หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 269 นางแพ้แล้วรึ?

บทที่ 269 นางแพ้แล้วรึ?

บทที่ 269 นางแพ้แล้วรึ?

เดาว่าเป็นไปได้ทั้งคู่นั่นแหล่ะ!

จากนั้นหลานเยาเยา ก็หยิบลูกธนูอันแหลมคมของการแข่งขันทั้งสามดอกที่ยิงมาเมื่อครู่ขึ้นมาหน้าตาเฉย

มันคือลูกธนูอันแหลมคมที่ใช้ในการแข่งขัน

แต่แค่ชื่อบนลูกธนูถูกลบออกไปโดยเจตนาเพียงเท่านั้น

นางอดไม่ได้ที่จะฮึดฮัดออกมา

ลูกธนูอันแหลมคมทั้งสามดอกนี้มันก็ชี้ชัดอยู่แล้ว ว่าคนที่ลอบสังหารนาง หากไม่ใช่คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน ก็คงมีคนจงใจใช้ลูกธนูอันแหลมคมที่ใช้ในการแข่งขันมาเป็นการโบ้ยความผิด

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน

มันก็สะกิดต่อมโทสะของนางแล้ว!

คนเช่นนี้ นางไม่ปล่อยมันไว้แน่

ต่อมา หลานเยาเยาก็ออกล่าสัตว์อีกครั้งอย่างสงบเยือกเย็น ส่วนเย่หลีเฉินก็ถอนตัวออกจากการแข่งขัน ไปตรวจสอบเรื่องลูกธนูลอบสังหาร

เย่แจ๋หยิ่งผู้อยู่บนต้นไม้ที่ไกลออกไป ก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง

หากเป็นสถานการณ์ทั่วๆไป เขาก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

แต่!

เมื่อเห็นเย่หลีเฉินช่วยชีวิตนาง ด้วยการเหวี่ยงนางลงจากหลังม้า และตอนที่ทุ่มตัวใช้ร่างกายของตนรองรับเอาไว้ ก้นบึ้งของหัวใจก็โกรธขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

จากนั้นเขาก็ถือลูกธนูอันแหลมคมทั้งสามดอกขึ้นมา มองบนชื่อสามพยางค์ที่สะดุดตาแปลกๆบนลูกธนู มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย ทันทีที่ใช้กำลังภายในสัมผัสชื่อของเขา

ดวงตาก็สว่างวาบ ปัดลูกธนูอันแหลมคมทั้งสามดอกปักไปที่ต้นไม้

พูดออกมาว่า: “จงกระจายลูกธนูทั้งสามนี้ไปทุกหนทุกแห่งในเขตล่าสัตว์”

“ขอรับ!”

เย่แจ๋หยิ่งหึอย่างเยือกเย็น แล้วก็ถอยจากไป

เมื่อเขาไปแล้ว ก็มีเงาดำออกมาจากที่มืด จากนั้นก็เหาะขึ้นไปบนยอดไม้ โดยถือลูกธนูอันแหลมคมสามดอกนั้นไปด้วย

ในเวลาต่อมา

หลานเยาเยาที่เอาแต่มุ่งมั่นล่าสัตว์อย่างขันแข็ง เหยื่อที่ยิงได้ก็ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนคนที่ได้เห็นการไล่ล่าของนาง ก็รู้ตัวเลยว่าไต่อันดับไม่ติดแน่ๆ เช่นนั้นจึงหยุดมองดูการล่าของนาง

เฝ้ามองนางควบม้าพันธุ์ดี ผ่านไปผ่านมาในป่าทึบ ด้วยท่าทางที่กล้าหาญชาญชัยเช่นนั้น ทำเอาพวกเขาไม่อยากแม้แต่จะกระพริบตา ในปากก็พึมพัมตื่นใจกันไม่หยุดหย่อน

ส่วนทางเย่แจ๋หยิ่งนี้ ดูจะเกียจคร้านเสียเหลือเกิน

ก็บังเอิญพบกับเซียวจิ่นหยูที่กำลังประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ตามการกราบทูลของเหล่าองครักษ์ เพลานี้เทพธิดาได้นำหน้าไปไกลแล้ว ท่านไม่ได้ตั้งใจที่จะชนะแล้วรึ?”

นี่มันทำให้เขาสงสัยเป็นอย่างมาก

ด้วยสิ่งที่เขาเข้าใจในตัวเย่แจ๋หยิ่ง เขาไม่ใช่คนที่จะจงใจพ่ายแพ้

หรือว่าเย่แจ๋หยิ่งจะมีความตั้งใจอื่น?

เมื่อได้ยินเช่นนั้น!

เย่แจ๋หย่งจึงโน้มตัวไปหยิบลูกธนูอันแหลมคมขึ้นมา มีกระต่ายตัวหนึ่งติดอยู่บนลูกธนูอันแหลมคม

แต่สายตานั้นสงบนิ่ง มองดูกระต่ายที่แน่นิ่งไปตั้งนานแล้ว ด้วยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย

“ยังไม่ถึงเวลา!”

ยังไม่ถึงเวลารึ?

เมื่อเซียวจิ่นหยูได้ยินคำที่ยากจะเข้าใจของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยยิ่งกว่าเดิม

แต่อีกไม่นานนักเขาก็จะเข้าใจความหมาย

กระทั่งเหลือเวลาเพียงครึ่งชั่วยามสุดท้าย องครักษ์ลับที่ถอยไปก็มา จากนั้นก็กระซิบอะไรไม่รู้อยู่ข้างหูของเขา

ทันทีที่เย่แจ๋หยิ่งดับความเกียจคร้านไป สายตาก็เปลี่ยนไปเป็นล้ำลึก

“นี่มันเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มาก”จากนั้นก็เหาะไปบนหลังม้า ปากบางเผยอขึ้น: “การแข่งขันที่แท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว!”

พูดจบ เขาก็ควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเขาก็ไม่พักเลย ซองลูกธนูอันแหลมคมฉบับจีนโบราณ ว่างแล้วก็เต็ม เต็มแล้วก็ว่าง เหยื่อที่เขายิงได้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โดยปกติการจัดการแข่งขันล่าสัตว์ ผู้จัดจะแบ่งตามจำนวนผู้เข้าร่วม บนลูกธนูอันแหลมคมทุกดอกจะสลักชื่อของผู้เข้าแข่งขันไว้

นอกจากนี้ยังมีการจำกัดจำนวนของลูกธนูที่สลักชื่อให้

ซึ่งโดยปกติ!

จำนวนของลูกธนูอันแหลมคมที่เตรียมไว้จะเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่เคยใช้ลูกธนูที่สำรองไว้จนหมดเลยสักครั้ง

ส่วนตอนนี้ที่ใกล้จะหมดเวลาแล้ว ลูกธนูอันแหลมคมของหลานเยาเยากับเย่แจ๋หยิ่งก็ใกล้จะหมดเช่นกัน

เหลือเวลาอีกสิบห้านาที พวกเขาทั้งสองก็ได้พบกันอีกแล้ว

เมื่อหลานเยาเยาได้เห็นซองลูกธนูของเย่แจ๋หยิ่ง ที่เหลือแค่สามดอกสุดท้าย

นางก็อดไม่ได้ที่จะหันมองซองธนูข้างหลังตน ก็เห็นว่ายังมีอยู่อีกสิบดอก ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง

“อ๋องเย่ ยิงแม่นดีนี่”

ปากนางพูดคำชม แต่ในน้ำเสียงกลับไม่มีความชื่นชมเลยแม้แต่น้อย

“ทั้งคู่นั่นแหล่ะ ทั้งคู่!”

น้ำเสียงของเย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ใยดีเช่นกัน เมื่อเห็นลูกธนูข้างหลังนาง ก็แสยะยิ้มที่มุมปาก ซึ่งนั่นมันดูเหยียดหยามมากถึงมากที่สุด

“เหลือเวลาไม่มากแล้ว เทพธิดา แพ้แล้วล่ะ”

เมื่อคำนั้นพูดออกมา หลานเยาเยาก็บันดาลโทสะดึงลูกธนูอันแหลมคมสองดอกขึ้นมา ตรึงคันธนู และเล็งไปที่เขา

“ไม่เห็นว่าเป็นเช่นนั้น”

นางพูดออกมาทีละคำ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น

“หึหึ เพื่อที่จะชนะการแข่งขัน เทพธิดาถึงขั้นจะฆ่าจะแกงคู่ต่อสู้ที่แกร่งที่สุดเชียวรึ?”

น้ำเสียงของเย่แจ๋หยิ่ง

เหมือนเมินเฉยกับลูกธนูอันแหลมคมทั้งสองดอกที่จ่อหน้าเขาอยู่

“ทำไมจะไม่ล่ะ?”

พูดจบ หลานเยาเยาก็แสยะยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ จากนั้นสายตาก็หม่นลง มือที่ตรึงลูกธนูก็คลายออก

“ฟิ้ว……”

“ฟิ้ว……”

ลูกธนูอันแหลมคมที่ฟุ้งไปด้วยความเยือกเย็น ดั่งม้าป่าที่บ้าคลั่งพุ่งทะลุอากาศไป

ความแหลมคมที่พุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วสะท้อนอยู่ในแววตาของเย่แจ๋หยิ่ง แต่เขาก็แค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ไหวติง แต่แล้วท่าทีที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็สบเข้ากับสายตาของนาง

ในช่วงพริบตาเดียว

ลูกธนูอันแหลมคมลอยแยกผ่านไปข้างลำคอทั้งสองข้างของเขา ยิงไปยังเหยื่อสองตัวที่อยู่ห่างออกไป

เหยื่อทั้งสองตัวตกลงบนพื้นในทันใด

“ก็ไม่แน่หรอกว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ! อ๋องเย่ อย่าได้พูดเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น”

หลานเยาเยายกมุมปากอีกครั้ง ในที่สุดก็กระชับบังเหียน ให้สวนหยู่พุ่งไปหาเหยื่อ

แต่ว่า……

เมื่อสายตาของนางกวาดมายังเล่หกใต้ร่างของเย่แจ๋หยิ่ง จึงเปลี่ยนใจกะทันหัน ให้สวนหยู่แยกห่างไปไกลกว่าสิบเมตรในทันที

นางอยากจะให้สวนหยู่เดินอ้อมไป แล้วก็ไม่อยากเห็นสวนหยู่ที่จะไม่ขยับเมื่อได้ใกล้กับ เล่หก

ครานี้!

เมื่อหลานเยาเยาเก็บเหยื่อทั้งสองตัวแล้ว ก็ไม่ได้รีบไปแต่อย่างใด

แต่วางแผนที่จะไปล่าสัตว์กับเย่แจ๋หยิ่งแทน

ก็ไม่ได้มีเหตุอื่นใด แค่อยากจะดูสักหน่อย ว่าก่อนที่เวลาจะหมด เย่แจ๋หยิ่งจะใช้ลูกธนูอันแหลมคมหมดเมื่อใด?

แต่สิ่งที่นางกังวลก็คือ……

นางจะใช้ลูกธนูอันแหลมคมหมดไหมนี่สิ

แต่จากนั้น เมื่อพวกเขาเห็นเหยื่อในเวลาเดียวกัน เย่แจ๋หยิ่งก็ชิ่งยิงลูกธนูอันแหลมคมออกมาก่อนนาง ทำเอานางแอบกัดฟันกรอกอยู่นาน

ไม่นานนัก!

ลูกธนูอันแหลมคมสามดอกสุดท้ายของเย่แจ๋หยิ่งก็ยิงไปหมดแล้ว ส่วนซองลูกธนูด้านหลังนางยังคงเหลือลูกธนูอันแหลมคมอีกสามดอก

ในเพลานี้ หลานเยาเยาที่เห็นเหยื่อกำลังวิ่งหนี

นางไม่บอกไม่กล่าว ทันทีที่ตรึงลูกธนูอันแหลมคม ก็ยิงไปยังเหยื่อสองตัวนั้นที่กำลังวิ่งหนี

ขณะที่ลูกธนูอันแหลมคมกำลังจะเผด็จศึก เสียงระฆังก็ดังสนั่นในทันใด

เสียงระฆังนี้เป็นเสียงของการจบการแข่งขัน

อย่างไรก็ตามลูกธนูอันแหลมคมก็ถูกยิงออกไปก่อนที่เสียงระฆังจะดังขึ้น

ถึงแม้ลูกธนูดอกหนึ่งนี้จะยิงโดนเหยื่อ แต่ก็ไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้

ดังนั้น นางจึงเหลือลูกธนูอยู่สามดอกสุดท้าย

นางแพ้แล้ว………

แต่สิ่งที่นางคิดไม่ถึงคือ ลูกธนูอันแหลมคมที่ยิงออกไปก็คือยิงออกไปแล้ว เย่แจ๋หยิ่งใช้อำนาจที่ไร้คุณธรรมขึ้นไปคว้าลูกธนูอันแหลมคมของนางกลางอากาศ

“อ๋องเย่ ที่เจ้าทำนี่หมายความว่าไง?” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“หาได้มีสิ่งใดไม่ ข้าก็แค่รู้สิ่งว่าไอ้ลูกธนูอันแหลมคมนี่มันรกหูรกตา”

เย่แจ๋หยิ่งเหาะลงมา

จากนั้นก็สะบัดมือ เหวี่ยงลูกดอกอันแหลมคมที่เขาสกัดไว้กลับเข้าซองลูกธนูที่ด้านหลังของหลานเยาเยา

“เจ้า……”

ในตอนนี้หลานเยาเยากำหมัดแน่น

ก่อนที่นางจะพูดสิ่งใดออกมา เย่แจ๋หยิ่งก็พูดประโยคที่นางต้องเบิกตากว้าง

“ขนาดท่านโมโหก็ยังน่ารักอยู่เลยนะเนี้ย”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท