หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 309 อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

บทที่ 309 อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

บทที่ 309 อารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

บ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่ในเขตป่าไผ่บนภูเขาด้านหลังวัด

แสงจันทร์ยามค่ำคืนส่องกระทบป่าไผ่อันเขียวชอุ่ม ทิ้งรอยจันทราระเรื่ออยู่บนพื้นผิว รวมทั้งมีหมอกหนาวอันบางเบาครอบคลุมอยู่ทั่วผืนป่า ดุจดั่งโลกมายาในจินตนาการ

หลานเยาเยาอยู่ท่ามกลางป่าไผ่ ยืนอยู่สุดเดินอันเงียบสงบ โดยที่ตรงหน้าของนางเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีควันพวยพุ่ง มีชายคนหนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนนั้น

เห็นแค่เพียงแผ่นหลังของเขา……

แต่ ถึงจะเป็นแค่แผ่นหลัง นั่นก็เป็นการมีอยู่ที่หล่อเหลาเปล่งปลั่งทำเอาคนน้ำลายสอได้เลยทีเดียว

แม่เจ้าโว้ย!

“จิ๊กจิ๊กจิ๊ก·····” นางอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมา

รูปร่างแบบนี้

จะไม่ดูก็เสียดาย ดูแล้วก็ไม่ได้เสียอะไร งั้นใครล่ะจะไม่ดู?

ดังนั้น!

หลานเยาเยากำลังกะจะหมอบลง ว่าจะเท้าคางดูให้เพลินตาสักหน่อย ไม่ทันได้คิดว่าจะเป็นการขัดจังหวะชายในบ่อน้ำพุร้อน

“ผู้ใด?”

เสียงอันเย็นยะเยือก เสียดแทงแก้วหูของนางดั่งน้ำแข็ง

ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะตื่นกลัว ผมสยายออกจากมือในพริบตา

เสียงนี้มัน······

เป็นเขา!

แม่เจ้า จบแล้ว เอาตัวรอดก่อนล่ะกัน

แต่ มันสายไปเสียแล้ว เพราะเมื่อนางหันหลังกลับมา ดาบยาวที่ส่องประกายก็ได้จ่ออกของนางแล้ว

“······ข้า ข้าเอง”

หลานเยาเยามองเย่แจ๋หยิ่งที่ถือดาบจ่อนางอย่างหดหู่

เหตุใดเขาถึงได้อยู่ไปทุกที่เลยเนี่ย?

แต่ว่า ไอ่หดหู่น่ะมันก็หดหู่ แต่บางครั้งมันก็เป็นเรื่องดีมิใช่รึ?

อย่างเช่น นางได้ชื่นชมรูปร่างอันไร้ที่ติของเขาเต็มๆตาและบริสุทธิ์ใจ ไหนๆก็คิดมาถึงขนาดนี้แล้วก็ทำเลยแล้วกัน

จากนั้น สายตาของนางก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อนจากใบหน้า มายังเรือนร่างของเขา

มองเห็นแผ่นอกที่ขาวผ่องอันชุ่มฉ่ำของเขา หยดน้ำบนแผ่นอกปะปนกัน มันค่อยๆไหลลงสู่ส่วนที่น่ากินที่สุดอย่างกล้ามหน้าท้องนั้น

แต่หยดน้ำก็เหมือนจะรู้นิสัยใจคอของนาง มันไหลตามกล้ามมัดหน้าท้องอย่างอ้อยอิ่ง ซึมเข้าเสื้อคลุมไปยังที่ที่ถูกบดบัง

อื้ม พระเจ้า!

ไม่ไหวแล้วโว้ย

หลานเยาเยารีบกุมจมูกของตนในทันที แม้ว่าดวงตาจะไม่เอาด้วยก็ตาม แต่ก็ยังหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แอบกลืนน้ำลายอย่างระมัดระวัง

“อะฮื้ม····”

“······” เมื่อเขาได้ยิน

ก็รู้ว่าเป็นนาง หลังได้เห็นปฏิกิริยาของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ้มออกมาในทันที

จากนั้น ก็โยนดาบยาว ร่างแว๊บหายไป เมื่อมาโอบเอวนางจากด้านหลัง ก็อุ้มนางตรงไปกลางบ่อน้ำพุร้อน

“เจ้า เจ้าจะทำสิ่งใด?ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”

หลานเยาเยาตกอกตกใจ หลังได้สติ ตัวก็มาอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว นางอยากจะออกจากอ้อมแขนของเย่แจ๋หยิ่ง แต่ทำยังไงก็ออกไม่ได้

นางรู้สึกเพียงแต่แผ่นหลังของตัวเองที่แนบอยู่กับร่างของเย่แจ๋หยิ่ง แม้ว่ายังมีเสื้อผ้ากั้น แต่ทุกสัมผัสนั้นเร่าร้อนไปหมด

“เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อแช่น้ำแร่หรอกรึ? หืม?”

เย่แจ๋หยิ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้หูของนาง

“ไม่ใช่!”

แน่นอนว่าไม่ใช่ นางแค่จะมาดูบ่อน้ำพุร้อนหาความสงบก็เท่านั้น

“งั้นก็มาดูข้าอาบน้ำล่ะสิ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น!

นางก็ยกมุมปาก โต้กลับในทันที: “นั่นยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่! ข้า……ข้าแค่มาหาที่สงบๆเฉยๆ จะไปรู้ได้ไงว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่”

หากว่านางรู้ละก็ นางขอนอนอืดอยู่บนเตียงจนตีหนึ่งตีสองแล้วค่อยออกมาอีกทีเสียดีกว่า

“พูดเช่นนี้หมายความว่าข้าเข้าใจผิดไปงั้นรึ?” แววตาของเย่แจ๋หยิ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

นางฮึมฮัมอย่างเยือกเย็น พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “ไม่งั้นจะทำไม? จะยังไม่ปล่อยข้างั้นรึ?”

“ก็ได้!”

ในเมื่อพูดเช่นนั้น

แต่ หลังจากนั้นไม่นานนัก

หลานเยาเยาก็มองมือของเย่แจ๋หยิ่งที่ยังคงโอบเอวนางไว้ เขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่ก้าวเดียว พูดไม่ออกอย่างช่วยไม่ได้

“เจ้าก็ปล่อยเส้!”

“ข้าปล่อยแล้ว เจ้านั่นแหล่ะที่ไม่ยอมออก ข้าก็เลยนึกว่าเจ้าเปลี่ยนใจน่ะสิ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น!

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง อดทนอดกลั้น ข่มตัวเองไม่ให้ระเบิดออกมา

จากนั้นก็รีบลืมตา แววตาอันงดงามมีความโกรธอยู่บ้าง แต่ก็เจ้าเล่ห์ขึ้นมาก

ได้!

ไม่ปล่อยใช่ไหม?

นางมีทางออก

จากนั้นก็กระทุ้งศอกไปข้างหลัง ด้วยความระมัดระวังของเย่แจ๋หยิ่ง ยังไงข้อศอกนี้ก็จะไม่โดนเขา มากสุดก็แค่ทำให้เขาหลบมัน

แต่ไม่นึกเลยว่า······

ข้อศอกจะกระทบเข้ากับแผ่นอกของเขาอย่างจัง

แล้วก็ได้ยินเสียงฮึมฮัม

เขาไม่หลบงั้นรึ?

แม้ว่าจะไม่เข้าใจ แต่หลานเยาเยาก็รีบผละออกมา จากนั้นก็หันหลังมา ยิ้มบางๆมองที่เย่แจ๋หยิ่ง

แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของเขา รอยยิ้มบนหน้าก็เลือนลับไป แววตาแห่งความโกรธกลายเป็นสงสัยแทน

เพราะในตอนนี้ เย่แจ๋หยิ่งกำลังกุมหัวใจ ขมวดคิ้ว ราวกับว่าเจ็บปวดมากเหลือเกิน

“ข้าไม่ได้ใช้พลังเลยนะ!”

ถึงแม้จะใช้พลังไปนิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงมากขนาดนั้น ก็ไม่น่าจะทำให้คนที่แข็งแกร่งอย่างเขาเจ็บปวดถึงเพียงนี้หรอกกระมัง?

เขากำลังใช้กลยุทธ์ทุกข์กายงั้นรึ?

ใช้กลยุทธ์ทุกข์กายแน่ๆ!

ทว่า!

เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ค่อยๆซีดลงของเย่แจ๋หยิ่ง ใจของนางก็ตกลงไปอยู่ตาตุ่มอย่างช่วยไม่ได้ ยังไม่ทันได้พูดสิ่งใด ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งเขาจมลงน้ำไป

ขณะนี้

หลานเยาเยาทำอะไรไม่ถูก ตื่นตระหนกเกินบรรยาย

“นี่ เย่แจ๋หยิ่ง เย่แจ๋หยิ่ง อย่ามาทำเป็นเล่นนะ·····”

เมื่อเห็นว่าไร้การตอบสนอง นางก็ขมวดคิ้ว รีบดำน้ำลงไปในทันที

น้ำในบ่อน้ำพุร้อนใสมาก แต่เพราะเป็นตอนกลางคืน จึงมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างยากเย็น นางหาเย่แจ๋หยิ่งไม่พบ

เมื่อนางจะหายใจไม่ออก ก็โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ

แล้วรีบมองไปรอบๆในทันที ซึ่งก็ไม่เห็นเย่แจ๋หยิ่งที่โผล่ขึ้นมา หรือผิวน้ำที่เคลื่อนไหวเลยแต่อย่างใด

เช่นนั้น นางจึงดำน้ำลงไปหาเขาอีกครั้ง เมื่อจะหายใจไม่ออกนางก็จะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ทำเช่นนี้อยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าออกมาสิ เจ้าออกมาเร็วเข้า……”

ขณะที่นางขึ้นมาบนผิวน้ำอีกครั้ง คนทั้งคนก็ดูเป็นกังวลไปหมด

คนตัวใหญ่ทั้งคน จะหายไปได้อย่างไรกัน?

“เย่แจ๋หยิ่ง ไอ้คนเลวคนนี้นี่ ถึงจะตายไปแล้ว ก็ต้องส่งเสียงให้ข้ารับรู้ ได้ยินไหมห้ะ?”

ทันใดนั้น!

“ซ่า……”

เหมือนว่าจะมีคนโผล่ขึ้นมาจากน้ำ และเสียงก็อยู่แค่ด้านหลังนางนี้เอง

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงรีบหันหลังไป พริบตาเดียวก็เห็นเป็นเย่แจ๋หยิ่ง

ผมเผ้าที่เปียกปอน ใบหน้าที่ซีดเซียว และอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในดวงตาของเขา………

“เจ้าไปที่แห่งใดมา?” นางถามเขา

อย่างไรก็ตาม ในใจก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

เพียงแต่ว่า……

เหตุใดนางหาเขาอยู่ตั้งนานสองนานถึงไม่เจอ?

เหตุใดเพลานี้ถึงได้มาโผล่อยู่ข้างหลังนาง? ที่ที่เขาอยู่ในขณะนี้ นางก็จำได้ว่านางเคยลงไปหาแล้ว

แต่ ข้อสงสัยของนางก็ไม่มีผู้ใดให้คำตอบได้

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ตอบคำถามนาง แต่พริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหน้า มองตาของนางอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ถือวิสาสะกุมใบหน้าของนาง แล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากแดงที่ชุ่มฉ่ำของนางอย่างไม่บอกกล่าว

อื้ม……

จุมพิตที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้นางมึนงงไปในทันใด

ราวกับสติที่ล่องลอยหายไป ทุกอย่างดำเนินไปในทิศทางที่ไม่เคยวาดฝัน

เย่แจ๋หยิ่งที่เหมือนจะกลัวการปฏิเสธของนาง จึงเลื่อนมือข้างหนึ่งไปด้านหลังศีรษะของนาง ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงไปบนเอวบาง เพื่อโอบนางไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น

ริมฝีปากที่เย็นช่ำ………

สัมผัสที่เหมือนดั่งไฟฟ้าสถิต……

ความทรงจำมากมายที่ท่วมท้น ทิ่มแทงหัวใจของนางอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า……

หลานเยาเยาที่เริ่มได้สติขึ้นมา ก็พยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ

เย่แจ๋หยิ่งที่เหมือนจะคาดการณ์ไว้แล้ว จึงพาร่างทั้งสองดำดิ่งลงใต้น้ำไปด้วยกัน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท