หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 344 สวนหยู่ถูกพาไปแล้ว

บทที่ 344 สวนหยู่ถูกพาไปแล้ว

บทที่ 344 สวนหยู่ถูกพาไปแล้ว

ได้ยินดังนั้น

หลานเยาเยายิ้มอย่างจางๆ

“เดาว่าคงจะไม่ได้ถือว่าเจ้าเป็นศัตรูสินะ! ถึงอย่างไรพวกเรายังมีเป้าหมายอีกมากที่ต้องทำร่วมกันให้สำเร็จ

ในช่วงไม่กี่วันที่หายไป ก็เป็นเพราะได้ถูกล้อมกักไว้อยู่ใต้ต้นบุพเพ ที่นั่นมีวังแช่แข็งอยู่หลังหนึ่ง ชื่อที่สลักไว้บนกำแพงน้ำแข็ง เป็นเบาะแสที่ทำให้ค้นพบยาฉางตาน”

อันที่จริง!

บนกำแพงนั้นไม่ได้เขียนเรื่องราวของยาฉางตานไว้เลย มีเพียงภาพจิตรกรรมฝานังสี่ภาพ

ที่พูดไปทั้งหมดนี้ นางแค่ต้องการจะทดสอบเล็กน้อย

ดวงตาอันหม่นหมองของหานแส หรี่ลงยากที่จะมองเห็น จากนั้นหันกลับมา ค่อยๆเลิกเสื้อคลุมขึ้น แล้วนั่งลงตรงหน้าของหลานเยาเยา

“เบาะแสอะไร”

“ทำไมเจ้าของเรือถึงไม่ถามว่ายาฉางตานคืออะไร” หลานเยาเยายิ้มเจื่อน

อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องให้หานแสตอบ นางก็รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

หากไม่ได้จากปากของเย่แจ๋หยิ่ง ชื่อเดิมของยาวิเศษคือ ยาฉางตาน เกรงว่าจนถึงตอนนี้นางยังคงเรียกยาฉางตานว่ายาอายุวัฒนะ

และสิ่งทั้งหมดที่เย่แจ๋หยิ่งรู้ เป็นเพราะได้รับสืบทอดความทรงจำบางอย่างมาจากเซียนชุดขาว

แต่!

ไม่เหมือนกับหานแส

นางไม่เคยพูดถึงมาก่อน เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่น่าจะบอกเขา และตอนที่นางเพิ่งจะพูดถึงยาฉางตานอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ตกใจเลยแม้แต่น้อย

นี่แสดงว่า เขาคงรู้เรื่องเกี่ยวกับยาฉางตานตั้งนานแล้ว

หานแสตกใจเล็กน้อย ทันทีที่ได้เผชิญกับสายตาของนาง ในดวงตาก็เปล่งประกายอย่างแปลกประหลาด จากนั้นรอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้น

“ยาฉางตานก็แค่เป็นยาวิเศษที่ราชครูเทียนเวิงตามหา ในเมื่อเจ้ารู้เบาะแสแล้ว อย่างนั้นพวกเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากเบาะแสนี้ เพื่อค้นหายาฉางตาน และอีกด้านหนึ่งก็เป็นการลดอำนาจของราชครูเทียนเวิงให้อ่อนลง”

“อืม เจ้าของเรือที่แท้ฉลาดจริงๆ !”

“เยาเยา ทำไมถึงไม่เรียกชื่อของข้าเลย”

“หานแสยื่นมือออกไปเพื่อจับมือหลานเยาเยา แต่กลับถูกหลานเยาเยาหลบเลี่ยงอย่างไร้ร่องรอย

“ข้าก็เป็นแบบนี้มาตลอด เมื่อไหร่ที่อยากจะเรียกเจ้าของเรือก็เรียกเจ้าของเรือ เมื่อไหร่อยากจะเรียกชื่อของเจ้าก็เรียกชื่อของเจ้า”

ถ้าจู่ๆ เจ้าจะให้ข้าตะโกนเรียกชื่อของเจ้า ข้าเกรงว่าไม่รู้จะพูดออกไปอย่างไร”

มีบางเรื่อง ที่หากพูดออกไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่จะร่วมมือกันก็คงจะร่วมมือกันไม่ได้

หลังจากยกมือทั้งสองออกจากโต๊ะหิน นางก็ยกมือขึ้นหยิบเส้นผมที่ร่วงลงมาบนหน้าอก และเล่นมันอย่างไม่สนใจไยดี

ทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็นการกระทำของหานแสเมื่อกี้นี้

“ก็ถูกเจ้าเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด เดาว่าคงอีกไม่กี่วัน พวกราชครูเทียนเวิงจะมาหาเจ้าเพื่อถามหาเกี่ยวกับเรื่องการหายตัวไป ถึงตอนนั้น เจ้าก็สามารถปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันเองได้

สำหรับอ๋องเย่……เขาเป็นคนที่ไม่อาจคาดเดาได้ ข้าเห็นว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่กลับมองเขาไม่ออกเลย ข้าบอกได้เพียงว่าความทะเยอะทะยานของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ราชบัลลังก์เท่านั้น

และยังมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะเจ้า เยาเยา เจ้าต้องระวังเอาไว้ อย่าให้ติดกับดักได้ จะได้ไม่ซ้ำรอยเดิมอีก ข้าไม่อยากจะเห็นเจ้าต้องเสียน้ำตา”

ตอนนี้!

หานแสค่อยๆ หันศีรษะไปยังที่มืดด้านหลังของหลานเยาเยา จากนั้นลุกขึ้นยืน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้ายกาจ

“นี่ก็ดึกแล้ว ข้าจะต้องกลับไปจัดการกับบางเรื่อง”

หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ลุกขึ้นยืน

เมื่อเห็นหานแสแสดงท่าทีว่านางไม่ต้องไปส่ง เขาเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็หันหลังกลับมา คว้าตัวนางมาไว้ในอ้อมแขน และพูดอย่างนุ่มนวล

“อยากจะย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนจริงๆ ที่สามารถบุกเข้าไปยังห้องส่วนตัวของเจ้าได้ทุกคืน ให้เจ้าได้เล่นหมากรุกและพูดคุยเป็นเพื่อนข้า”

แต่ก็ไม่อยากจะเห็นเจ้าในทุกๆ คืน ที่ตื่นจากฝันร้ายมาพร้อมกับน้ำตา และยังจะฝืนยิ้มให้กับข้า

เหอะ!

ข้าเป็นคนที่ขัดแย้งคนหนึ่ง มีบางครั้งถึงขั้นไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าเข้าใจ เยาเยา ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกและเป็นยาพิษที่เจ็บปวดที่สุด เมื่อได้รับเข้า ก็จะไม่มีวิธีที่จะถอนตัวได้ แม้ว่าจะทำลายทั้งฟ้าดินก็ยังเหมือนกับเริ่มต้น……

เยาเยา ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเจ้าอย่าได้มอบใจทั้งใจออกไป

เอาล่ะ อย่าคิดส่งเดชเลย ข้าก็แค่เตือนเจ้าเท่านั้น

ข้ารู้สึกเพียงว่าเจ้ารู้สึกกับข้าเป็นศัตรู ในใจกระสับกระส่าย จึงคิดอยากจะกอดเจ้าเพื่อปลอบใจตนเอง”

เกือบจะพูดจบ

หานแสก็ได้ปล่อยนางแล้ว จากนั้นก็หลังจากไป ราวกับว่าคำพูดที่นุ่มนวลของเขาเมื่อกี้ไม่ได้ถูกพูดออกมา

หลังจากหานแสจากไป

หลานเยาเยามองไปยังด้านหลังของตนเอง ดวงตาก็กะพริบเล็กน้อย ยกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างเจื่อนๆ

……

วันรุ่งขึ้น เช้าตรู่

“ตึงตึงตึง……”

หลานเยาเยาที่ยังคงถือหมูตุ๋นอยู่ในฝัน ก็ได้ถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงเคาะประตู หมูตุ๋นในฝันก็ได้บินหายไป

ในใจรู้สึกอารมณ์เสียมาก

ในเวลานี้ เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านนอก

“คุณหนู”

“คุณหนูของเจ้าตายไปแล้ว” หลานเยาเยากุมศีรษะเอาไว้เหมือนกับเล้าไก่ พูดออกไปอย่างงัวเงีย

“……”

คนที่เคาะประตูคือจื่อเฟิง เมื่อได้ยินน้ำเสียงของหลานเยาเยาเขาก็หยุดชะงักลง และยังตัดสินใจที่นำเรื่องนี้รายงาน

“คุณหนู อ๋องเย่และพระราชธิดาจาวหยางวันนี้ได้ย้ายกลับจวนอ๋องเย่ ตอนนี้กำลังอยู่ที่ประตูใหญ่”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาที่บิดเอวด้วยความขี้เกียจนั้น ได้ตะลึง จากนั้นเอนตัวนอนลงต่อไป และพูดอย่างเฉยเมย

“ย้ายก็ย้ายสิ ! ประหยัดกินประหยัดดื่มก็ประหยัดดี เจ้าไม่จำเป็นต้องมาบอกข้าก่อน”

เพียงแค่นางอยู่ในตำหนัก โหลวเย่วก็ต้องมาปรากฏตัวคอยพูดจุกจิกไม่หยุด และยังคอยถามนู่นถามนี่ มาคอยแย่งกินอาหารอร่อยของนาง

เย่แจ๋หยิ่งก็เช่นกัน

กระง่อนกระแง่นต่อหน้านางเป็นครั้งคราว เผอิญยังชอบชักสีหน้าใส่นาง ถึงอย่างไรเป้าหมายของเขาได้สำเร็จแล้ว ยังไม่ไปอีกหรือ

พวกเขาย้ายกลับไปก็คงจะดี เงียบสงบและสบายใจแล้ว ก็เป็นเรื่องดี

“เฮ้อ……”

โธ่!

ไปให้หมดเถอะ ไปให้หมดเถอะ ไปแล้วก็ดี……

แน่นอนว่าจื่อเฟิงไม่ได้มารายงานเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่เรื่องพิเศษที่รายงานคืออีกเรื่องหนึ่ง “สวนหยู่ก็ตามไปแล้ว”

“อะไรนะ”

ทันทีที่หลานเยาเยาได้ยิน อย่างนั้นจะยอมได้อย่างไร

แต่สวนหยู่เป็นม้าสุดรักของนาง จะปล่อยให้มันไปกับคนอื่นได้อย่างไร

เล่หกของเย่แจ๋หยิ่งจะต้องการพาตัวมันไปอย่างแน่นอน และจะไม่ปล่อยให้มันสำเร็จได้

ดังนั้น!

ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หลานเยาเยาลุกลงจากเตียงและสวมเสื้อผ้าโดยเร็ว เส้นผมที่พะรุงพะรุงได้ถูกหวีเล็กน้อยก็เท่านั้น และนางก็วิ่งออกจากห้องด้วยผมที่กระเซิง

ตำหนักเทพธิดา

มีรถมาสองคันจอดอยู่ที่ประตูใหญ่ คันที่อยู่ด้านหลังเป็นรถม้าพิเศษของพระราชธิดาจาวหยาง สูงศักดิ์และสง่างาม

และด้านหน้าเป็นรถม้าสีดำที่หรูหรา ลักษณะและสีของรถม้าเกือบจะเหมือนกันกับรถม้าคันนั้นที่ตกลงไปในหน้าผาก่อนหน้านี้

หากไม่มองให้ละเอียด ก็ยากที่จะแยกออก

เย่แจ๋หยิ่งที่สวมชุดคลุมผ้าไหมสีดำทองก็ยืนอยู่ข้างรถม้าสีดำ มือทั้งสองของเขาที่ไขว้ไว้ด้านหลัง ดวงตาที่ลึกราวกับวังน้ำวนมองตรงไปข้างหน้า สายตากลับไม่ได้จดจ่ออยู่กับจุดใด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

อย่างไรก็ตาม!

ก็เหมือนกับเวลาปกติ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ทำให้คนรู้สึกเหมือนไม่อยากให้เข้าใกล้ คนธรรมดาสามัญล้วนแต่ไม่กล้าจ้องตาเขาโดยตรง

ในขณะนี้ พระราชธิดาจาวหยางเดินออกมาจากประตูใหญ่อย่างไม่อยากจะไป

เมื่อนางเดินมาอยู่ห่างจากเย่แจ๋หยิ่งเพียงห้าก้าว ก็ได้หยุดลง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็กระซิบ

“เสด็จอา พวกเราไม่ต้องไปบอกลาเทพธิดาหรือ”

ถึงอย่างไรก็มาพักอยู่ในตำหนักเทพธิดาหลายวันแล้ว เพิ่มความยุ่งยากให้กับเทพธิดามากมาย เมื่อจะไปก็ไม่แม้แต่บอกลา ดูไม่เป็นธรรมไปสักหน่อย

“ไม่ต้อง!”

เย่แจ๋หยิ่งขึ้นรถม้าแล้ว เปิดผ้าม่านของรถม้าออก หันกลับไปมองที่ประตูใหญ่ มองไม่เห็นคนที่อยากเห็น ดวงตาของเขาก็มัวลงอย่างอดไม่ได้

กำลังที่จะโน้มตัวเข้าไปในรถม้า…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท