หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 321 ถอดเสื้อผ้าเสีย

บทที่ 321 ถอดเสื้อผ้าเสีย

บทที่ 321 ถอดเสื้อผ้าเสีย

เมื่อเห็นท่าทางของเขา หลานเยาเยาก็พอจะดูออกว่าเขาไปทำอะไรมา

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านทราบหรือไม่ว่าบนตัวท่านมีบาดแผล?”

“ไม่ทราบ!”

ในขณะนั้นเขาก็ถอดชุดออก พร้อมกับขยับมือหวังจะถอดชุดให้กับนางด้วย นางจึงได้รีบห้ามเอาไว้

“ข้าไม่เป็นอะไร อีกสักพักก็อุ่นแล้ว”

ไม่ใช่ว่านางกำลังเขินอายหรอกนะ

ถึงแม้นางจะรู้สึกหนาวอยู่ แต่ก็รู้สึกอุ่นขึ้นมากกว่าก่อนนี้

“หลานเยาเยา ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าไม่ทำสิ่งใดกับเจ้าหรอก เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะถ้าเกิดเจ้าเป็นอะไรไป พวกเราทั้งสองคนจะไม่มีผู้ใดออกไปได้ ”

“ข้าไม่ได้กังวล!”หลานเยาเยารีบตอบกลับ

“เช่นนั้นก็ถอด”

“……”

ถอดก็ถอด ใครกลัวกัน?

ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ท่าทางการถอดเสื้อผ้าของนางนั้นสามารถเทียบกับเต่าได้เลย เพราะมันช่างเชื่องช้าเกินไป

ไม่ใช่ว่านางไม่อยากที่จะถอดเร็วๆ แต่ตอนนี้มือของนางกำลังสั่นเทา จึงรีบไม่ได้!

เย่แจ๋หยิ่งที่รู้สึกรำคาญใจที่นางช้าเกินไป จึงได้ยื่นมือออกไปช่วยนาง ช่วยนางถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว เพียงครู่เดียวก็ถอดจนเหลือเพียงผ้าตู้โตว

จากนั้น เขาก็ไม่ได้แก้ผ้าของนางต่อ แต่ใช้ร่างกายที่อบอุ่นของเขาดึงร่างที่เย็นเฉียบของนางมากอดเอาไว้ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาคลุมเอาไว้แน่น

ไม่ทันได้ตั้งตัว

ทั้งสองสบสายตากัน โดยที่ไม่ได้พูดกล่าวสิ่งใด

เพื่อที่จะไม่รู้สึกประหม่า หลานเยาเยาจึงมุดหน้าตัวเองลงไปในอ้อมแขนของเขา

หลังจากผ่านไปไม่นาน ร่างกายของนางก็ค่อยๆอุ่นขึ้นมา

น่าจะเป็นผลมาจากฤทธิ์ยา ทั้งสองจึงได้หลับใหลอย่างไม่รู้สึกตัว

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่

พอหลานเยาเยาตื่นขึ้นมา ก็เห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งนั้นตื่นก่อนแล้ว

หลายเยาเยาบิดขี้เกียจ ทันที่แขนข้างหนึ่งยื่นออกไป ความหนาวเย็นก็คืบคลานเข้ามายังแขนของนาง

จนนางตกใจรีบดึงมือกลับเข้ามา จากนั้นกอดเอวของเย่แจ๋หยิ่งแน่น

เมื่อได้สัมผัสกับความอบอุ่น ความหนาวเย็นก็สลายหายไปในทันที

เมื่อมองไปที่พื้นน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกรอบ ๆ มันก็ยังคงทำให้รู้สึกหนาวสั่น

นี่เป็นครั้งแรกที่หลานเยาเยาคิดอย่างตระหนักว่านอกจากสิ่งที่เรียกว่านอกจากเตียงแล้ว ที่แห่งอื่นก็ดูห่างไกลไปหมด

“ไม่อยากตื่นเลย!”

นางพูดอย่างอู้อี้

“เช่นนั้นก็นอนต่ออีกสักครู่เถอะ”เขากอดนางเอาไว้แน่น พลางตอบกลับอย่างเกียจคร้าน

เดิมทีหลานเยาเยานั้นอยากที่จะนอนต่ออีกสักพัก แต่พอนางถามว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เย่แจ๋หยิ่งก็ตอบว่าผ่านมาสามสี่ชั่วยามแล้ว นางจึงถึงกับตกใจหนัก และรู้ว่าไม่สามารถที่จะนอนต่อไปได้อีกแล้ว

จึงรู้ว่าไม่สามารถนอนบนเตียงต่อไปได้แล้ว

เพื่อที่จะป้องกันความหนาว นางจึงหยิบเสื้อผ้าออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ อย่างไรเสียอยากจะใส่เท่าไหร่ก็ใส่เท่านั้น

จากนั้นพอมองไปยังเย่แจ๋หยิ่ง

จึงได้หยิบชุดเสื้อคลุมสีดำออกมาห้าตัว ทั้งหมดล้วนเป็นเสื้อผ้าของบุรุษ จากนั้นก็วางลงตรงหน้าของเย่แจ๋หยิ่ง

“สวมให้เยอะหน่อย”

“เจ้ามีเสื้อผ้าบุรุษได้อย่างไรกัน?”เย่แจ๋หยิ่งมองดูเสื้อผ้าก็ถึงกับคิ้วขมวด

“นี่เป็นเรื่องปกติมิใช่หรือไร?ในเมื่อข้าแต่งตัวบุรุษอยู่เป็นประจำ”

“เสื้อผ้าพวกนี้มันใหญ่เกินไป เจ้าใส่ได้งั้นหรือ”

“……”ดูออกด้วยงั้นหรือ?ดังนั้น หลานเยาเยาจึงคิดหาทางแก้ตัว “เป็นของจื่อซีกับจื่อเฟิงหน่ะ”

ในเมื่อเย่แจ๋หยิ่งรู้แล้วว่านางคือหลานเยาเยา เช่นนั้นเขาก็คงจะจำทั้งสองที่เป็นองครักษ์ข้างกายได้ จื่อซีกับจื่อเฟิงองครักษ์ลับของเขา

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่เตรียมให้พวกเขา” เย่แจ๋หยิ่งหยิบเสื้อขึ้นมาตัวหนึ่ง หันไปสบตากับนางด้วยสีหน้าที่เย็นชา“เจ้าจัดเตรียมให้ผู้ใดกันแน่?”

หลานเยาเยากลอกตาใส่เขาอย่างห้ามไม่ได้ พลันพูดด้วยความระอา

“ท่านจะสนใจทำไมกันว่าเป็นของผู้ใด?มีให้ใส่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไร”

“หานแสงั้นหรอ?”

“ไม่ใช่!”เสื้อผ้าพวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกับหานแสกัน?

“องค์ชายเก้าแห่งประเทศผึงไหล?”

แม่เจ้า!

เย่แจ๋หยิ่งบ้าไปแล้วหรือไง?

แม้แต่องค์ชายเก้าแห่งประเทศผึงไหลเขายังเดาออกมาแล้ว เช่นนั้นยังจะมีอะไรที่เขาเดาไม่ถึงบ้าง?

“ใช่เขาหรือไม่?”

คิ้วของเย่แจ๋หยิ่งขมวดเข้าหากันเรื่อยๆ ราวกับเป็นสัญญาณว่าพายุกำลังจะมา

“ไม่ ไม่ใช่ จะเป็นเขาได้อย่างไร?”

“เช่นนั้นเป็นของข้า?”

“ใช่ๆๆ เป็นของท่าน……”

จู่ๆก็รู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดสิ่งใด หลานเยาเยาก็เงียบทันที ทั้งยังเกือบจะตบปากตัวเองเสียด้วย

ฉลาดน้อยนี่หน่า!

แค่นี้ก็ถูกจับได้แล้ว

ในตอนที่นางหันไปมองเย่แจ๋หยิ่ง เขาก็ได้ยกมุมปากขึ้นแล้ว ดวงตาประกายด้วยความรู้สึกประหลาด

จากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ เพียงแต่ค่อยๆสวมเสื้อผ้าทีละชิ้นๆ

“ที่แท้ก็เตรียมไว้ให้ข้านี่เอง”ขนาดกำลังพอดี คงจะเป็นชุดที่ตัดเย็บขึ้นมาเมื่อสามปีก่อน

“เยาเยาเจ้ามีใจแล้ว”

“……”

มีใจก็บ้าแล้ว!

เสื้อผ้าพวกนี้เตรียมเอาไว้ให้เขานั้นก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้เตรียมให้เขาใส่ แต่เอามาใช้จับโจร

แต่ว่า!

สิ่งนี้จะให้เขารู้ไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเขาคงจะทำหน้าไม่พอใจอีกเป็นแน่

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ หลานเยาเยาก็ฉีดยาให้กับเย่แจ๋หยิ่ง พร้อมทั้งตัวเองก็กินยา

เย่แจ๋หยิ่งได้แต่มองดูนางหยิบออกมาทีละอย่างๆจากกลางอากาศอันว่างเปล่า ทั้งยังฉีดยาให้กับเขาอย่างจริงจัง และยังประคบยาให้เขาอีก

จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้

เพียงไม่นานทั้งสองก็ฉีดยาไปด้วย พลันผลักเตียงเปลออกไปตามอุโมงค์ที่อยู่ด้านใน

พอเดินจนเหนื่อยแล้ว พวกเขาก็นั่งลงบนเตียงเปล จากนั้นก็ผลักเตียงออกอีกเรื่อยๆ แต่เตียงก็เลื่อนออกไปไกลอย่างง่ายดาย ทำให้พวกเขาประหยัดแรงไปได้เยอะ

ก่อนที่จะออกมาหลานเยาเยาก็ได้เดินทางมาเป็นระยะทางถึงสองเท่าแล้ว แต่ก็ยังไปเจอทางสิ้นสุดเสียที

หลานเยาเยาไม่เพียงแต่สงสัย แต่ยังถามด้วย

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านรู้สึกเช่นกันหรือไม่ว่าอุโมงค์ทางนี้เป็นเหมือนเขาวงกต ?ไม่ว่าเราจะเดินไปข้างหน้ามากเพียงใด มันก็ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด”

“อืม!”

“เช่นนั้นท่านเคยพบเขาวงกตแบบนี้หรือไม่?”

พอได้ยิน!เย่แจ๋หยิ่งก็นิ่งไปสักพัก ก่อนจะค่อยๆเปิดปากพูด

“อุโมงค์ทางนี้เป็นเหมือนดั่งเขาวงกตทรงกลม ในส่วนที่ลึกที่สุดของมันจะมีทางเข้า ส่วนทางออกจะอยู่ด้านบนสุดของเขาวงกต

แล้วยอดของเขาวงกตก็บิดตัวเข้าไปในเขาวงกต จากนั้นไปเชื่อมต่อกับจุดลึกสุดของวงกต ดังนั้นไม่ว่าพวกเราจะเดินยังไง ก็ไม่มีทางที่จะเดินไปถึงจุดสิ้นสุด”

ทันทีที่ได้ยินเย่แจ๋หยิ่งพูด หลานเยาเยาก็เบิกตากว้าง

ชิบหาย!

ทรงกลมก็คือสิ่งที่โลกปัจจุบันเรียกว่าลูกบอลกลมงั้นหรอกหรือ?

หากเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เย่แจ๋หยิ่งพูดก็เป็นเหมือนกับรูปทรงของขวดไคลน์อันเลื่องลืออย่างนั้นสินะ

ขวดไคลน์ที่ไม่มีวันเติมน้ำให้เต็มได้ เช่นกับอุโมงค์นี้ที่ไม่มีวันจะเดินไปถึงที่สิ้นสุด

อัจฉริยะ!

ไอคิวของเย่แจ๋หยิ่งไปถึงเท่าไหร่แล้ว?

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น แล้วพวกเราจะออกไปได้อย่างไร?”

“หลานเยาเยา เจ้าไม่ต้องกังวลไป ถึงแม้น้ำแข็งในวังน้ำแข็งใต้พิภพแห่งนี้จะเกิดข้นตามธรรมชาติ แต่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเคยมีคนมาเปลี่ยนรูปแบบของมัน ในเมื่อมีผู้ที่สามารถมาออกแบบเขาวงกตทรงกลมนี้ได้ เช่นนั้นก็ต้องมีการออกแบบสร้างกลไกช่องทางลับด้วยเช่นกัน เพียงแค่หาให้เจอกลไกของมันก็พอแล้ว”

เย่แจ๋หยิ่งจับปลายผมของนางขึ้นมา แล้วลูบมันอย่างเบาๆ ก่อนที่จะวางมันลงไปยังตัวนาง

ช่องทางนี้มีไว้เพื่อดักผู้คนที่เข้ามา ถึงจะบอกว่าให้หากลไกให้พบก็พอแล้ว แต่การหากลไกของมันนั้นคงจะไม่ง่ายดายขนาดนั้นแน่ ?

ทันใดนั้น!

มุมปากของหลานเยาเยาก็กระตุกขึ้น

“ข้าอาจจะมีวิธี”

พูดจบ หลานเยาเยาก็หยิบจิ่วเซียวหวงเพ่ยออกมา แล้วพูดอย่างมีนัยยะ

“ท่านเชื่อเรื่องภาพลวงตาหรือไม่?”

“ภาพลวงตา?”

เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

ภาพลวงตาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความคิดของตัวเอง จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร?

“อาจจะใช่ รออีกสักครู่ท่านก็ได้รู้แล้ว”

หลานเยาเยานั่งลงบนเตียงเคลื่อนที่ แล้วเอาจิ่วเซียวหวงเพ่ยวางไว้ตรงหน้า จากนั้นก็ดีดบรรเลงเพลง

ทว่า……

นิ้วขาวบอบบางก็วางลงบนสายดีด โดยไม่หยุดนิ่ง

ต้องดีดบทเพลงอะไรกันนะ?

นี่คือปัญหาใหญ่เลย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท