หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 387 เจ้าชื่นชอบหลานเยาเยาหรือ

บทที่ 387 เจ้าชื่นชอบหลานเยาเยาหรือ

บทที่ 387 เจ้าชื่นชอบหลานเยาเยาหรือ

ทำไมตอนนี้นางถึงลุกขึ้นยืนได้

อีกอย่าง!

ก่อนหน้านี้ริมฝีปากของนางได้กลายเป็นสีม่วง สีหน้าเริ่มจะซีดเซียว แต่ตอนนี้ริมฝีปากของนางได้กลับมาเป็นสีก่อนหน้า สีหน้าเหมือนปกติ

“โธ่ องค์ชายสี่ ข้าไม่รู้จะพูดอย่างกับเจ้าแล้ว เจ้าเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ยาพิษ แต่กลับวางยาพิษคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการใช้พิษและมีวิชาการรักษาขั้นสูง นี่ไม่เท่ากับหาที่ตายให้คนเองหรือ”

“พิษของเจ้าถูกถอนแล้วหรือ เป็นไปได้อย่างไร เจ้าถอนพิษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

เมื่อแน่ใจว่านางไม่ได้ถูกพิษ องค์ชายสี่ก็ได้ตื่นตระหนก”

“ตัวข้านี้ร้อยพิษมิอาจกล้ำกราย!”

มิเช่นนั้น!

นางพูดอะไร

บอกว่านางมีช่องว่างที่ระบบรักษา สามารถถอนพิษได้ด้วยตนเอง คาดว่าองค์ชายสี่คงถูกทำให้ตกตะลึงสินะ!

“เจ้า……”

พิษร้ายที่ถอนยากมากเช่นนี้ยังไม่เป็นอะไร ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่ร้อยพิษมิอาจกล้ำกรายจริงๆ

หลังจากรู้เรื่องนี้ องค์ชายสี่ตื่นตระหนกเล็กน้อย รูม่านตาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้

หลานเยาเยามองเขาที่กำลังตกใจกลัวจนมองไปรอบด้าน จากนั้นก็ทอดสายตามองไปยังตำแหน่งตรงทางเดิน

ก็รู้ได้ว่าเขาต้องการที่จะหนีออกไป

ดังนั้นนางจึงกระตุกมุมปากทันที โบกแขนเสื้อสีแดง มีดสั้นที่แหลมคมด้ามหนึ่งก็แทรกเข้าไปตรงกลางทางเดิน เพื่อสกัดกั้นการพยายามหลบหนีขององค์ชายสี่

ในขณะที่องค์ชายสี่ได้ถูกบีบให้ไปติดกำแพง ก็รู้ตัวว่าไม่มีหนทางรอดแล้ว ใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยวขึ้นมา

“ในเมื่อข้าไม่อาจมีชีวิตรอดออกไปได้ อย่างนั้นเจ้าก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกับข้า”

องค์ชายสี่ค่อยๆ ดึงกระบี่อ่อนที่ใช้เป็นเข็มขัดออกมาจากเอว สายตามองไปที่หลานเยาเยาอย่างดุร้าย

“ไอ้คนเลว ไปตายซะเถอะ!”

พูดจบ

องค์ชายสี่ก็ได้ใช้กำลังภายในทั้งหมดส่งผ่านเข้าไปบนกระบี่อ่อน จากนั้นก็แทงไปที่คอของหลานเยาเยา

แต่หลานเยาเยาได้หลบไปกายจากกระบี่นั้น เอื้อมมือออกไปบีบคอเขา จากนั้นเสียง “แครก” ดังขึ้น ได้บิดคอเขาอย่างแม่นยำว่องไว

อย่างไรก็ตาม!

สิ่งที่หลานเยาเยานึกไม่ถึงคือ กระบี่อ่อนเล่มนั้นขององค์ชายสี่ จริงๆ แล้วเป้าหมายของกระบี่ไม่ได้มุ่งไปทางคอของนาง

หลังจากนางหลบออกไปแล้ว กระบี่อ่อนได้ลอยผ่านคอของนางมุ่งไปยังผนังที่อยู่ไกลออกไปด้านหลังนาง

เสียง “เช้ง” ดังขึ้น

กระบี่อ่อนที่ได้รับกำลังภายใน แทงทะลุเข้าไปบนกำแพง เข้าไปถูกสิ่งที่เหมือนจะเป็นกลไกโดยตรง

เพียงได้ยินเสียงปังที่ดังมาก ก้อนหินขนาดใหญ่ก็ตกลงมา

ทางเดินได้ถูกปิดกั้นไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ทั้งสุสานหลวงสั่นสะเทือนสองสามครั้ง

หลานเยาเยาขมวดคิ้วอย่างแรง

เมื่อหันกลับไปมององค์ชายสี่ เขาก็ได้สิ้นใจลงแล้ว

นางได้รีบมายังด้านหน้าหินใหญ่พันชั่ง ใช้กำลังภายในเต็มพิกัด ผลักหินใหญ่ด้วยฝ่ามือ หินใหญ่ไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่สุสานหลวงกลับสั่นสะเทือนขึ้นมา

ให้ตายสิ!

แบบนี้ไม่ได้!

หากปล่อยกำลังภายในทั้งหมดลงไปละก็ หินใหญ่ก็ไม่แตกออก สุสานหลวงก็คงจะถล่มลงมาก่อน

หากใช้ระเบิดละก็ คาดว่านางก็คงจะถูกฝังทั้งเป็นอยู่ด้านในนี้

หมดหนทาง หลานเยาเยาได้แต่เพียงเดินไปยังด้านข้างของโลงศพทองคำและมองไปที่เย่หลีเฉินที่อยู่ในโลงศพ

ตอนนี้ได้แต่เพียงรอให้เขาฟื้นขึ้นมา

องค์ชายสี่รู้จักอาวุธลับแห่งกลไกสุสานหลวงเป็นอย่างดี หนำซ้ำยังเข้าใจอย่างถ่องแท้ เย่หลีเฉินก็คงจะรู้เช่นกัน

มีแต่รอให้เขาฟื้นขึ้นมา จึงจะรู้ว่านอกจากตรงนี้ยังมีทางออกอื่นอีกหรือไม่

ในระหว่างที่รอ

หลานเยาเยาก็ได้เปิดโลงศพอีกโลงหนึ่ง นำศพขององค์ชายสี่ใส่เข้าไปในโลงศพ จากนั้นก็ตอกตะปูปิดตายอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนแรงก็ดังออกมาจากด้านในโลงศพทองคำ หลานเยาเยาขยับหู ยังรู้สึกว่าเย่หลีเฉินน่าจะฟื้นแล้ว

มองไปยังด้านในโลงศพทันที

เย่หลีเฉินยังคงนอนปิดตาแน่น เพียงแต่ริมฝีปากขยับเล็กน้อย

ตื่นแล้วไม่ใช่หรือ

ทว่าเป็นคำพูดที่เหลวไหล

น้ำเสียงทุ้มต่ำ อ่อนแรงมาก อีกทั้งยังคลุมเครือไม่ชัดเจน จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร

อย่างไรก็ตาม ดูไปดูมา ดูเหมือนจะพูดอยู่สองสามคำ

หลานเยาเยาค้ำโลงศพด้วยมือทั้งสองข้าง และโน้มตัวลงเพื่อจะฟังอย่างละเอียด

“หลาน……เยา……เยา……”

เมื่อได้ยินสองสามคำนี้ หลานเยาเยาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

……

เมื่อเข้าไปใกล้ เย่หลีเฉินก็ขมวดคิ้วแน่นและค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ร่างกายของเขาเจ็บปวดมาก ศีรษะรู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย

ทันทีที่ลืมตา ก็เห็นเงาสีแดงที่เลือนราง

“ฟื้นแล้วหรือ” เสียงอันมีเสน่ห์ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

เย่หลีเฉินต้องการจะลุกขึ้นมา แต่กลับไม่ทันระวังจึงทำให้บาดแผลฉีกขาด เขาขมวดคิ้วแน่น

“ข้า ข้ายังไม่ตายหรือ”

ก่อนที่จะถูกดาบแทงจนสลบ ความเจ็บปวดปางตายแบบนั้น ทำให้เขาคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว

“อืม!”

“ก่อนหน้านี้ดูเหมือนข้าจะเห็นน้องสี่ เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ” เขาถามอย่างสงสัย

ก่อนจะฟื้นขึ้นมาเห็นเทพธิดา ยังได้เห็นน้องสี่ที่ถือดาบยาวอยู่ด้านหลังของเทพธิดา เขาต้องการจะฆ่าเทพธิดา ในยามวิกฤต เขาก็ออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างห้าวหาญ……

“มันเป็นภาพลวงตา!”

ใช่!

มันเป็นเพียงภาพลวงตา

หรือต้องการจะให้นางพูดว่า องค์ชายสี่ยังไม่ตาย และองค์ชายสี่ก็ยังต้องการจะฆ่าเขา สุดท้ายจึงถูกนางฆ่าตายแล้วเอาไปไว้ในโลงศพอย่างนั้นหรือ

“ใช่! ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ”

มิเช่นนั้นน้องสี่จะฟื้นจากความตายได้อย่างไร

เย่หลีเฉินคค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา หลังจากออกมาจากด้านโลงศพทองคำอย่างช้าๆ ก็ได้เห็นเทพธิดาจ้องมองไปที่หินใหญ่ก้อนหนึ่งที่จู่ๆ โผล่ออกมาจากทางเดิน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เขาอดไม่ได้ที่จะถาม

“หินก้อนใหญ่นี้คือ……” เกิดอะไรขึ้น

ยังไม่ทันที่จะพูดออกมาจนจบ ก็ถูกเทพธิดาขัดจังหวะเข้า

“ไม่ทันระวังจึงได้ไปโดนกลไกปิดกั้นทางออก ไม่ทราบว่าองค์ชายรัชทายาททราบไหมว่าที่นี่ยังมีทางออกอื่นอีกหรือไม่”

“ทางออกอื่นหรือ”

เย่หลีเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นขมวดคิ้วและส่ายหน้า

“เหมือนจะไม่มี”

เขาไม่ได้รู้เรื่องสุสานหลวงมากนัก

หลานเยาเยามองไปยังท่าทีของเขาและไม่ต้องการที่จะโกหกเช่นกัน

“ได้ยินเจ้าเรียกชื่อของหลานเยาเยาขณะที่ยังไม่ฟื้น เจ้าชื่นชอบนางหรือ”

มันเป็นไปไม่ได้

หลานเยาเยาถามไปแบบนี้แค่อยากจะลองเชิงเย่หลีเฉินจะสงสัยว่านางคือหลานเยาเยาหรือไม่

จู่ๆ บทสนทนาก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงนั้นดูเหมือนแค่ถามอย่างไม่ได้มีสารถสำคัญอะไร เหมือนว่าจะรู้หรือไม่รู้คำตอบก็ไม่ได้สำคัญอะไร

คำถามที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เย่หลีเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็เอียงศีรษะไปอีกด้านหนึ่งอย่างเงียบๆ พูดเบาๆ ว่า

“ข้าติดคำขอโทษกับนาง”

สำหรับหลานเยาเยา เขาเพียงติดคำขอโทษเดียวงั้นหรือ

เขาเคยทำสัญญาแต่งงานกับนาง เป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกและนิสัยที่ขี้ขลาดอ่อนแอ ทำให้เขารำคาญนางเป็นอย่างมาก บวกกับการติดตามของนาง ยิ่งทำให้รังเกียจนางเป็นอย่างมาก

เมื่อเทียบกับหลานเยาเยาแล้ว เขาหลงใหลหลานชิวหยุนมากกว่า ในตอนนั้นเขารู้สึกว่าหลานชิวหยุนถึงจะเป็นคู่ที่เหมาะสมของเขา

แต่……

ใครจะไปนึกว่า วันหนึ่งเรื่องทั้งหมดจะกลับตาลปัตร

หลานเยาเยาเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด แต่หลังจากหลานชิวหยุนผู้มีจิตใจงดงามของเขาได้ถอดหน้ากากของความเสแสร้งออกมา การกระทำทั้งหมดของนางกลับทำให้คนขยะแขยง

แต่เขากลับกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของนาง และเกือบจะทำให้หลานเยาเยาถึงแก่ความตาย

สำหรับเรื่องนี้ เขาตำหนิตนเองอยู่ตลอด แต่หลานเยาเยาที่ได้พลิกโฉมใหม่ได้แสดงความสามารถที่มีออกมาให้เห็น

เสด็จแม่ที่ก่อกรรมทำชั่ว กลับต้องตายเพราะหลานเยาเยา ในใจเขามีความสับสนมาก เขาจึงไม่เคยที่จะเอ่ยคำขอโทษออกมา

คิดไม่ถึงว่าเมื่อไม่พูดก็ไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำขอโทษอีกแล้ว

ส่วนเรื่องชื่นชอบ……

เขาชื่อชอบนางหรือไม่

คำตอบคือไม่รู้

บางทีอาจจะใช่ บางทีอาจจะไม่ใช่ ใครจะไปรู้เล่า

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ตอนที่หมดสติเขาจะเรียกชื่อของนาง

จริงๆ แล้วชื่อนี้ของนาง ได้หยั่งรากลึกลงในก้นบึ้งหัวใจของเขาโดยไม่รู้ตัว…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท