หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 358 สถานที่มีทรายดูด

บทที่ 358 สถานที่มีทรายดูด

บทที่ 358 สถานที่มีทรายดูด

“สิ่งที่ฮ่องเต้ได้ทำลายยาฉางตานคือเรื่องจริง และยาฉางตานที่นางฟ้าทำขึ้นมาก็ไม่ได้มีเพียงเม็ดเดียว แต่มีสองเม็ด

อีกเม็ดหนึ่งตกอยู่ในมือของเด็กทำยา ซึ่งเป็นผู้ช่วยนางฟ้าตอนทำยาฉางตานขึ้นมา เขาเป็นผู้ภักดีต่อนางฟ้ามาก

หลังจากรู้ว่านางฟ้าได้สิ้นชีวิตไปแล้ว เขาจึงได้ซ่อนยาฉางตานเม็ดสุดท้ายเอาไว้ จากนั้นก็มายังสถานที่เสียชีวิตของนางฟ้าและฮ่องเต้ เพื่อปกป้องสุสานของพวกเขา”

ในความเป็นจริงก็เป็นเพียงการปกป้องต้นบุพเพสองต้นที่โอบกอดกันและกัน

ก่อนที่เด็กทำยาจะเสียชีวิต เขาได้กำชับลูกศิษย์ จะต้องคอยปกป้องต้นบุพเพทุกยุคสมัย และเผยแพร่เรื่องราวความรักระหว่างนางฟ้าและฮ่องเต้ต่อไป ในคนรุ่นหลังได้จดจำเรื่องราวของพวกเขาตลอดไป

แต่!

เรื่องกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้

เนื่องด้วยชื่อเสียงที่ยิ่งมีมากขึ้นของต้นบุพเพ เรื่องราวของนางฟ้าและฮ่องเต้ กลับกลายเป็นเรื่องของวิญญาณประเภทหนึ่งบนต้นบุพเพ……

มีคนจดจำเรื่องราวของพวกเขาน้อยลงเรื่อยๆ ผ่านมาเพียงสองสามยุคก็มีไม่กี่คนแล้วที่ยังจำเรื่องราวของพวกเขาได้

หลังจากหลานเยาเยาบอกว่ายาฉางตานยังถูกเก็บรักษาไว้อีกหนึ่งเม็ด คำพูดประโยคหลังจากนั้นฮ่องเต้และไทเฮาก็ไม่ได้สนใจฟังอีกต่อไปแล้ว

คิดอยู่ตลอดว่าเทพธิดาจะบอกเบาะแสของยาฉางตานอีกเม็ดออกมา

หากพวกเขาได้รับมา อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถจะมีชีวิตยืนยาวได้ตลอดไป

ดวงตาของราชครูเทียนเวิงยิ่งลึกขึ้นเรื่อย ๆ และมือที่เหี่ยวเฉาซึ่งซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ก็เริ่มสั่นเทา

ในที่สุด……

ในที่สุดก็มีข่าวคราวของยาฉางตาน

ยาฉางตานเป็นสิ่งที่ราชครูเทียนเวิงตามหามาตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินทางไปในที่อันตรายมากมาย อาบเลือดไปหลายแห่ง ผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายมามากมาย

แต่……

เขาทุ่มเทไปก็มากแล้ว แต่ก็ได้รับเพียงความผิดหวัง

ตอนนี้ดีแล้ว เขาใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตเพื่อข่าวของมัน และก็ไม่ได้แตกต่างกับสิ่งที่เทพธิดาได้กล่าวมากนัก

สิ่งนี้จะไม่ทำให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร”

แต่ไม่นานนัก ราชครูเทียนเวิงก็สงบนิ่งลง

“ดูจากท่าทางแล้ว เทพธิดาคงจะรู้สถานที่ที่เด็กทำยาได้ซ่อนยาฉางตานไว้ในตอนนั้นแล้ว” เขาลูบเครายาวสีขาวดวงตาคู่นั้นที่แก่เฒ่าและชั่วร้ายได้จ้องมองมายังเทพธิดา

หลานเยาเยามองราชครูอย่างเฉยเมย ภายในดวงตาที่รีบเร่งและเปิดเผยอย่างชัดเจนของเขา จึงได้ส่ายหัว

“บนกำแพงน้ำแข็งนั้นไม่ได้เขียนสถานที่ที่เด็กทำยาได้ซ่อนยาเอาไว้ แต่มีการเขียนเบาะแสบางอย่าง”

มันง่ายมากที่จะรู้สถานที่ซ่อนของยาฉางตาน หลังจากราชครูเทียนเวิงหยุดตื่นเต้นแล้ว ก็จะต้องมีข้อสงสัยอย่างแน่นอน

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงคิดใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนังบนกำแพงน้ำแข็ง เป็นสถานที่ซ่อนเบาะแสของยาฉางตาน

“รีบบอกมา ข้าต้องการจะดูว่ายาวิเศษที่น่าอัศจรรย์นั่น จริงๆ แล้วถูกซ่อนอยู่ที่ใด”

“ใช่ ๆ ๆ สรุปว่ามีเบาะแสอะไรหรือ บอกมาสิ ข้าจะส่งคนไปช่วยเจ้าตามหา”

เมื่อเห็นว่าในดวงตาของไทเฮา และฮ่องเต้ มีท่าทางของความโลภ ในใจของหลานเยาเยาเย็นยะเยือกอยู่ภายในใจ

ช่วยหรือ

คิดอยากจะได้ครอบครองเป็นของตนเองนะสิ!

แต่ หากเป็นผลตามนี้ละก็ ดังนั้นนางจึงพูดขึ้น

“สถานที่มีทรายดูด ตรงกลางของป่ากลางทะเลทราย บนยอดของปราสาท”

แค่ก แค่ก

หลานเยาเยารู้สึกว่าตนเองก็มีศิลปะทางวรรณกรรมเป็นอย่างดี

นำภาพวาดจิตรกรรมทั้งสามภาพมาอธิบายวัตถุประสงค์

แต่!

คนที่ไม่เคยเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้นกลับสร้างความวุ่นวาย

ฮ่องเต้พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก็พึมพำขึ้นมา “แหล่งน้ำกลางทะเลทราย ปราสาทกลางแหล่งน้ำในทะเลทราย แปลกไปไหม ในแหล่งน้ำกลางทะเลทรายจะมีปราสาทได้อย่างไรกัน”

ไทเฮาก็ขมวดคิ้วแน่น คิดอย่างหนัก

ในทางตรงกันข้ามราชครูเทียนเวิงกลับสงบเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คิดถึงความหมายของคำเหล่านั้น และมองไปยังเทพธิดาอย่างเงียบๆ

เป็นเพราะฮ่องเต้และไปเฮาต่างก็ติดอยู่กับปริศนาเหล่านั้น ดังนั้น หลานเยาเยาออกมาตั้งแต่เมื่อใด พวกเขาก็ไม่รู้เลย

เมื่อมาถึงปากประตูวัง

สวนหยู่ยังคงยืนอยู่ตรงรถม้าอย่างเป็นระเบียบ ก้มหน้าเหมือนกับม้าที่กำลังเบื่อ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า

มันจึงเงยหน้าขึ้นทันที เมื่อได้เห็นนาง ดวงตาของมันก็เปล่งประกาย ราวกับว่าจะคาดหวังการให้อภัยจากหลานเยาเยา

เดิมทีหลานเยาเยาไม่ได้โกรธมันจริง ๆ

อีกประการหนึ่ง

โกรธม้าตัวหนึ่งนะหรือ อย่างนั้นก็คงจะดูงี่เง่าไปหน่อย……

ดังนั้น!

มุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะยกมือเพื่อกวักเรียกสวนหยู่ ให้มันเข้ามา

แต่ในขณะที่กำลังยกมุมปากขึ้นนั้น ก็ต้องทรุดลงทันที ดวงตาก็คมชัดขึ้นไปเรื่อย

ไม่รู้ว่าราชครูเทียนเวิงออกมาจากวังก่อนนางก้าวหนึ่งได้อย่างไร ตอนนี้ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของนาง

ลมหายใจที่ดูอันตรายโชยเข้ามาราวกับทะเลที่เจอพายุ พายุและลมแรงนี้ ทำให้หลานเยาเยาหันหน้าหนีเล็กน้อย

หึ!

ก็รู้ว่าเขาต้องการมาขวางนางไว้

ไม่คิดว่าเขาจะกล้ามายืนขวางกั้นประตูวัง

ตอนนี้!

จื่อซีที่เดินตามหลังนางก็มีความกดดันอย่างมาก ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง

หลานเยาเยาตบตรงไปที่ไหล่ของเขา ไม่ได้พูดอะไร แต่จื่อซีก็รู้อยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร

ทันทีที่มองไปยังราชครูเทียนเวิงอย่างระวังตัว

จากนั้นก็เดินตามหลังหลานเยาเยาอย่างช้าๆ

“ราชครูใหญ่ บังเอิญอะไรเช่นนี้ พวกเราพบกันอีกแล้ว” หลานเยาเยากล่าวอย่างมีเสน่ห์

“ขอเวลาเทพธิดาสักหน่อย!”

คำพูดของราชครูเทียนเวิงยังคงสุภาพเกรงใจ แต่น้ำเสียงนั้นทำให้ไม่อาจปฏิเสธได้

“ได้สิ!”

คงไม่ได้อยากจะรู้การเตรียมการของนางหรอกนะ ง่ายๆนิดเดียว! ก็บอกเขาไปตรงๆ

อันที่จริงการขอตัวไปก็ไม่ได้ไปไหนไกล แค่ไปยังสถานที่ซึ่งคนของปกป้องประตูวังไม่ได้ยินก็เป็นใช้ได้

ไม่ไกลจากรถม้า

หลานเยาเยาและราชครูเทียนเวิงก็ยืนอยู่ตรงข้ามกัน หลานเยาเยาพูดขึ้นก่อน

“ราชครูใหญ่มีเรื่องอันใดหรือ”

“เบาะแสของยาฉางตานสำคัญเช่นนี้ ทำไมเทพธิดาจึงนำไปบอกคนอื่นกันเล่า” นี่คือจุดที่ราชครูเทียนเวิงยังสงสัย

ยาฉางตานสามารถทำให้ผู้คนมีชีวิตอยู่อย่างเป็นอมตะ ใครจะไม่อยากได้มาครอบครอง

หากมีการค้นพบเบาะแสเกี่ยวกับยาฉางตาน ก็จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้คนอื่นรู้อย่างแน่นอน จากนั้นก็ออกตามหาแต่เพียงผู้เดียว

เทพธิดากลับทำตรงกันข้าม

วัตถุประสงค์มีเพียงสองประการ

ประการที่หนึ่ง ไม่มีเบาะแสของยาฉางตาน เทพธิดาเพียงต้องการใช้เรื่องของยาฉางตาน ช่วยให้เป้าหมายที่แอบแฝงอยู่สำเร็จลุล่วง

ประการที่สอง เทพธิดาเพียงแต่รู้เบาะแสของยาฉางตาน แต่ยังรู้ว่ายายาฉางตานถูกซ่อนไว้ที่ใด

ด้วยเหตุผลอื่นเล็กน้อย นางจึงต้องบอกคนอื่น ทำให้พวกเขากลายเป็นหินที่ใช้เหยียบไปข้างหน้า

“เหอ ๆ ๆ……”

หลานเยาเยาหัวเราะขึ้นเบาๆ

“ยาฉางตาน อาจจะทำให้คนกลายเป็นอมตะ! ใครจะไม่อยากได้ เพียงคิดอยากได้ ก็จะต้องยอมทุ่มทุกอย่างอยากเลี่ยงไม่ได้

แต่!

เด็กทำยาในตอนนั้นกล้าที่จะนำเอายาฉางตานไปซ่อนไว้ที่นั่น อีกทั้งยังผ่านมาตั้งหลายชั่วอายุคน ไม่มีใครรู้เบาะแสของยาฉางตานเลยแม้แต่น้อย และไม่เคยมีใครไปที่นั่น

หากจะพูดให้ชัดอีกสักหน่อย ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่น่ากลัวเหมือนนรก

นอกจากนี้ ตั้งแต่โบราณมา สถานที่ใดที่ปรากฏว่ามีของวิเศษ ก็จำเป็นต้องมีสิ่งชั่วร้ายคอยปกป้อง

ข้าเสียดายพรสวรรค์ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ล้วนมีแต่ความรู้ ทำไมถึงยังต้องให้พวกเขามาโยนหินถามทางได้!

เจ้าคิดว่าใช่หรือไม่ ราชครูใหญ่”

“ยาฉางตานอยู่ที่ไหน” นางจะต้องรู้แน่นอน

ราชครูเทียนเวิงหรี่ตาลง

บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที ทันใดนั้นรังสีแห่งความอันตรายก็ปรากฏ ดูคล้ายจะบังคับให้นางบอกที่อยู่ของยาฉางตาน

หลานเยาเยายกมุมปาก จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“มีบางเรื่อง ที่จะทำสำเร็จไปทุกครั้ง นอกจากนี้ หากข้าบาดเจ็บ ก็อาจจะต้องค่อยๆ รักษา การรักษาอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปี ก็ไม่ใช่ปัญหา”

อย่างไรก็ตามข้าก็สามารถจะรอได้ ราชครูใหญ่จะรอได้หรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้”

คำพูดดูหนักแน่น

ดูเหมือนว่าจะไม่มีราชครูเทียนเวิงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน