หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 363 ข้าพูดว่า พูดทุกอย่าง

บทที่ 363 ข้าพูดว่า พูดทุกอย่าง

บทที่ 363 ข้าพูดว่า พูดทุกอย่าง

“เชอะ ข้าไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน เพียงแค่รู้สึกว่าค่อนข้างแปลก”

“แปลกจริงๆ หลังจากที่ออกมาจากวังหิมะ ในร่างกายก็เหมือนกับว่ามีสิ่งของบางอย่างแตกสลายออกเป็นรูเล็กๆรูหนึ่ง

เพียงแค่ตั้งสมาธิ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงไอความเหน็บหนาวที่มีพลังในการฆ่าเหล่านั้นออกมาได้อย่างมหัศจรรย์” แน่นอน ว่าความเจ็บปวดในนั้น เกินที่จะบรรยาย

ได้ยินดังนั้น!

ดวงตาของหลานเยาเยาก็เปล่งประกายขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ลองถามหยั่งเชิง :

“ท่านจำชาติที่แล้วของท่านได้หรือไม่?”

“ชาติที่แล้ว?”

“ก็คือเรื่องราวที่เหลือเชื่อยิ่งขึ้น อย่างเช่น พื้นดินที่เต็มไปด้วยยาวิเศษสมุนไพรวิเศษ โจมตีสัตว์ประหลาดก็จะได้รับแก้ว?

ยังสามารถเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์อะไรพวกนั้นได้?”

นางสงสัยมาก

ความจริงแล้วเย่แจ๋หยิ่งก็เป็นผู้หนึ่งที่ข้ามเวลามา

เพียงแต่ตัวเองเป็นการข้ามมาของจิตวิญญาณในโลกปัจจุบัน แต่เขาเป็นการข้ามมาของร่างกายจากโลกแห่งนิยาย

จากนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งกลับมองนางด้วยความประหลาด

“เยาเยา ในสมองของเจ้าเต็มไปด้วยของที่แปลกประหลาดหายาก ทำไมถึงไม่ได้ใส่ข้าไว้ล่ะ?”

“ใส่ท่านไว้ในสมองแล้ว เช่นนั้นในใจควรจะใส่อะไร?”

หลานเยาเยายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ สีหน้าท่าทางไร้เดียงสาเป็นที่สุด

ได้ยินดังนั้น!

สีหน้าเย่แจ๋หยิ่งอึ้งแข็ง เล่หกหยุดลงอย่างกะทันหัน และมองสวนหยู่แวบหนึ่ง

“เหอะเหอะเหอะ……”

ทันใดนั้นเย่แจ๋หยิ่งหัวเราะออกมาเบาๆอย่างสบายใจ เสียงดึงดูดเบิกบานน่าฟังเป็นที่สุด ดวงตาที่ดูลึกลับก็เปลี่ยนเป็นรักและเอ็นดูอย่างหาเทียบไม่ได้ในพริบตา

“หัวเราะอะไร? ท่านอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป ใจของข้ามีเจ้าของตั้งนานแล้ว”

อาหารรสเลิศ ตั๋วเงิน ยาสมุนไพร แถมบวก……ไม่บวกแล้ว เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของนาง

ทันใดนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งเหาะเข้ามาโดยตรง นั่งที่ด้านหลังของนาง ถือบังเหียนแทนนาง อันที่จริงคืออยากจะหุ้มนางไว้ในอ้อมกอด

สัมผัสได้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเอนศีรษะมาวางไว้บนไหล่ของนาง ลมหายใจที่หายใจออกมารดอยู่ตรงลำคอของนาง

คันคัน

อุ่นอุ่น

มีความรู้สึกอยากจะยื่นมือออกไปเกาเล็กน้อย

“เยาเยา คำพลอดรักที่เจ้าพูดข้าชอบมาก แต่……”

ใบหน้าของหลานเยาเยาร้อนผ่าว แต่จากนั้นสีหน้าก็แข็งทื่อ เตรียมรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อจากนี้

“แต่ยังไม่พอ ถ้าหากว่าพูดทุกวันก็คงจะดี ข้าจะต้องสุขกายสุขใจมากขึ้นเป็นแน่”

เอ่อ……

ยังจะสุขกายสุขใจ

เขาสุขกายสุขใจแล้ว เช่นนั้นนางจะไม่น่าสงสารหรือ?

จะให้สมปรารถนาไม่ได้

“ใครพูดคำพลอดรักหรอ? เย่แจ๋หยิ่ง ท่านเข้ามาอยู่ใกล้ขนาดนั้นทำไม? กลับไปนั่งบนเล่หกของท่านไป”

“นี่! เย่แจ๋หยิ่ง มือทั้งสองข้างของท่านกำลังทำอะไร? จับบังเหียนดีๆสิ ไม่ใช่กอดเอวข้าไว้แน่นนะนี่”

“เยาเยา ข้าเหนื่อยแล้ว ยืมไหล่เจ้าพิงหน่อย”

น้ำเสียงของเย่แจ๋หยิ่ง แว่วมาเบาๆจากข้างหลัง

เยาเยาที่ได้ถือบังเหียนเองแล้ว ถอนหายใจอย่างจนปัญญา

ท่านแสดงไปเถอะ!

แต่ว่า ดูท่าแล้วการเจตนาให้อีกฝ่ายวางใจเพื่อจะได้ควบคุมในกลยุทธ์ที่สามสิบหกนี้ไม่เลวจริงๆ เย่แจ๋หยิ่งห่างจากนางไม่ได้แล้ว

อืม พยายามเพิ่มต่อไป!

ขี่ม้าเดินไปสักพักหนึ่ง

พบว่าเย่แจ๋หยิ่งกำลังพิงนางพักผ่อนอยู่อย่างสงบจริงๆ ก็รู้สึกปลื้มใจเป็นทวีคูณทันที

ด้วยเหตุนี้!

เอียงศีรษะมองไปที่ใบหน้าของเขาที่อยู่ใกล้ๆ สีหน้าที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มแข็งทื่อขึ้นทันที หัวใจก็หล่นลงไปในอุโมงค์น้ำแข็งทันใด

ใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งค่อนข้างซีดขาว

ขมวดคิ้วเล็กน้อย บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดละเอียด

“ฮู้ว…….”

หลานเยาเยารีบกระชับบังเหียนแน่น

เอามือที่โอบช่วงเอวของตัวเองขึ้นมา ตรวจชีพจรให้เขา

ถึงได้พบว่า เย่แจ๋หยิ่งเหมือนกับว่าจะสูญเสียกำลังวังชาไปเยอะมากในเวลาอันฉับพลัน ถึงทำให้เขาหมดแรงลงในขณะนี้

ภายใต้ความคับขัน

หลานเยาเยาทำได้เพียงวางเย่แจ๋หยิ่งลงบนพื้นหญ้า จากนั้นก็ให้ยาต้านความเหนื่อยล้าแก่เขา นั่งลงข้างกายเขาเงียบๆ

จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน

ดวงอาทิตย์สีเลือดทำให้ฝั่งตะวันตกถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดง

เย่แจ๋หยิ่งจึงได้ฟื้นขึ้นมาช้าๆ

เมื่อเห็นว่านางยังอยู่ข้างกาย ก็เหมือนกับว่าโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

“เยาเยา เจ้ายังอยู่ ดีจริงๆ!”

“……” ดีบ้าอะไรล่ะ! สถานการณ์ของเขาไม่ดีนัก “คราวหน้าห้ามให้พลังกำลังวังชาแล้ว แม้ว่าวิทยายุทธชนิดนั้นจะเก่งกาจมาก แต่ไม่ดีต่อร่างกายของท่าน”

“ได้!”

“ยังมีอีก หาเวลา เอาพิษกู่ถงซินในร่างกายออกมาได้แล้ว” นี่เป็นน้ำเสียงที่เป็นคำสั่ง อย่างไม่ต้องสงสัย

การเลี้ยงบำรุงพิษกู่ถงซินในหัวใจ ร่างกายจะค่อยๆซูบผอมไม่พอ ยังจะเป็นอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย

เย่แจ๋หยิ่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

ในที่สุดก็พยักหน้า : “ได้!”

หืม?

พูดง่ายขนาดนี้เชียว?

หลานเยาเยาเริ่มไม่เชื่อนิดหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ก็พูดอีกหนึ่งประโยค : “ข้าจะมาเอาออกด้วยตัวเอง”

“……ได้”

…….

ก่อนจะเข้าเมืองหลวง หลานเยาเยาก็แยกกันเดินกับเย่แจ๋หยิ่งแล้ว

สีของท้องฟ้ามืดแล้ว บนถนนเริ่มมีโคมไฟสว่างไสว ถนนยามค่ำคืนแม้ว่าคนจะไม่เยอะเหมือนตอนกลางวัน แต่ก็ยังคงความคึกคัก

หลานเยาเยาก็ไม่ได้รีบร้อนกลับตำหนักเทพธิดา

แต่ไปที่พระตำหนักไท่จื่อ

ข้างในพระตำหนักไท่จื่อ ยังมีแสงไฟสว่าง เย่หลีเฉินที่ควรจะพักผ่อนตั้งนานแล้วเวลานี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะนอน เขากำลังกังวลกับปัญหาบางอย่างอยู่

ณ เวเลานี้!

มีองครักษ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามา

องครักษ์ยังไม่ได้พูดจา เย่หลีเฉินก็ถามขึ้นมาก่อนแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้าง? เทพธิดาส่งข่าวมาแล้วหรือยัง?” องครักษ์ผู้นั้นเป็นคนสนิทของเย่หลีเฉิน ดังนั้นเรื่องราวหลายๆเรื่องก็ไม่ได้หลบเลี่ยงเขา

“กราบทูลองค์ชายรัชทายาท ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นที่ตำหนักองค์ชายสี่มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”

องครักษ์ส่ายหัว

เห็นเย่หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย องครักษ์ก็เข้าไปยกมือทำความเคารพแล้วเอ่ย :

“องค์ชายรัชทายาทยังคงกังวลกับการสอบปากคำคนผู้นั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“อืม!”

วิธีการที่ควรใช้ก็ใช้หมดแล้ว วิธีการที่ไม่ควรใช้เขาก็ลองไปบ้างแล้ว แต่คนผู้นั้นปากแข็งมาก ทำอย่างไรก็ไม่ปริปาก

ทันใดนั้นความคิดอันเฉียบแหลมของเย่หลีเฉินก็ผุดขึ้น

คิดวิธีการดีๆได้อีกวิธีหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ก็รีบไปคุกลับในตำหนักทันที ดำเนินการเอาความคิดใหม่ในการบีบบังคับให้รับสารภาพที่คิดได้มาใช้รอบหนึ่ง

คนที่ถูกมัดอยู่บนเสาหินยังคงเป็นเหมือนทองไม่รู้ร้อน

เย่หลีเฉินโกรธจนเสียท่ากล่าวด้วยโทสะสุดๆ

“ดื้อดึงเป็นที่สุด อ่อนแข็งก็ไม่ยอมเปลี่ยนท่าที ข้าอยากจะควักหัวใจเจ้าออกมาดูนัก ว่าทำด้วยอะไรกันแน่”

คนที่ถูกมัดไว้ ดวงตาสองข้างปิดสนิท ผมเผ้ารุงรังน่าอดสู

เสื้อที่สวมบนร่างกาย ดูเลือนลางแต่สามารถมองออกได้ว่าเป็นเสื้อผ้าที่หมอดูสวมใส่โดยเฉพาะ เพียงแต่ ด้านหน้าหน้าอกของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ด้านล่างเป็นรอยคราบเลือดขนาดใหญ่ที่แห้งกรัง

วันนั้นเขาก็อยู่ใน กอต้นกก เป็นหมอดูที่เกือบจะโดนฆ่าปิดปาก

แม้ว่าในเวลานี้เขาจะปิดตา แต่เย่หลีเฉินรู้ เขาตื่นอยู่

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

เสียงฝีเท้าก้าวอย่างรวดเร็วดังมา

“องค์ชายรัชทายาท เทพธิดามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินดังนั้น!

ดวงตาของเย่แจ๋หยิ่งก็เปล่งประกาย รีบกล่าวว่า : “รีบเชิญ”

เปลือกตาของคนที่ถูกมัดไว้ยกขึ้นเล็กน้อย คิดว่าองค์ชายรัชทายาทเพียงเพื่อจะบีบบังคับ จึงจงใจใช้เทพธิดามากดดันเขา

ใครจะรู้……

เมื่อเทพธิดาเดินเข้ามา หลังจากพูดมาประโยคหนึ่ง หมอดูก็รีบลืมตาขึ้นทันที ก็มองเห็นผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นผู้ชายปรากฏอยู่ต่อหน้า มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ

เย่หลีเฉินอธิบายสถานการณ์ไปรอบหนึ่ง สีหน้ายังเคลือบไปด้วยความโกรธ

คาดว่าโดนหมอดูยั่วโมโหมาไม่น้อยจริงๆ

“อ๋อ? อ่อนแข็งก็ไม่ยอมเปลี่ยนท่าที? ข้ากลับอยากดูซิว่าอ่อนแข็งก็ไม่ยอมเปลี่ยนท่าทีได้มากเท่าไหร่?”

หลานเยาเยาทอดสายตาไปยังร่างของหมอดู เพิ่งจะเดินเข้าไปได้สองสามก้าว ยาที่ทำให้เป็นภาพหลอนยังไม่ได้เอาออกมา

หมอดูมองหลานเยาเยาด้วยความหวาดผวา

เทพธิดา เขาเคยเห็น นางคือเทพธิดาจริงๆ

คนเช่นเขานี้ตกอยู่ในน้ำมือของนาง ก็เหมือนตายทั้งเป็นแน่นอน

เขาเคยเห็นเทพธิดาทรมานคนผู้หนึ่งจนตายทั้งเป็นด้วยตาตัวเอง จากนั้นก็ช่วยคนผู้นั้นขึ้นมา แล้วก็ทำให้ตายทั้งเป็น ซ้ำไปซ้ำมาเช่นนั้น เหตุการณ์ที่น่ากลัวนั้น เป็นปมในใจที่ใหญ่ที่สุดของเขา

ด้วยเหตุนี้!

เขารีบปริปากพูดด้วยความสั่นเทา : “ข้าพูด ข้าจะพูดทุกอย่าง”

“……”

สถานการณ์อะไร?

หลานเยาเยาค่อนข้างไม่เข้าใจเหตุผล

“……” เย่หลีเฉินมุมปากกระตุก ไม่รู้ว่าโดนยั่วให้โกรธจนกระตุก หรือโดนคำพูดของเขาระเบิดถูก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท