หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 419 ศึกษาแลกเปลี่ยนวรยุทธในห้องหนังสือ

บทที่ 419 ศึกษาแลกเปลี่ยนวรยุทธในห้องหนังสือ

บทที่ 419 ศึกษาแลกเปลี่ยนวรยุทธในห้องหนังสือ

ทั้งสองอยู่ในห้องหนังสือ คนหนึ่งนั่งอยู่ คนหนึ่งยืนอยู่ พวกเขาพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยไปสักพัก ถึงแม้ในสามคำจะไม่ห่างจากความขัดแย้งในราชสำนัก แต่ก็ถือว่าคุยกันถูกคอ

หลานเยาเยาก้มมองไปทางรถเข็นของเจ้าพระยาเซียวเล็กน้อย จากนั้นก็หยุดสายตาไว้บนขาของเขา

แววตาเป็นประกายขึ้นมา แล้วกล่าวเสียงเบาว่า:

“ได้ยินว่าสมัยก่อนเจ้าพระยาเซียวเป็นคนคุมสถานการณ์ในสนามรบ เป็นแม่ทัพเอกที่หาได้ยากคนหนึ่งของประเทศก่วงส้า ในมือเคยบั่นหัวคนมาแล้วเป็นหมื่นๆ เคยโด่งดังมากในสมัยหนึ่ง มีหน้ามีตาสมฐานะอย่างดี

ไม่ทราบว่าผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว วรยุทธของเจ้าพระยาเซียวก้าวหน้าไปบ้างหรือไม่?”

คำพูดของนางฟังเหมือนเป็นการชื่นชม แต่ก็เหมือนกำลังดูแคลน ส่วนจะหมายความว่าอย่างไรนั้น ต้องดูว่าคนฟังจะเข้าใจแบบไหนแล้ว

หลังจากเจ้าพระยาเซียวได้ฟังแล้ว

หรี่ตาลงเล็กน้อย มีความระมัดระวังปรากฏขึ้นในแววตาเล็กน้อย จากนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ

“เทพธิดาล้อเล่นแล้ว ตาเฒ่าคนหนึ่งอย่างข้า ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็น ไม่ฝึกฝนวรยุทธนานหลายปี วันๆไม่ออกไปไหน หลายปีขนาดนี้แล้ว วรยุทธไม่เสื่อมถอยก็ไม่เลวแล้ว

ฟังความหมายของเทพธิดา หรือว่าเทพธิดายังอยากจะประลองยุทธกับผู้พิการเช่นข้าหรือ?”

หลานเยาเยามองดูเขาอย่างเหมือนยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม ราวกับไม่เห็นการระมัดระวังตัวในสายตาของเขา แต่กลับพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวโดยตรงว่า:

“มีความตั้งใจเช่นนั้น!”

พูดคำนี้ด้วยท่าทางเคร่งขรึม ราวกับว่าประลองยุทธกับคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นไม่ใช่เรื่องที่เอาเปรียบคนที่ด้อยกว่า และสีหน้าของนางก็เรียบเฉย ดูท่าทางเหมือนแค่รอให้เจ้าพระยาเซียวเอ่ยปากตอบตกลงเท่านั้น

เจ้าพระยาเซียวได้ยินคำพูดแบบนี้ของนางแล้ว สีหน้าก็ตึงไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี

“ในเมื่อเทพธิดามีความสนใจเช่นนี้ ข้าอยากจะปฏิเสธไม่ประลองด้วยคงจะไม่ได้แล้ว ดูท่ากระดูกแก่ๆนี้ก็ควรจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้น!

หลานเยาเยาเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากมีรอยยิ้มที่เจตนาไม่ชัดเจนปรากฏขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เค็มไม่จืด(ธรรมดาๆ):

“ไม่ต้องหาสถานที่อื่นแล้ว ประลองกันที่นี่แหละ วางใจเถอะ! เราประลองพอเป็นพิธีให้รู้ถึงวรยุทธของอีกฝ่ายก็พอ ข้าคนนี้ก็เคารพผู้อาวุโสและรักเด็กอยู่ไม่น้อย”

เห็นว่าเจ้าพระยาเซียวผลักล้อรถเข็น เห็นได้ชัดว่าจะออกไปหาสถานที่กว้างขวางข้างนอกประลอง

แน่นอนว่านางไม่สามารถปล่อยให้เขาออกไปได้

เซียวจิ่นหยูรออยู่ข้างนอกไม่ไกลออกไป ถ้าหากรู้ว่านางจะประลองยุทธกับท่านพ่อที่พิการและร่างกายก็ยังอ่อนแอของเขาแล้ว คาดว่าคงจะชักกระบี่จี้มาที่คอของนางโดยตรงเลย!

เห็นเจ้าพระยาเซียวกระตุกมุมปากของเขาสำเร็จ

เดิมทีเขากำลังคิดออกไปหาสถานที่ประลองยุทธ คำพูดก็มาถึงคอแล้ว ยังต้องถูกอดกลั้นกลับเข้าไป

ใครให้นางเป็นเทพธิดาล่ะ?

สถานะยังเทียบเท่าองค์หญิง

เจ้าพระยาเช่นเขาก็ต้องทำตามความเห็นของนาง

“ได้!” เจ้าพระยาเซียวพยักหน้า “เช่นนั้นก็ที่นี่แล้วกัน!”

เดิมที เจ้าพระยาเซียวเตรียมพร้อมจะเริ่มแล้ว นึกไม่ถึงว่าหลานเยาเยายังพูดคำที่ทำคนอึ้งจนพูดไม่ออกมาอีกคำ:

“เจ้าพระยาเซียว เราประลองกันพอเป็นพิธีให้รู้ถึงวรยุทธของอีกฝ่ายก็พอ ท่านอย่ารังแกข้าที่เป็นคนรุ่นหลังล่ะ!”

“……”

เจ้าพระยาเซียวรู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ใครรังแกใครเนี่ย?

เสียงของหลานเยาเยาเงียบไปไม่เท่าไหร่ สีหน้าท่าทางของพวกเขาทั้งสองก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

เพราะเจ้าพระยาเซียวนั่งอยู่บนรถเข็น การที่เดินไปมาต้องอาศัยการหมุนล้อรถเข็น หากต้องการจู่โจม จะหนักเกินกำลังอย่างมาก

ดังนั้น ทำได้แค่นั่งอยู่บนรถเข็น รอให้หลานเยาเยาเป็นคนเริ่มลงมือก่อน

อย่าเห็นว่า ร่างกายเจ้าพระยาเซียวอ่อนแอ ผอมจนดูเหมือนจะเหลือแต่กระดูก แต่พอประลองยุทธกับนางขึ้นมา กลับมีพลังที่น่าเกรงขามดุจดั่งเสือ มีพลังทำให้คนประหลาดใจ

แต่ว่า!

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธมาหลายปีแล้ว และร่างกายก็รับไม่ไหว

สองสามรอบลงมา ในขณะที่เขาก็รู้สึกว่าหนักเกินกำลังอยู่เล็กน้อย ก็แอบประหลาดใจที่วรยุทธของเทพธิดาจะยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทั้งที่อายุยังน้อยขนาดนี้

ถ้าหากหมั่นขยันฝึกฝนวรยุทธตลอด ความสามารถในวันหน้าทำให้คนทึ่งมากแน่นอน

ตอนที่ประหลาดใจอยู่ เขาไม่ทันได้ระวังตัว ก็ถูกหลานเยาเยาถือโอกาสจู่โจมถึงตัว

แต่พูดขึ้นมาก็แปลก หลานเยาเยาหาลงมือแต่เท้าที่ไม่มีความรู้สึกของเจ้าพระยาเซียวโดยเฉพาะ สุดท้ายนางก็ยิ้มออกมา จู่โจมไปที่แขนของเขาโดยตรง ท่าทางภาคภูมิใจอย่างมาก ปลายนิ้วมือขาวเนียนเรียวยาวกลับจับไปที่ชีพจรของเจ้าพระยาเซียวในเวลาที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“ไม่เลว ไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธมาหลายปีขนาดนี้แล้ว วรยุทธกลับไม่เสื่อมถอยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งแก่ก็ยิ่งแกร่งจริง!”

ทันใดนั้น!

แววตานางเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ก็เอามือกลับไป

เจ้าพระยาเซียวหายใจอย่างลำบากเล็กน้อย ลมหายใจไม่มั่นคงเล็กน้อย บนหน้าผากก็มีคราบเหงื่อปรากฏขึ้นมา

คิดว่าคงเพราะไม่ได้ใช้วิทยายุทธมานาน ถึงได้เป็นเช่นนี้

“เทพธิดาถ่อมตนเกินไปแล้ว อายุน้อยๆก็มีกำลังภายในที่น่าทึ่งเช่นนี้ และกระบวนท่ารุนแรงชัดเจนและรวดเร็ว น่าชื่นชมจริงๆ”

คำพูดนี้ เจ้าพระยาเซียวกล่าวอย่างนอบน้อมและจริงใจ

แต่ว่า!

ไม่ได้ออกกำลังมานานแล้ว ระหว่างการต่อสู้สีหน้าของเขาซีดขาวลงไปเล็กน้อย

แน่นอน เขาก็รู้ว่า การประลองยุทธเมื่อครู่ เทพธิดาจงใจออมมือให้เขาทุกท่า ไม่ได้ลงมือบนตัวเขาอย่างเต็มที่

เพียงแต่ว่า……

ทำไมนางต้องทำเช่นนี้ด้วย?

เพียงแค่อยากหยั่งเชิงวรยุทธล้วนๆแค่นั้นหรือ?

“ขอบคุณที่ชม เจ้าพระยาเซียวท่านไม่บาดเจ็บใช่ไหม? เราแค่ศึกษาแลกเปลี่ยนกัน อย่าคิดว่าข้ารังแกท่านล่ะ”

สำหรับคำชม หลานเยาเยารับเอาไว้อย่างหน้าหนามาก

และคนเขานั่งอยู่บนรถเข็นแท้ๆ อีกทั้งไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธมาหลายปี นางยังจะดื้อด้านประลองยุทธกับเขา สุดท้ายนางชนะแล้ว ยังจะพูดว่าไม่ได้รังแกเขา

ใบหน้านี้……

“มิกล้ามิกล้า”

เจ้าพระยาเซียวจะสามารถพูดอะไรได้?

อย่างไรก็รังแกไปแล้ว ตอนนี้ค่อยมาพูดคำเหล่านี้ เขารู้สึกจนใจมากในทันที

ช่างเป็นสาวน้อยที่เจ้าเล่ห์นัก

แต่ว่า การประลองยุทธครั้งนี้เขาสู้ได้อย่างมีความสุขมาก อารมณ์ก็ดีขึ้นมามากโดยไม่รู้ตัว ความคิดเห็นที่มีต่อเทพธิดาที่อยู่สูงส่งก็ต้องเปลี่ยนไปไม่น้อยอยู่แล้ว

หลานเยาเยาจัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของตน

ไม่ต้องให้เจ้าพระยาเซียวดูแล ก็มาหน้าโต๊ะด้วยตัวเอง พบว่าบนโต๊ะมีกระดาษจำนวนมาก ข้างบนล้วนแต่ถูกเขียนด้วยตัวอักษรที่โดดเด่นหนักแน่นเต็มไปหมด

หลานเยาเยารู้ว่า ลายมือของเจ้าพระยาเซียวมีเอกลักษณ์ของตัวเอง มีคนมากมายอยากจะซื้อภาพเขียนตัวอักษรของเขาภาพหนึ่งยังหาซื้อไม่ได้

พบว่าไม่มีเก้าอี้ นางก็หาเก้าอี้มาตัวหนึ่งลากมาถึงหน้าโต๊ะแล้วก็นั่งลงไป หยิบกระดาษเปล่าขึ้นมาอย่างดูแลตัวเอง จุ่มพู่กันลงไปในน้ำหมึก เขียนอักษรอย่างจริงจังขึ้นมา

นางเขียนไปด้วยพูดไปด้วย

“ข้ายอมรับเองว่านอกจากวรยุทธจะดีเล็กน้อยแล้ว ยังมีการเรียนรู้ฝึกฝนจนมีลายมือที่ดี วันนี้ได้เปิดหูเปิดตาเห็นวรยุทธของเจ้าพระยาเซียวแล้ว แล้วยังได้เห็นลายมือที่หาชมได้ยากนี้อีก

ได้ยินมานานแล้วว่าลายมือของท่านโดดเด่นสง่างาม มีเอกลักษณ์ของตัวเอง น้อยคนมากที่จะได้เห็น วันนี้ได้เห็นคำร่ำลือไม่เท็จเลยจริงๆ

ตอนนี้ข้าก็จะเขียนตัวอักษรลงไปบ้าง ขอเจ้าพระยาเซียวโปรดให้คำชี้แนะด้วย”

เมื่อพูดถึงการเขียนอักษร สายตาของเจ้าพระยาเซียวก็เป็นประกายขึ้นมาทันที

“เทพธิดาก็ชอบศึกษาลายมือ?”

เมื่อพูดถึงศิลปะการเขียนพู่กันจีน การเขียนตัวอักษร เขาก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที

ตั้งแต่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นแล้ว เขาที่เดิมทีก็ชื่นชอบการเขียนพู่กันจีนอยู่แล้ว ก็หลงใหลมันมากยิ่งขึ้นมาก ดังนั้นลายมือของเขาก็ยิ่งดีมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายไม่เพียงแต่ทำให้คนชื่นชมไม่ขาดปาก ยังล้ำค่าไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน

ตอนนี้ได้ยินว่าเทพธิดาก็ชอบเขียนอักษร จึงเข็นรถเข็นมาข้างหน้าด้วยตัวเอง ทันทีที่มาถึงโต๊ะก็เห็นลายมือของเทพธิดา

มีความประหลาดใจประกายขึ้นมาในดวงตาเล็กน้อย

ลายมือเรียบหรูและสวยงาม วิถีพู่กันแข็งแรงและมีพลัง ฝึกฝนจนได้ลายมือที่ดีมากจริงๆ

แต่ว่าเขาเพิ่งจะดูไปไม่กี่คำ จู่ๆก็ถูกหลานเยาเยาให้กระดาษปิดบังระยะการมองเห็นของเขาเอาไว้ ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล่าวอย่างสงสัย:

“เทพธิดานี่คือ……”

พูดอยู่กับปากแท้ๆ ว่าต้องการเขาช่วยชี้แนะเล็กน้อย แล้วเขาก็มาด้วยตัวเองแล้ว ยังไม่ทันได้ดูกี่คำ นางก็ปิดกั้นระยะการมองเห็นของเขาทันที

ไม่อยากให้เขาเห็นหรือ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท