หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 263 โหลวเย่ว แม่สาวสายกิน

บทที่ 263 โหลวเย่ว แม่สาวสายกิน

บทที่ 263 โหลวเย่ว แม่สาวสายกิน

ครู่ต่อมา

หลานเยาเยากลับไปยังที่นั่งของตน เมื่อพระราชธิดาจาวหยางด้านข้างเห็นว่านางกลับมาแล้ว ก็แอบโล่งใจ

หลานเยาเยาเดาว่า โหลวเย่วคงคิดเอาเองว่านางไปเพราะไม่ชอบนาง หลังเห็นว่านางกลับมาแล้ว ถึงได้ปฏิเสธความคิดในใจไป

หึ!

นาง นางก็ยังเป็นเหมือนเดิม แค่ด้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย

เพียงแต่!

ต่อจากนี้สิ่งที่น่าสนใจก็คือ

พระราชธิดาจาวหยางไม่ได้เอาแต่กินอีกแล้ว แต่เลือกที่จะแอบมองนางแทน แอบมองครั้งเดียวยังไม่พอ ยังแอบมองอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

หลานเยาเยารู้สึกหมดคำจะพูด

จึงหันหน้าไปประจันกับนางโดยตรง จับการแอบมองของนางได้คาหนังคาเขา

ภายใต้แววตาที่มิอาจคาดเดาได้ของนาง พระราชธิดาจาวหยางก็เหมือนกับเด็กที่ทำผิดก้มหน้าก้มตาต่ำลงเงียบๆ

จากนั้นก็แอบเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ยิ้มให้อย่างเก้ๆกังๆ แล้วก็ชี้ที่มุมปากตัวเอง

“เทพธิดา ตรงนี้มีบางอย่างติดอยู่”

บางอย่าง?

บางอย่างอะไรล่ะ?

เมื่อหลานเยาเยายื่นมือมาจับใบหน้าของตน พบว่ามันคือคราบน้ำมัน หน้าก็มืดลงในทันที

ภาพลักษณ์เทพธิดาผู้วิเศษอยู่ยงคงกระพันของนางยังไม่พังทลายไปใช่ไหม?

เช่นนั้น!

หลานเยาเยารีบเช็ดคราบมันออกอย่างเย้ายวน เคลื่อนไหวละมุนละไมสง่างาม นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความปั่นป่วนไม่น้อย

“ท่านไปทานอะไรที่ไหนมาอ่า? หอมหรือไม่? อร่อยรึป่าว?”

โหลวเย่วมองนางอย่างตั้งตารอ ตอนนี้ในชีวิตของนาง นอกจากเรื่องกินก็ไม่มีเรื่องอื่นใดให้ทำอีกแล้ว

นางอยากกินอาหารอันโอชะที่มีอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า เพราะนางอยากเป็นเยาเยาที่ได้กินของที่นางยังไม่เคยได้กิน……

“ของที่ข้ายังไม่เคยได้กินอยู่ที่ห้องส้วม เจ้าก็ลองไปกินดู”

“ห้อง…ห้องส้วม รึ?”

ความคาดหวังในตาของโหลวเย่วกลับกลายเป็นความสยดสยองในทันใด ปากที่อ้าอยู่เกือบจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้วยความตกใจ

นั่น นั่นเป็นสิ่งที่เทพธิดาพูดงั้นรึ?

นางมิได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?

มองดูท่าทีของโหลวเย่ว หลานเยาเยาก็ทำหน้าตายหันหน้าไปอีกด้าน เอามือปิดรอยยิ้มที่มุมปากไว้

ฉากนี้ได้เห็นโดยเซียวจิ่นหยูที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ถึงแม้หลานเยาเยาจะปิดปากไว้ แต่รอยยิ้มมันฉายในแววตาของนาง ซึ่งนั่นก็ถูกเขาจับได้

เขาตกอยู่ในภวังค์ทันที

ไม่นานนัก ทุกคนต่างก็เข้ามายังที่นั่ง เย่แจ๋หยิ่งเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง

ก่อนดำเนินการแข่งขันล่าสัตว์ ทุกคนก็ยังได้แสดงทักษะความสามารถ ที่ช่วยสร้างความครื้นเครง

หญิงสาวที่ปราดเปรื่องในเมืองหลวงมีอยู่มากมาย เหล่าคุณหนูแทบทุกคนของทุกจวนต่างมีทักษะความสามารถกันทั้งนั้น

ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือถังมู่หวั่น ลูกสาวแห่งจวนเฉิงเสี้ยง นางชำนาญรอบด้านทั้งศาสตร์และศิลป์ คนที่ขอแต่งงานกับนางต่างก็เกือบจะก้าวผ่านเกณฑ์ของจวนเฉิงเสี้ยงได้แล้ว

แต่กลับมิเคยมีผู้ใดได้แต่งเลย

เงื่อนงำท่ามกลางพวกเขานั้นมิมีผู้ใดบอกได้อย่างชัดเจน

ฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรันก็มีชื่อเสียงเรื่องทักษะความสามารถเช่นกัน

หลินเฟยหรันไม่อยู่ การเต้นรำอันงดงามอ่อนช้อยของฉินหลิงเจียวจึงได้ดึงดูผู้คนในทันที ได้กวาดเสียงปรบมือและคำชื่นชมอันแสนอบอุ่นจากทุกๆคน

แต่ในวันนี้ถังมู่หวั่น ทำให้คนตกตะลึงได้ยิ่งกว่า

นางมิเพียงแต่ใช้พู่กันเฉกเช่นดาบเท่านั้น แต่ยังเต้นไปวาดภาพไปอีกด้วย

เรือนร่างอันสดใสสง่างาม ช่างอ่อนช้อยละมุนละไม ภาพวาดบนผืนผ้าใบก็มีชีวิตชีวา ดั่งว่าเคลื่อนไหวอยู่จริง

เมื่อเต้นรำจบลง ภาพวาดก็เสร็จ ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชมกันให้ควั่ก

“แปะๆๆ……”

โดยรอบมีเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างล้นหลาม รวมไปถึงไทเฮาก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

ฮ่องเต้เองก็ยังกล่าวชมอยู่หลายครั้ง ทำให้ถังมู่หวั่นที่ได้รับความชื่นชมหน้าแดงระเรื่อ นางค่อยๆชำเลืองมองไปทางอ๋องเย่

แต่กลับพบว่าอ๋องเย่เพียงดื่มน้ำชาอย่างไม่ใยดี สายตาก็ไม่ได้อยู่ที่นางเลยตั้งแต่แรก ทำให้แววตาของนางมืดมนลงไปอย่างช่วยไม่ได้

หลังถังมู่หวั่นถอยตัวไป

ไทเฮาที่ได้มองมาทางพระราชธิดาจาวหยาง ก็พูดด้วยน้ำเสียงอันโอบอ้อมอารีว่า:

“จาวหยาง แล้วเจ้าล่ะมีความสามารถอันใดฤา?

เมื่อใดก็ตามที่เป็นเช่นนี้ โหลวเย่วจะพยายามลดการมีตัวตนของตัวเองให้มากที่สุด เรื่องความสามารถ มีความสามารถเรื่องกินหน่ะได้ไหม?

ยิ่งไปกว่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นสามปีก่อน หรือในช่วงสามปีนี้ นางก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วมโอกาสเช่นนี้สักเท่าไหร่

หรือแม้แต่จะเข้าร่วมแล้ว เสด็จพ่อกับเสด็จย่าก็ไม่เคยจะให้นางแสดง

ดังนั้น!

นางจะมีหรือไม่มีความสามารถ พวกเขายังไม่รู้อีกรึ?

เหตุใดวันนี้ถึงเป็นเช่นนี้?

ใยจู่ๆถึงได้เรียกนางกัน? นางเกือบจะไม่ทันได้กลืนเค้กในปากอยู่แล้ว

“เสด็จย่าเพคะ วันนี้หลานไม่ค่อยสบาย คงแสดงไม่ได้ ให้เทพธิดาแสดงเถอะเพคะ เทพธิดามีความสามารถอยู่เหนือธรรมชาติเลยเพคะ!”

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุอันใด

นางถึงอยากเห็นเทพธิดาแสดงความสามารถที่เหนือธรรมชาติมากเช่นนี้ จะต้องน่าประทับใจมากเป็นแน่

ฟู่ว……

หลานเยาเยาล่ะอยากจะซัดแรงกระตุ้นของโหลวเย่วแรงๆเข้าซักป้าบ

นางแค่อยากจะสงบเสงี่ยมดั่งเทพธิดา ให้ดูลึกซึ้งแบบที่คาดเดาไม่ได้ อยากให้คนมองไม่ออกอะไรแบบนั้น

แต่!

การที่นางเป็นเทพธิดาผู้ทรงสง่าได้มาแสดงที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แล้วใครจะกล้าเรียกนางให้มาแสดงต่อหน้าสาธารณชนล่ะ?

แต่กลับไม่นึกเลยว่า……

ยัยโหลวเย่วคนนี้ จะพูดแทนนางได้เหมาะเจาะอะไรขนาดนี้?

“อ่อ~ เทพธิดากรุณาเสด็จมาถึงเมืองหลวง เป็นโชคอันดีของประเทศก่วงส้า หากได้เห็นเทพธิดาแสดงความสามารถ พวกเราเหล่าประชาราษฎร์แห่งประเทศก่วงส้า จะจดจำมิมีวันลืมเลือน”

ไทเฮายกยอปอปั้นถึงเพียงนั้น

หากนางไม่ไปแสดงเสียหน่อย ก็จะดูเหมือนนางเสียมารยาท

แต่นางเป็นใครกันล่ะ?

หรือว่าไทเฮาผู้อาวุโสคนนั้นจะแค่พูดเยินยอไปงั้นๆ นางจะได้แสดงให้พวกเขาดู?

จนปัญญา!

นางเป็นถึงเทพธิดา เป็นเทพธิดาที่ไม่แยแสผู้ใด

ผู้ใดจะรู้ว่า……

โหลวเย่วที่อยู่ด้านข้างจู่ๆก็รวบรวมความกล้า คว้าแขน มองนางด้วยความคาดหวังอันแรงกล้า พูดออกมาด้วยใบหน้าเด็กเอาแต่ใจว่า:

“เทพธิดา ท่านแสดงเสียหน่อยเถิด ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องงามสง่าที่สุดเป็นแน่ ตกลงนะ! ท่านแสดงได้ตามสบายเลย อยากดูท่านแสดงเหลือเกิน!”

หลานเยาเยามองแรงไปที่นาง ปัดกรงเล็บของนางอย่างรังเกียจเดียดชัง ทั้งยังปัดเศษขนมที่หล่นจากมือของนางบนเสื้อผ้าอีกด้วย

โหลวเย่วคนนี้……

ใยถึงได้รู้ใจขนาดนี้เนี้ย!

หลานเยาเยายังไม่ทันได้ตอบสิ่งใด ก็ได้ยินเสียงสุขุมนุ่มลึกของเย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

“หรือเทพธิดาเกรงว่าความสามารถจะด้อยกว่าคนอื่น?”

อะไรนะ?

ความสามารถด้อยกว่าคนอื่น?

เย่แจ๋หยิ่งนี่ยั่วโมโหคนเก่งจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไร มันจะไม่ใช่แค่การแสดง! และไม่ใช่ว่านางไม่สามารถ

“ความสามารถด้อยกว่าคนอื่นงั้นรึ? หึ เช่นนั้นก็คอยดูแล้วกันว่าใครกันแน่ที่ด้อยกว่าคนอื่น” ในเมื่อเขากล้าที่จะยั่วยุ แล้วเหตุใดนางถึงจะไม่ลากลงหลุมไปด้วยอีกสักสองสามคนล่ะ?

และแล้ว!

นางก็หันไปคารวะฮ่องเต้

“ข้ามีความรู้ในกู่ฉินอยู่บ้าง ยินดีที่จะแสดงความสามารถอันน้อยนิดเพคะ”

หลังเห็นฮ่องเต้พยักหน้า พระองค์ก็ทอดสายตาผ่านเย่หลีเฉิน เซียวจิ่นหยูและเย่แจ๋หยิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงอันเรียบนิ่งที่ดุดันว่า:

“ได้ยินมาว่าขลุ่ยจีนของรัชทายาท ฟลูตของเซียวจื่อจื่อ พิณจิ่นเสื้อของอ๋องเย่ เป็นดั่งสามสิ่งสุดยอดแห่งเมืองหลวง มิทราบว่าทั้งสามพระองค์อยากจะร่วมบรรเลงเพลงซุ่มโจมตีจากสิบทิศกับเทพธิดาหรือไม่?”

เพลงซุ่มโจมตีจากสิบทิศเป็นเพลงผีผา(กีตาร์จีน)

ในขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในสิบอันดับเพลงโบราณของประเทศจีน ที่จะบรรเลงเดี่ยวก็ได้ บรรเลงวงก็ดี

ถึงแม้เพลงผีผา(กีตาร์จีน) แต่หากใช้กู่เจิงและกู่ฉินในการบรรเลง ก็ไพเราะเสนาะหูไม่แพ้กัน

เมื่อได้ยินว่าเป็นเพลงซุ่มโจมตีจากสิบทิศ

เย่แจ๋หยิ่งก็ตาเป็นประกาย มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เย่หลีเฉินและเซียวจิ่นหยูก็ดูสนใจด้วยเหมือนกัน

ท่วงทำนองของเพลงซุ่มโจมตีจากสิบทิศนั้นหนักหน่วง สะเทือนอารมณ์ ไม่คิดว่าเทพธิดาจะสามารถบรรเลงได้ ทั้งยังบรรเลงกันสี่คน โดยใช้ขลุ่ยจีน ฟลูต พิณจิ่นเสื้อและกู่ฉิน

หากได้บรรเลงร่วมกัน ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะโด่งดังไปทั่วหล้า

มันจะทำให้ผู้คนตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย!

แต่เย่หลีเฉินกลับสงสัย:

“เสด็จพ่อ ลูก เสด็จอาและเซียวจื่อจื่อต่างมีเครื่องดนตรีของตนเอง แต่เทพธิดาไม่มี จะทำเช่นไรดีขอรับ?”

ท่วงทำนองชั้นเลิศแน่นอนว่าต้องคู่กับเครื่องดนตรีชั้นดี

“เสด็จย่าของเจ้ามีกู่ฉินอยู่ตัวหนึ่ง ว่ากันว่าเป็นของขวัญจากพระมารดาผู้ให้กำเนิดพระชายาเย่ เป็นกู่ฉินชั้นดีที่หาได้ยากในโลก จะให้เสด็จย่าของเจ้านำมาก็แล้วกัน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

แววตาของไทเฮาสว่างวาบ ร่องรอยแห่งความโศกเศร้าปรากฏในดวงตา……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน