้ละสายตาไปจากอาหารเลิศรสบนโต๊ะไปเลย

ขณะที่กำลังกินเมามัน ก็ได้ยินเสียงดังเอะอะแว่วมาจากด้านนอกของโรงเตี๊ยม

อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ใครกล้ารบกวนตอนนางกำลังกินอาหาร…….

พุ้ย!

เป็นใครกันที่กล้ารบกวนตอนนางกำลังเสพสุขอยู่กับอาหารรสเลิศ? ไม่อยากมีชีวิตหรือไง?

ด้วยเหตุนี้!

นางจัดระเบียบเสื้อผ้า ถือตะกร้าแล้วเดินออกไป

ด้านนอกโรงเตี๊ยมมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ สามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งกำลังคิดจะก้าวเท้าเข้าโรงเตี๊ยม แต่กลับถูกเจ้าของโรงเตี๊ยมปฏิเสธให้ออกไป

แต่พวกเขากลับไม่ยอมจากไป

“เถ้าแก่ ตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดค่ำแล้ว ประตูเมืองก็ปิดแล้ว จะเข้าเมืองก็ไม่ได้แล้ว ภรรยาของข้าตั้งครรภ์อยู่ ไม่สามารถกินกลางดงนอนตากลมกลางป่าได้!

พวกข้ายอมเพิ่มเหรียญเงินให้ เพิ่มกี่เท่าก็ได้ หวังว่าเถ้าแก่ท่านจะเห็นใจสักนิด ให้พวกเราพักสักคืน พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็จะจากไป จะไม่ไปชนเข้ากับลูกค้าคนสำคัญในร้านอย่างแน่นอน”

ชายวัยกลางคนมองภรรยาตัวเองอย่างเอ็นดู คุยกับเถ้าแก่ด้วยความกังวลใจ

แต่ทว่า!

สีหน้าของเถ้าแก่เต็มไปด้วยความลำบากใจ……

เขาอธิบายอย่างใจเย็นด้วยความหวังดี :

“ลูกค้า ขอโทษจริงๆ ที่โรงเตี๊ยมนี้มีลูกค้าพิเศษเหมาไว้แล้วจริงๆ

พวกเรายึดมั่นเรื่องความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน ไม่สามารถให้พวกท่านเข้ามาพักที่นี่ได้จริงๆ มิเช่นนั้นรบกวนลูกค้าพิเศษเข้า โรงเตี๊ยมของพวกเราก็จะกลายเป็นไม่รักษาคำพูดไม่น่าเชื่อถือ

หากว่าลูกค้าคนพิเศษเกิดไม่พอใจขึ้นมา ทำลายโรงเตี๊ยมของพวกเราแล้วจะทำเช่นไรเล่า?”

เถ้าแก่พูดจาเป็นเหตุเป็นผลมาก

แต่ทว่า!

สามีภรรยาคู่นั้นตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ยอมจากไป

ดูท่าแล้วการเพิ่มเหรียญเงินให้เป็นวิธีที่ใช้ไม่ได้ พวกเขาก็หาวิธีอื่นอีก

“เถ้าแก่ เช่นนี้สิ! ห้องเก็บฟืน พวกข้าอยู่ห้องเก็บฟืนได้หรือไม่? ข้าทนเห็นได้ไม่จริงๆ ที่ภรรยาและลูกที่ยังไม่ออกมาดูโลกจะต้องรับกับแรงกระแทกอีก”

“นี่……”

คราวนี้เถ้าแก่เกิดความลังเลแล้ว

พูดตามเหตุผล อยู่ที่ห้องเก็บฟืนน่าจะไม่มีปัญหา

เพียงแต่……

เบื้องบนบอกไว้อย่างชัดเจนแล้ว หลังจากคืนนี้ลูกค้าคนพิเศษเหมาโรงเตี๊ยมแล้ว ก็ห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาอยู่เด็ดขาด

คิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่า เถ้าแก่ก็ยังคงส่ายหัว

แต่!

เหมือนว่าชายวัยกลางคนจะเห็นถึงความลังเลของเถ้าแก่ ก็รีบเอาเหรียญเงินก้อนหนึ่งยัดใส่มือเถ้าแก่

“พวกข้าอยู่แค่ในห้องเก็บฟืน ข้าเพียงแค่อยากให้ภรรยามีที่หลบฝน ขอร้องเถ้าแก่ให้ความสะดวกด้วย พวกข้ารับรองว่าจะไม่ว่าเพ่นพ่าน ไม่เช่นนั้นลูกค้าคนพิเศษจะเห็นเอา”

“ไม่ได้ไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ”

ครั้งนี้แม้ว่าเถ้าแก่จะบอกว่าไม่ได้ แต่มือได้รับก้อนเหรียญเงินนั้นมาแล้ว

ด้วยเหตุนี้!

ชายวัยกลางคนก็เข้าใจได้ทันที ก็ยัดเหรียญเงินอีกหนึ่งก้อนให้ เถ้าแก่จึงได้โล่งใจ

“งั้น……ได้ได้ได้ พวกท่านอยู่ห้องเก็บฟืน จำไว้ว่าหลังจากที่เข้าไปแล้วก็ห้ามออกมาอีก เพื่อเลี่ยงการรบกวนลูกค้าคนพิเศษ”

“แน่นอนแน่นอน ขอบใจเจ้าของเจ้ามาก!”

เถ้าแก่ชั่งน้ำหนักเหรียญเงินด้วยมือเปล่า พูดกับพนักงานด้วยเสียงเบาๆให้นำพวกเขาไปห้องเก็บฟืน ชายวัยกลางคนพยุงภรรยาที่ตั้งท้องของเขาเดินตามหลังพนักงานร้าน

“ช้าก่อน!”

เสียงที่ดังทะลุออกมาจากทางด้านหลัง

ทำให้ฝีเท้าของทุกคนชะงักลง จากนั้นก็หันหลังกลับไปอย่างต่างคนต่างความคิด

จื่อเฟิงที่ยืนอยู่ตรงบันไดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มองดูพวกเขาครู่หนึ่ง

เถ้าแก่ที่ยังไม่ทันได้เดินจากไปก็เริ่มรู้สึกใจสั่น รีบยิ้มรับ

“นายท่านท่านนี้ พวกเขาทั้งสองคนเป็นญาติที่บ้านข้า เดินทางมาอยู่กับข้า พวกเขานอนแค่เพียงที่ห้องเก็บฟืน ไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณหนูเป็นแน่”

เห็นดังนั้น!

ชายวัยกลางคนก็รีบพูดเสริม :

“ใช่แล้ว! พวกเราจะอยู่ที่ห้องเก็บฟืนคืนหนึ่ง จะไม่รบกวนพวกท่านทุกคนอย่างเด็ดขาด พรุ่งนี้พอตะวันขึ้นก็จะจากไป หวังว่านายท่านท่านนี้จะผ่อนปรนให้……”

“ชิ้ง……”

ชายวัยกลางคนยังไม่ทันจะพูดจบ จื่อเฟิงก็ชักดาบที่เอวออกมา เล็งไปที่ชายวัยกลางคน แล้วพูดเพียงสองคำ

“ออกไป!”

บรรยากาศเริ่มเย็นยะเยือก

เถ้าแก่ไม่กล้าหายใจแรงออกมา และก็ไม่กล้าที่จะพูดช่วยสามีภรรยาวัยกลางคนอีก เพียงแค่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่เกรงกลัว

ไม่มีวิธีอื่น ชายวัยกลางคนจึงทำได้เพียงพาภรรยาของตัวเองจากไป

ออกไปจากประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยม ก็รีบขึ้นรถม้า

ในรถม้า ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าเป็นภรรยาของชายวัยกลางคน เอามือล้วงเข้าไปในเสื้อคลุม จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งออกมา เห็นได้ชัดว่าท้องได้หายไปทันที

“เข้าไปในโรงเตี๊ยมไม่ได้ พวกเราจะลงมือได้เช่นไร?”

“ออกไปจากโรงเตี๊ยมก่อน ให้ค่ำกว่านี้ค่อยบุกเข้าไปฆ่า”

รถม้าที่หยุดอยู่ด้านนอกโรงเตี๊ยม จากไปอย่างรวดเร็ว หลานเยาเยาที่อยู่ด้านข้างระเบียง กินของไปด้วย แล้วก็มองดูส่งพวกเขาจากไปด้วยสายตา

เวลานี้!

จื่อซีเดินเข้ามา

“คุณหนู ได้จัดการกลอุบายบนรถม้าของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว คืนนี้สามารถนอนอย่างสงบสุขได้แล้วขอรับ”

หลานเยาเยาพยักหน้า มุมปากยกขึ้น

จากนั้นก็เอาตะกร้าส่งไปด้านหน้าของเขา : “ลำบากแล้ว มา มอบรางวัลเป็นองุ่นให้เจ้าเม็ดหนึ่ง”

นางเลือกในตะกร้าเลือกไปเลือกมา สุดท้ายนางก็เลือกองุ่นเม็ดที่นางคิดว่าน่าจะอร่อยที่สุดเม็ดหนึ่ง ยื่นให้จื่อซี

จื่อซีรีบโบกมือ

“ไม่ต้องขอรับคุณหนู นี่คือสิ่งที่ข้าน้อยควรทำ” อย่าคิดว่าเขาจะไม่เห็น หลานเยาเยาเลือกไปเลือกมา เลือกองุ่นเม็ดที่เล็กที่สุด

เฮ้อ!

คุณหนูของพวกเขาท่านนี้ช่างแปลกประหลาดแท้ๆ

บางครั้งก็งกแทบตาย บางครั้งก็ใจกว้างทำให้คนตะลึงจนขากรรไกรหลุด

ก็เหมือนคราวนี้ องุ่นเม็ดนี้ในวันนี้

หากว่าเขากินแล้ว เวลาจ่ายเงินเดือน จะต้องชดใช้ด้วยไก่ย่างตัวหนึ่ง

แต่ว่า!

ตอนนี้หากเขากินอาหารอันโอชะที่โรงเตี๊ยม เพียงแค่คุณหนูไม่เห็นเข้า เวลาจะจ่ายเหรียญเงิน นางก็จะไม่กะพริบตาแม้สักนิด

แต่หากว่ากินของดีๆต่อหน้านาง นางจะต้องเจ็บปวดรวดร้าวกล่าวว่าเขาเป็นพวกผู้หญิงใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเป็นแน่

“เจ้าไม่กินจริงๆหรือ?”

หลานเยาเยาไม่เข้าใจ

องุ่นอร่อยขนาดนี้ นางตัดใจแบ่งให้ เขากลับไม่เอา

เข้าใจยากจริงๆเลย!

เห้อ ถึงเวลาจ่ายเงินเดือนอดไก่ย่างไปอีกตัวแล้ว!

“ไม่กินขอรับ” ตีให้ตายก็ไม่กิน

กลัวว่าหลานเยาเยาจะบังคับยัดเยียดให้เขา จื่อซีจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“คุณหนู ท่านรู้ได้เช่นไรว่าสองคนเมื่อครู่นั้นมีปัญหา?”

“ลิขิตสวรรค์ไม่อาจเปิดเผย ไม่กินองุ่นนั้นเป็นความผิด”

“……”

จบกัน ความสนใจของหลานเยาเยากลับมาอยู่ที่องุ่นแล้ว เขาจะเป็นต้องหนีออกไปจึงจะเป็นการดี เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งเงินเดือนเพียงเล็กน้อย

“คุณหนู ข้าจำได้ว่ายังมีเรื่องที่ยังสะสางไม่เสร็จ ข้าน้อยจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้”

“ไปเถอะไปเถอะ!”

เฮ้อ! ยิ่งฉลาดหลักแหลมขึ้นเรื่อยๆแล้ว

รู้ตัวดี หมดหวังที่จะหลอกล่อจื่อซีต่อไปแล้ว หลานเยาเยาจึงได้โบกมือให้เขาเดินจากไป

จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปยังที่ที่รถม้าหายไป ในดวงตาฉายแววชาเย็นชาออกมาแวบหนึ่ง

สามีไม่เหมือนสามี คนท้องไม่เหมือนคนท้อง

ยังจะบังคับให้คนสองคนที่ไม่เข้ากันให้อยู่ด้วยกันอีก แม้ว่าจะทำตัวสนิทชิดเชื้อกัน มีท่าทีที่ดูเหมือนเป็นสามีภรรยากันขนาดนั้น

แต่ว่า……

พวกเขากลับลืมไปจุดหนึ่ง

นั่นก็คือ–สายตา!

ไม่ได้แสดงถึงความรักความผูกพันแม้สักนิด และยังจะมองสังเกตไปรอบกึ่งๆตั้งใจ นางก็ฟันธงได้ พวกเขาไม่ใช่นักฆ่าก็เป็นสายสืบ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท