หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 262 แอบกินหน่ะอร่อยไหม?

บทที่ 262 แอบกินหน่ะอร่อยไหม?

บทที่ 262 แอบกินหน่ะอร่อยไหม?

ทันทีที่หยิบน่องไก่ออกมา นางก็เห็นว่ามีข้าหลวงกำลังเดินมาทางศาลานี้ผ่านผ้าโปร่งแสง

อับจนหนทาง นางจำเป็นต้องหลบอีกจนได้

หากกินบนพื้นไม่ได้ งั้นนางขึ้นไปแอบกินอยู่บนต้นไม้ก็คงจะมิมีผู้ใดเห็นได้แล้วกระมัง?

และแล้ว!

เมื่อนางเหาะขึ้นไปบนต้นไม้ ก็เห็นองครักษ์คุ้มกันยืนซ่อนตัวอยู่ในความมืด

หลานเยาเยาอึดอัดใจ: “ท่านผู้นี้เลือกที่ได้ดีเสียจริง”

เมื่อพูดจบก็หลบหลีกไป

องครักษ์ที่ยืนคุ้มกันอยู่ในความมืด: “……”

เปลี่ยนสถานที่มาแล้วตั้งหลายที่ หลานเยาเยาก็พบปัญหาอย่างหนึ่งว่า วันนี้ไม่เหมาะแก่การกิน

ไม่หน่า เดินมาไกลโขแล้วนะ ในทันทีที่หลบเข้ามาในพงหญ้า ก็เห็นชายชั่วช้าสามานย์กว่า 20 คนกำลังเปลี่ยนชุดรัตติกาลกันอยู่ตรงนั้น

ซวยขนาดนี้คงเป็นใครไปไม่ได้อีกแล้ว!

พวกเขาหันมองตากันปริบๆ เดาว่าคงจะรู้จักนาง ถึงได้มิมีใครทำสิ่งใด

“พวกเจ้าเปลี่ยนอยู่ ก็เปลี่ยนกันต่อไป ทำเหมือนว่าข้าไม่เคยผ่านมาก็แล้วกัน”

หลานเยาเยาหมดอาลัยตายอยาก

หลังจากหลบออกมา นางก็นึกถึงแต่น่องไก่ในระบบ ที่เหมือนจะยังไม่ได้กัดเลยสักคำ หัวใจของนางก็เจ็บเหมือนโดนแมวข่วนยังไงยังงั้น อึดอัดไปหมดเลย

หรือว่าต้องไปหลบในกระถ่อมถึงจะได้กิน?

ทางออกนี้มันก็ดี เพียงแต่กลัวว่าจะกลืนไม่ลงนี่สิ!

แล้วจะแอบไปกินที่ไหนดี ถึงจะกินอิ่มหนำได้แบบที่ไม่ต้องมาห่วงภาพลักษณ์?

ในขณะที่คิดอยู่นั้น……

หางตาของนางก็เหลือบไปเห็นบ้านสูงสามชั้นหลังหนึ่ง

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่สูงที่สุดในสนามม้า เป็นที่สำหรับคนในราชวงศ์มาพักผ่อน

เพลานี้……

หลานเยาเยาก็ตาเป็นประกายแวววาว

ในเมื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในราชวงศ์ เช่นนั้นคนทั่วไปก็ไม่มีทางเข้าไปได้ เพลานี้ฮ่องเต้กับไทเฮาก็อยู่ที่งาน การแข่งขันล่าสัตว์ก็กำลังจะเริ่มขึ้น ยังไงพวกเขาก็ไม่กลับมาที่นี่แน่ๆ

เช่นนั้น กินอาหารที่นี่ก็ปลอดภัยที่สุดแล้ว

ดังนั้น นางจึงแอบเข้าไปที่นั่นในทันที หลีกเลี่ยงองครักษ์ที่ราดตระเวนและที่เฝ้าอยู่ตรงประตู โดยเหาะขึ้นไปที่ชั้นสามโดยตรง

เข้ามาด้านในของห้องท้ายสุด

ในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นของจันทน์หอมที่โชยฟุ้งเตะจมูก ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลายอิ่มเอมใจ

มองดูการตกแต่งภายในห้อง ก็ดูจะเป็นทำนองเดียวกับไทเฮา

“ฟู่ว……”

“ในที่สุดก็ได้แก้กระหายสักที”

หลานเยาเยาหยิบน่องไก่ออกมาก็กัดทันใด ในที่สุดก็ได้แก้ความกระหายอย่างเอร็ดอร่อย นางเคี้ยวมันอย่างพิถีพิถัน ค่อยๆลิ้มรสชาติมันไป

เมื่อนึกถึงช่วงก่อนหน้านี้ที่นางนั่งอยู่บนที่นั่ง สายตาอันดุดันนั้นที่จ้องมองนาง นางจึงเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง

จากนั้นก็ไปดูใต้หมอนที่อยู่บนเตียง ก็ได้เห็นหนังสือที่วางอยู่ตรงหัวมุม จึงหยิบขึ้นมาเปิดดู

ม่านตาของหลานเยาเยาเบิกกว้าง มุมปากยกขึ้นในทันใด

“นี่มันภาพอนาจารสิบแปดกระบวนท่าการแสดงความรักรึนี่? ไทเฮาก็แก่เฒ่าเจ็ดแปดสิบแล้วมั้งเนี้ย! อิ้ว~ แม่เจ้า……”

ทันทีที่นางสั่นระรัว ก็โยนภาพอนาจารลงบนเตียง

อันที่จริงก็โยนไปงั้นๆ แต่เมื่อมีเสียงโยนลงไปก็มีปัญหาผุดขึ้นมา

เศษกระดาษแผ่นนึงที่ถูกเก็บไว้ในภาพอนาจารหลุดออกมา เศษกระดาษนั้นเก่าคร่ำครึ คงจะเพราะเก็บมานานแล้ว หลานเยาเยาหยิบขึ้นมาดู

ในนั้นเขียนว่า: “ข้าได้ให้คนในจวนแม่ทัพทำอย่างที่ท่านต้องการแล้ว เฉินเอ๋อจะได้ขึ้นครองตำแหน่งรัชทายาทเมื่อใด? เหตุใดท่านถึงให้เฉินเอ๋อของข้าคลุมถุงชนกับคนต่ำช้าเช่นนาง?

ตำแหน่งรัชทายาท?

เฉินเอ๋อ?

เย่หลีเฉิน?

อักษรบนเศษกระดาษนั้นวิจิตรบรรจง พอเห็นก็รู้เลยว่าเป็นลายมือของผู้หญิง

ส่วนเนื้อหาในจดหมาย ก็น่าจะเขียนขึ้นตั้งแต่ที่เย่หลีเฉินยังไม่ได้ขึ้นครองตำแหน่งรัชทายาท ที่ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเศษกระดาษที่ฮองเฮาผู้ซึ่งสิ้นไปแล้วเขียนให้แก่ไทเฮา

อีกทั้งยังมีเรื่องคลุมถุงชน……

หลังจากที่เย่หลีเฉินขึ้นครองตำแหน่งรัชทายาท เขาก็เป็นคนทำสัญญางานหมั้นด้วยตนเอง

เช่นนั้น คนที่ไทเฮาให้ฮองเฮากำจัดเป็นใครกัน?

และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือต้องการให้คนที่สอดแนมในจวนแม่ทัพลงมือ ก็เป็นแม่ของตังเองอย่างนั้นรึ?

งั้นเหตุใดไทเฮาถึงจะให้นางจับเย่หลีเฉินคลุมถุงชนกันล่ะ?

ทันใดนั้น!

“กรอบแกรบ กรอบแกรบ………”

มีคน?

หลานเยาเยารีบเก็บเศษกระดาษ

นางไม่กลัวอยู่แล้วว่าไทเฮาจะรู้ว่าเศษกระดาษแผ่นนี้หายไป

จะอย่างไรก็ตาม!

เศษกระดาษแผ่นนี้อาจจะเปิดโปงข้อตกลงลับระหว่างนางกับฮองเฮาก็ได้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่นางจะมาใส่มั่วซั่วไว้ในภาพอนาจารใต้หมอน?

แทนที่จะเผามันทิ้งไป?

หรือไม่ก็เก็บมันไว้ให้ลึกลับกว่านี้เพื่อกดดันฮองเฮาให้ทำเรื่องแก่นาง?

เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ คือไทเฮาลืมไปตั้งนานแล้วว่ามีเศษกระดาษแผ่นนี้อยู่ อีกทั้งไทเฮาก็อาจจะไม่ได้เข้ามาในห้องนี้นานมากแล้ว

ดังนั้น หลังมันผ่านมานานหลายปีก็เลยตกมาอยู่ในมือของนาง

การตายของแม่นั้นแปลกประหลาด!

เพียงแต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกี่ยวกับฮองเฮาที่สิ้นไป และไทเฮาที่ยังทรงพระชนม์ชีพ

เอาล่ะ!

ไขคดีเหล่านี้ไปทีละนิด

เมื่อหลานเยาเยาออกมาจากห้อง นางก็เหาะขึ้นไปบนหลังคา กัดน่องไก่ในมือไปสองสามคำ แล้วกวาดสายตามองไปโดยรอบ

หลังจากเห็นว่ามิมีผู้ใดจึงได้นั่งลง เอนหลังพิงไปยังชายคาบ้าน นั่งไขว้ขา กินน่องไก่อย่างสบายอกสบายใจ

“น่องไก่อร่อยไหม?”

เสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้น ทำเอาหลานเยาเยาตกใจไปยกใหญ่

แม่งเอ้ย!

ใครกันวะ?

นางดูลาดเลวดีแล้วนะ ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่แถวนี้เลย แต่เสียงดันอยู่ใกล้นางมาก อย่างกับว่ามาจากด้านบนหัวของนาง

นางจึงเงยหน้าขึ้นไปทางต้นตอของเสียง……

ก็ได้เห็นเย่แจ๋หยิ่งในชุดคลุมสีดำ ยืนอยู่บนชายคา มองนางด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม

มันทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง

ชายผู้นี้……

มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

หลังจากเงียบอยู่พักใหญ่ นางก็ยกมุมปาก พูดเรียบๆว่า:

“อ๋องเย่มิได้บาดเจ็บอยู่หรอกรึ? ใยไม่อยู่จวนรักษาบาดแผล ยังจะมาร่วมการแข่งขันล่าสัตว์อีก มีความตั้งใจอันดีเสียนี่กระไร!”

นางไม่ได้จะลุกหนีแต่อย่างใด

ในเมื่อเขาเห็นหมดแล้ว และมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นท่าทางของนาง

ภาพพงภาพพจน์อะไร ต่อหน้าเย่แจ๋หยิ่งมันหมดไปตั้งนานแล้ว

งั้นยังจะกังวลอะไรอยู่?

สวาปามต่อ!

“หากเทียบเรื่องความตั้งใจอันดี เดาว่าคงมิมีผู้ใดเทียบเทพธิดาได้หรอก ขึ้นมาบนหลังคาสูงถึงเพียงนี้ ซ่อนตัวอยู่มุมชายคา ไม่คิดเลยว่าจะทำไปเพื่อการกิน เปิดหูเปิดตาข้าเสียนี่กระไร”

เมื่อเย่แจ๋หยิ่งแว๊บตัว ก็มาถึงตรงหน้านาง ทันทีที่ลงมาก็เอื้อมจะมาจับมือนาง

นางรีบปกป้องน่องไก่ไว้ในอ้อมแขน แล้วมองเขาอย่างหวาดระแวงเป็นอย่างมาก

“จะทำไร? คิดจะแย่งน่องไก่ข้ารึ?”

“……”

ทันทีที่เย่แจ๋หยิ่งกระตุกมุมปาก ก็จำใจชักมือกลับไป

เพียงแต่ว่า คราบมันที่เหนอะหนะบนใบหน้าของนางช่างน่าเกลียดเสียเหลือเกิน

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ต้องการชื่อเสียงเทพธิดาของเจ้าแล้วสินะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น!

หลานเยาเยาก็มีแววตาที่เปลี่ยนไป ยื่นมือออกไป สะบัดๆใส่เขา

“เจ้าอย่าเพิ่งพูดไป รอข้ากินเสร็จก่อน”

เมื่อเสียงเงียบลง เย่แจ๋หยิ่งก็มิพูดสิ่งใด แล้วก็ลุกยืนเอามือไขว้หลัง เหมือนรอให้นางกินหมดก่อนจริงๆ

หลานเยาเยาซัดเข้าไปอย่างง่ายดาย กำจัดน่องไก่ในมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โยนกระดูกไก่ไปตามอำเภอใจ และแล้วก็ตกลงไปบนหัวขององครักษ์ราดตระเวน

องครักษ์ผงะไป แล้วก็มองต้นไม้ใบหญ้าเป็นดั่งศัตรูทั้งสิ้น: “ผู้ใด ผู้ใดมันทำร้ายข้า?”

เมื่อเห็นว่ามันคือกระดูกไก่ ก็งุนงงไปในทันที

ณ บนหลังคา

หลานเยาเยาปัดไม้ปัดมือ โปรยยิ้มเพียงเล็กน้อย และก็เดินจากไป

มองตามร่างของนางที่จากไป แววตาของเย่แจ๋หยิ่งก็มืดมน

นางกำลังหลีกเลี่ยงเขา…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท