หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 422 การอาละวาดของหมอ

บทที่ 422 การอาละวาดของหมอ

บทที่ 422 การอาละวาดของหมอ

คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ลูกอ้อนเขาก็ใช้ออกมาแล้ว หึ! โกรธแทบตายอยู่แล้ว

“เยาเยา เจ้าคิดถึงอะไรหรือ? หรือเจ้าคิดว่าคืนนี้ข้าจะมาทำอะไรกับเจ้า? เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าเพียงอยากทำขาหมูที่เจ้าชอบกินเหล่านั้นส่งไปให้”

“เย่แจ๋หยิ่ง!” หลานเยาเยาโมโหในพริบตา

“เหอะเหอะเหอะ……”

เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังมาจากด้านบนศีรษะ ราวกับว่าอารมณ์ดีเป็นที่สุด

หลานเยาเยาออกแรงดิ้นให้หลุดจากแขนของเขาอย่างสุดกำลัง ดิ้นรนไม่หลุด ก็ใช้กำปั้นทุบไปที่หน้าอกของเขา

“ให้เจ้าล้อข้าเล่น”

“พอเถอะ เยาเยา พวกเราไม่ทะเลาะกันแล้ว เจ้าอุ่นมาก ให้ข้ากอดเจ้าดีๆสักครู่หนึ่ง”

“หึ!”

แม้ว่าหลานเยาเยาจะเปล่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาเสียงหนึ่ง แต่นางก็ไม่ได้ดิ้นรนอีก และก็ไม่ได้ใช้กำปั้นทุบตีที่หน้าอกของเขาแล้ว

ทั้งสองคนนอนฟุบกอดกันอยู่ที่พื้นครู่หนึ่งเช่นนี้

ความจริงแล้วเย่แจ๋หยิ่งรู้สึกว่ากอดอย่างไรก็ไม่พอ แต่ภายใต้ความเร่งรัดสองสามครั้งของหลานเยาเยา เขาก็ยังคงปล่อยนางอย่างไม่เต็มใจนัก

รู้ว่าวันนี้นางต้องการไปที่เรือแห่งความสิ้นหวัง ในใจแฝงไปด้วยความห่วงใยเล็กน้อย

“ทุกสิ่งทุกอย่างต้องระมัดระวัง”

“ทางนั้นของท่านอันตรายกว่าทางนี้ของข้ามากนัก วางใจเถอะ! ท่านไม่ได้รู้จักข้าเป็นครั้งแรก ข้าต้องไปจริงๆแล้ว ท่านก็รีบไป ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าให้ผู้อื่นพบเจอได้ ได้ยินหรือไม่”

“ได้ได้ได้ ฟังเจ้าทั้งหมด”

หลังจากพูดจบ

เย่แจ๋หยิ่งได้เอาฝ่ามือที่เรียวยาว ลูบแก้มของนางเบาๆ จากนั้นก็จูบลงไปที่หน้าผากของนาง

น้ำเสียงที่น่าดึงดูดดั่งแม่เหล็กดังมาอีกครั้ง :

“คิดอยากทำอะไรอีกหน่อยจริงๆ”

“ท่านก็ลองกล้าได้คืบเอาศอกอีกสิ?” หลานเยาเยาจงใจเช็ดหน้าผากที่ถูกเขาจูบไปอย่างลวกๆ จากนั้นก็ตั้งหมัดไปทางเขา

“เหอะ เจ้าคนไม่มีมโนธรรม รีบไปเถอะ!”

หลานเยาเยาถึงได้วางมือลง จากนั้นก็หมุนตัวจากไปทางหน้าต่าง แต่ในขณะที่เท้าเหยียบไปบนหน้าต่าง น้ำเสียงที่ยั่วยวนของเย่แจ๋หยิ่งก็ดังมาจากทางด้านหลัง

“เยาเยา คืนนี้ข้าจะไปที่ห้องของเจ้าจริงๆ”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป

หลานเยาเยายังไม่ได้เหาะออกไปจากหน้าต่าง ก็ได้ล่วงตกออกไปด้านนอกหน้าต่างโดยตรง

“ปึ่ง……”

เจ้าบ้า!

เย่แจ๋หยิ่งต้องจงใจเป็นแน่

รอจนนางลุกขึ้นมาปัดฝุ่นที่เสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ดึงดูดของเขาดังมาจากด้านในโรงน้ำชา

นางสะบัดแขนเสื้อ เปล่งเสียงไม่พอใจมากๆอย่างเย็นชาหนึ่งเสียง

“คืนนี้ของจะต้องปิดตายประตูหน้าต่างอย่างแน่นอน ไม่ให้เจ้าลามกผู้นี้เข้ามา”

เสียงหัวเราะจากในโรงน้ำชาหยุดลงทันที หลานเยาเยาจึงเดินจากไปด้วยความพอใจ

เรือแห่งความสิ้นหวัง

สำหรับการมาถึงของนาง คนที่รู้จักนาง แต่ละคนตกใจจนเบิกตาโพลง โดยเฉพาะป่ายเม่ยเซิงผู้ต้อนรับของเรือ ขณะที่เห็นเขาตาก็จ้องเขม็ง

เพียงแต่……

เมื่อนางเดินไปไกล แววตาของป่ายเม่ยเซิงกลับฉายแววความสับสนแวบหนึ่ง

หลานเยาเยาไม่ได้ไปหาหานแสโดยตรง แต่ไปอาณาเขตที่เหมาะสมกับนาง‘การแข่งขันการรักษา’ ห้องส่วนตัวที่เปิดจัดตั้งประลองความเป็นความความตายวิชาการรักษายาพิษ

ขณะที่เดินอยู่ที่ระเบียง คนดูแลผู้หนึ่งเห็นเข้าพอดี คนดูแลผู้นั้นเคยพบนางสองสามครั้ง รู้ว่านางเป็นผู้โจ้เจิ้งของการแข่งขันการรักษา

คนดูแลผู้นั้นประหลาดใจมาก รีบทำมือแสดงเคารพต่อนาง และสอบถามนางว่าต้องการเปิดห้องส่วนตัวการแข่งขันการรักษาหรือไม่

ถึงอย่างไร!

ห้องส่วนตัวการแข่งขันการรักษาก็ไม่ได้เปิดเลยสักครั้งเป็นเวลานานมากแล้ว

และลูกค้าที่มาถึงเรือแห่งความสิ้นหวัง เดิมทีมีจำนวนมากที่ต้องการลองแข่งวิชาการรักษาวิชายาพิษรวมถึงวิชาพิษกู่ แต่กลับพบว่าตอนนี้ห้องส่วนตัวการแข่งขันการรักษาไม่เปิดเป็นเวลานานหลายแรมปี เวลาล่วงเลยนานไป ห้องส่วนตัวการแข่งขันการรักษาก็ไม่มีคนถามข่าวคราวอีก

วันนี้ หากว่าเปิดใหม่อีกครั้ง จะต้องเกิดความโกลาหลขึ้นเป็นแน่ การค้าต้องล้นทะลักแน่นอน

“อืม เปิดตอนนี้! เจ้าไปช่วยข้าจัดการหน่อย”

“ขอรับ!”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในการแข่งขันการรักษา

หลานเยาเยานั่งอยู่ด้านหน้าของโต๊ะทำงานตัวยาวๆ ด้านหลังเป็นชั้นยาตั้งเรียงราย ด้านในวางยาสมุนไพรแต่ละชนิดที่ล้ำค่าและหายาก ไม่ว่ามีพิษหรือไม่มีพิษ ล้วนมีครบทุกชนิด

และด้านหน้าของนางได้มีผู้คนนั่งอยู่เต็มแล้ว อีกทั้งคนล้นหลามเป็นเหตุ ห้องส่วนตัวแทบจะเบียดกันไม่ได้แล้ว

ผู้ที่ไม่มีเก้าอี้นั่งก็ยืน

พวกเขาล้วนเป็นหมอ แม้ว่าวิชาการรักษาจะมีดีและไม่ดี แต่อย่างน้อยคนเยอะ และยินยอมจ่ายเหรียญเงิน

ถึงอย่างไร!

ต้องการเข้ามาที่ประตูใหญ่การแข่งขันการรักษาของนาง จำเป็นต้องจ่ายเหรียญเงินห้าร้อยตำลึง ราคานี้ในเรือแห่งความสิ้นหวังถือว่าแพงแล้ว

แต่เมื่อหมอเหล่านี้เห็นว่านางเป็นหมอเทวดาที่อยู่ในข่าวลือผู้นี้ ในแววตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยามและความหยิ่งยโส

ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆที่งามหยาดเยิ้ม ข้าวที่กิน ยังไม่ได้เยอะเท่าเกลือที่พวกเขากิน กล้าเรียกตัวว่าเป็นหมอเทวดาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งยังคิดราคาสูงขนาดนั้น

หรือว่า สองสามปีที่ผ่านมานี้ เรือแห่งความสิ้นหวังเงียบเหงาแล้วหรือ?

หาหมอเทวดาที่ดีหน่อยไม่พบ ไม่นึกเลยว่าจะให้ผู้หญิง ที่อายุน้องผู้หนึ่งมาแกล้งทำเป็นผู้ที่มีความสามารถ ชั่งไม่เห็นพวกเขาหมอเหล่านี้อยู่ในสายตา

เหล่าหมอที่มีอายุ ถามด้วยน้ำเสียงสั่งสอน :

“เจ้าก็คือหมอเทวดาในคำร่ำลือผู้นั้น? ที่ถูกเจ้าของเรือเรือแห่งความสิ้นหวังทะนุถนอมไว้ในมือก็กลัวสลายผู้นั้น?

ดูท่าทางแล้วนอกจากรูปร่างดีหน่อย ก็ไม่เท่าไหร่นี่! ใส่หน้ากากอันหนึ่งทำอะไร? เพราะละอายที่จะพบเจอคนหรือ?

หึ แต่ก็ถูก เช่นเจ้าเด็กสาวที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมประเภทนี้ เป็นวิชาการรักษานิดหน่อย ก็แสร้งทำเป็นสูงส่ง คาดว่าเจ้าก็คงรู้เพียงการแสดงที่จะยั่วยวนผู้ชายเล็กน้อยเท่านั้น

มิฉะนั้น เจ้าของเรือจะให้เจ้ามาเป็นผู้โจ้เจิ้งของการแข่งขันการรักษาได้อย่างไรกัน?”

ได้ยินคำพูดของเขา ยังไม่รอให้หลานเยาเยาตอบ คนข้างๆก็เริ่มพูดคล้อยตาม :

“ถูกถูกถูก เด็กสาวผู้หนึ่ง แม้ว่าจะเป็นวิชาการรักษาจะสามารถดีได้แค่ไหนเชียว? ข้าว่านะ วิชาการรักษานี้ไม่ต้องแข่งแล้ว ชดใช้เหรียญเงินสิบเท่าให้พวกเราตรงๆดีกว่า”

ห้องส่วนตัวการแข่งขันการรักษาห้องนี้ กฎเกณฑ์ก็คือ ประลองฝีมือวิชาการรักษาวิชายาพิษและวิชาพิษกู่ ขณะประลองฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย สามารถชนะผู้โจ้เจิ้งของเรือแห่งความสิ้นหวังได้ ก็จะได้รับเหรียญเงินเป็นสิบเท่าก็ค่าเข้าสนาม

“นี่พวกเจ้าพูดไปถึงไหนกัน ถึงอย่างไรก็เป็นผู้โจ้เจิ้งของการแข่งขันการรักษา หรือว่าพวกเจ้าไม่คิดจะไว้หน้าเจ้าของเรือสักหน่อยหรือ?

มามามา พวกเรามาประลองกัน ประลองอะไรล่ะ? ไม่เช่นนั้นก็ประลอง รู้จักยาสมุนไพรสักนิดเถอะ! เหล่านี้ง่ายดาย คิดว่าแม่นางผู้โจ้เจิ้งท่านนี้คงจะรู้จักยาสมุนไพรบ้างเล็กน้อย พวกเราอย่าทำให้ให้นางลำบากใจเกินไปเลย?”

พูดจาเช่นนี้ราวกับว่าทำดีเพื่อผู้โจ้เจิ้ง ความเป็นจริงในใจในดวงตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

ผู้อื่นฟังแล้ว หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังขึ้นทันที

หลังจากหัวเราะเยาะเย้ยเสร็จ พวกเขามีบางคนที่กำลังคุยกันว่าวิชาการรักษาของตัวเองสะเทือนฟ้าสะท้านดินพิสดารขนาดไหน

จากนั้นก็ส่งสายตาที่เหยียดหยามมาทางหลานเยาเยาในบางเวลา

ราวกับกำลังบอกว่า :

ดูเอาเถอะ คนอื่นเป็นหมอ เจ้าก็เป็นหมอ เจ้ามีคุณูปการอะไรที่มีเสียงเสียงรุ่งโรจน์ล่ะ? คาดว่าล้างแผลให้ผู้อื่น ก็ตกใจจนปิดตาไปแล้วมั้ง!

หลานเยาเยาก็นั่งอยู่ตรงนั้น อารมณ์สงบจิตใจผ่อนคลาย ไม่โกรธและไม่เคือง มุมปากแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มบางๆตั้งแต่เริ่มต้นจบ

นางยื่นมือไปดันหน้ากากที่ใส่อยู่บนใบหน้า

ไม่คุ้นชิน ทั้งยังรู้สึกค่อนข้างอึดอัดอีก

รอจนพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์กันพอประมาณแล้ว นางก็เอ่ยปากอย่างเย็นชา :

“ในเมื่อท่านทั้งหลายล้วนดูถูกข้า เช่นนั้นก็เล่นให้ใหญ่สักหน่อย พวกเรามาเดิมพันความเป็นความตายกันดีกว่า”

น้ำเสียงของน้ำพอดี ไม่สูงไม่ต่ำ แต่กลับทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่ล้วนฟังได้อย่างชัดเจน

เมื่อเสียงนี้หลุดออกไป!

ก็เงียบงันในพริบตา หลังจากนั้นประมาณสามนาที ก็มีเสียงหัวเราะเหยียดหยามระเบิดออกมาอีกระลอกหนึ่ง น้ำเสียงที่หัวเราะตามอำเภอใจอย่างไม่กลัวเกรงใดๆนี้สูงกว่าก่อนหน้านี้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท