หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 348 ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถอดเสื้อผ้า

บทที่ 348 ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถอดเสื้อผ้า

บทที่ 348 ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถอดเสื้อผ้า

จนกระทั่งหมอกควันสีขาวจางหายไป หลานเยาเยายกมือเท้าคาง อีกมือหนึ่งก็ถือของว่างไว้ ท่าทีดูสบายอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้

ยู่หลิวซูที่มีสีหน้าของความภาคภูมิใจ ใบหน้านั้นได้หุบลงในทันที เมื่อเห็นว่าหลานเยาเยาไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ที่แสร้งทำเป็นสบาย

“น่าเบื่อเกินไป!”

“เหอะ เมื่อกี้นี้มันคืออะไรหรือ” หลานเยาเยาถาม

ยู่หลิวซูพูดขึ้นอย่างประหลาดใจในทันที “เจ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร อย่างนั้นทำไมถึงไม่มีปัญหา หรือพิษไม่อาจกล้ำกรายได้เจ้าได้”

“ก็บอกไปแล้ว ข้าคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ การเล่นพิษต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษ มีแต่จะเป็นการดูถูกตนเอง”

ล้อเล่นอะไรหรือ

เธอมีระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่แข็งแกร่งจนแทบจะอยู่ยงคงกระพัน ตราบใดที่มีความผิดปกติตรงจุดใด ภายในร่างกายก็จะตรวจสอบด้วยตนเอง รักษาด้วยตนเอง ซึ่งคล้ายกันกับคนที่พิษไม่อาจกล้ำกรายได้

“เทพธิดาเก่งกาจจริง ๆ หลิวซูขอชื่นชม”

ยู่หลิวซูไม่มีวิธี เหลือบมองไปยังน้ำชาในมือ และดื่มมันเข้าไปอย่างไม่กะพริบตา

หลังจากดื่มหมด

เขาลุกขึ้นยืน เปลื้องผ้าออกโดยไม่พูดอะไรสักคำ พลางถอดเสื้อไปและมองนางด้วยสายตาอ่อนโยนไปด้วย

“เฮ้ เจ้าจะทำอะไร”

คงจะไม่ใช่การใช้กลอุบายของชายรูปงามใช่ไหม

นางไม่ได้มีความสุข เย่แจ๋หยิ่งรู้แล้วว่าไม่อาจจะแตะต้องผิวของนางได้

ยิ่งไปกว่านั้น

นางยังเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก คงจะไม่ถึงกลับไปไม่เป็นเมื่อพบหนุ่มรูปงามได้

แต่ !

ก็เห็นว่าไม่น่าจะเป็นอะไร

“ความงามของเทพธิดาหาสิ่งใดเปรียบมิได้ อีกทั้งยังชาญฉลาดเป็นพิเศษ ใจของข้ารอคอยมานานแสนนาน และในตอนนี้เมื่อได้พบเจอ จึงต้องการทดสอบสักครั้งสองครั้ง เพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้า

ตอนนี้หยั่งเชิงอยู่หลายครั้ง เทพธิดาก็ไม่ได้โกรธ เห็นได้ว่าเขายังคงรูปลักษณ์ของข้า ข้ายินดีที่จะปรนนิบัติเขาโดยไม่มีแปรผันใจ”

“……”

หลานเยาเยาป้องหน้าผากไม่พูดอะไร

นางดูไม่ออกว่ายู่หลิวซูชื่นชอบนางมานานแล้ว แต่สิ่งที่นางเห็นคือเล่ห์เหลี่ยมของเขา

และเขาจะไปมองเห็นที่ไหนว่านางนั้นพอใจในตัวเขา

ความสามารถที่จะปั้นน้ำเป็นตัวนั้นไปเรียนเรียนมาจากที่ใดได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ยู่หลิวซูก็ได้ถอดชุดคลุมนอกออกแล้ว ตอนนี้ก็ได้เปิดเสื้อผ้าด้านในออก เผยให้เห็นอกของเขาที่ขาวและสมบูรณ์

ภายใต้การจ้องมองของหลานเยาเยา

เขาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม อ่อนโยนเป็นอย่างมาก

เมื่อได้เห็นยู่หลิวซูนั่งอยู่ข้างกายนาง หลานเยาเยาก็ยิ้มจางๆ เดิมทีคิดจะขยับไปสักหน่อย แต่กลับพบว่ายู่หลิวซูได้ยื่นมือออกมาต้องการจะแตะไหล่ของนาง

หลานเยาเยาจึงรีบยื่นมือออกมาขวางมือของเขาไว้ทันที

ใครจะรู้……

มุมปากของยู่หลิวซูงอขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไป มือที่สัมผัสกับฝ่ามือของหลานเยาเยาก็ได้หมุนออกไป ทันใดนั้นก็ได้เห็นแมลงสีดำปนแดงปรากฏขึ้นเจาะเข้าไปยังกลางฝ่ามือของหลานเยาเยา

สีหน้าของหลานเยาเยาดูเจ็บปวด

มือหนึ่งกุมไว้ อีกมือหนึ่งใช้ฝ่ามือผลักไปยังยู่หลิวซู

ยู่หลิวซูถูกผลักเปิดออกไป ได้ถอยหลังไปสองสามก้าวจึงจะลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคง เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเจ็บปวดของนาง เขาจึงยกมุมปากขึ้นอีกครั้ง

แต่วินาทีต่อมา เขาก็บิดคิ้วอย่างรุนแรง และกระอักเลือดออกมา

“วรยุทธ์ของเทพธิดาทรงพลังยอดเยี่ยมมาก!”

ยู่หลิวซูเช็ดเลือกออกจากปาก น้ำเสียงยังคงอ่อนโยน แต่ในความอ่อนโยนนั้นก็ยังสั่นสะท้านอยู่บ้าง

“ดูเจ้าแล้วก็ไม่เหมือนนักฆาตกร ข้าไม่เคยพบเจ้ามาก่อนเลย

บอกมานะ! ต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อสังหารข้า เพื่ออะไรกันแน่”

หลานเยาเยาค้ำโต๊ะเตี้ยเอาไว้ ดวงตาขมุกขมัว

“เจ้าวางใจเถอะ ความผิดโทษฐานสังหารเทพธิดา ข้าน้อยไม่อาจจะรับผิดชอบได้ แต่การทำให้เทพธิดาหายไปสักระยะก็เป็นสิ่งที่ทำได้

ตอนที่ฮ่องเต้ให้รัชทายาทสอบสวนคดีการเสียชีวิตของฉินหลิงเจียว เคยให้เทพธิดาช่วยสอบสวน แม้ว่าคำพูดจะดูคลุมเครือมาก แต่คนที่มีสายตาชาญฉลาดย่อมฟังออก

หลินเฟยหรันถูกคุมขังในคุกของกรมอาญาไปเมื่อคืน วันนี้เทพธิดาก็มาตึกฟังงิ้ว คาดว่าน่าเป็นมาเพราะเรื่องของคดี

มีบางเรื่อง ข้าน้อยยังไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงได้แต่ทำให้เทพธิดาต้องลำบากใจ

รอให้ข้าน้อยทราบชัดเจนทุกอย่างก่อน ก็จะปล่อยเทพธิดาไปแน่นอน”

ยู่หลิวซูพูดจบก็ไอขึ้นสองสามครั้ง จากนั้นก็เริ่มใส่เสื้อคลุมของเขา จนกระทั่งเขาสวมเสื้อคลุมเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เห็นว่าเทพธิดายังไม่สลบไป

จึงอดที่จะสงสัยไม่ได้

ไม่ว่ากำลังภายในจะลึกล้ำเพียงใด ในตอนนี้ก็ควรจะล้มลงแล้ว!

“เทพธิดา”

“เรียกข้าทำไม”

“……” ทำไมสมองยังแจ่มใสชัดเจน

เมื่อหลานเยาเยาได้เห็นท่าทางของเขา ก็ขี้เกียจแกล้งทำอีกต่อไป แต่ได้ดื่มชาเข้าไปอย่างใจลอย

“เจ้า เจ้า เจ้า……”

“เจ้าอะไรของเจ้า พูดติดอ่างหรือไง”

“แมลงพิษเมื่อกี้นี้……” เห็นได้ชัดเจนว่าได้เจาะเข้าไปในฝ่ามือของนางแล้ว

“เจ้าหมายถึงสิ่งนี่หรือ”

หลานเยาเยาวางมือลงบนโต๊ะ เมื่อขยับออก แมลงสีดำปนแดงตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะ และแน่นิ่งไม่ไหวติง น่าจะตายไปแล้ว

ไม่มีทาง

ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดจะถูกเก็บไว้ในช่องว่างที่ระบบรักษา เมื่อเข้าไปด้านในจึงตายทันที จะโทษนางไม่ได้

เมื่อได้เห็นแมลงพิษ ยู่หลิวซูอ่อนแรงทรุดลงกับพื้นทันที สีหน้าของเขาเศร้าเล็กน้อย ราวกับดูตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง

อีกแล้วหรือ

หลานเยาเยามองไปที่เขาด้วยสายตาดูถูก

“ความอดทนของมนุษย์มีจำกัด ละทิ้งการแสดงออกที่น่าละอายของเจ้าเสียเถอะ”

พูดจบ

หลานเยาเยาหยิบเม็ดยาที่ใส่เก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมา สีหน้าไม่มีความเลื่อนลอยแบบก่อนหน้านี้แล้ว

ความหมายชัดเจนอยู่แล้ว แค่เล่นลูกไม้ ปรนเปรอยาพิษ

ยู่หลิวซูมีสีหน้าเศร้าสร้อยในทันที

ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน ประตูห้องพักส่วนตัวก็เปิดออกอีกครั้ง

ชายคนหนึ่งเดินเข้าประตูมา

ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาวลวดลายสวยงาม ตรงขอบตัดด้วยด้ายสีทอง

ใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงเรียว และผมถูกรวบไว้ครึ่งหนึ่งอีกส่วนปล่อยลงมา ราวกับเดินออกมาจากภาพวาด

สุภาพเรียบร้อยมารยาทงดงาม แต่ไม่เป็นเช่นนี้ทั้งหมด

เซียวจิ่นหยูหรือ!

เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“เทพธิดาอย่างเพิ่งโกรธ ยู่หลิวซูไม่ได้คิดร้าย”

หลานเยาเยาหยิบเส้นผมขึ้นมาเล่นในมือ มองพวกเขาทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดกับเซียวจิ่นหยู

“เจ้าเป็นคนจัดการหรือ”

“……ใช่!” เห็นได้ชัดว่าเซียวจิ่นหยูไม่คาดคิดว่านางจะตรงไปตรงมาแบบนี้

“ในเมื่อเจ้ายอมรับก็ดี ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะมีเจตนาอย่างไร แม้ว่าจะมีเจตนาที่จะสังหารฆ่าจริง ๆ ข้าก็ไม่ฆ่าเขาหรอก

ไม่อย่างนั้นฝ่ามือนั้น ก็คงจะไม่อาเจียนเป็นเลือดแค่เท่านั้นหรอก

เล่นเป็นเพื่อนพวกเจ้ามาตั้งนาน ข้าก็ตกใจไปไม่น้อย ต้องได้รับค่าเสียหายทางจิตใจ”

เสียงนั้นพูดออกไป

เซียวจิ่นหยูก็ตกใจจนชะงัก

“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ ค่าเสียหายทางจิตใจ”

สิ่งนี้ทำให้เซียวจิ่นหยูคิดขึ้นมาได้อย่างกะทันหันตอนที่เขาโปรยเงินเปิดทางลงบนถนน เงินได้ไปตกบนศีรษะของผู้หญิงคนหนึ่ง

นั้นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน

ค่าเสียหายทางจิตใจคือสิ่งที่นางพูดกับท่านหานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบของร้านประมูลเสินตู ตอนที่อยู่หน้าประตูของร้านประมูลเสินตู

“ใช่แล้ว มันคือค่าเสียหายทางจิตใจ ไม่รู้ว่าค่าเสียหายทางจิตใจคืออะไรหรือ

พูดสั้นๆ ก็เนื่องจากพวกเจ้าหยั่งเชิงอยู่สองสามครั้ง ทำให้จิตวิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บ และยากที่จะเยียวยารักษา

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยบางส่วน”

เรื่องการเอาข้อเสียเปรียบมาเคาะราคาเรียกเก็บเงิน หลานเยาเยาก็ต้องการที่จะดูคน สำหรับคนที่โปรยเงินเปิดทางแล้ว หากเคาะได้เล็กน้อยก็คือเล็กน้อย

ยู่หลิวซู “……”

เทพธิดาต้องการชี้ตัวอย่างนั้นหรือ

เห็นได้ชัดว่านางเล่นกับพวกเขามาตลอด และพวกเขาก็หลงกลมาตลอด ยังจะต้องชดเชยค่าเสียหายทางจิตใจให้อีก และยังไม่รีบไปคว้าอย่างตรงไปตรงมา

เซียวซื่อจื่อเป็นคนที่เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดี จะยอมให้นางมารีดไถเงินได้อย่างไร

ใครจะรู้……

“ได้ ชดเชยค่าเสียหายให้ ต้องการเท่าไรก็ได้ทั้งนั้น”

“……” ทำไมเคาะราคาได้ดีแบบนี้

“……”เซียวซื่อจื่อบ้าไปแล้วหรือ

หลานเยาเยามองไปยังเซียวจิ่นหยูด้วยความสงสัย ยู่หลิวซูก็มองไปยังเซียวจิ่นหยูด้วยความสงสัย ทำให้เซียวจิ่นหยูเห็นแล้วก็อายเล็กน้อย……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท