หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 420 ใบสั่งยาสองชุด

บทที่ 420 ใบสั่งยาสองชุด

บทที่ 420 ใบสั่งยาสองชุด

แล้วยังจะชี้แนะอย่างไร?

หลานเยาเยากลับแค่ยิ้มไม่ได้กล่าวอะไร จงใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“เจ้าพระยาเซียวทราบหรือไม่ นอกจากข้าจะมีวรยุทธและลายมือที่ดีแล้ว กับความรู้ทางด้านการรักษาโรคก็ยังค่อนข้างล้ำลึกอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว ข้ากล้าเรียกตัวเองเป็นที่สองไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองเป็นที่หนึ่ง อันที่จริง พูดตามจริง ข้าเห็นร่างกายท่านแย่ลงไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งหายใจก็ยังต้องใช้แรงอย่างมาก นี่ไม่ใช่เพียงเพราะว่าความหดหู่ในใจและความพิการของขาเท่านั้น

ที่สำคัญที่สุดคือ ในร่างกายของท่านมียาพิษชนิดออกฤทธิ์ช้า ยาพิษชนิดนี้ไร้สีไร้กลิ่น และยังพบเห็นได้ยากมาก

ผู้ที่ถูกพิษจะไม่สามารถรู้ตัวได้เลย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะค่อยๆแย่ลง อวัยวะต่างๆจะค่อยๆล้มเหลว นานวันเข้าก็จะกลายเป็นอย่างที่ท่านเป็นอยู่ทุกวันนี้

ส่วนปัญหาที่ขา เวลาผ่านไปนาน ตอนนั้นไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ดังนั้นจึงทำให้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น แต่ก็ยังสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้บ้างเล็กน้อย เพียงแต่ต้องการการรักษาที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ไม่ทราบว่าเจ้าพระยาเซียวจะยินยอมให้หมอเทวดาคนนี้รักษาให้ท่านหรือไม่? หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ท่านยังสามารถมีชีวิตได้อีกอย่างน้อยสามสี่สิบปี มิเช่นนั้น ด้วยสภาพร่างกายของท่านในตอนนี้คงอยู่ไม่ถึงปีหน้า”

สิ่งที่ควรพูดก็พูดจบแล้ว

หลานเยาเยายังไม่เคยใจดีขนาดนี้มาก่อน สาเหตุที่ใช้แผนในการจับชีพจรให้เขา เป็นเพียงเพราะว่าเขามีหัวใจที่ซื่อสัตย์และภักดี ยังเคยออกรบสู้กับศัตรูพร้อมกับเย่แจ๋หยิ่ง ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาก่อน

เจ้าพระยาเซียวไม่รู้ว่าจู่ๆทำไมนางถึงพูดเรื่องพวกนี้

แต่หลังจากที่ได้ฟังแล้ว ในขณะที่เขาตกใจ สีหน้าแสดงถึงการได้รับความประทับใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองลึกไปที่สาวน้อยที่อายุเพียงแค่สิบแปดตรงหน้า แต่ความเป็นเด็กกลับจางหายไปนานแล้วคนนี้

นางเป็นปีศาจอะไรกันแน่?

กระบวนท่าแปลกประหลาดรุนแรง กำลังภายในสูงส่ง การเขียนพู่กันจีนทำให้สายตาคนเป็นประกาย ทักษะทางการแพทย์ก็ล้ำลึกเกินกว่าจะคาดเดาได้

ตอนนี้เจ้าพระยาเซียวเพิ่งจะเข้าใจ ทำไมจู่ๆเทพธิดาถึงประลองยุทธกับตนอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คิดไม่ถึงว่าจะแอบจับชีพจรและตรวจหาปัญหาที่ขาของตนเงียบๆ

แค่ลองจับชีพจร

ก็รู้แล้วว่าในร่างกายเขามียาพิษออกฤทธิ์ช้า นี่ไม่ใช่ปีศาจคืออะไร?

แต่ว่า……

ทำไมจู่ๆเทพธิดาถึงใจดีตรวจโรคให้เขา ยังใช้วิธีการประลองยุทธ อาศัยจังหวะตรวจชีพจรเขา ถึงแม้เขาจะไม่ชอบคนที่เล่นกับการแย่งชิงอำนาจ ถนัดการใช้เล่ห์เหลี่ยมในการวางแผน แต่กลับไม่สามารถเกลียดเทพธิดาที่มีแววตาสดใสตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาได้

ถึงแม้ เขาก็อยากจะรักษาร่างกายของตนเอง แต่เขากลับไม่อยากให้เป็นเพราะร่างกายของตนเอง ทำให้เขาและจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ทั้งหมดกลายเป็นเบี้ยต่อรองการเล่นกับการชิงอำนาจของคนอื่น

ดังนั้นจึงกล่าวว่า:

“ร่างกายข้าเสื่อมถอยอ่อนแอแล้ว เคยชินกับการนั่งอยู่บนรถเข็นนานแล้ว และตอนนี้สมบัติที่สั่งสมมาของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ ก็ใกล้จะถูกเซียวจิ่นหยูไอ้หมอนั่นผลาญหมดแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เทพธิดาผู้อยู่เหนือมวลชน และชาติกำเนิดก็สูงส่ง ดังนั้นจึงไม่อยากรบกวน”

หลานเยาเยาส่ายหน้าเบาๆ

สมบัติของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์ คาดว่าให้เซียวจิ่นหยูไปโปรยเงินเปิดทางที่ถนนทุกวัน ก็ต้องโปรยสองชาติถึงจะโปรยหมด

เจ้าพระยาเซียวพูดเช่นนี้ ก็คือไม่คิดจะรักษา แน่นอนว่านางรู้ว่าเพราะอะไร

ดังนั้น นางก็ไม่ฝืนใจ

พู่กันที่อยู่ในมือยังคงกวัดแกว่งอยู่บนกระดาษเช่นเดิม ถือโอกาสหยิบกองหนังสือขึ้นมา ปิดกั้นระยะการมองเห็นของเจ้าพระยาเซียวที่ตั้งใจจะแอบดูลายมือของนาง

ราวกับว่ากำลังเคืองใจที่เจ้าพระยาเซียวปฏิเสธการรักษาของนาง

“ข้าไม่ได้เขียนอักษรมานาน รู้สึกห่างเหินเล็กน้อย ถึงแม้จะอยากแสดงฝีมือต่อหน้าท่านที่เป็นผู้ชำนาญ แต่อย่างไรก็ยังอยากรักษาหน้าอยู่บ้าง รอให้ข้าไปแล้ว เจ้าพระยาเซียวค่อยดูก็ยังไม่สาย

หากรู้สึกว่าในลายมือมีจุดที่ต้องได้รับการชี้แนะ รบกวนเขียนจดหมายมาให้ข้า แต่ว่าไม่ชี้แนะก็ได้ ไม่ต้องตอบจดหมายก็พอ”

ทีนี้เจ้าพระยาเซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย

เขาทั้งโมโหและขำมาก รู้สึกว่าเทพธิดากำลังทำอารมณ์เสียแบบเด็กๆใส่เขา แต่ในใจก็กลับสงสัยอยากมาก

หดหู่ไปในทันที

ที่นี่คือห้องหนังสือของตนแท้ๆ ตอนนี้เทพธิดากลับมาประลองยุทธกับเขาในห้องหนังสือ ยังจะใช้ห้องหนังสือของเขา ให้เขาชี้แนะลายมือ แต่กลับไม่ให้เขาเห็น……

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับคนแปลกประหลาดเช่นนี้

แต่เพราะความหลงใหลที่มีต่อการเขียนอักษรด้วยพู่กันจีน และเมื่อกี้ก็เห็นไปไม่กี่ตัวอักษร ดังนั้นเขาก็ยังสนใจการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีนของเทพธิดาอยู่มาก

ดังนั้นจึงรออยู่นิ่งๆให้นางเขียนจนเสร็จ

หลานเยาเยาเขียนสวบๆอยู่ตรงนั้น ประเดี๋ยวต่อมา ก็วางพู่กันลง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ยกมือคำนับเล็กน้อยให้เจ้าพระยาเซียว

“ขอตัวก่อน!”

เขียนเสร็จก็ไป ไม่คลุมเครือเลยสักนิด

มองดูนางจากไปอย่างสง่าผ่าเผย เจ้าพระยาเซียวยักไหล่เล็กน้อย ราวกับว่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก

เขาหยิบเอากระดาษที่เทพธิดาจงใจปิดตัวอักษรเอาไว้ออกอย่างแทบทนรอไม่ไหว จากนั้นทันทีที่เห็น ก็มึนงงในชั่วพริบตา

นี่……

เป็นตัวอักษรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

แต่เนื้อหาของตัวอักษรกลับเป็นใบสั่งยาชุดหนึ่ง ไม่ ไม่ใช่ใบสั่งยาหนึ่งชุด แต่เป็นสองชุด

ชุดหนึ่งเป็นใบสั่งยาสำหรับยาพิษออกฤทธิ์ช้า ชุดหนึ่งเป็นใบสั่งยาที่รักษาปัญหาที่ขาของเขา ข้างบนระบุรายละเอียดไว้ถี่ยิบ แม้กระทั่งเวลาที่ดื่มยา และช่วงเวลาดื่มยาสองชุดที่ต้องห่างออกจากกัน ก็ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน

และตัวอักษรบรรทัดสุดท้าย ยังระบุชัดเจน เพียงเพื่อตอบแทนที่ให้พักค้างคืนเมื่อวานเท่านั้น

อ่านถึงตรงนี้ ตาของเจ้าพระยาเซียวแดงขึ้นมาเล็กน้อย เรื่องราวทำให้รู้สึกประทับใจ ในใจรู้สึกละอายใจอย่างมาก

เขาเอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษ(ใช้ความคิดเห็นที่เลวไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง)แล้ว!

ในใจก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น นางเป็นคนอย่างไรกันแน่?

ดูเหมือนเย่อหยิ่ง อยู่เหนือมวลชน แต่กลับเป็นคนเผยความน่ารักออกมาเป็นระยะๆ แต่ทว่าความสามารถที่มีอยู่เต็มตัวของนางกลับซ่อนอย่างไรก็ซ่อนเอาไว้ไม่มิด

ครู่ต่อมา

“เอี๊ยด……”

หลังจากเซียวจิ่นหยูส่งเทพธิดาออกจากจวนแล้ว ก็มาถึงห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว ก็เห็นท่านพ่อของตนถือกระดาษใบหนึ่งและอ่านอย่างอึ้งๆ

อดที่จะเดินมาข้างหน้าอย่างสงสัยไม่ได้

“ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป?”

เจ้าพระยาเซียวไม่ได้ตอบเขา จ้องมองไปที่ใบสั่งยาตลอด หลังจากเงียบๆไปพักใหญ่ ถึงเอ่ยปากอย่างแผ่วเบา:

“เจ้ารู้ไหมว่าเทพธิดาเป็นคนอย่างไร?”

เซียวจิ่นหยูไม่รู้ว่าทำไมท่านพ่อถึงได้ถามเช่นนี้ แต่ก็ยังตอบกลับไปอย่างจริงจัง:

“นาง หญิงสาวที่ดีคนหนึ่ง ฉลาดหลักแหลม ความคิดละเอียดรอบคอบดุจเส้นผม เดิมควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างไร้ทุกข์ไร้กังวล

แต่กลับต้องประสบพบเจอกับเรื่องราวมากมายเหลือเกิน จำต้องใช้ด้านที่เหี้ยมมาอำพรางตัวตนเอาไว้ นานวันเข้า ถึงได้กลายเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้

อันที่จริง นางในตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยนางก็สามารถปกป้องตัวเองอย่างดี”

ได้ยินคำตอบเช่นนี้ของเซียวจิ่นหยู เจ้าพระยาเซียวประหลาดใจมาก จากนั้นก็หันหน้ากลับมา กล่าวถามด้วยความสงสัย:

“เจ้ารู้จักนาง……นานมากแล้ว?”

“อืม ถ้าหากท่านเห็นรูปร่างหน้าตาและนิสัยการทำสิ่งต่างๆของนางก่อนหน้านี้ จะต้องชอบนางมากแน่นอน เพียงแต่ว่ารูปโฉมของนางในตอนนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ว่า จิตใจเดิมก็ยังไม่เปลี่ยนไป

นางยังเคยช่วยชีวิตข้าไว้ครั้งหนึ่ง ทั้งที่รู้ว่าข้ามีความเกี่ยวพันซับซ้อนกับราชวงศ์เก่า กลับยังยินดีช่วยข้าปิดบัง ไม่เคยใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ และไม่เอาบุญคุณที่ช่วยชีวิตมาพูด”

“นางรู้กระทั่งเจ้า เจ้าเป็น……”

คำพูดหลังจากนั้น เจ้าพระยาเซียวไม่ได้พูดออกมา แต่สามารถดูออกได้ว่าเขาตื่นเต้นผิดปกติ

“ท่านพ่อวางใจได้ ข้าไม่ได้บอกฐานะที่แท้จริงของข้าให้นาง แต่ข้าคิดว่านางคงจะสงสัยแล้ว แต่ว่าไม่เป็นไร นางไม่พูดหรอก”

“เจ้าเชื่อใจนางขนาดนี้เลย?”

“หากจะพูด สามปีที่แล้วนางคงพูดไปนานแล้ว”

นางคือหลานเยาเยานะ!

ผู้หญิงที่เคยช่วยเขาจากภัยอันตรายคนนั้น เขาจำทุกๆกิริยาท่าทางของนางได้ ถึงอย่างไร นางก็เคยทำให้จิตใจของเขาว้าวุ่น

ตั้งแต่ที่นางปรากฏกายในนามเทพธิดา ครั้งแรกที่หน้าประตูเมืองหลวง เขาเห็นสายตาที่คุ้นเคยคู่นั้นของนางก็สงสัยในใจแล้ว……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท