หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 417 กินข้าวกระตือรือร้นที่สุด

บทที่ 417 กินข้าวกระตือรือร้นที่สุด

บทที่ 417 กินข้าวกระตือรือร้นที่สุด

ดังนั้น เลยกล่าวตรงๆว่า:

“เซียวซื่อจื่ออาจจะไม่รู้ เดิมเจ้าพระยาเซียวก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ท่านทำเช่นนี้ มีแต่จะทำให้เขาเป็นกังวลมากขึ้น

และหลังจากที่เจ้าพระยาเซียวนั่งบนรถเข็นแล้ว ร่างกายไม่ได้รับการออกกำลัง ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือปัญหาทางด้านจิตใจ

หากข้าทายไม่ผิด เจ้าพระยาเซียวต้องมีความในใจ สั่งสมอยู่ในใจเดือนแล้วเดือนแล้วปีแล้วปีแล้ว เดิมทีในใจก็ไม่มีความสุขอยู่แล้ว บวกกับเห็นการกระทำที่จงใจเช่นนี้ของท่าน

ในใจจะต้องยิ่งหดหู่มากขึ้นไปอีก นี่ไม่ดีต่อร่างกายและจิตใจของเขาอย่างมาก ถึงแม้เจตนาแรกของเจ้าจะดี แค่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการทำร้ายเขา

ข้าพูดได้แค่นี้ เซียวซื่อจื่อลองคิดทบทวนคำพูดของข้าดีๆ”

หลังจากฟังที่นางพูดแล้ว เซียวจิ่นหยูรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย

เขาแค่ทำไปเพื่อไม่ให้ท่านพ่อเป็นห่วง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การที่เขาทำเช่นนี้กลับมีผลกระทบต่อท่านพ่อด้วย โทษตัวเองในใจมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น เขายกมือคำนับหลานเยาเยาด้วยความเคารพนับถือ:

“ขอบคุณมากที่บอก!”

“เรื่องเล็กน้อย(ออกแรงเหมือนแค่ยกมือ)เท่านั้นไม่ต้องเกรงใจ แต่ว่าคืนนี้ต้องขอค้างคืนในจวนของท่านแล้ว”

“ไม่มีปัญหา เทพธิดาอยากอยู่นานเท่าไหร่ก็อยู่ได้นานเท่านั้น”

รอจนกระทั่ง หลังจากหลายเยาเยาเข้าไปในห้องและปิดประตูลง เซียวจิ่นหยูแอบมีรอยยิ้มขึ้นมาเงียบๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องอื่น สีหน้าท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นซับซ้อนขึ้นมา

วันต่อมา

ฟ้าเพิ่งจะสางขึ้นมาไม่นาน หลานเยาเยาที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เดิมก็นั่งพิงข้างกำแพงอยู่แล้ว ด้านหน้าของนางมีโต๊ะหรูหราวางอยู่

บนโต๊ะมีการจัดวางที่เรียบง่าย มีถาดอันหนึ่ง หนึ่งกาน้ำชาถ้วยชาสี่ใบ

หนึ่งในถ้วยชาถูกนางบีบเอาไว้ในมือเบาๆ กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ ไม่ทันรู้สึกตัวก็ยกมือที่ถือถ้วยชาขึ้นแล้วส่งไปถึงปาก

เอ๋?

ไม่มีน้ำชา?

ตอนหยิบถ้วยชามาถึงปากแล้วถึงพบว่า ถ้วยชานี้ว่างเปล่าแล้ว เปิดฝากาน้ำชาออกก็ไม่มีน้ำชาแล้ว

ทันใดนั้น!

แววตาหลานเยาเยาเป็นประกายขึ้นมา เอียงศีรษะเล็กน้อย

“ดงๆๆ……”

“พวกเจ้าเข้ามา รีบเข้ามา เสียงเบาๆหน่อย”

เสียงฝีเท้ามากมายดังมาจากข้างนอก ดูเหมือนยังมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งจงใจลดเสียงลง

ไม่รู้ว่าพวกนางจะทำอะไร หลานเยาเยาเลยวางถ้วยชาไว้บนโต๊ะ รอคอยอย่างเงียบๆ ไม่ช้าก็มีเสียง “ซีๆซูๆ” ดังออกมา

เหมือนกำลังทำความสะอาด และเหมือนจงใจเดินไปเดินมาหน้าประตูห้อง

ผ่านไปนานพักใหญ่

สาวใช้ที่ทำความสะอาดอยู่ข้างนอกก็มองไปที่ท้องฟ้า พบว่าข้างในยังไม่มีการเคลื่อนไหว อดที่จะวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบาขึ้นมาไม่ได้:

“นี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่ซื่อจื่อพากลับมา ไม่รู้ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร?”

“คิดว่าคงไม่เท่าไหร่หรอก เวลานี้แล้ว ยังไม่รู้จักลุกขึ้นมา ไม่ใช่คุณหนูตระกูลใหญ่อะไรแน่ๆ”

“เจ้าอย่างพูดไปเรื่อยเปื่อย ฟังจากองครักษ์ที่ทำความสะอาดห้องนี้เมื่อคืน เป็นสาวงามที่สวยงามมากๆ”

“ชิ บนโลกนี้จะมีสาวงามที่สวยงามมากๆเยอะแยะขนาดนั้นได้อย่างไร? คิดว่าฟ้ามืดลมแรง(คืนที่ไม่มีแสงจันทร์และลมพัดแรง) องครักษ์สองสามคนนั้นไม่ได้ดูให้ชัดเจนเลยจงใจพูดออกมา”

“……”

พวกสาวใช้ยังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ หลานเยาเยาที่อยู่ในห้องอดขมวดคิ้วไม่ได้

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในตระกูลใหญ่ทุกตระกูลมักจะมีสาวใช้บางคนที่ชอบพูดจานินทาคนอื่น และพอดีสาวใช้ของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ก็นินทากันอย่างเที่ยงตรงเปิดเผย

มันก็ไม่น่าแปลก จวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์นี้ดูเหมือนเซียวจิ่นหยูจะเป็นคนดูแล

และเวลาที่เซียวจิ่นหยูอยู่ในจวนก็น้อยมาก คนรับใช้ในจวนไม่มีคนมาสนใจ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็ต้องจองหองอวดดีเล็กน้อยอยู่แล้ว

หลานเยาเยาลุกขึ้นไปเปิดประตู ก็เห็นคนสองสามคนทำความสะอาดข้างนอกอย่างขอไปที พวกนางแต่งกายด้วยสีสันสดใสดอกๆเขียวๆ แต่งหน้าหนาเตอะ

นี่เป็นการมาทำความสะอาดที่ไหนกัน? เห็นได้ชัดว่าเป็นการมาประชันความงามกัน!

เห็นประตูห้องเปิดออก ทุกคนต่างก็มองไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เมื่อเห็นใบหน้างดงามเยือกเย็นของนาง พวกนางแต่ละคนตกใจจนตะลึงไป

ที่องครักษ์พูดไม่ผิดเลย

ผู้หญิงคนนี้สวยงามจริงๆ

ถึงแม้จะละสายตาไปไม่ได้ แต่เมื่อพวกนางได้สติกลับมา สีหน้าท่าทางก็ต่างออกไปทันที มีอิจฉา มีริษยา และยังมีจิตตกหดหู่ใจ

“พี่สาวเกิดมาสวยจัง! ไม่ทราบว่าเมื่อคืนพี่สาวนอนหลับดีไหม?”

“พี่สาวต้องการจะล้างหน้าแปรงฟันก่อนไหม? ข้าจะไปตักน้ำมาให้”

ถึงอย่างไรก็เป็นผู้หญิงที่ซื่อจื่อมากลับมาครั้งแรก แถมยังสวยงามมากเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพระชายาซื่อจื่อในอนาคตได้ ดังนั้นพวกนางแต่ละคนสองคนต่างก็แย่งกันเรียกพี่สาว แถมยังแย่งชิงเพื่อเป็นคนแรกกลัวว่าจะเป็นคนสุดท้ายในการปรนนิบัติรับใช้นาง

ทำให้หลานเยาเยาอดตะโกนขึ้นมาอย่างดุดันไม่ได้

“ไม่ต้อง พวกเจ้าไปทำธุระของพวกเจ้าเถอะ!”

ล้างหน้าแปรงฟันไม่จำเป็นแล้ว

เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้อง นางใช้น้ำแร่สีเหลืองล้างอย่างหรูหรามากมาแล้ว ถือโอกาสแต่งตัวให้ตัวเองด้วย ถึงแม้จะไม่เหมือนกันกับในวันปกติ แต่ก็ไม่ถึงกับเปิดเผยตัวตนอย่างที่เป็น

ภายใต้สายตาของสาวใช้พวกนั้น หลานเยาเยาเดินออกจากลานของห้องรับแขกไปด้วยใบหน้าไม่แยแส

สาวใช้ที่คิดเอาเองว่าพอจะมีความงามอยู่บ้าง กล่าวออกอย่างรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย:

“ถึงจะมีหน้าตาสวยงามก็ไม่มีประโยชน์? ไม่รักษาความสะอาดเลยสักนิด ตื่นเช้ามา แม้แต่หน้าก็ยังไม่ล้าง ไม่เข้าใจจริงๆทำไมซื่อจื่อถึงชอบนาง?”

““เจ้าเบาๆหน่อย ถ้าหากแม่นางคนนั้นได้ยินเข้า จะโกรธเอาได้” สาวใช้บางคนกล่าวเกลี้ยกล่อม

“ข้าพูดผิดไปหรือ? ก็แค่มีใบหน้าที่เป็นภัยต่อประเทศต่อประชาต่อสังคมไม่ใช่หรือ? มีอะไรที่น่าอยู่สูงส่ง? ไม่แน่ชาติกำเนิดอาจต่ำต้อย บางทีอาจจะเป็นผู้หญิงประเภทที่ไม่สะอาดในสำนักนางโลมก็ได้!”

เมื่อเซียวจิ่นหยูที่สวมชุดที่ขาว ท่าทางสุภาพเรียบร้อยมาถึงก็ได้ยินคำพูดแสลงหูไม่น่าฟังเช่นนี้ และคนที่พูดยังเป็นสาวใช้ในจวนของเขา

“พวกเจ้ามาทำอะไรตรงนี้?” เสียงของความโกรธดังขึ้นมา

บรรดาสาวใช้ตกใจจนคุกเข่าลงไปกับพื้นด้วยความตื่นตระหนกตกใจทำอะไรไม่ถูก

“ซื่อจื่อ พวกข้าน้อยมาปรนนิบัติแม่นางตื่นนอน เลยถือโอกาสทำความสะอาดลานบ้านเสียหน่อย” หนึ่งในสาวใช้ที่สวยมากคนหนึ่งรวบรวมความกล้ากล่าวขึ้น

“ให้เวลาพวกเจ้าเก็บข้าวของออกจากจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ภายในสิบห้านาที มิเช่นนั้น……” เซียวจิ่นหยูแอบใช้กำลังภายใน ทุบหินที่อยู่ด้านข้างแตกสลายไปโดยตรง “นี่จะเป็นจุดจบของพวกเจ้า”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา

เหล่าสาวใช้หน้าซีดเผือด แต่ละคนตกใจจนตัวสั่นไปทั้งตัว ขอความเมตตาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ซื่อจื่อโปรดให้โอกาสพวกเราอีกครั้ง”

“ซิกๆๆ ซื่อจื่อ พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว ท่านอย่าไล่พวกเราออกไปเลยนะ”

“……”

เซียวจิ่นหยูฮึเย็นชาออกมาโดยตรง กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า: “ข้าพูดจริงทำจริง”

สาวใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงพวกนี้ เขาอยากจะจัดการทิ้งตั้งนานแล้ว

เขามองผ่านพวกสาวใช้ไป มองไปทางประตูที่เปิดออก จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ เดินไปทางลานด้านนอก เพิ่งจะยกเท้าก็เห็นหลานเยาเยาในชุดสีแดงเลือดยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มองดูเขาด้วยสายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม

เซียวจิ่นหยูเดินเข้าไปด้วยสีหน้าขอโทษเล็กน้อย

“ให้ท่านหัวเราะเยาะแล้ว”

พิจารณาถึงชื่อเสียงของนาง นอกจากท่านพ่อแล้ว ไม่มีใครรู้ฐานะเทพธิดาของนาง คิดไม่ถึงว่าสาวใช้ใจกล้าพวกนั้น กลับวิ่งไปก่อความวุ่นวายถึงที่ที่นางพักอยู่กันเองโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ไม่เป็นไร”

เห็นหน้าตาแบบนี้จนชินตั้งนานแล้ว แม้แต่จะพูดนางก็ยังขี้เกียจจะพูด

เซียวจิ่นหยูเห็นว่านางไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา: “เทพธิดา เมื่อคืนนอนหลับดีไหม? ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อย?”

ได้ยินคำพูดนั้น

หลานเยาเยายิ้มอย่างยั่วยวน กล่าวอย่างฝืนความตั้งใจของตัวเองมาก: “ชินแล้ว ตอนที่อยู่ในตำหนัก ข้าก็นอนเช้าตื่นเช้าตลอด”

เวลานางพูดโกหกขึ้นมาหน้าไม่แดงใจไม่เต้นแรง

โชคดีที่ตาเฒ่าหนังเหนียวไม่อยู่ คำพูดที่สวนทางกับความจริง คิดว่าคงจะถูกโค่นล้มไปโดยตรง บอกว่านางนอนจนตะวันสายโด่ง ดวงอาทิตย์ก็ส่องมาถึงก้นแล้วยังไม่รู้จักตื่นนอน

“อาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้ว เชิญเทพธิดาไปที่ห้องโถงใหญ่(ห้องสำหรับงานเลี้ยงและรับรองแขก)”

“ได้!”

ไม่กินก็เสียเปล่า กินแล้วก็กินเปล่าๆ กินฟรีใครไม่กิน?

กินให้อิ่มท้องก่อนถึงจะทำงานใหญ่ได้ง่ายขึ้น!

เกี่ยวกับเรื่องกินแล้ว นางกระตือรือร้นอย่างมาก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท