หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 368 คนทั้งหลายพุ่งเป้าไปยังยู่หลิวซู

บทที่ 368 คนทั้งหลายพุ่งเป้าไปยังยู่หลิวซู

บทที่ 368 คนทั้งหลายพุ่งเป้าไปยังยู่หลิวซู

“……แล้วได้ถูกฉินหลิงเจียวพบเข้า ดังนั้นก่อนที่ฉินหลิงเจียวยังไม่ได้หนีออกจากวัด นางก็ได้จับตัวฉินหลิงเจียวมาที่ห้องของตัวเอง ผ่านการทรมานที่เหี้ยมโหดมาได้สองสามวัน ก็นำฉินหลิงเจียวที่ตายไปแล้วไปจัดการ”

หลายเยาเยาพูดถึงตรงนี้ รู้สึกปากแห้งคอแห้ง ก็จิบชาไปอึกหนึ่งอีกครั้ง แล้วก็พูดต่อ

“ทั้งหมดนี้ หลานจิ่นเอ๋อได้มองดูอยู่อย่างลับๆ ดังนั้น นางได้เอาศพของฉินหลิงเจียวย้ายไปไว้ในรถม้าของเทพธิดา ดังนั้นจึงได้มีเรื่องราวด้านหลัง

แต่เรื่องราวของโลกมักจะมีเหตุสุดวิสัย หลังจากที่หลินเฟยหรันยอมรับผิด องค์ชายสี่ยังไม่ตาย ยังคงเป็นอันตรายที่แฝงตัว ดังนั้นนางจึงวางแผนกำจัดที่ละอย่าง

เดิมทีนางสามารถที่จะทำให้พวกเขาทั้งสองคนตายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีใครรู้ แต่ถูกข้าก่อกวนเข้า ใช้อุบายไปส่งๆ ก็ทำให้ร้อนใจแล้ว เปิดเผยพิรุธของตัวเองออกมา”

วันนี้ชายหญิงเหล่านั้นที่โดยองค์ชายสี่ข่มเหงรังแก เรื่องราวของผู้หญิงที่โดนบังคับแย่งชิง ทั้งหมดเป็นการกระทำของหลานจิ่นเอ๋อ

จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้นางไม่ไปช่วยองค์ชายสี่ และใช้อุบายยืดเวลาออกไป

เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ ภายใต้ความเร่งรีบของนาง คิดไม่ถึงว่าจะโดนนางวางยาพิษแล้ว……

แน่นอน!

เรื่องราวเหล่านี้นางไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง แต่นางรู้ว่านางเดาถูกแล้วแทบจะทั้งหมด ยังมีเรื่องบางอย่าง นอกจากคนในเหตุการณ์แล้ว เกรงว่าก็ไม่มีคนอื่นสามารถล่วงรู้ได้

พูดถึงตรงนี้

หลานเยาเยาก็ลุกขึ้น ปัดๆชุดคลุมสีเลือดที่ไม่ได้เป็นริ้วจีบ

“เล่านิทานจบแล้ว พวกเจ้าสองคนค่อยๆทำความเข้าใจ ข้าจะไปดูเสี่ยวฮัวแล้ว”

พูดไป หลานเยาเยาก็ยิ้มมุมปากขึ้น ออกเดินไปทางห้องรับแขก

พูดมาก็แปลก

หลังจากกลับมาจากหน่วยย่อยยิงจวน

โม่เหลียงเฉินก็ไม่ได้ส่งฮัวหยู่อันเข้าไปที่จวนอ๋องเย่ แล้วก็ไม่ได้พานางกลับไปที่บ้านของเขา แต่กลับพาตรงมาที่ตำหนักเทพธิดาของนาง

นางไม่ยินยอม

โม่เหลียงเฉินก็ตามตื๊อไม่หยุดหย่อน

ถึงขั้นทำเรื่องแบบนั่งลงที่พื้นกอดขาอ่อนนางไว้ออกมาได้

ความจริงแล้ว!

ในขณะนี้โม่เหลียงเฉินก็กำลังหลบอยู่ที่มุมเลียบาดแผลของตัวเองอยู่!

เขาอยากส่งฮัวหยู่อันไปที่จวนอ๋องเย่ ก็โดนหลอกล่อให้ออกมา เพราะฮัวหยู่อันเป็นผู้หญิง

เขาก็ไม่สามารถพากลับไปที่จวนของตัวเองได้ เกรงว่าฮัวหยู่อันฟื้นขึ้นมาจะโกรธจนกระอักเลือดตาย

ดังนั้นจึงทำได้เพียงพามาที่ตำหนักเทพธิดาแล้ว

เพราะว่ากอดขาอ่อนของหลานเยาเยา เขาโดนเย่แจ๋หยิ่งต่อยไปอย่างแรงยกหนึ่ง จึงตอนนี้ยังบวมไม่หาย

ฮือฮือฮือ……

วันที่สอง

เรื่องราวของหลานจิ่นเอ๋อได้แพร่กระจายไปเป็นที่ฮือฮา หลานเฉินมู๋ที่เป็นพ่อแท้ของหลานจิ่นเอ๋อ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

เดิมทีจากที่หยุดงานอยู่ในบ้านเพื่อพิจารณาตัวเอง กลายเป็นถูกไล่ออกจากราชการ ยังโดนยึดจวนอีก

ในเวลาอันสั้น

อดีตแม่ทัพใหญ่ที่มีสง่าราศี ตอนนี้กลายเป็นพ่อที่เลวทรามที่ทุกคนทอดทิ้ง

เรื่องเหล่านี้แพร่กระจายยังไม่ถึงครึ่งวัน ในตำหนักองค์ชายสี่ก็มีข่าวร้ายแพร่ออกมา

องค์ชายสี่ในตำหนัก……แขวนคอตายแล้ว!

ทันใดนั้น บรรยากาศในเมืองหลวงก็วุ่นวาย มีบางคนตกใจ มีบางคนรู้สึกดีใจที่เห็นผู้อื่นประสบทุกข์ ยังมีบางส่วนที่มองดูเฉยๆอย่างเย็นชา

แต่ว่า!

ในส่วนการตายขององค์ชายสี่ นอกจากฮ่องเต้ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว เหล่าราษฎรกลับดีใจจนแทบจะจุดประทัดฉลอง

ข่าวคราวแพร่ไปถึงตำหนักเทพธิดา

ช่าจื่อเย็นหงแอบดีใจ

“นับว่าเขายังรู้หน่อยว่าตัวเองเป็นยังไง รู้แล้วว่าทำเรื่องร้ายๆมากมายขนาดนั้นก็จะได้รับการลงโทษจะสวรรค์ กฎหมายของประเทศก่วงส้ายังไม่ได้จัดการเขา เขาก็รู้สึกอับอายจนแขวนคอไปก่อนแล้ว”

“ก็ใช่ ยังดีที่องค์ชายสี่เป็นผู้แขวนคอตายเอง ไม่ใช่ป่วยตาย ไม่เช่นนั้น วิชาการรักษาที่ขึ้นชื่อของเทพธิดาของพวกเราคงจะขายไม่ออกแล้ว”

มองดูช่าจื่อเย็นหงพูดจาไร้สาระเรื่อยเปื่อยไม่หยุดหย่อน หลายเยาเยารู้สึกเพียงว่าท่าทางการโกรธแค้นอย่างเต็มอกของพวกนางค่อนข้างน่าขัน

แต่ว่า!

พวกนางตอนนี้ ยังไงก็ดีกว่าการถูกรังแกโดนทำเหมือนว่าเป็นสัตว์ขายอยู่ในตลาดดำเยอะ

เพียงแต่……

วันที่เงียบสงบเช่นนี้จะมีได้นานเท่าไหร่นะ?

ทั้งช่วงเช้าหลานเยาเยานอกจะกินอาหารเช้า ดื่มชา มองดูช่าจื่อเย็นหงโต้แย้งกัน ก็นับว่าอยู่อย่างสบายใจ

เมื่อถึงตอนเที่ยง หลานเยาเยาก็เปลี่ยนเป็นชุดของผู้ชายที่สะอาดเรียบร้อย แต่ก็เป็นสีแดงเลือดเช่นกัน

ผมก็ไว้ผมหน้าม้ายาว ใช้บังรอยดอกไม้บนหน้า จากนั้นก็ออกไปจากประตู

เดิมทีนางวางแผนว่าจะพาจื่อเฟิงและจื่อซีออกมา ช่วยไม่ได้ช่าจื่อเย็นหงจะตามมาด้วยให้ได้

นางคิดไปคิดมา

ยังไงซะก็เพียงออกไปเที่ยว ไม่ได้ไปต่อยตีกันซะหน่อย ก็พาพวกนางสองคนไปเที่ยวหน่อย

ตึกฟังงิ้ว

ที่ห้องโถงใหญ่คนเต็มจนแออัด เมื่อหลานเยาเยาเดินเข้าไป ก็เห็นยู่หลิวซูที่สวมชุดที่สวยงามกำลังบรรเลงอยู่บนเวที

แม้ว่า!

ลูกค้านั่งเต็ม แต่ระหว่างคิ้วของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นทุกข์ใจที่ลบเลือนไม่ได้

หลานเยาเยารู้

ที่วันนี้ลูกค้ามากมายขนาดนี้ ทั้งหมดก็พุ่งมาเพราะเขา

คดีของฉินหลิงเจียว เกี่ยวพันกับคนหลายคน จวนแม่ทัพ จวนไท่ฟู่ จวนสิงปู้ช่างชูรวมทั้งราชวงศ์ พวกเขาแต่ละคนก็ล้วนหายไปคนหนึ่ง

เหล่าราษฎรก็รู้เพียงแค่โดยประมาณ ในเรื่องรายละเอียดกลับมีไม่กี่คนที่รู้

ดังนั้นเหล่าราษฎรก็ล้วนสงสัย

เหล่าผู้หญิงที่อรชรอ้อนแอ้นน่ารักเป็นธรรมชาติ เหล่าองค์ชายที่สูงส่ง พวกเขากลับล้วนเกี่ยวข้องกลับชายนักแสดงละครในตึกฟังงิ้วไม่มากก็น้อย

มีบางคนมาดูว่าชายนักแสดงละครผู้นี้มีอะไรดีเลิศล้ำขนาดนั้นโดยเฉพาะ กระทั่งทำให้ฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรันลุ่มหลงจนเป็นบ้า

ดังนั้นวันนี้ตึกฟังงิ้วจึงอัดแน่นไปด้วยลูกค้า แววตาในดวงตาทั้งหมดที่ทุกคนมองดูเขา ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่มาดูเขาทำการแสดงเท่านั้น

วันนี้ยู่หลิวซูถูกเหมารอบแล้ว

ทุกคนที่มาดูละครก็ล้วนจ่ายเหรียญเงินเพิ่มเพื่อเลือกเขา

ดังนั้น!

เขาทำการบรรเลงหนึ่งเพลงแล้วก็อีกหนึ่งเพลง ถึงแม้ว่าจะบรรเลงจนนิ้วเริ่มเจ็บปวด ปลายนิ้วเลือดไหล เขาก็ยังต้องบรรเลงเพลงหนึ่งแล้วต่อด้วยอีกเพลงหนึ่ง

จนทั้งสิบนิ้วของเขาโดนบาดเป็นแผล สายพิณถูกดีดขาด เพลงพิณจึงจะหยุดในที่สุด

แต่เมื่อเสียงพิณหยุด เหล่าลูกค้าก็รีบแสดงความไม่พอใจทันที

“งามหยาดเยิ้มเหมือนกันผู้หญิงก็ไม่ปาน เวลาที่ล่อลวงคุณหนูในจวนของผู้อื่น กลับล่อผู้หนึ่งก็ได้อย่างแม่นยำ”

“ก็ใช่ จะดีดหรือไม่ดีดแล้ว? ดีดไม่ได้ก็คืนเหรียญเงิน”

“ดูสิ เขายังไม่พอใจอีก หากว่าไม่มีพวกเรามารับชมการแสดง เขายังจะสามารถเป็นเสาหลักบนเวทีได้เช่นไร?

ในคดีใหญ่ที่ทำให้ตื่นตระหนกไปทั่ว ผู้ที่เกี่ยวโยงก็เป็นการได้โชคแบบส้มหล่นของเขา คนอื่นตายก็ตายไป ติดคุกก็ติดไป ตอนนี้เขายังจะขายฝีมือการแสดงบนเวทีอย่างนิ่งสงบอีก

ไม่มีความละอายจริงๆ หากข้าเป็นเขา ก็ชนเสาบนเวทีไปนานแล้ว”

“แต่เขาก็ไม่ได้ทำผิดนะ ตัวบงการทั้งหมดก็คือหลานจิ่นเอ๋อ”

“……”

บรรดาผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไปมากมายหลายอย่าง

ก็มีคนที่พูดแทนยู่หลิวซู แต่ก็มีเพียงสองสามคนเท่านั้น แล้วก็หายไปอย่างรวดเร็วด้วยการประณามของบรรดาผู้คน

ยู่หลิวซูไม่ได้โต้แย้งสักประโยค

สายพิณขาดแล้ว……

นิ้วมือที่บวมแดงก็เป็นแผลหมดแล้ว……

ไม่สำคัญ!

เขายังมีคอ เขายังสามารถร้องเพลงได้

เลือดเป็นหยดหยดหยดหยดตกลงบนเวที ราวกับว่าดอกไม้เลือกกำลังเบ่งบานอยู่บนเวที และยิ่งเบ่งบานเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเบ่งบานก็ยิ่งเห็นได้ชัด

ทั้งๆที่นี่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีใครสักคนมองเห็น

ยู่หลิวซูหมุนตัวเดินอยู่บนเวทีไปพลาง ร้องเพลงด้วยเสียงอันไพเราะไปพลาง แววตานิ่งเฉยไม่ไหวติ่งอยู่ตลอด

จนกระทั่งมองเห็นเงาร่างสีแดงเข้า

สีหน้าของเขาถึงได้เปลี่ยนไป ร่างกายชะงัก เขาที่มีสภาพไม่ดีนัก ล้มลงบนเวทีทันที

คราวนี้!

บรรดาผู้คนก็เดือนพล่านขึ้นมาทันที

“คือเงิน เงินคืน เสแสร้งบอบบางอ่อนแอ แค่ร้องเพลง ยังแสร้งทำเป็นเป็นลม หมดสนุกจริงๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท