หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 294 ผลลัพธ์จากการปีนข้ามกำแพง

บทที่ 294 ผลลัพธ์จากการปีนข้ามกำแพง

บทที่ 294 ผลลัพธ์จากการปีนข้ามกำแพง

เห็นดังนั้น!

เขาก็รีบกอดเชิงเทียนเอาไว้ สีหน้าท่าทีแบบตีให้ตายก็ไม่ไป

“เยาเยา เจ้าวางใจ หากมีคนทำไม่ดีต่อเจ้า ข้าป่ายเม่ยเซิงจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อเจ้าอย่างแน่นอน จะไม่บ่ายเบี่ยงเป็นอันขาด”

แต่ทว่า!

หลานเยาเยาโบกมือให้เขา บอกใบ้ให้เขาจากไป

ป่ายเม่ยเซิงร้อนใจ

รีบทำหน้าละห้อย กล่าวอย่างน้อยใจสุดๆ

“เจ้าต้องเชื่อข้า เจ้ามองดูดวงตาที่จริงใจของข้า กล้าที่จะสาบานก็จะรู้ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า”

“แค่เจ้า?” เจ้าเล่ห์อุบายเยอะเป็นกอง กับเขาหลานเยาเยาร้อยทั้งร้อยก็ไม่เชื่อ

“ข้าทำไม? ข้าพูดได้ทำได้ เป็นคนรักษาสัจจะ”

“ช่างเหอะ เจ้าไปเถอะ!”

“เยาเยา……”

เห็นนางสีหน้าไม่ดี ป่ายเม่ยเซิงรู้ว่าตัวเองน่าเบื่อ ยืนอยู่ครู่หนึ่งก็จากไป

หลานเยาเยาลุกขึ้นปิดประตูห้อง และลงกลอนประตู สีหน้าสงบนิ่งอย่างน่าแปลก หลังจากที่เดินไปข้างหน้าต่าง นางก็ฝืนยิ้มแล้วก็ส่ายหัว

“เป็นตามคาด ไม่มีอาหารกลางวันฟรีในโลก คนคนหนึ่งไม่สามารถที่จะดีกับเจ้าอย่างไร้เหตุผล”

เฮ้อ……

หานแส!

เคยคิดว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกันได้

กลับคิดไม่ถึง……

เจ้าเพียงแค่หลอกใช้ประโยชน์อย่างเหนือชั้นยิ่งกว่าเขา และโปร่งใสยิ่งกว่าเท่านั้น

หลังจากเปิดหน้าต่างเบาๆ นางก็แวบออกไป จากนั้นก็หายไปในความมืดมิดยามค่ำคืน

ตำหนักเทพธิดา ในคุกลับ

คุกลับเป็นที่ที่พวกเขาพบเจอตอนที่เพิ่งจะมาถึงตำหนัก ด้านในหรูหราโอ่อ่า ไม่เหมือนคุกลับแม้แต่น้อย กลับเป็นเหมือนสถานที่สำหรับความสนุกสนาน

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงได้ให้ตาแก่สองสามคนของสำนักหงอีของนางปรับปรุง

ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาหลังจากที่คุกลับปรับปรุง

บนกำแพงทั้งสองข้างมีไฟที่เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด บรรยากาศไม่ถือว่าสลัว แต่กลับให้ความรู้สึกชนิดทะมึนน่ากลัว

อืม!

ไม่เลว

ที่ต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้

เพิ่งจะเหยียบเข้ามาในคุกลับ หลานเยาเยาก็ได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆของหญิงผู้หนึ่ง และเสียงปลอบที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรดีของจื่อซี

หืม?

แม้ว่าจื่อซีจะร่าเริงกว่าจื่อเฟิงเล็กน้อย แต่เขาก็เคยเป็นองครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่ง วิชาการรักษาก็อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม

คนที่เผชิญหน้ากับผู้อื่น เขาก็ยังแสดงความขรึมออกมาเล็กน้อย

คิดไม่ถึง……

กับหญิงที่บุกรุกเข้ามาในตำหนักเทพธิดาตอนกลางคืน เขากลับทำอะไรไม่ถูก?

เป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ

เดินมาถึงด้านในนางจึงพบว่า จื่อซีหันหลังให้นาง แต่สามารถมองออกว่าเขายังคงใส่หน้ากาก

และหญิงผู้นั้นกลับคุกเข่าอยู่หน้าเขา ยังคงร้องไห้เบาๆ

เมื่อนางเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงผู้นั้น

หลานเยาเยาก็มุมปากกระตุก

ให้ตายเหอะ!

เป็นโหลวเย่วหรือ?!

ค่ำคืนดึกดื่นนางวิ่งมาตำหนักของนางทำไม?

“แฮ่มแฮ่ม!” นางจงใจกระแอมเบาๆออกมา

หลังจากที่จื่อซีได้ยิน ก็รีบหันหลังมา ยกมือทำความเคารพต่อนาง : “คุณหนู”

“เกิดอะไรขึ้น?”

นางมองไปทางโหลวเย่ว ตอนนี้โหลวเย่วก็เงยหน้าขึ้นมองนาง หลังจากเห็นหน้าที่เย็นชาของนาง น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลลงมาทันที ท่าทางน้อยใจเป็นที่สุด

“……”

เอ่อ……

เหมือนว่านางจะไม่เคยรังแกนางนะ? น้อยใจอะไรกัน!

“ตอบคุณหนู พระราชธิดาจาวหยางโดน โดนอ๋องเย่ไล่ออกมาขอรับ นางโกรธมาก และได้ยินมาว่าอ๋องเย่อยู่ในตำหนัก ดังนั้นจึงได้ปีนข้ามกำแพงเข้ามาในยามวิกาลเพื่อจะไปพูดเหตุผลกับอ๋องเย่ขอรับ”

จื่อซีเอาคำพูดก่อนหน้านี้ของโหลวเย่ว ถ่ายทอดให้นางฟังอย่างละเอียด

ไล่ออกมา?

ไม่ใช่หรอก?

ในจุดนี้เป็นหมื่นนางก็ไม่เชื่อ

เย่แจ๋หยิ่งไม่ใช่คนเช่นนั้น นอกจาก……

“เจ้าทำเรื่องชั่วร้ายที่ผิดร้ายแรงอะไร?” นางมองไปทางโหลวเย่วอย่างเย็นชา ในแววตามีประกายความสงสัยแวบออกมา

ได้ยินดังนั้น!

โหลวเย่วก็รีบส่ายหัว ร้องไห้พร้อมพูดอย่างจริงใจมาก :

“ไม่มี เสด็จอาเขาอารมณ์ไม่ดีล้วนๆ”

“……”

อันนี้……

เอาเหอะ!

นี่เป็นเรื่องที่เย่แจ๋หยิ่งสามารถทำได้จริงๆ

“ค่ำคืนฟ้ามืดแล้ว ได้เลยเวลาเที่ยงคืนแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้” หลานเยาเยาหันหน้าไปมองทางจื่อซี ปริริมฝีปากขึ้น “เตรียมให้นาง……”

เพียงยังไม่ทันจะพูดจบ

โหลวเย่วก็ตัดบทนางอย่างรีบร้อน และพูดด้วยความวิตกกังวล:

“ไม่ใช่ เทพธิดา ตอนนี้ข้าอยากจะไปหาเสด็จอาถามให้ชัดแจ้ง เขาผีเข้าผีออก กลางวันหาคนไม่เจอเป็นแน่”

ไม่เช่นนั้นนางก็คงไม่ปีนข้ามกำแพงมาตอนเที่ยงคืนแล้ว

“เช่นนั้นเจ้าก็อยู่ที่คุกลับหนึ่งคืน!”

พูดจบ

หลานเยาเยาก็หมุนตัวจากไป ไม่ให้โอกาสโหลวเย่วเปิดปากแม้แต่น้อย

“เทพธิดา เทพธิดา ท่านอย่าไร้ความปรานีเช่นนี้สิ!”

ที่เขตล่าสัตว์ของพระราชวงศ์ ทั้งๆที่นางยังช่วยเหลือตัวเองแท้ๆ น่าจะพูดง่าย เป็นคนดีถึงจะถูกนี่!

ทำไมในพริบตาก็เปลี่ยนกลายเป็นไม่รู้จักกันแล้ว?

ไม่ว่ายังไงนางก็เป็นพระราชธิดา คิดไม่ถึง…….คิดไม่ถึงว่าจะให้นางอยู่ในคุกลับ

ฮือฮือฮือ!

นางไม่เอา

“พระราชธิดาจาวหยางอยู่ที่นี่อย่างสบายใจคืนหนึ่ง เดี๋ยวข้าจะไปเอาผ้าปูที่นอนมาให้ท่านขอรับ”

สำหรับการจัดการของคุณหนูของเขา เขาไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรไม่เหมาะสมสักนิด

ขณะที่เขากำลังหมุนตัวจะเดินจากไป พระราชธิดาจาวหยางก็เรียกเขาไว้ :

“นี่ เจ้ารอเดี๋ยว” หลังจากที่เห็นเขาหยุดลง พระราชธิดาจาวหยางก็พูดต่อ : “เทพธิดาของพวกเจ้าต้อนรับแขกเช่นนี้หมดเลยหรือ?”

“สำหรับผู้ที่บุกรุกตำหนักยามค่ำคืนขอรับ ผู้เบาหน่อยก็หักมือเท้า ผู้ที่หนักก็ส่งไปสุสานขอรับ”

หลังจากเห็นพระราชธิดาจาวหยางตกใจจนต้องปิดปาก จื่อซีจึงได้เปิดปากพูดอีกครั้ง : “ยังไงพระราชธิดาจาวหยางก็พักที่นี่อย่างสบายใจคืนหนึ่ง อย่าก่อเรื่องเยอะ ข้าน้อยขอตัวขอรับ!”

“ได้ได้ได้ สบายใจแน่นอน ข้าไม่ก่อเรื่อง”

ยังดีที่ตัวเองเป็นคนหน้าตาเป็นที่คุ้นเคย

หากไม่เช่นนั้น ต้องโดนไม้โบยตายเป็นแน่ จากนั้นก็โดนโยนไปที่สุสาน

แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว!

หลังจากที่จื่อซีออกมาจากคุกลับ ก็เอาผ้าปูที่นอนมาให้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นพระราชธิดาจาวหยางไม่ร้องโวยวาย และนอนอย่างเงียบสงบแล้ว

เขาก็เดินจากไป

แต่ด้านหลังกลับมีเสียงดังขึ้น : “เสียงของเจ้าเหมือนองครักษ์ลับคนก่อนของเสด็จอาคนหนึ่งมาก วิชาการรักษาของเขาดีมาก”

จื่อซีร่างกายชะงักไปครู่หนึ่ง

“พระราชธิดาจาวหยางนอนให้เร็วหน่อยขอรับ”

แต่เขายังเดินไปได้ไม่ไกล ก็ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าคุกลับ ยืนตลอดจนฟ้าสว่างถึงได้จากไป……

และหลานเยาเยาก็ไม่ได้อยู่ในห้องนอน

นางที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะนอนไม่หลับ หลังจากที่ออกมาจากคุกลับ ก็มุ่งไปที่ห้องยา

ด้านในห้องยามีวัสดุปรุงยาล้ำค่าที่หายากทั้งนั้น และยังมีหลากหลายชนิด เปรียบได้กับร้านยาร้านหนึ่ง

ที่ใกล้ๆหน้าต่าง มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่วางไว้ ที่บนหนังสือครึ่งหนึ่ง ทั้งหมดวางวัสดุปรุงยาไว้

และที่อีกครึ่งหนึ่ง วางพู่กันหมึกกระดาษและหินใส่หมึกไว้

หลานเยาเยาที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน หลังจากที่เลือกสมุนไพรชนิดหนึ่ง ก็ตั้งใจเขียนชื่อวัสดุปรุงยาบนหนังสือ

“ห้าว……”

ไม่รู้ว่าหาวไปกี่ครั้งแล้ว

หลังจากที่หาว นางก็หยิบถ้วยชาคิดอยากจะจิบน้ำชาหนึ่งอึก

กลับพบว่าในแก้วชาไม่มีน้ำชาแล้ว

ด้วยเหตุนี้ นางจึงยกกาน้ำชา ยังไม่ทันจะเทน้ำชาลงแก้ว ก็พบว่ากาน้ำชาเบาหวิว

เมื่อหยิบกาขึ้นมาดู ข้างในก็ว่างเปล่า

และนี่เป็นกาน้ำชากาที่สามแล้ว……

ความจริงแล้ว บางคราวกาน้ำชาก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งการโจมตีของคนที่ง่วงนอนได้

หลังจากที่เขียนชื่อวัสดุปรุงยาตัวสุดท้ายแล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะยืดเส้นยืดสาย

“ในที่สุดก็ทำเสร็จแล้ว”

จากนั้นนางก็หยิบเอาวัสดุปรุงยาเดินออกจากประตูห้องไป เห็นจื่อซีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจังพอดี

หลังจากที่เห็นนาง ก็เห็นได้ชัดว่าโล่งใจไปอึดหนึ่ง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน