หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 308 ภาพชายรูปงามที่อาบน้ำอยู่

บทที่ 308 ภาพชายรูปงามที่อาบน้ำอยู่

บทที่ 308 ภาพชายรูปงามที่อาบน้ำอยู่

ความหนาวอันเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของนางในพริบตา จากนั้นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง

เสียง “พั่บ” ดังขึ้น บันทึกประวัติศาสตร์ถูกปิดลง

ทันใดนั้น!

หลานเยาเยาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ร่างกายเย็นวาบไปทั้งตัว ดูตื่นกลัวอย่างรุนแรง

เข็มเงินสี่เล่มที่ส่องประกายปรากฏขึ้นระหว่างนิ้วทั้งห้า ขณะที่กำลังจะหันหลัง ก็ได้ปล่อยเข็มในมือออกไป พุ่งไปทางต้นตอของเสียง……

“ฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้ว……”

ผู้ที่ทำให้ตกใจดูผ่อนคลายสบายใจ พวกเขานั้นอยู่ใกล้กันมาก ด้วยระยะห่างแค่นี้ยังไงก็หลบไม่พ้น

จากนั้น!

ริมฝีปากบางของชายผู้นั้นก็กระตุกขึ้น ถอยกรูดไป หลังจากที่ถอยไปได้ระยะหนึ่ง ร่างก็หายวับ หลบเลี่ยงเข็มเงินทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุที่จู่ๆก็โผล่มา และดันเป็นคนที่หล่อเหลาราวกับทวยเทพอย่างเย่แจ๋หยิ่ง เมื่อหลานเยาเยาเห็นว่าเขาหลบได้ ก็ทำได้แค่ฮึมฮัมออกมาอย่างเย็นชา และนิ่งเฉยไป

จะมาทำอะไรใกล้ซะขนาดนี้ล่ะ?

นางแค่อยากจะให้เขาอยู่ห่างจากนางสักหน่อยก็แค่นั้น ส่วนความหวาดกลัวที่น่าอายนั่น ไว้จะคิดบัญชีทีหลังก็แล้วกัน

“อ๋องเย่ สบายอกสบายใจจริงเชียว” มาถึงที่เพื่อทำให้นางตกใจเลยงั้นรึ?

ชายผู้นี้……

ไม่ใช่ว่าโมโหไปแล้วรึนั่น? หรือว่าเป็นพวกง้อยากอะไรพวกนั้น

“ข้ามาก่อน” เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวใจเป็นอย่างมาก

เขาหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน ยืนอยู่ตรงชั้นหนังสือข้างๆนางนี่เอง นางเข้ามาอย่างลุกลน รื้อหาหนังสือให้ว่อน ผ่านหน้าผ่านตาเขาไปแล้วตั้งสองรอบ แต่ก็ไม่สังเกตเห็นเขาเลย

เขาไร้ค่าเพียงนั้นเลยรึ?

“เจ้ามาก่อนอย่างนั้นรึ?” เหตุใดนางถึงไม่ทันสังเกตกันนะ?

หลานเยาเยามองเขาอย่างสงสัย ราวกับว่ากำลังชั่งน้ำหนักคำพูดของเขา จะยังไงก็เถอะ “มาก่อนแล้วมันทำไม?”

มาก่อน แล้วจะมาทำให้คนอื่นกลัวก็ได้งั้นรึ?

มาก่อน แล้วมันจะต่างกับนาง ที่ก็แอบเข้ามาเหมือนกันงั้นสิ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็หมดหนทาง

แต่ก็ไม่ได้อยากจะเถียงเรื่องนี้กับนางต่อ จึงทอดสายตาไปที่มือของนาง พลางพูดเรียบๆ

“เจ้าสนใจในต้นปรารถนารักมากเลยรึ?”

“สนใจ? ไม่ได้สนใจสักหน่อย! เหตุใดถึงพูดว่าข้าสนใจกันล่ะห้ะ?

คิดว่าข้าแอบเข้ามาที่นี่เพื่อดูหนังสือเล่มนี้เนี่ยนะ? มันจะไปเป็นความลับอะไรกันล่ะ?

อ่าห้า! ข้าก็แค่รู้สึกว่าพิธีการของงานวัดมันหนักหน่วงไปหน่อย ลำบากเกินไป ก็เลยกะว่าจะมาหาที่เงียบๆอ่านหนังสือ ฝึกจิตฝึกใจสักหน่อย

ก็ไม่คิดว่าจะมาเจออ๋องเย่ ดูท่าแล้ว เจ้าเหมือนจะสนใจหนังสือในมือของข้าล่ะสิ อ่ะ เอาไปสิ”

เมื่อพูดจบ

หลานเยาเยามองหนังสือในมือ แล้วก็โยนมันไปทางเย่แจ๋หยิ่ง ขณะที่เย่แจ๋หยิ่งจะรับไป นางก็ปลีกตัวจากไปแล้ว

หลังรับหนังสือมา

เย่แจ๋หยิ่งก็มองที่ที่นางหายลับไป แล้วก็มองหนังสือในมือ ด้วยสายตาที่จมลงจมลง………

พิธีการของงานวัดมักจะยุ่งยากกว่าปกติ ใช้เวลาคร่าวๆประมาณชั่วยามครึ่ง

เป็นชั่วยาม!

รวมๆแล้วเป็นเวลาตั้งสามชั่วโมง ก็มากพอที่จะทำให้คนอยู่ไม่นิ่งอย่างหลานเยาเยาใจตุ้มๆต่อมๆได้

ตอนนี้งานวัดจบลงแล้ว ผู้คนที่มาร่วมงานวัดจากทั่วทุกสารทิศ ต่างก็กำลังดูการเแสดงต่างๆนาๆในงานวัด จุดธูปขอพรให้โชคดีมีสุขไปจนถึงให้คำมั่นสัญญากันอยู่ใต้ต้นปรารถนา

ทั้งนี้ทั้งนั้น

พื้นที่บนภูเขาที่จัดงานวัดในขณะนี้ ก็แทบจะเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา

ที่ที่เงียบที่สุดในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นเรือนสี่ประสานที่นางอยู่ เพราะการปะทะกันกับฉินหลิงเจียว ทุกคนจึงได้รู้กันว่านางกำลังอยู่ที่นี่

แม้ว่าระยะห่างจากในห้องมาถึงด้านนอกห้องจะเงียบสงบมาก

แต่สิ่งที่หลานเยาเยาไม่รู้ก็คือ

ที่ทางเข้าเรือนสี่ประสานของนางนี้ได้เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ซึ่งเรียงรายกันเต็มไปหมด ทุกคนมองไปที่ประตูห้องของนางอย่างใจจดใจจ่อ

เทพธิดา!

เคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนาม แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องอยากเห็นเทพธิดาผู้เป็นที่กล่าวขาน ด้วยตาของตัวเองว่าเป็นเช่นไรบ้าง?

และแน่นอน!

นอกจากเรื่องที่นางเป็นเทพธิดาแล้ว ก็มีเรื่องตำนานความงดงามของนาง ได้ยินมาว่ามีเสน่ห์น่าหลงใหล งดงามดุจดั่งนางฟ้านางสวรรค์ ซึ่งพวกเขาต่างก็เลื่อมใสศรัทธากันมาเนิ่นนาน

ส่วนหลานเยาเยาอยู่ในห้องโดยไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย

นางได้นอนอืดอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีโต๊ะเตี้ยอยู่หนึ่งตัว บนโต๊ะเตี้ยนั้นก็มีโต๊ะอาหารวางซ้อนอยู่

นางแทะเมล็ดแตงโมไป ฮัมเพลงไป อีกทั้งยังเคาะขาที่ไขว้อยู่ ดูสบายอกสบายใจเป็นอย่างมาก

นางไม่อยากจะออกไปไหน

นางไม่อยากจะลงจากเตียง

พื้นที่ที่อยู่นอกเตียงนั้นห่างไกลไปหมด

ที่สำคัญเลยก็คือ มีคนมางานวัดเยอะเกินไป วัดที่กว้างขวางบนภูเขาลูกใหญ่ลูกนี้แออัดไปด้วยฝูงชนที่พลุกพล่านปานนี้เนี้ยนะ?

นางสืบอะไรไม่ได้สักอย่าง รอพลบค่ำให้คนน้อยลงหน่อย ค่อยลงมือก็แล้วกัน!

ในที่สุดช่วงค่ำก็มาถึงสักที หลานเยาเยาที่กินจนพุงกางก็กะว่าจะออกไปข้างนอกแล้ว

“อั่ยย๊า……”

เมื่อเปิดประตู ฝูงชนที่นั่งหมอบกันอยู่ไม่ไกลนักก็พากันกลั้นหายใจในทันที

หลานเยาเยาที่กำลังจะก้าวเท้าออกประตูก็พบกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เมื่อนางหรี่ตามองไปที่ใกล้ๆนั้น

ก็ตกตะลึงไปในทันที………

กลุ่มของชายหนุ่มกลุ่มหนึ่ง ที่นั่งอยู่บ้าง หมอบบ้าง ยืนบ้าง และห้อยอยู่บ้าง……

เอ่อ……

ไอ่การห้อยที่ว่านี้ คือห้อยกลับหัวอยู่บนต้นไม้แบบค้างคาวอ่ะนะ

และพวกเขาก็กำลังมองมาที่นางกันเป็นตาเดียว แววตาของทุกคนเป็นประกาย บางคนก็ตกตะลึง ถึงขั้นน้ำลายไหลเลยก็มี

“……”

นางไปทำชั่วอะไรไว้ละเนี่ย?

ดังนั้น!

“ปัง……” ประตูห้องถูกปิดลง

จากนั้น หน้าต่างด้านหลังเรือนสี่ประสานที่ค่อยๆแง้มออกส่งเสียงดัง “แอ๊ด” ขาของนางยังไม่ทันได้ก้าวข้ามหน้าต่างมา ก็ได้เห็นสายตาเรียงรายด้วยความปรารถนาอันแรงกล้ามองมาที่นาง

แม่เจ้า!

พวกเอ็งบ้ากันไปแล้วรึไงเนี่ย?

กลุ่มคนด้านหลังแออัดติดกันแน่นเอี๊ยด เยอะกว่าคนที่อัดแน่นกันอยู่ด้านหน้าเสียอีก นางปิดหน้าต่างลงด้วยความทุกข์ใจ

“จื่อซี,พวกเขามาอยู่ที่นี่กันนานแค่ไหนแล้ว?”

“มาตั้งแต่พิธีงานวัดเสร็จแล้วขอรับ” เสียงดังมาจากทางคานไม้

“ปลื้มปริ่มจริงๆ!”

ตอนนี้มันก็มืดค่ำมากแล้ว ยังจะนั่งกันอยู่อีก ดูท่าทางของพวกเขาเมื่อครู่แล้ว………น่าจะเป็นพวกรอจนรุ่งสางก็ไม่หวั่นแน่ๆ

ดังนั้น!

เมื่อนางหัวเราะฮิฮิ สายตาเจ้าเล่ห์ก็ฉายแววออกมา

“จื่อซี เข้ามา อยู่ๆคุณหนูก็คิดถึงเจ้าขึ้นมาเลยล่ะ”

ครู่ต่อมา!

ใบหน้าอย่างกับคนท้องผูกของจื่อซีมองตัวเองที่สวมชุดของเทพธิดา แล้วก็อยากจะร่ำไห้จริงๆ

เอาอีกแล้ว

นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่โดนสั่งให้ใส่ชุดผู้หญิง?

“คุณหนู ท่านพาข้ามาในครั้งนี้ หากข้าไม่ได้คอยปกป้องท่าน แล้วท่านเกิดเป็นอันตรายขึ้นมาจะทำเช่นไรขอรับ?”

อันที่จริง!

สิ่งที่จื่อซีอยากจะพูดที่สุดก็คือ ทำไมคนที่ต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงต้องเป็นเขาทุกครั้งเลย?

หลานเยาเยาที่อ่านใจเขาออกตั้งแต่แรก ก็ตบไหล่เขาเบาๆ เหมือนกับว่าข้าเข้าใจเจ้านะ “ไม่ต้องห่วง คราวหน้าจะให้จื่อเฟิงมาทำเรื่องพวกนี้”

“……” เขาจะเชื่อคำของนางได้ไหมเนี่ย?

ประโยคนี้ของเทพธิดา ที่เขาได้ยินทำเอาหูผึ่งขึ้นมา

ต่อให้ถึงตอนที่คุณหนูให้จื่อเฟิงมาใส่ชุดผู้หญิงจริงๆ แต่ด้วย“ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ”ของจื่อเฟิง สุดท้ายก็เขาไม่ใช่รึที่จะต้องใส่ชุดผู้หญิงน่ะ?

ฮึกฮึกฮึก……

อาภัพสุดๆเลย!

โชคดีที่พระราชธิดาจาวหยางไม่ได้มางานวัดด้วย ถ้าเกิดนางเห็นเข้าละก็ ต้องหัวเราะจนฟันร่วงเป็นแน่

เอ๊ะ?

อยู่ๆก็นึกขึ้นมาเฉย

จื่อซีตีๆๆหน้าผากของตัวเอง พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

คิดอะไรเนี่ย!

ทันใดนั้น!

จื่อซีที่สวมชุดของเทพธิดา พกผ้าเช็ดออกจากประตูมา จากนั้นก็ทำเหมือนผ่อนคลาย เดินมาที่ที่คึกคักมากที่สุดของงานวัดในยามค่ำคืน

เมื่อเห็นเทพธิดาเดินจากไปไกล ชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ก็ตามมาเงียบๆ

จื่อซีดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศเมื่อได้เดินผ่านมา

หลานเยาเยาก็อุ่นใจจึงได้ออกมาทางหน้าต่างด้านหลัง

ขณะนี้ยังไม่ดึกมากนัก นางจึงจะไม่ไปในที่ที่คนพลุกพล่าน และจะไปทางหลังเขา ที่ได้ยินมาว่ามันมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ

นางจึงจะไปดูสักหน่อย

แต่ไม่คิดเลยว่า นางจะได้เห็นฉากควันคละคลุ้ง——เป็นภาพชายรูปงามที่กำลังอาบน้ำ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท