หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่375 เข้าร่วมสำนักหงอีอย่างมึนงง

บทที่375 เข้าร่วมสำนักหงอีอย่างมึนงง

บทที่375 เข้าร่วมสำนักหงอีอย่างมึนงง

ในตอนที่ถิงเมี่ยนยังงงๆอยู่ กลุ่มคนชุดดำที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีก็พุ่งออกมาจากที่มืดแล้วล้อมพวกเขาไว้

หลานเยาเยาไม่ได้ลงมือ แต่ถอยไปอยู่ด้านหลังของถิงเมี่ยน

ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว

“……”ถิงเมี่ยนกระตุกมุมปาก

โว้ะ!

มีอะไรผิดพลาดรึเปล่า?

เทพธิดาเอาเขามาเป็นโล่เนี่ยนะ แล้วองครักษ์สุดเก่งกาจสองคนของนางนั่นหล่ะ?

ถิงเมี่ยนกลัดกลุ้มก็กลัดกลุ้ม แต่เขาค่อนข้างมีความภักดี จึงก้าวออกไปอย่างห้าวหาญ……ไม่,เขาตบอกพูดว่า

“มาสิ! ถ้ามีความสามารถก็ข้ามศพข้าไปก่อน”

พูดอย่างแข็งแกร่ง แต่ใจนั้นหวาดกลัวมาก

ถึงอย่างไร!

เขาก็ฉลาด แต่เหมาะกับการทำการค้าเท่านั้น เรื่องการทะเลาะวิวาทนี่ดูไม่ได้จริงๆ

ดังนั้นการต่อสู้ตัวต่อตัวกับหนึ่งในชายชุดดำนั้นยังตกเป็นรอง แต่ก็ยังคงเห็นเทพธิดาไม่ยอมลงมือ

เขาก็ทำได้เพียงฝืนใจสู้ต่อ แต่ยังไม่ทันสองสามเพลงดาบเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่สนใจเกียรติยศหน้าตาใดๆทั้งนั้น

ตะโกนพูดว่า:

“เทพธิดา ถ้าท่านยังไม่ลงมืออีก ชีวิตของข้าน้อยก็จะไม่มีแล้ว”

ถิงเมี่ยนรู้สึกกระวนกระวายใจ ราวกับจะหมดสิ้นหนทาง

คิดว่ามาทำการค้าใหญ่ เขาจึงไม่เตรียมอะไรเลย ก็ตามมาอย่างเต็มใจ จะไปรู้ที่ไหนกันว่าจะมาเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรก เขาก็จะได้พาเพื่อนมาด้วย

ตอนนั้นเอง

จู่ๆถิงเมี่ยนก็เห็นร่างสูงสง่าปรากฏตัวออกมา

ยู่หลิวซูในชุดนินจาเหาะมา แล้วหลังจากที่ลงพื้นก็มาร่วมการต่อสู้โดยไว ช่วยถิงเมี่ยนฆ่าไปสองสามคนอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้ถิงเมี่ยนตกใจจนอดอ้าปากค้างไม่ได้

“หล่อมาก!”

จากนั้นเขาก็รีบวิ่งมาอยู่ตรงหน้าหลานเยาเยา พูดอย่างชื่นชมว่า:

“เทพธิดา เทพธิดา ผู้นั้นคือใครกัน? หน้าตาก็หล่อเหลา การต่อสู้ก็ได้ ใช่คนของท่านหรือไม่?”

หลานเยาเยาส่งสายตาให้เขา แล้วหลังจากปล่อยให้เขาทำความเข้าใจเอง สองมือกอดอกมองยู่หลิวซูฆ่าคน

อื้ม!

วิธีการฆ่าช้าไปหน่อย ไม่ได้ปราดเปรียวกระฉับกระเฉง

แม้ความเร็วจะเร็ว แต่ยังสามารถเร็วได้กว่านี้ ศิลปะการต่อสู้ใดๆในใต้หล้านี้ล้วนมีข้อบกพร่อง ไม่ว่าจะป้องกันดีแค่ไหนก็จะมีวิธีทำลาย คำพูดที่ว่านี้มีเหตุผลมาก

แล้วก็

ศิลปะการต่อสู้ของยู่หลิวซูแม้จะดี แต่ส่วนมากก็คือการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือแอบเรียน มีหลายที่ที่ไม่ได้เรียนเนื้อหาสำคัญ

เขาเป็นคนที่มีศักยภาพ ถ้าได้ฝึกฝนส่วนที่สำคัญสักสองสามปี คาดว่าสามารถมีฝีมือใกล้เคียงกับจื่อเฟิงได้

คนที่มาลอบสังหารในวันนี้ แม้จะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แต่ก็นับว่าเป็นนักฆ่าธรรมดา เพียงแต่จำนวนคนเยอะกว่าก็เท่านั้น

ด้วยทักษะของยู่หลิวซูก็สามารถจัดการกับพวกเขาได้

หลังจากรอมาเกือบครึ่งชั่วโมง นักฆ่ากลุ่มนั้นก็พากันหนีตาย ยู่หลิวซูมองกระบี่ยาวที่อาบไปด้วยเลือดในมือก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็หยิบผ้าเช็ดเหงื่อออกมาจากอก เอามาเช็ดคราบเลือดจนสะอาด

จากนั้นก็มาตรงหน้าหลานเยาเยา คุกเข่าข้างเดียวคำนับพูดว่า:

“คารวะเทพธิดา”

หลานเยาเยายกมุมปาก แกล้งถามว่า:

“หัวแรงใหญ่ยู่ เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร?”

“······อะแฮ่ม ข้า ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้อง”

พูดเสร็จ ยู่หลิวซูที่คุกเข่าอยู่ข้างเดียว ก็รีบเปลี่ยนเป็นคุกเข่าสองข้าง แล้วพูดด้วยนอบน้อมว่า:

“เทพธิดาโปรดให้โอกาสข้าอีกครั้ง ให้ข้าได้ติดตามข้างกายท่าน เป็นผู้ช่วยท่าน ร่วมเป็นร่วมตาย”

ถิงเมี่ยนดูอยู่ข้างๆ

ทันใดนั้นก็ตกตะลึง

ยังมีแบบนี้อยู่อีกหรอ?

คนหล่อก็เลียแข้งเลียขา งั้นเขาที่ฉลาดก็ได้เหมือนกันใช่หรือไม่?

อาจจะเพราะได้รับผลกระทบจากทัศนคติที่จริงใจของยู่หลิวซู ดังนั้นถิงเมี่ยนจึงคุกเข่าลงตาม แล้วพูดเหมือนกับยู่หลิวซู:

“ข้าน้อยก็เต็มใจที่จะติดตามเทพธิดา คุ้มกันเทพธิดา ถ้าเทพธิดาไม่รังเกียจ ข้าน้อยก็ยินดีบุกน้ำลุยไฟ ถ้าตายก็มิกลัว”

ทันทีที่พูดจบ

ก็เจออยู่หลิวซูที่กลอกตาใส่

เด็กเถื่อนที่ไหน?

เขาแอบตามเทพธิดามาตั้งกี่วัน ก็เพื่อที่จะหาโอกาสดีๆสร้างคุณงามความดี จากนั้นติดตามเทพธิดาอย่างเป็นขั้นตอน

ถ้าไปยั่วยุให้เทพธิดาไม่สบอารมณ์ ทำให้เรื่องดีงามของเขาล้มเหลว เขาก็จะเรียกเข้ามาด้วยสองหมัดของเขา

แต่ว่า

หลังจากครู่หนึ่ง

ก็ไม่เห็นเทพธิดาตอบ ทั้งสองคนก็เกิดความสงสัยในใจ จึงอดไม่ได้ที่จะเงยหัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่เทพธิดา แต่คือตาแก่ที่ถือกระสอบใหญ่ มองพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

ด้วยเหตุนี้ พวกเขายังไม่ทันได้ต่อต้านก็ถูกจับใส่กระสอบพาไป

หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในสำนักหงอีอย่างมึนงง ถลำเข้าไปในถ้ำมืดมิด เข้าไปในถ้ำพิษ เคยผ่านกลไกค่ายกลกระบี่ แล้วยังดื่มเลือด สาบาน หลังจากนั้นก็สลบอย่างมึนงง แล้วก็ถูกห่อพามายังสำนักอีหง

ตอนที่พวกเขาตื่นขึ้นมา

ก็ถูกฝังอยู่ในกองฟาง

ตอนที่พวกเขาสองคนออกมาจากกองฟางพร้อมกัน ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเหมือนคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ช่วยกันประคองขึ้นมา

ถิงเมี่ยนมองแขนขาตนเองด้วยความหวาดผวา แล้วจู่ๆก็ถอนหายใจออกมา

“รู้สึกอย่างกับเดินอยู่ในตำหนักยมราชเลย และที่นี่ก็ดูราวกับอยู่คนละภพ”

ยู่หลิวซูยังนับว่าสงบอยู่ หน้าตาสดใสไม่เปลี่ยน

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด พวกเราได้เข้ามาในสำนักหงอีที่ลึกลับ แล้วก็กลายเป็นหนึ่งในนั้น”

ที่แท้เบื้องหลังของเทพธิดาก็มีสำนักหงอี

ไม่รู้ว่านอกจากสำนักหงอีแล้วยังมีอะไรอีก?

“สำนักหงอี? เป็นไปไม่ได้ไหม? โอ้~แม่เจ้า!แม่เจ้า! ข้าเข้ามาในสำนักหงอี”

ทันใดนั้นถิงเมี่ยนก็ตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นภาษา หลังจากกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆสงบลงแล้วถามว่า:

“ได้ยินมาว่า ส่วนที่ลึกลับที่สุดของสำนักหงอีก็คือ การเดินอยู่ข้างในนี้แล้วสามารถทำให้คนเข้าใจความเป็นความตาย ไม่กลัวการเสียสละ”

ยู่หลิวซูเหลือบตามองเขา พูดเย็นชา

“เจ้าก็เหมือนกับอยู่คนละภพ ยังไม่เข้าใจความเป็นความตายหรือ?”

“อ้อ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!”

ทันใดนั้น!

จู่ๆก็มีตาแก่ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาพร้อมกับถือกระสอบมาสองใบ มองพวกเขาด้วยสายตาน่ากลัวด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ

ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนหน้าซีดเผือดทันทีแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลับไปหลายก้าว

“เป็นไปไม่ได้! ยังมาอีกหรือ?”

“ไม่ใช่ว่าดื่มเลือดสาบานไปแล้วหรือ? ยังไม่ผ่านอีกหรอ?”

สถานที่ที่มีโอกาสรอดตายน้อยเช่นนั้น พวกเขาไม่อยากจะพบกับประสบการณ์แบบนั้นอีกครั้ง ครั้งนี้โชคดีถึงออกมาได้

ถ้าอีกรอบนึง เกรงว่าจะติดอยู่ด้านในแล้ว

“ชิ!ดูพวกเจ้าหวาดกลัวจนเป็นแบบนี้ ไม่รู้จริงๆว่าทำไมเจ้าสำนักอ่อนข้อให้พวกเจ้าเข้ามาในสำนักหงอี ไม่ได้มีบุคลิกที่น่านับถือเหมือนข้าในตอนนั้นเลยสักนิด”

เขาจะไม่โง่บอกพวกเขาหรอก ว่าในตอนนั้นเขาคลานออกมา

เมื่อเห็นยู่หลิวซูพวกเขาทั้งสองมองมาที่เขาอย่างระมัดระวัง เขาก็พูดอีกว่า

“วางใจเถอะ ก็ไปจับคนอื่นมาใช้”

“……จับ?”

ถิงเมี่ยนเบิกตากว้าง

“ไม่อย่างงั้นหล่ะ? ใครจะขอเข้ามาโง่ๆแบบพวกเจ้า ไม่รู้จักที่มาของชื่อสำนักหงอีรึไง?”

“คืออะไร?”ยู่หลิวซูสงสัย เขารู้สึกถึงลางไม่ดี

และก็เป็นเช่นนั้น!

“สาเหตุที่ชื่อสำนักนี้ได้ชื่อว่าสำนักหงอีก็เพราะเจ้าสำนัก สำนักหงอีของพวกเรา ตั้งแต่สวมชุดขาวเข้าออกยุทธภพ ถูกเลือดนับครั้งไม่ถ้วนไปเรื่อยๆ เสื้อที่เปื้อนเลือดมีจนนับไม่หมด เปลี่ยนไม่ได้ ล้างก็ไม่หมด คอยสะสมไปวันแล้ววันเล่า

เมื่อใดก็ตามที่เจ้าสำนักปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เสื้อผ้าก็จะเปื้อนเลือดตลอด

เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าสำนักก็สวมเสื้อคลุมสีแดง สำนักหงอีก็ได้ตั้งชื่อตามเหตุนี้

และถ้าอยากกลายเป็นสมาชิกของสำนักหงอี ก็จะต้องเป็นเหมือนเจ้าสำนัก ที่มีเลือดแดงเปื้อนเสื้อคลุมถึงจะมีคุณสมบัติเข้ามาได้”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน