หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 389 หนีออกจากสุสานหลวง

บทที่ 389 หนีออกจากสุสานหลวง

บทที่ 389 หนีออกจากสุสานหลวง

ตอนนี้

ในด้านของเย่หลีเฉินได้ยินเสียงของการต่อสู้แล้ว ได้ยินเหมือนว่าเขาจะรับมือจนเสียแรงไปมาก

และมนุษย์โครงกระดูกที่อยู่ด้านข้างของหลานเยาเยาก็เริ่มโจมตีนาง นิ้วมือของมนุษย์โครงกระดูกที่มีกระดูกนิ้วมือชัดเจน ราวกับมีดสั้นที่แหลมคมห้าเล่ม จู่โจมมายังใบหน้าของหลานเยาเยา

แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะไม่รวดเร็วเท่ามนุษย์ แต่กลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และรับมือได้ยากมาก

อีกทั้งมีมนุษย์โครงกระดูกปีนขึ้นมาจากพื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นภาพลวงตาหรือมีอยู่จริง สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว

ผนวกกับร่างกายของเย่หลีเฉินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส รับมือกับมนุษย์โครงกระดูกเพียงหนึ่งตัวก็มากเกินจะทนแล้ว

มนุษย์โครงกระดูกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ แล้วเขาไม่สามารถรับมือได้แล้ว

หลังจากหลานเยาเยาได้ฟาดฝ่ามือไปยังมนุษย์โครงกระดูกตัวหนึ่ง

ก็รีบเหาะไปทางเย่หลีเฉินอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่มาถึงตรงหน้าเขา ใช้กำลังฝ่ามือโจมตีมนุษย์โครงกระดูกสองตัวที่กำลังจู่โจมเขา จากนั้นก็รีบคว้าแขนของเขา แล้วเหาะไปยังโลงศพทองคำ

หลังจากวางเขาลง

หลานเยาเยาแง้มปากเบาๆ “กันเอาไว้ก่อน ข้าจะคิดหาวิธี”

อันที่จริงวิธีการนั้นง่ายมาก เพียงแค่เบนความสนใจของเย่หลีเฉิน นางก็จะสามารถนำฝาของโลงศพทองคำเข้าไปด้านในของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

เพื่อลองดูว่าผนังที่ฝาโลงศพทองคำปิดกั้นเอาไว้จะมีระบบเปิดปิดอยู่จริงหรือไม่

“ได้”

เย่หลีเฉินตอบรับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เขาเบนความสนใจไปยังมนุษย์โครงกระดูก และพร้อมที่จะต่อสู้กับมนุษย์โครงกระดูก

เมื่อเห็นว่าเย่หลีเฉินกำลังติดพันอยู่กับมนุษย์โครงกระดูกสองตัว นางก็รีบโบกมือทันที โลงศพทองคำก็ได้ถูกเข้าสู่ระบบทันที

ผนังที่ถูกปิดบังไว้ ก็มีปุ่มนูนขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้น

มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย

ต้องเป็นมันแล้วล่ะ!

ยื่นมือออกไปและกดส่วนที่โผล่ออกมา

“ตูมตาม……”

ทั้งสุสานหลวงก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา ทางเดินที่กว้างทางหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏตรงหน้านาง

เพียงแต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ……

ทันทีที่ประตูหินถูกเปิด ก็เตรียมที่จะปิดแล้ว อีกทั้งยังรวดเร็วมาก

นึกว่าจะช้าไป แต่กลับรวดเร็วกว่าที่คิด หลานเยาเยาก็ได้คว้าแขนของเย่หลีเฉินเอาไว้ ดึงเขาเหาะตรงเข้าไป

ในทางเดิน ทันทีที่พวกเขาเหาะเข้าไป ประตูหินด้านหลังก็ได้ปิดลงแล้ว จังหวะนั้นได้หนีบโดนมือข้างหนึ่งของมนุษย์โครงกระดูกที่ยื่นออกมา

โดนมือโครงกระดูกแตกพอดี และได้กลิ้งตกไปที่เท้าของหลานเยาเยา

ในชั่วพริบตาเดียว

มือโครงกระดูกชิ้นนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา ค่อยๆ เปลี่ยนไป และสลายหายไป

แท้จริงแล้วมันก็คือภาพลวงตา!

แต่ภาพลวงตาแบบนี้กลับเป็นอันตรายถึงชีวิต

เนื่องจากมนุษย์โครงกระดูกได้กรีดเข้าที่แขนของเย่หลีเฉินจนเป็นรอยบาด หลังจากประตูหินปิดลง มือโครงกระดูกได้หายไป รอยบาดบนแขนของเย่หลีเฉินกลับไม่มีแล้ว

หากต้องอยู่ด้านในนั้นตลอด ภาพลวงตาเหล่านั้นก็สามารถทำให้พวกเขาถึงแก่ความตายได้

“ไปกันเถอะ!” นางพูดเบาๆ

หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังกลับแล้วเดินไปอีกด้านของทางเดิน

แต่ทันใดนั้นกลับได้ยินเสียงวัตถุหนักตกลงพื้นดังมาจากด้านหลัง นางจึงรีบหันกลับไปมอง

ก็ได้เห็นเย่หลีเฉินล้มไปลงกับพื้น

นางเดินเข้ามาที่เข้าทันที เลือดที่ไหลออกมาอย่างน่าตกใจได้ปรากฏสู่สายตา แผลที่หน้าท้องของเย่ลีเฉินปริออก มีเลือดไหลออกมามากมาย

หลานเยาเยาพันแผลให้เขาอีกครั้งโดยไม่พูดอะไร และใช้ตัวยาที่ดีที่สุดรักษา

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

นางก็ได้หยิบตัวยาที่มีกลิ่นฉุนผิดปกติออกมา และวางตรงปลายจมูกของเย่หลีเฉิน กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็แทรกซึมเข้าไปในจมูกของเขาทันที

เพียงครู่เดียว

เย่หลีเฉินค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา

“ข้า……”

เข้ารู้สึกอ่อนแอมาก แม้แต่เสียงก็ยังไร้เรี่ยวแรง

“เจ้าไม่มีกำลังมากนัก ไม่ควรอยู่ที่นาน พวกเราต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด”

หลานเยาเยาเพียงพูดตามความจริงเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจทำให้เขารู้สึกลำบากใจ

เย่หลีเฉินไม่ได้พูดอะไรอีก แต่พยักหน้าเบาๆ

จากนั้นก็พยายามที่จะลุกขึ้น แต่กลับพบว่าตนเองมีแรงไม่มาก ไม่สามารถลุกขึ้นได้เลย ตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

หลานเยาเยาก็ยื่นมือออกมาหาเขาโดยตรง

“เข้าอาศัยตัวข้าได้”

“เทพธิดา……” เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ

เมื่อเห็นท่าทีของเขา หลานเยาเยาไม่ได้พูดอะไร จึงดึงมือของเขามาพาดไว้บนไหล่ของตนเอง

จากนั้นด้วยกำลังของคนคนเดียว ก็ช่วยพยุงเขาขึ้นมา พาเขาออกไปข้างนอกทีละก้าวๆ

ทางออกของทางเดินนี้ ถูกปกปิดไว้อย่างดีมาก หลังจากที่ควานหา หลานเยาเยาจึงได้รู้ว่าระบบเปิดปิดของทางออกอยู่ที่ไหน

เมื่อออกมาจากด้านใน

นางมองไปที่หมอกควันที่หนาแน่น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หันหน้าไปพูดกับเย่หลีเฉิน

“อีกครู่หนึ่งจะเกิดภาพลวงตาขึ้น ไม่ว่าจะมองเห็นหรือได้ยินอะไรก็ตามก็อย่าส่งเสียงใดๆ แล้วก็อย่าตื่นตระหนก เจ้าเพียงตามข้ามาก็พอ”

“ได้!”

น้ำเสียงเย่หลีเฉินอ่อนแรงอย่างหาอะไรเปรียบมิได้ บนหน้าผากเต็มไปเหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ข้างหลังก็ได้เปียกโชกหมดแล้ว

แต่เขารู้

ที่เทพธิดาทำแบบนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของเขา

แต่เขากลัวที่จะเห็นภาพลวงตาเหล่านั้น เขาจึงหลับตาลง

หลังจากเบนสายตาออกจากเย่หลีเฉิน นางจงพาเขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าว

ท่ามกลางกระแสหมอกควันที่เคลื่อนไปมา ภาพลวงตาเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เงาดำที่มีรูปร่างเหมือนภูตผี ได้ผ่านเข้ามาเป็นระลอก

หลานเยาเยาไม่ได้สนใจพวกมัน และระงับความผันผวนในจิตใจของตนเอง แล้วค่อยๆ มองหาทางออก

เมื่อมาถึงสถานที่นั้นก่อนที่จะเข้าไปในห้องสุสานหลัก หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังประตูสุสานของห้องสุสานหลัก

แต่กลับพบสิ่งแปลกประหลาด ประตูสุสานที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่งก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถูกเปิดออกทั้งหมดแล้วหรือหลังจากที่นางเข้าไปจะยังมีคนอื่นมาอีก

เดิมทีนางยังอยากเข้าไปดู แต่ด้วยข้างกายยังมีเย่หลีเฉินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงต้องละทิ้งมันไป

ตามความทรงจำที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ออกมาจากสุสานหลวงแล้ว

ตามทิศทางของคราบเลือดก่อนหน้า ในไม่ช้าพวกเขาจึงมาถึงสถานที่ที่จอดรถม้าเอาไว้

หลานเยาเยาวางเย่หลีเฉินลง ปล่อยเขาพักผ่อนอยู่ด้านข้าง

จากนั้น!

นางนำนิ้วมือวางที่ริมฝีปากแล้วเป่าหวีด เพื่อส่งสัญญาณลับให้กับสำนักหงอี แต่นานแล้วกลับไม่มีการตอบรับ

น่าแปลก

คนขับรถม้าหายไปไหน

เมื่อนึกถึงก่อนที่จะเข้าไปห้องสุสานหลัก ท่ามกลางหมอกควันนางมองเห็นภาพลวงตาการตายอย่างอนาถของคนขับรถม้า จึงได้ตามหาตรงสถานที่มืดที่อยู่ใกล้เคียง

เมื่อเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว นางก็ได้กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง

เริ่มจะไม่ดีแล้ว

ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับคนขับรถม้าแน่นอน

เป็นอย่างที่คาดเอาไว้!

ในขณะที่นางตามหาคนขับรถม้าจนพบ คนขับรถม้าก็มีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด ไม่มีลมหายใจแล้ว

เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้ถูกออกแบบโดยองค์ชายสี่หรอกหรือ

องค์ชายสี่ได้ตายไปแล้ว

ทำไมถึงยังมีคนอื่นอยู่ที่นี่อีก

หรือว่าจะเป็นลูกน้องของเขา

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลานเยาเยาก็พาเย่หลีเฉินขึ้นไปบนรถม้าของตนเอง

ไม่มีคนขับรถม้าแล้ว นางก็ทำได้เพียงขึ้นไปนั่งในตำแหน่งของคนขับรถม้าด้วยตนเองเพื่อบังคับรถม้า

เมื่อฟาดแส้ รถม้าสีแดงก็ค่อยๆ เคลื่อนตัว

ขณะที่ชำเลืองมองกลับเห็นเงาร่างสีดำปรากฏขึ้น

ทันทีที่หันศีรษะไป ก็พบว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นสุสานราชวงศ์เก่า

มีคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าสุสานราชวงศ์เก่า คนคนนั้นสวมชุดสีดำที่ดูโดดเด่น ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ มองดูนางอย่างเงียบๆ

นั่นเขา!

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

เพียงแวบเดียวนางก็ได้ละสายตากลับ และบังคับรถม้าอย่างตั้งใจ เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง รถม้าสีแดงก็หยุดลงตรงหน้าประตูพระตำหนักไท่จื่อ

เย่หลีเฉินถูกอุ้มเข้าไปแล้ว หลานเยาเยาจึงบังคับรถม้าเข้าไปวังหลวง

สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อถึงหน้าประตูวังหลวง นางก็เห็นเขาในชุดคลุมสีดำอีกครั้ง

นั่นคือเย่แจ๋หยิ่ง!

เขายืนอยู่หน้าประตูวัง มองนางอย่างเงียบๆ

หลังจากลงจากรถม้า หลานเยาเยาก็เดินมาหาเขา

“เจ้า

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท