หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 331 อยากเอาท่านมาครอบครองเป็นของตัวเอง

บทที่ 331 อยากเอาท่านมาครอบครองเป็นของตัวเอง

บทที่ 331 อยากเอาท่านมาครอบครองเป็นของตัวเอง

ท่านไม่กลัวเลยหรือว่าแผนการของท่านจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วข้าก็จะตายอยู่ในทุ่งทะเลดอกไม้เช่นนั้น?”

ณ ตอนนี้ หลานเยาเยาไม่รู้ว่าจะใช้อะไรมาอธิบายอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ เยาเยา ก่อนที่จะดำเนินตามแผนการ ข้าใช้เลือดของเจ้าเป็นแนวทาง เลี้ยงบำรุงหนอนพิษกู่ไว้ที่กลางหัวใจ

เพียงแค่รับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานของเจ้า ข้าก็จะเจ็บปวดทรมานไปกับเจ้าด้วย หากว่าเจ้าตาย ข้าก็จะตายไปพร้อมเจ้าด้วย”

ฟังจบ หลานเยาเยาส่ายหัว พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เย่แจ๋หยิ่ง จิตใจท่านชั่งโหดร้ายนัก ไม่ใช่โหดร้ายเพียงกับข้า ท่านโหดร้ายกับตัวเองยิ่งกว่า”

หลานเยาเยารู้ คนที่บำรุงเลี้ยงพิษกู่ถงซิน

การเลี้ยงบำรุงหนอนพิษกู่ในหัวใจมาเป็นเวลานานหลายปี ร่างกายจะค่อยๆซูบผอมไปทุกวันไม่พอ แต่จะต้องทนรับกับความทุกข์ทรมานมากกว่าอีกฝ่ายอีกเป็นหลายเท่า

ก็เหมือนวันอื่นๆก่อนหน้านี้ เมื่อเย่แจ๋หยิ่งคิดอยากจะบีบคอนางให้ตาย เขาก็กลับกระอักเลือดเองเช่นกัน

ดังนั้น!

การกลับไปเมืองหลวงอีกครั้งหลังจากนั้นสามปี นางก็เห็นเขากระอักเลือดบ่อยๆ

“เยาเยา ขอโทษ!”

“เหอะ ท่านมีอะไรจะต้องขอโทษข้า? ท่านวางแผนทั้งหมดก็เพื่อข้า แม้ว่าจะต้องเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเอง ข้าดีใจแทบไม่ทันนะสิ!”

พูดออกมาอย่างง่ายดาย

แต่ในดวงตาของหลานเยาเยากลับไม่มีแววของความดีใจแม้แต่น้อย

กลับหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง แล้วพูดอีกว่า : “ทำไมหลังจากที่ลืมข้าแล้ว ไม่เอาพิษกู่ถงซินออกมา?”

ตรงจุดนี้นางไม่เข้าใจเล็กน้อย

หลังจากที่กินยาถอนพิษกู่จิ้นแล้ว ทุกคนจะมีผลข้างเคียง ผลข้างเคียงของนางคือความทรงจำที่สำคัญช่วงหนึ่งหายไป

และเย่แจ๋หยิ่งก็ได้ลืมตัวตนที่คงอยู่ของนางผู้นี้ไป

พูดตามเหตุผล

หลังจากที่เขาลืมนางแล้ว จะต้องรู้ถึงการคงอยู่ของพิษกู่ถงซินเป็นแน่ เช่นนั้นทำไมถึงไม่เอาหนอนพิษกู่ออกมา?

“เป็นข้าที่ยอมบำรุงเลี้ยงพิษกู่ถงซินเอง แม้ว่าลืมเจ้าแล้ว ข้าก็จะไม่เอาออกมาง่ายๆเป็นอันขาด”

ก็เหมือนกับแขนที่สักชื่อของหลานเยาเยาไว้

แม้ว่าจะหาความรู้สึกนั้นไม่พบแล้ว เขาก็ยังตัดใจไม่ลงที่จะลบแผลเป็นเหล่านั้นไป

“เอาเถอะ!”

หลานเยาเยาพูดออกมาอย่างไม่แยแส

จากนั้นก็หยิบแอลกอฮอล์ออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผ้าพันแผลและยาห้ามเลือด ส่งให้เย่แจ๋หยิ่ง “ช่วยข้าพันแผลเถอะ!”

จากนั้นหูตาจมูกปากก็ขมวดเข้าหากันในพริบตา

ยังดีที่นางสามารถดึงหน้าได้จนถึงถามคำถามเสร็จ

ซื่อ……

เจ็บจะตายอยู่แล้ว

คราวหน้า ห้ามใช้วิธีเช่นนี้แล้วเป็นอันขาด

“เบาหน่อยเบาหน่อย เจ็บมากนะ ท่านต้องนุ่มนวลหน่อย ท่านจะต้องเจ็บกว่าหลายเท่านะ!”

เย่แจ๋หยิ่งเหลือบมองหลานเยาเยาด้วยความประหลาด

ไม่รู้ว่านางยังโกรธอยู่หรือไม่ได้โกรธแล้ว โดยรวมแล้วคือแปลกประหลาด

หลังจากที่พันแผลให้หลานเยาเยาอย่างระมัดระวังเสร็จแล้ว หลานเยาเยาไม่ได้พูดอะไร ก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปทันที

ไม่แม้แต่จะมองภาพบนกำแพงน้ำแข็งแม้สักนิด

และหลานเยาเยาก็รู้สึกจนปัญญามาก!

เพิ่งจะดึงเศษส่วนความทรงจำที่ลืมไปเพราะผลข้างเคียงกลับมาได้ สภาพจิตใจของนางสับสนมาก และไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเย่แจ๋หยิ่งอย่างไร ดังนั้นดีที่สุดก็คือสงบใจลงก่อน

เดิมทีคิดว่ามาถึงปากถ้ำ จะต้องใช้กำลังวังชาอย่างมากจึงสามารถเปิดประตูน้ำแข็งรูปกลมๆได้ กลับคิดไม่ถึง เมื่อนางเดินเข้าไป ประตูน้ำแข็งก็เปิดออกเองแล้ว

หลังจากที่นางออกมา

พบว่าเย่แจ๋หยิ่งตามอยู่ด้านหลัง

นางเอียงศีรษะเล็กน้อย พูดอย่างราบเรียบ :

“ข้าอยากอยู่เงียบๆคนเดียว”

เป็นดังคาด หลังจากที่ได้ยินคำของนาง ร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งก็ชะงัก หยุดฝีเท้าลงทันที แล้วก็มองดูนางเดินไกลออกไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆเช่นนั้น

ความจริงแล้วหลังจากหลานเยาเยาเดินคนเดียวมาได้ระยะหนึ่ง ก็โดนความรู้สึกที่หนาวเหน็บพัดโชยจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

หยุดฝีเท้าลง ยืนนิ่งครู่หนึ่ง

นางคิดอยู่มากมาย จากเดิมที่จิตใจสับสน ก็ยิ่งสับสนมากขึ้น

ดูท่าแล้วอยู่เงียบๆ ก็ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกนึกคิดได้!

ที่แท้อยากอยู่เงียบๆก็คือการหลอกคน คนที่อยากจะอยู่เงียบๆเหล่านั้นก็ไม่ได้อยากจะอยู่เงียบๆจริงๆ แค่อยากเรียกคนผู้นั้นที่ชื่อจิ้งจิ้ง(เป็นชื่อที่มีความหมายว่าเงียบๆ)

ทนความเหน็บหนาวไม่ได้ หลานเยาเยาคิดอยากจะเดินย้อนกลับไป

แต่ทว่า

เดินย้อนกลับไปตอนนี้เร็วเกินไป จะต้องเสียหน้ามาก?

ยังไงก็รอก่อนเถอะ!

แต่ว่าผ่านไปไม่นาน หลานเยาเยาก็ทนไม่ได้แล้วจริงๆ หันหลังและก็เดินกลับ กลับถึงในห้องนอน ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งนั่งอยู่บนเตียงหยกพอดี

เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา สายตาของเขาก็มองมาที่ร่างของนาง เมื่อนางเดินมาใกล้ สายตาก็ขยับตาม

หลังจากที่หลานเยาเยาถึงข้างเตียง ก็ม้วนอย่างแน่นหนาเป็นก้อน ทำให้ร่างกายอบอุ่น

หาเวลาว่างเหลือบมองเขาเป็นบางคราว พบว่าเย่แจ๋หยิ่งก็กำลังมองนางอยู่ ราวกับว่ามีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่พูดออกมาสักที

ท่าทางเช่นนั้นค่อนข้างน่ารักเป็นที่สุด!

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยากระแอมเบาๆ ริมฝีปากที่หนาวจนเป็นสีม่วงค่อยๆปริขึ้น

“หนาว หนาวจังเลย!”

ได้ยินดังนั้น เย่แจ๋หยิ่งก็ขยับตัวเข้ามา ดึงมือนางมาไว้ที่หน้าอกทำให้อุ่นขึ้น จากนั้นก็โอบนางทั้งร่างไว้ในอ้อมกอด ให้ความอบอุ่นแก่นางและร่างกาย

แต่ทว่า หลานเยาเยากลับไม่แยแสความหวังดีของเขา มุดออกมาจากอ้อมกอดของเขา จ้องมองเขานิ่งๆ

ถูก!

ก็แค่มองดูเขานิ่งๆ มองเขาไปเรื่อยๆ ทั้งยังไม่พูดจาเช่นนั้น

อาจเพราะโดนนางจ้องมองนานแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งจึงเคลื่อนสายตาไปอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เปิดปากเอ่ย : “เยาเยา……”

พูดยังไม่ทันจบ หลานเยาเยาก็จุ๊บไปที่ริมฝีปากเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอยออกมา แล้วมองเขาอย่างนิ่งๆอีก

เย่แจ๋หยิ่งตัวแข็งทื่อ มองไปทางนางด้วยลักษณะท่าทางที่ค่อนข้างแข็งทื่อ ในสายตาปรากฏถึงความประหลาดใจออกมา

ไม่เข้าใจทำไมนางจึงได้ทำเช่นนี้อย่างกะทันหัน

หลังจากที่เงียบอยู่นาน เย่แจ๋หยิ่งก็ปริปากเอ่ยอย่างแผ่วเบา

“เจ้ายังโกรธอยู่?”

“ท่านคิดว่าข้าโกรธอยู่หรือไง?”

พูดไป นางก็โน้มตัวเข้าไป จุ๊บไปที่ริมฝีปากบางๆของเขาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ทำอย่างฉาบฉวย แต่หยุดค้างอยู่บนริมฝีปากของเขานานขึ้นหน่อย

หลังจากที่นางถอยออกมา ก็มองเขาอยู่นิ่งๆอีกครั้ง สีหน้ายังคงเฉยชา

ก็เป็นท่าทางที่โกรธอย่างชัดเจน

“เยาเยา เจ้า……นี่เจ้าจะทำอะไร?”

ครั้งแรกที่เห็นหลานเยาเยามีท่าทางเช่นนี้ หาได้ยากที่เย่แจ๋หยิ่งพูดจาติดอ่างสองสามครั้ง ไม่รู้ว่านางคิดอย่างไรกันแน่ เพียงแต่รู้สึกว่ากิริยาท่าทางของนางทำให้เขาค่อนข้างกระวนกระวาย

ใครจะรู้……

หลานเยาเยายกมุมปากขึ้นบางๆ จากนั้นก็ผลักเขาลงไปบนเตียงหยกอย่างรุนแรง

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านดูให้ชัด ตอนนี้ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าข้ากำลังทำอะไร”

เมื่อสิ้นสุดคำพูด

หลานเยาเยาก็ประกบริมฝีปากของเขาทันที

อืม ราวกับว่ารีบร้อนอดทนไม่ได้ไปหน่อย……

ในดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แววตาขึงขัง สำหรับหลานเยาเยาที่ทั้งแทะโลมและกัดบนริมฝีปากของเขาอยู่ เขาได้ยับยั้งตัวเองไว้อย่างที่สุด

จนมือขาวๆของหลานเยาเยาได้แหวกเข้าไปที่หน้าอกของเขาตามใจอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ราวกับว่ายังไม่ถึงอกถึงใจ นิ้วมือเคลื่อนไปถึงช่วงเอวของเขาอย่างรวดเร็ว

และไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะหยุดอยู่……

หลังจากรู้สึกถึงความผิดปกติ เย่แจ๋หยิ่งก็จับมือที่อยู่ไม่นิ่งของนางไว้ทันที

พูดด้วยน้ำเสียงแหบเล็กน้อยว่า :

“หยุดได้แล้ว เยาเยา”

จากนั้นก็พลิกตัว กดมือทั้งสองข้างของนางไว้ น้ำเสียงทุ้มต่ำ กล่าวทีละคำทีละคำ

“เจ้ารู้ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือไม่?”

หลานเยาเยาไม่สนใจ ริมฝีปากที่สวยงามปริขึ้นเล็กน้อย

“ชัดเจนมาก ข้าต้องการท่านไง! เอาท่านมาครอบครองเป็นของตัวเองโดยเผด็จการอย่างเด็ดขาด ยังดูไม่ออกอีกหรือ?”

พูดจบ ยังกะพริบตามองไปที่เขา

“……”

ประโยคเดียวข้าต้องการท่าน

ทำให้เย่แจ๋หยิ่งตะลึงงันอยู่นานมาก……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท