หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 292 คิดจะลงไม้ลงมือกับข้า

บทที่ 292 คิดจะลงไม้ลงมือกับข้า

บทที่ 292 คิดจะลงไม้ลงมือกับข้า

เอ่อ……

ไม่ถูก

รบกันกับผีอะไรล่ะ!

ไข่ไก่ปะทะก้อนหิน เท่ากับรนหาที่ตายเอง

ในเวลานี้นางควรใช้สติปัญญาวางแผนเพื่อชัยชนะ ใช้ปัญญาวางแผนการเพื่อชัยชนะวิถีทางที่ดีที่สุดคือ : กลยุทธ์ที่สามสิบหก การหลบหลีกเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

หรือพูดได้ว่า : รักษาผืนป่าผืนเขาเอาไว้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไร้ฟืนไว้ก่อไฟ

ระบบที่ตื่นเต้นจนน้ำมูกน้ำตาไหล ในที่สุดก็ได้พยักหน้าด้วยความชื่นใจ

สู้ไม่ชนะก็วิ่งหนี

เจ้านาย ในที่สุดก็เริ่มมีความคิดแล้ว

“มั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่ามั่นใจในตัวเองเกินไป ก็จะตายขณะยังหนุ่มยังแน่น” บุคคลลึกลับยิ้มอย่างน่าสะพรึง น้ำเสียงแก่ๆดังขึ้นมาอีกครั้ง

“หากว่าเจ้าสามารถชนะข้าได้……”

บุคคลลึกลับยังไม่ทันจะพูดจบ

หลานเยาเยาก็เอายาออกมาจากระบบเม็ดหนึ่ง ทำให้ตกลงไปที่พื้น

ในทันใด!

ก็มีหมอกควันสีขาวขนาดใหญ่ปกคลุมนางไว้ จากนั้นก็แฉลบตัว แอบหลบหนีไปก่อนเป็นดีที่สุด

“คิดจะหนี? หึ!”

บุคคลลึกลับหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเงา ไปปรากฏตัวกลางหมอกควันสีขาวทันที

สวมใส่ถุงมือสีดำ มือที่แผ่กระจายกลิ่นอายความชั่วร้าย ใช้ฝ่ามือกำลังภายในมุ่งโจมตีไปทางที่หลานเยาเยาจากไปโดยตรง

กำลังภายในที่น่ากลัวเช่นนั้น โบกพัดใบไม้ที่พื้นให้หมุนขึ้น แปรเปลี่ยนเป็นมีดที่แหลมคมอย่างที่สุด โจมตีไปที่ด้านหลังของหลานเยาเยาทันที

นางรู้สึกได้ถึงอันตรายถึงชีวิต มือหนึ่งประคองจื่อเฟิงที่หมดสติไว้ มือหนึ่งเริ่มดึงกำลังภายในขึ้นมา ทันใดนั้นก็หมุนตัว

แต่ที่ทำให้นางคิดไม่ถึงก็คือ……

กำลังภายในอันทรงพลังที่โจมตีมาทางนาง สูญสลายไปในพริบตาเมื่อนางหมุนตัวไป

ในเวลานี้!

มีเงาดำปรากฏขึ้นในนัยน์ตาของนาง แล้วหายวับไป แทบจะทำให้เขาและนาง คิดว่าตัวเองตาลาย

แต่ว่า……

นางกลับได้กลิ่นหอมที่แปลกประหลาด และกลิ่นคาวเลือดจางๆที่แทบจะดมกลิ่นไม่ได้

รอจนหมอควันสีขาวจางหายไป ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ รถม้าที่หยุดอยู่ไม่ไกลก็ไม่อยู่แล้ว

สีหน้าของบุคคลลึกลับตะลึงงันไปเล็กน้อย

แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยมีใคร สามารถหนีรอดจากฝ่ามือเมื่อครู่ของเขาไปได้

คิดไม่ถึง…….

“หึ!”

“หนี? บนโลกใบนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าทั้งหมด จะสามารถหนีไปที่ไหนได้?”

ในเวลานี้!

ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นกลิ่นอายความชั่วร้ายของเขา ก็อดกลั้นความกลัวไว้ในใจและรายงาน :

“ได้เบาะแสพิณกู่ฉินจื่อหลิงแล้วขอรับ อยู่ในเมืองหลวง!”

ได้ยินดังนั้น

ดวงตาของบุคคลลึกลับก็ดูครุ่นคิด ดวงตาที่ดูเย็นชาและน่ากลัวก็ส่องสว่างขึ้นเล็กน้อย……

……

จวนเทพธิดา ลานด้านหลัง

“จื่อซี”

เมื่อพาจื่อเฟิงเหาะเข้ามาในจวน หลานเยาเยาก็ตะโกนเรียกชื่อจื่อซีทันที

“ซ่าซ่า…..”

“เยาเยา เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง? ไม่เรื่องอะไรรึเปล่า! ให้ข้าดูหน่อย”

แต่คนที่ออกมาไม่ใช่จื่อซี แต่เป็นป่ายเม่ยเซิงที่เปลือยท่อนบน เขาเป็นห่วงนางมากวนรอบตัวนางหนึ่งรอบ

มองสังเกตอย่างละเอียด ดูว่านางได้รับบาดเจ็บที่ไหนหรือไม่

และสำหรับจื่อเฟิงที่อยู่ในอ้อมแขนของนาง แม้เพียงแวบหนึ่งเขาก็ไม่มอง

แต่ทว่า!

เขาไม่ชอบการที่มีผู้ชายคนอื่นมาถูกเนื้อต้องตัวหลานเยาเยาเป็นที่สุด ดังนั้นจึงรีบแย่งจื่อเฟิงออกมาจากมือของหลานเยาเยา

“ข้าไม่เป็นไร เขาบาดเจ็บหนักมาก เจ้าระวังหน่อย”

หลานเยาเยาค่อนข้างเป็นห่วงจื่อเฟิง

จากนิสัยของป่ายเม่ยเซิง คาดว่าเพียงแค่พ้นจากสายตานางไป จื่อเฟิงจะถูกเขาโยนทิ้งไปที่ไหนก็ไม่รู้

และป่ายเม่ยเซิงเห็นเสื้อผ้าของจื่อเฟิงไม่เรียบร้อย ทั้งเสื้อคลุมก็ไม่มีแล้ว

จึงรีบเบิกตาโพลงแล้วถามขึ้น : “เขา……เขาทำอะไรกับเจ้าหรือ?”

“……” หลานเยาเยาจนปัญญานิดหน่อย พูดกับเขาแกมหลอกล้อว่า : “ทำไมถึงไม่ถามว่าข้าทำอะไรกับเขา?”

เสื้อคลุมของจื่อเฟิงโดนป้ายไปด้วยยาพิษที่ร้ายกาจ

นางก็ต้องถอดออกให้เขาเป็นแน่อยู่แล้ว

“คิดว่าเขาก็คงไม่กล้าทำอะไรเจ้า เพียงแค่เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ส่งเขามาให้ข้า”

หลังจากที่เขายืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วว่าหลานเยาเยาไม่ได้มีปัญหา จึงคิดจะจัดการชายหนุ่มในมือที่ขวางหูขวางตานี่ออกไปซะ

ด้วยเหตุนี้!

เขาจึงหันหลังเดินจากไป

หลังจากจัดการชายหนุ่มที่ขวางหูขวางตานี่แล้ว เขาก็สามารถใช้นามการเจรจาการค้า ในการไปมาหาสู่กับหลานเยาเยาโดยลำพัง

เรื่องที่ทำให้จิตใจของคนตื่นเต้นได้ขนาดนี้ เขาเริ่มรู้สึกอดทนรอต่อไปไม่ได้แล้ว

“รอก่อน”

เมื่อเห็นป่ายเม่ยเซิงจะแบกจื่อเฟิงจากไป

หลานเยาเยาจึงเอ่ยขึ้น :

“ส่งให้จื่อซีดีกว่า!” ส่งให้ป่ายเม่ยเซิงนางอดห่วงไม่ได้จริง

“เยาเยา เจ้ายังไม่เชื่อถือข้าอีกหรือ?”

ป่ายเม่ยเซิงน้อยใจนิดหน่อย ใช้สีหน้าเศร้าสร้อยมองหลานเยาเยา “ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่มีคนบุกรุกเข้ามาในจวนแล้ว จื่อซีองครักษ์คุ้มกันของเจ้ากำลังทำการสอบสวนเขาอยู่!”

“เช่นนั้นซาหมั่นเฉิงล่ะ?”

นางคิดว่าซาหมั่นเฉิงมีความน่าไว้ใจกว่าป่ายเม่ยเซิง

“เขาหรอ! เขาไม่อยากพบเจ้า คาดว่าตอนนี้ยังคงหลบในผ้าห่มระบายความทุกข์อยู่กับท่านโจ๊วก๊งหน่ะ!”(ท่านโจ๊วก๊งได้สมญานามว่า ‘เทพแห่งความฝัน‘)

เอ่อ……

ซาหมั่นเฉิงผู้นี้ หลังจากมาถึงตำหนักเทพธิดาของนางมาเป็นพ่อครัวให้นาง ก็หลบเลี่ยงนางมาตลอด

เกรงว่าเมื่อพบเจอนางแล้ว จะควบคุมมีดที่อยู่ตรงเอวของตัวเองไม่ได้

เพียงแต่……

น่าน้อยใจขนาดนี้เชียวหรือ?

ก็เพียงแค่ขอเขามาจากข้างกายของหานแสชั่วคราว……มาช่วยทำอาหารเอง มีอะไรน่าน้อยใจนักหนา?

ความถนัดของก็คือพ่อครัวนี่!

เห้อ!

ไม่เข้าใจจริงๆ

ดูท่าแล้วตอนนี้ก็มีเพียงแค่ป่ายเม่ยเซิงที่พอจะช่วยได้แล้ว

“เช่นนั้นเจ้าพาจื่อเฟิงไปที่ห้องก็เขาก็ได้”

จากนั้น นางก็เดินไปข้างๆป่ายเม่ยเซิง ตีไปที่บ่าของเขาอย่างจริงจัง “ส่งจื่อเฟิงกลับห้อง ขอมอบภารกิจที่เป็นเกียรติและยิ่งใหญ่นี้ให้แก่เจ้า”

ป่ายเม่ยเซิงที่อึดอัดใจเป็นที่สุดเพราะความไม่เชื่อใจของหลานเยาเยา เวลานี้เมื่อเห็นมือของหลานเยาเยาวางอยู่บนไหล่ ใจก็พองโตขึ้นมา

“เยาเยา เจ้าวางใจ ข้าไม่ทำอะไรเขาแน่”

“อืม!”

หลังจากที่ป่ายเม่ยเซิงพาจื่อเฟิงพ้นออกจากสายตาของหลานเยาเยา หลานเยาเยาก็เคลื่อนสายตาไปทางอื่น เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็หรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้

จากนั้นก็หายตัวจากไป

ตำหนักเทพธิดา ห้องนอนชั่วคราวของเย่แจ๋หยิ่ง

ประตูที่ปิดสนิท บนกลอนประตูที่ไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย มีมีดสั้นที่แหลมคมด้ามหนึ่งแทงเข้ามา หลังจากนั้นกลอนประตูก็ค่อยๆขยับขึ้นทันที

ก่อนที่กลอนประตูจะตกถึงพื้น

หลานเยาเยาที่ใส่ชุดแดงก็ผลักประตูห้องเบาๆ แฉลบตัวเข้ามา จากนั้นก็รับกลอนประตูที่ตกลงมาไว้

หลังจากที่วางกลอนประตูลงเบาๆ

จากนั้นก็แวบตัวไปถึงข้างเตียงของเย่แจ๋หยิ่ง มองไปที่ม่านสีเข้มที่ปิดสนิท นางยื่นมือไปแหวกออกเบาๆ

ใบหน้าที่หล่อเหลาดั่งเทพเซียนปรากฏอยู่ในสายตา

สีหน้าของเขาดูดีมาก หายใจปกติ

ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้?

ไม่ได้เจอมาตั้งสองสามวันแล้วไม่ใช่หรือ? หรือว่าเขากลับมานอนที่นี่ทุกคืน?

มองดูโฉมหน้าของเขาอย่างเงียบๆ ดวงตาของหลานเยาเยามีประกายขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

จากนั้น

นางยื่นมือไปคิดที่จะสัมผัสตรงชีพจรที่ข้อมือของเขา แต่พอใกล้จะถึง ข้อมือของตัวเองกลับโดนคว้าไว้ทันที

ดวงตาที่เฉียบแหลมและเย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งเปิดขึ้นมาในทันใด เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ดึกขนาดนี้แล้ว เทพธิดามาที่ห้องของข้าคิดจะทำอะไร?”

มองดูมือที่โดนจับไว้จนเกิดความเจ็บ หลานเยาเยากล่าวพร้อมรอยยิ้มอันเย็นชา :

“คืนนี้มีขโมยเข้ามาในตำหนัก จึงมาสืบหา”

บอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา หลังจากที่พูดจบ ก็คิดจะดึงมือกลับ

แต่ทว่า……

กลับยังคงถูกจับไว้แน่น ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย

“ปล่อยมือ”

“สำหรับผู้ที่บุกรุกเข้ามาในห้องนอนของข้า ผู้หญิงที่คิดทำการไม่ซื่อต่อข้า ทำไมข้าจะต้องปล่อยมือ”

โธ่เว้ย!

“คิด คิดไม่ซื่อ? ใครจะคิดไม่ซื่อกับท่าน?”

นี่คือตำหนักเทพธิดาของนาง มีที่ไหนที่นางไปไม่ได้?

“หรือว่าเมื่อครู่เจ้าไม่ได้คิดจะลงไม้ลงมือกับข้า?”

“……”

เอ่อ……

นั่นนางแค่อยากจะจับชีพจรให้เขา

“ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว?” เขามองนางด้วยความเฉยชา

“ไม่ใช่ ข้ามามีเพียงหนึ่งจุดประสงค์……”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท