หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 249 จะปิดอะไรกัน?

บทที่ 249 จะปิดอะไรกัน?

บทที่ 249 จะปิดอะไรกัน?

เมื่อคำนั้นโพล่งออกมา โม่เหลียงเฉินก็ขาอ่อนหยวบจนเกือบจะล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นเขาก็เดินโซซัดโซเซไปตามลม เดินไปได้ไกลหน่อย ก็รีบเหาะตัวขึ้น เหมือนว่าหากเดินช้ากว่านี้ก็คงจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว

“อ่าห้ะ!”

หลานเยาเยารู้ทันโม่เหลียงเฉินที่ได้เหาะออกไป

แค่เดินก็ยังจะไม่ไหว!

โม่เหลียงเฉินผู้ปราดเปรื่องคนนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาซะเลย จะหาคนทั้งทีก็หาได้ถูกคนเหลือเกิน

แต่เป็นมันเป็นการรวบรวมข้อมูลนี่!

ใยเขาถึงได้ละเลยหน้าที่เช่นนี้?

โชคดีที่หลานเยาเยาไม่รู้ว่าโม่เหลียงเฉินมาเพื่อโปรยเสน่ห์ชายหนุ่ม มิเช่นนั้นจะต้องไล่ตีเขาสักยกเป็นแน่

นางเหม่อบนต้นไม้อยู่พักใหญ่ โดยแทะเมล็ดแตงโม กินผลไม้ แทะตีนเป็ด เติมเต็มช่องท้องจนอิ่มพลี

ตามองดูท้องฟ้าที่กำลังมืดลง

หลานเยาเยาใช้น้ำปรโลกล้างมืออย่างฟุ่มเฟือย

จากนั้นก็เดินไปทางด้านหน้าอย่างสบายอกสบายใจ ขณะที่นางเดินไป ก็พยักหน้าชื่นชมมาตลอดทาง

ก่อนที่จะสังเกตเห็น

ในขณะที่เดินชมอยู่นี้ จู่ๆก็นึกขึ้นได้ ว่าลานแห่งนี้ใหญ่พอๆกับจวนอ๋องเย่

อีกทั้งบริเวณรอบๆก็ยังยอดเยี่ยม

มีทั้งทะเลสาบเทียม ป่าไม้ผลพันธุ์เล็ก สวนไม้ดอก ตลอดจนอ่างน้ำพุ และทุกๆอย่างที่ต้องการ

ยอดเยี่ยมๆ

ด้วยความที่คนของฮ่องเต้ไม่เหมือนกัน มีมุมมองที่แตกต่างกัน

ในช่วงที่เพิ่งมาถึงลานด้านหน้า ลานด้านหน้าก็ถูกเก็บกวาดอย่างสะอาดสะอ้าน ดอกไม้ใบหญ้าบางส่วนที่ต้องตัดแต่ง ก็ถูกตัดแต่งเป็นระเบียบเรียบร้อย

องครักษ์ที่ถูกส่งมาช่วยก็ยังคงวุ่นวะวุ่นวาย

ส่วนจื่อซีและจื่อเฟิงที่อยู่กับนางมานานแล้ว ก็จะรู้งาน เมื่อพวกเขามาถึงจึงไปจัดการห้องหนังสือและห้องนอนก่อน ตามด้วยห้องครัว สถานที่เหล่านี้พวกเขาจะเป็นคนจัดการเอง

ส่วนสถานที่อื่นๆพวกเขาไม่จำเป็นต้องจัดการสิ่งใด เพราะได้ให้รัชทายาทนำคนมาช่วยจัดการแล้ว

แต่ว่า……

หลานเยาเยาที่ได้เดินไปเดินมา มิแม้แต่จะพบเงาของเย่หลีเฉิน ในแววตาจึงเกิดความสงสัย

ไปไหนแล้วล่ะ?

คงไม่ใช่ว่าลำบากไม่เป็นก็เลยหนีไปหรอกกระมัง?

เห้อ! หนีไปแล้วก็ช่างประไร!

จะอย่างไรนางก็ไม่ได้ลำบาก ถึงฮ่องเต้จะไม่ส่งเย่หลีเฉินมาช่วย นางก็หาทางให้คนมาช่วยได้อยู่ดี

อีกทั้งยังฟรีทุกอย่างอีกด้วย!

หลังจากนั้น นางก็เดินเชยชมที่ต่างๆด้วยความอิ่มเอมเป็นอย่างมาก

แต่แล้ว!

“กรอบแกรบ……”

มีคน……

ณ หน้าห้องที่ถูกปิดสนิท หลานเยาเยาหยุดก้าวเดิน จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปตรงประตู อดไม่ได้ที่จะหรี่ตามอง

มีคนอยู่ข้างใน!

ที่ตรงนี้ค่อนข้างไกลจากลานด้านหน้า เหล่าองครักษ์ก็ยังไม่ได้มาปัดกวาดที่แห่งนี้ รอบๆก็ไม่มีคน

หรือว่าจะมีคนมาสืบความลับของนางอีกแล้ว?

หึ!

นางถอยหลังอย่างรวดเร็ว คราวนี้นางจะดูสักหน่อยว่าคนที่มามันเป็นผู้ใด

เช่นนั้น นางจึงตั้งใจจะทำเสียงดัง แล้วฉวยโอกาสในตอนที่เขาไม่ทันระวังตัว เสียง“ปัง” ดังขึ้น ในขณะที่ถีบประตูให้เปิดออก

ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นสุดเกินจะบรรยาย……

เรือนร่างแน่นกระชับ ของชายร่างสูงที่ไร้เสื้อผ้า กำลังยืนเปลือยกายอยู่ตรงนั้น ซึ่งดูเหมือนกำลังจะยกถังน้ำอุ่นเทลงบนร่างกายของเขา……

และคนคนนั้นก็มิใช่ใครอื่น เป็นเย่หลีเฉินที่หลานเยาเยาคิดว่าหนีไปแล้ว

เอ่อ……

โชคดีไปที่ไม่ใช่ใครอื่น!

เย่หลีเฉินที่อยู่ในห้องตกใจเพราะเสียงประตูที่จู่ๆก็ถูกถีบออก จึงรีบมองไปตรงประตูในทันใด ก็ได้เห็นเทพธิดาผู้งดงามน่าหลงใหลยืนอยู่ตรงประตู ด้วยมุมปากที่เผยอ

เขารีบปิดร่างกายส่วนร่างตามสัญชาตญาณในทันที

“อุจาดตาเสียนี่กระไร!”

หลังจากหลานเยาเยาพูดคำนี้ออกมาอย่างเรียบนิ่ง ก็หันหลัง

และจากไปด้วยท่าทีอันโอหัง

ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้เห็นสิ่งใดเลย

ทำเอาเย่หลีเฉินที่อยู่ในห้องรู้สึกอึดอัดจับใจ

ไม่ต้องพูดถึงการที่เขาเป็นถึงรัชทายาทผู้สง่างามของประเทศ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาของเขา ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนได้เห็นเป็นต้องหน้าแดงใจเต้นรัวมิใช่รึ?

แต่เทพธิดา……

กลับเมินเฉยทันควัน

เป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา หรือว่านางจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกกันนะ?

เย่หลีเฉินเหลือบมองที่ที่เขาปิดไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนออกมา

จะปิดอะไร?

เทพธิดานางอยากเห็นเสียที่ไหนกัน

……

ถึงเวลาทานอาหารเย็น หลานเยาเยาก็มีเจตนาอันดีแยกอาหารมื้อค่ำไว้ให้เย่หลีเฉิน

เย่หลีเฉินเห็นใบหน้าที่นิ่งสงบของเทพธิดา ดูไม่ใส่ใจสิ่งใด จะเคอะเขินสักหน่อยก็ไม่มี

ราวกับว่าคนที่เห็นเขาอาบน้ำนั้นไม่ใช่นางซะอย่างงั้น

เย่หลีเฉินคิดๆดู เทพธิดานางก็เป็นเพียงหญิงสาว นางยังไม่รู้สึกเคอะเขินแต่อย่างใด เช่นนั้นเขาจะเคอะเขินไปใย?

“อะแฮ่มๆ”

เขาไอเล็กน้อย กำลังจะไปนั่ง แต่ก่อนที่จะนั่งลง ก็ถูกขันทีที่อยู่ในวังเชิญตัวไป

เมื่อเย่หลีเฉินออกไป!

จื่อเฟิงก็ก้าวมาด้านหน้า: “คุณหนู พร้อมแล้วขอรับ”

“อื้อ!” หลานเยาเยามองไปบนท้องฟ้า พลางพูดเรียบๆว่า: “จื่อซี ร่างของเย่หลีเฉินนั้นโดนของแล้วใช่หรือไม่?”

“ขอรับ คุณหนู ตามคำสั่งของท่าน จื่อซีได้นำขี้ฝุ่นไปโปรยใส่ร่างของรัชทายาท จากนั้นก็ใส่ผงที่ไร้กลิ่นไร้สีใส่ลงในน้ำที่เขาใช้อาบ”

แม้จื่อเฟิงจะไม่รู้ว่าคุณหนูจะทำการใด

แต่ทุกๆเรื่องที่คุณหนูให้พวกเขาทำมักมีจุดประสงค์อยู่เสมอ

“ดี เดี๋ยวค่ำหน่อย พวกเจ้าก็ไปจัดการพวกสอดแนมนอกจวนได้ตามสบาย”

จัดการได้ตามสบายในที่นี้คือ อยากฆ่าก็ฆ่า อยากจะรีดถามก็ทำ

ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพวกเขาแล้ว

ในเมื่อส่งคนมาสอดแนมเยอะปานนั้น ถึงจะฆ่าพวกสอดแนมทิ้งไปก็ไม่เห็นเป็นไร ใครเป็นคนสั่งให้มาสอดแนมแจ่มแจ้งขนาดนี้กันล่ะ!

และหลังจากวันนี้ไป

คนทั้งเมืองหลวง ก็จะได้รู้ว่านางเป็นเทพธิดาที่บ้าคลั่งและก้าวร้าวเป็นอย่างมาก

ใช่!

นางบ้าคลั่ง

เพราะนางบ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“ขอรับ”

ท้องฟ้าอันมืดมิด

หลานเยาเยาเปลี่ยนเป็นชุดคลุมรัตติกาล จื่อซีที่พร้อมลุยก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีอันเป็นกังวล

“คุณหนู ท่านจะไปคนเดียวจริงๆหรือขอรับ?”

พระราชวังมีการคุ้มกันที่แน่นหนา หาได้มีเพียงองครักษ์ที่ถูกฝึกมาเพื่อคุ้มกันไม่ ทั้งยังมีนักฆ่ามือฉมังของฮ่องเต้ที่ซ่อนตัวอยู่ มันอันตรายมากๆ

เขารู้สึกไม่วางใจ!

หากคุณหนูถูกพบเข้า ความพยายามก่อนหน้านี้ของคุณหนูก็จะสูญเปล่า

“วางใจเถอะ! มันใช่ครั้งแรกซะที่ไหนกัน ข้าจัดการเองได้ ยิ่งคนเยอะก็จะยิ่งตกเป็นเป้า เอาผีเสื้อพระมหากษัตริมาให้ข้ามา!”

ผีเสื้อพระมหากษัตริเป็นผีเสื้อที่แสนงดงามชนิดหนึ่ง

สามารถรับรู้กลิ่นได้ไกลเป็นพันไมล์ เป็นเหตุที่เมื่อกลางวัน ให้จื่อซีป้ายยาใส่เย่หลีเฉิน ร่างของเย่หลีเฉินก็จะตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นที่ผีเสื้อพระมหากษัตริชอบ ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายในการติดตาม

จื่อซีก็ไม่ได้ยืดยาดแต่อย่างใด

หลังจากเอาขวดระบายอากาศที่มีผีเสื้อพระมหากษัตริให้นาง เขากับจื่อเฟิงก็ออกไปกันก่อน จัดการพวกสอดแนมที่ด้านนอกจวน

หลานเยาเยาเฝ้ารอในห้องอยู่หนึ่งชั่วยาม

เมื่อได้เวลาอันสมควร ก็ออกมาจากห้อง แล้วไปยังลานด้านหลัง

หลังจากข้ามกำแพงมา ก็พบว่าพวกสอดแนมหายไปหมดแล้ว จึงได้ซ่อนตัวอยู่ในความมืด

หลานเยาเยาในชุดคลุมรัตติกาล ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เคลื่อนไหวด้วยเรือนร่างอันแข็งแกร่งอย่างอิสระ

ในไม่ช้า ก็มาถึงพระราชวัง

เหตุที่วันนี้ได้ค้นพบตราหยกแห่งราชวงศ์เก่า เช่นนั้นองครักษ์ที่ประตูวังจึงเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว

ดังนั้น นางจึงจะไม่เข้าไปทางประตูวัง

แต่จะข้ามกำแพงวังที่สูงตระหง่านเข้าไปแทน

เช่นนั้น!

หลานเยาเยาจึงเหลือบมองบนข้อมือ ซึ่งมีกำไลข้อมือกลไกที่ตาแก่ทำขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือไปทางด้านบนสุดของกำแพงวัง พลางกดลงไปอย่างเบามือ เส้นด้ายสีเงินที่เรียวยาวยิงไปตรงกำแพงวังในทันที ที่ยิ่งไปกว่านั้นมันยังยึดติดกับผนังได้อย่างหนาแน่น

จากนั้นนางก็กดเบาๆอีกครั้ง

ถึงแม้จะไม่มีวิชาตัวเบา นางก็สามารถไต่ขึ้นมาบนกำแพงวังได้อย่างง่ายดาย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท