หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 257 ความหยิ่งผยองของม้าเหงื่อโลหิต

บทที่ 257 ความหยิ่งผยองของม้าเหงื่อโลหิต

บทที่ 257 ความหยิ่งผยองของม้าเหงื่อโลหิต

นางคาดว่า!

เย่แจ๋หยิ่งต้องหลับอยู่เป็นแน่ และคนขับรถม้าที่บังคับรถก็ไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ก็ปัญญาอ่อนไม่กล้าที่จะหยุดรถม้า เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

มองไปที่ล้อรถของรถม้า ที่วนเวียนอยู่ข้าวหน้าผา หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อ

ทันใดนั้น!

“อ้า…….”

เสียงกรีดร้องแหลมด้วยความกลัวดังออกมาจากรถม้าของเย่แจ๋หยิ่ง เสียงนั่นกลับเป็นเสียงของผู้หญิง

เพราะว่าเสียงแหลมนั่นร้องจนแตก ดังนั้นหลานเยาเยาฟังไม่ออกเลยสักนิดว่าเป็นเสียงของใครที่ดังออกมา

นี่ทำให้นางอดไม่ได้ที่มุมปากจะกระตุกขึ้น!

ร้ายกาจมาก!

พาผู้หญิงมาด้วยยังกล้าที่จะขับรถม้าเช่นนี้ อยู่คนเดียวเพราะว่าศักยภาพจริงๆ

แต่ต่อจากนั้น ทำให้หลานเยาเยายิ่งเกิดความขัดใจมากขึ้น

รถม้าของเย่แจ๋หยิ่งชะลอความเร็วลง และยังช้ามากด้วย ช้าจนคนที่เดินทางเท้ายังเร็วกว่ารถม้าของเขา

บ้าเอ้ย!

ความเร็วเหมือนเต่านี่…….

ขนาดสวนหยู่ของนางก็ยังทนดูไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

สวนหยู่ที่ได้หยุดความเร็วลง ร้อนรนจะใช้กีบขุดไปที่พื้นอยู่ตลอด เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจของมัน

หลานเยาเยาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

นางคิดว่าเป็นเพียงเพราะผู้หญิงที่อยู่ในรถม้าได้รับความตกใจ ดังนั้น รถม้าจึงได้วิ่งช้าลงเช่นนี้ รอผ่านไปสักครู่หนึ่ง

คาดว่าก็คงจะเพิ่มความเร็วขึ้น

ใครจะรู้……

เวลาผ่านไปตั้งนานแล้ว

รถม้ายังคงไปอย่างช้าๆเหมือนเดิม

หลานเยาเยา “……”

โธ่เว้ย!

คนรีบร้อนจะตายอยู่แล้ว

นางบ่นพึมพำด้วยเสียงต่ำหนึ่งประโยค มือค้ำอยู่ที่คางตั้งนานแล้ว มองไปยังรถม้าสีดำด้วยสีหน้าที่จนปัญญา

“ตึกตึกตึก……”

“ตึกตึกตึก……”

“ตึกตึกตึก……”

“……”

ทางด้านหลังมีเสียงกีบม้าควบดังขึ้น และไม่ใช้ม้าเพียงแค่ตัวเดียว

หลานเยาเยารู้สึกอารมณ์เสียถึงขีดสุด ไม่มีอารมณ์จะไปสนใจว่าคนด้านหลังพวกนั้นเป็นใครเลนสักนิด

กล่าวโดยสรุป!

ไม่ว่าจะเป็นใคร แม้ว่าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้มา ก็ยังต้องตามนางเช่นกัน ต้องหยุดม้าลงอยู่ดีรอให้รถม้าคันข้างหน้าผ่านทางหน้าผานี่ไปซะก่อน

เป็นไปดังคาด!

“ยู่……”

มีคนดึงบังเหียนม้าไว้แน่น บังคับม้าให้หยุดลง จากนั้นคนด้านหลังที่ควบม้ามาก็ล้วนหยุดม้าลง

“ด้านหน้าเป็นรถม้าของอ๋องเย่ ยังมีผู้หญิงขี่ม้าที่อยู่ด้านหน้านี่เป็นผู้ใด? มองจากเงาด้านหลังน่าจะเป็นผู้ที่งดงามมากที่สุด”

“อ๋องเย่เก่งกาจจริงๆเลย คิดไม่ถึงว่าจะกล้านั่งรถม้าผ่านไปจากทางนี้ ที่นี่ก็บรรจุรถม้าได้เพียงแค่หนึ่งคันเท่านั้น หากว่าไม่ระวัง……”

“หุบปาก เจ้าไม่เอาชีวิตแล้ว?”

มีคนพูดตัดบทคนที่กำลังพูดนั่นทันที

และเสียงคนที่พูดตัดบทนั่น ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

น้ำเสียงนี้ไม่ใช่เสียงเย่หลีเฉินหรอ?

ด้วยเหตุนี้!

นางจึงหันกลับไปดู ก็ได้เห็นฉากที่เจริญตามากฉากหนึ่ง

คุณชายทั้งเจ็ดแห่งเมืองหลวง ทั้งหกคนล้วนอยู่ข้างหลังนางทั้งหมด แต่ละคนล้วนองอาจผ่าเผย รูปงามเป็นที่สุด

ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดานั้นนับว่าเป็นองค์ชายรัชทายาทเย่หลีเฉินและเซียวซื่อจื่อเซียวจิ่นหยู

หากว่าจำเป็นต้องเปรียบเทียบกับให้ได้ หลานเยาเยาคิดว่าเซียวจิ่นหยูที่สุภาพอ่อนโยนเหนือกว่าเล็กน้อย

แต่ทว่า!

เมื่อนางหันกลับไปครั้งนี้ ทำให้คุณชายทั้งหลายที่อยู่ด้านหลังนั้นแทบจะกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

สวย…..

ชั่งสวยงามยิ่งนัก!

ในโลกใบนี้มีหญิงที่งามหยาดเยิ้มจนต้องตะลึงได้ถึงเพียงนี้เชียว แค่หันมาเพียงแวบเดียว ก็สามารถยั่วยวนให้พวกเขาหลงใหลได้แล้ว

ถึงขั้นที่คุณชายอีกสองสามคนที่ไม่ทันได้เห็นนาง อดไม่ได้ที่จะต้องอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“ว้าว……”

“หญิงรูปงามขนาดนี้ งามสุดในเมืองหลวงและโลกหล้า”

เย่หลีเฉินและเซียวจิ่นหยูที่เคยพบเจอนางมาก่อนแล้ว แววตาเคลือบไปด้วยความตะลึงงันไปพร้อมกัน

“เทพธิดา!”

เย่หลีเฉินอุทานออกมาเบาเบา

เขาคิดว่าคนอื่นยังไม่เคยได้เจอเทพธิดามาก่อน จึงได้แนะนำพวกเขาสักหน่อย

ไหนจะรู้เลยว่า……

เพียงแค่ได้ยินเขาร้องออกมาว่าเทพธิดาเพียงหนึ่งคำ คนที่เหลือไม่กี่คนนั้นยังจำเป็นจะต้องให้เขาแนะนำอีกที่ไหนกัน?

สำหรับข่าวลือของเทพธิดา ใครที่ไหนบ้างจะไม่เคยได้ยินจนชินหู?

แต่มีองค์ชายรัชทายาทมาแนะนำ เช่นนั้นพวกเขาก็นับว่าได้เป็นเพื่อนของเทพธิดาแล้ว ดังนั้นแต่ละคนก็ได้คงไว้ซึ่งรอยยิ้มอันสมบูรณ์แบบในการทักทายเทพธิดา

แต่เซียวจิ่นหยูกลับดูเคร่งขรึมและสงบมาก

หลังจากที่เย่หลีเฉินได้แนะนำแล้ว เขาก็เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย ทั้งเคารพและไม่ได้เกินเลย

ในจุดนี้!

หลานเยาเยาก็เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย

ในฐานะเทพธิดาที่ประชาชนเปรียบเป็นดั่งเทพเซียน ในเวลานี้นางทำเช่นนี้ก็ไม่ได้เกินไป

หลังจากที่ทักทายกันพอเป็นพิธีเสร็จสรรพ หลานเยาเยาก็หันกลับมา

แต่ว่า เมื่อเห็นรถม้าที่ช้าดั่งหอยทาก

นางก็มีสีหน้าที่แสดงความรู้สึกเบื่อหน่ายทันที ไม่มีทางอื่นด้านหลังนางยังมีคนอยู่ นางจำเป็นต้องรักษาท่าทางที่เทพธิดาควรจะมี

ในใจก็แอบอธิษฐาน

สวรรค์ ทำให้รถม้าเกิดอุบัติเหตุเถอะ! ตกลงไปเลยก็ยิ่งดี

“ตึก……ตึก……ตึก……”

ด้านหลังมีม้าตัวหนึ่งที่ค่อยๆเดินมาด้านหน้า หลานเยาเยาไม่ต้องมองก็รู้ว่าเขาเป็นใคร

ในคุณชายทั้งหกคนนี้ คาดว่ามีเพียงเย่หลีเฉินที่จะขึ้นมาด้านหน้า

เพียงแต่……

เมื่อม้าพันธุ์ดีของเย่หลีเฉินและสวนหยู่ของนางยืนอยู่เป็นระนาบเดียวกัน สวนหยู่ก็ร้องคำรามใส่ม้าของเย่หลีเฉินทันที และม้าพันธุ์ดีของเย่หลีเฉินก็ถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นก็ทำให้เย่หลีเฉินรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง

จากนั้นไม่ว่าเขาจะตีม้าของเขาเช่นไร ม้าตัวนั้นก็ไม่กล้าเดินไปขึ้นไปด้านหน้า

เห็นดังนั้น!

หลานเยาเยาก็รีบลูบๆที่หัวของสวนหยู่ พูดเบาๆว่า : “สวนหยู่ จะบุ่มบ่ามไม่ได้!”

เมื่อเสียงของนางหลุดออกไป

สวนหยู่ก็หันหัวไปทางอื่นแบบไม่เต็มใจทันที เหมือนเด็กที่กำลังโมโห

ทำให้หลานเยาเยารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เป็นลาที่หัวดื้อจริงๆ อ่อไม่ เป็นม้าที่หัวดื้อ

ม้าของคนอื่นเขาก็เป็นถึงม้าพันธุ์ดีมีชาติตระกูล มันจะมีอะไรที่ไม่พอใจอีก?

“คิดไม่ถึงว่าม้าของเทพธิดาจะมีไหวพริบดีถึงเพียงนี้!”

เพื่อคลายความอับอาย เย่หลีเฉินก็เปล่งเสียงอีกครั้ง ครั้งนี้ม้าพันธุ์ดีของเขาก็กล้าที่จะเดินถึงไปสองสามก้าวแล้ว แต่ที่สุดแล้วก็ยังไม่กล้าไปยืนในระนาบเดียวกับสวนหยู่

“อืม มีไหวพริบดีจริงๆ เพียงแต่นิสัยไม่ดี ขอองค์ชายรัชทายาทอย่าได้ถือโทษ”

“ไม่เป็นไร! ม้าเหงื่อโลหิตนี้เป็นม้าวิเศษ ย่อมไม่ยอมที่จะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปพร้อมกับม้าพันธุ์ดีปกติเป็นธรรมดา

ม้าวิเศษต้องคู่กับคนที่มีพลังที่วิเศษเป็นธรรมชาติ เทพธิดาสามารถทำให้ม้าวิเศษเชื่องได้ ย่อมเป็นผู้วิเศษ ข้ามีอะไรจะต้องถือโทษกัน?”

เย่หลีเฉินต้องรู้จักม้าของเทพธิดาอยู่แล้ว นั่นเป็นม้าเหงื่อโลหิตที่สุดแสนจะหายาก

และแม้ว่าม้าของเขาก็หายากมากเช่นกัน แต่กลับไม่ได้ล้ำค่าเท่าม้าเหงื่อโลหิตพันธุ์นี้

ดังนั้น ม้าของเขาจึงได้กลัวสวนหยู่ของเทพธิดา และก็เป็นธรรมดา

เพราะว่าม้าเหงื่อโลหิตพันธุ์แท้นี้นิสัยโอหังหยิ่งผยอง และคนธรรมดาก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ผู้ที่สามารถทำให้ม้าเหงื่อโลหิตพันธุ์นี้เชื่องได้นั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

ดังนั้นม้าเหงื่อโลหิตเลือกเทพธิดา ก็เป็นธรรมดา

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกอับอาย

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!

ม้าของเขาก็เข้มแข็งและซื่อตรง คิดไม่ถึงว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าม้าเหงื่อโลหิตจะเกิดความหวาดกลัว

“องค์ชายรัชทายาทเป็นคนใจกว้าง เป็นโชคดีของประชาชน”

เย่หลีเฉินที่เป็นเช่นนี้กลับทำให้หลานเยาเยาเกิดความสงสัย

แตกต่างกับเย่หลีเฉินในความทรงจำของนางนิดหน่อย หรือว่าเขาก็เป็นคนที่ปิดบังตัวตนอีกผู้หนึ่ง?

ด้วยเหตุนี้!

นางจึงได้ยิ้มอ่อนแล้วก็สื่อสารกับเย่หลีเฉิน ยังไงซะก็ว่างอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น เข้าใกล้เย่หลีเฉินก็เท่ากับได้เข้าใกล้ฮ่องเต้แล้ว

เรื่องดีเช่นนี้จะไม่ทำได้เช่นไรล่ะ?

และพวกเขาก็สนทนากันอย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่ทว่าทำให้องค์ชายที่อยู่ด้านหลังไม่กี่คนอิจฉาเป็นที่สุด

แววตาของเซียวจิ่นหยูแสดงความครุ่นคิด ในดวงตาเคลือบไปด้วยการเจาะลึก

แล้วในเวลานี้……

“อ้า……”

ในรถม้าของเย่แจ๋หยิ่ง ก็มีเสียงผู้หญิงร้องแหลมดังออกมาอีกครั้ง

ขัดจังหวะการสนทนาของหลานเยาเยาและเย่หลีเฉิน

หลานเยาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย

จากนั้นก็มองไปทางด้านหน้า ก็เห็นรถม้าสีดำคันนั้นของเย่แจ๋หยิ่ง เวลานี้ล้อรถข้างหนึ่งได้แขวนอยู่ตรงข้างหน้าผาแล้ว รถม้าก็เอนเอียงไปทางหน้าผา สามารถที่จะตกลงไปได้ทุกเมื่อ…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท