หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 443 การจู่โจมจากพิษแมลง

บทที่ 443 การจู่โจมจากพิษแมลง

บทที่ 443 การจู่โจมจากพิษแมลง

ทางเดินด้านล่างของปากถ้ำแคบมาก จุได้เพียงสองคนเท่านั้น ความสูงของถ้ำนั้นไม่สูงมากนัก คนที่สูงก็ต้องเดินก้มหัวลงเล็กน้อย

เมื่อเยาเยาเข้ามายังด้านใน คบเพลิงทั้งสองด้านของอุโมงค์ก็สว่างขึ้น ผู้ที่เดินอยู่ด้านหลังของนางนั้นคือจื่อซีและจื่อเฟิง เดิมทีแล้วด้านหลังยังมีป่ายเม่ยเซิงและซาหมั่นเฉิง แต่หลังจากป่ายเม่ยเซิงส่งสายตาให้นาง นางจึงปล่อยให้พวกเขาเดินไปก่อน

จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนมีคนกระโดดลงมาจากด้านบน จึงรู้ว่าเป็นเย่หลีเฉิน แต่นางก็ยังหันไปมองด้านหลังเช่นกัน

เย่หลีเฉินปัดฝุ่นบนร่างกายของตนเอง และเงยหน้าขึ้นเห็นสายตาของเทพธิดาที่มองมา จึงเร่งฝีเท้าและรีบตามนางไปอย่างรวดเร็ว

อุโมงค์มีความยาวมาก อีกทั้งยังคดเคี้ยวไปมา หากไม่มีคบเพลิงทั้งสองข้างทางของอุโมงค์ อุโมงค์ก็ดูน่ากลัวมาก ด้วยความชื้น บางครั้งก็เห็นแมลงอยู่บ้าง แม้แต่ช่องว่างระหว่างหินยังมีโพรงของงู อีกทั้งโพรงงูช่องเล็กๆ แบบนี้ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก

เกรงว่าไม่ใช่เข้าไปแล้วจะเป็นถ้ำงูน่ะสิ

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นภายในถ้ำ

“ด้านหน้ามีการเคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งกำลังขยับ แต่มันเล็กมาก ด้านหน้าไม่ได้จุดคบเพลิงเอาไว้จึงมืดมาก จึงมองเห็นไม่ได้ชัดว่าคืออะไรกันแน่”

หลานเยาเยาค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น และก้าวเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบผงยาออกมาจากแขนเสื้อ แล้วแจกจ่ายให้กับทุกคน

“มันใช้สำหรับถ่ายพยาธิ ใช้ได้ไม่ต้องกังวล ไม่มีผลข้างเคียง”

คนที่เคยได้รับผลข้างเคียง “……”

เมื่อเดินมาสักพักหนึ่งก็มาถึงสถานที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง

“โอ๊ย……”

จู่ๆ ก็มีเสียงร้องอันเจ็บปวดดังขึ้น ทันใดนั้นบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที

มีคนถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้น”

มีอีกคนหนึ่งตอบขึ้นมา “ข้าถูกแมลงกัดเข้าแล้ว ปวดมาก คงจะมีพิษ”

น้ำเสียงของคนที่ตอบคำถามนั้นมีความคุ้นอยู่เล็กน้อย

เอ่อ!

เอาเถอะ!

คนที่อยู่ในนี้ มีใครบ้างที่นางไม่คุ้นเคย

ป่ายเม่ยเซิงเป็นผู้ที่ถูกแมลงกัด

“เทพธิดา!”

มีคนเรียกนาง หลานเยาเยาจึงรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงด้านหน้าของผู้ที่ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ก็ได้เห็นใบหน้าของป่ายเม่ยเซิง ทั้งใบหน้าก็บิดเบี้ยว ริมฝีปากค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วง มองมาที่นางอย่างทำอะไรไม่ถูก

“เทพธิดา ข้าถูกกัดแล้ว ดูแล้วน่าจะรุนแรงมาก เจ้ารีบมาดูให้ข้าหน่อย”

หลานเยาเยาเม้มริมฝีปาก มองไปยังป่ายเม่ยเซิงที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นและพิงกำแพงหินโดยไม่ได้พูดจาใดๆ เพียงโน้มตัวลงอย่ารวดเร็ว และยกแขนที่ถูกกัดของเขาขึ้นมาดู

จุดที่ถูกกัด มีรอยบวมแดงปรากฏขึ้น และเห็นได้ชัดว่ามีการกระจายไปทั่วแขนอย่างรวดเร็ว หนำซ้ำยังมีครึ่งหนึ่งของแมลงปรากฏอยู่

ดวงตาค่อยๆ หรี่ลง สีหน้าก็จริงจึงขึ้นมา

จากนั้นก็ใช้มือดึงครึ่งหนึ่งของแมลงออกมาโดยไม่พูดจาใดๆ และโยนมันลงไปบนพื้น จากนั้นแมลงที่มีหลายขา ก็ขยับขึ้นมาทันที

คนทั้งหมดได้กระจายออกจากกันอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแมลงตัวนั้นก็ตายอย่างอนาถภายใต้เท้าของหานแส

หลานเยาเยาไม่ได้มองไปที่พวกเขา แต่หยิบผงยาออกมาจากแขนเสื้อ และถูกยาบนมือและโรยไปบนแผลของป่ายเม่ยเซิง จากนั้นจึงนำยาเม็ดที่ใช้ถอนพิษใส่เข้าไปในปากของเขา

ตอนนี้ นางจึงได้พบว่า ป่ายเม่ยเซิงจับจ้องมาที่นางอยู่ตลอด พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ถึงแม้ว่าสีหน้าจะแสนเจ็บปวด แต่ก็ในความเจ็บปวดนั้นก็ยังมีรอยยิ้ม มองท่าทีของนางแล้ว หากจะบอกว่าน่ารักใคร่ก็คงไม่มากเกินไปและยังจงใจที่จะดึงคอเสื้อให้กว้างออก และแยกออกจากกัน ผิวสีน้ำตาลอ่อนก็เผยออกมา จากนั้นจึงกระซิบเบาๆ

“เทพธิดา เจ้าดีกับข้ามากจริงๆ มอบชีวิตให้ได้หรือไหม”

หากไม่ใช่เพราะมีองค์ชายรัชทายาทอยู่ด้วย เขาคงจะเอ่ยกับหลานเยาเยาไปโดยตรง

แต่น่าเสีย ที่หลานเยาเยาไม่ได้สนใจเขา ได้แต่มองบาดแผลที่ถูกแมลงมีพิษกัดด้วยสีหน้าสงบ อาการบวมแดงไม่แพร่กระจายแล้ว จากนั้นจึงลุกขึ้น

ผู้ชายคนนั้นดีดดิ้น

เมื่อนางจากไปแล้ว เขาก็ไม่ลืมที่จะขยิบตาอยู่สองสามครั้ง

และแสร้งทำตัวน่าสงสาร “เทพธิดา เดี๋ยวก่อน ข้ายังรู้สึกว่าข้าเจ็บมาก เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว”

พูดจบ ป่ายเม่ยเซิงก็รีบขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยมองไปยังนางอย่างเจ็บปวด

“เจ้าพยายามพูดให้น้อยหน่อยเถอะ แม้ว่าเจ้าจะเพิ่งกินยาถอนพิษ แต่พิษของแมลงพิษตัวนั้นไม่ใช่พิษธรรมดา หากว่ายาถอนพิษไม่สามารถถอนพิษให้เจ้าได้ เจ้าก็คงได้แต่รอความตาย”

เมื่อเห็นความกะล่อนของเขาในตอนนี้ ถ้าไม่ขู่เขาเสียบ้าง เขาก็คงจะไม่ยอมหุบปาก

เป็นอย่างที่คิดไว้!

สีหน้าของป่ายเม่ยเซิงก็ซีดขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่ารอยแดงบวมบนแขนของตนเองเหมือนจะไม่แพร่กระจายแล้ว ในใจก็ชัดเจนแล้ว

จริงๆ แล้วหลานเยาเยากำลังล้อเขาเล่น

จากนั้นรีบแสร้งทำเป็นกลัว และพูดปนน้ำเสียงร้องไห้อย่างผิดหวังเล็กน้อยทันที

“โธ่ ดูเหมือนว่าข้าจะหมดหนทางรักษาแล้ว พิษอาจจะฝังลึกเกินไป ข้าจะต้องมีคนคอยดูแลใกล้ชิดแล้ว เทพธิดา ข้าเจ็บตรงนี้อีกแล้ว”

“แกร๊ง!” กระบี่ของจื่อเฟิงถูกฟันไปครึ่งหนึ่ง

ป่ายเม่ยเซิงมองดูแล้วหุบปากทันที ถอนสายตาจากกระบี่ของจื่อเฟิงอย่าเบื่อหน่าย จากนั้นมองไปที่หลานเยาเยาด้วยใบหน้าที่สงบ และอ้าปากพูด

เงาร่างสูงชะลูดสีม่วงเข้มนั้นได้ปิดกั้นสายตาของเขาเอาไว้

ป่ายเม่ยเซิงจึงรีบหดตัวทันที

เจ้าของเรือ!

หลังจากที่ได้สบตาที่เฉยเมยกับเจ้าของเรือ เขาก็เหมือนอย่างกับลูกท้อ ไม่กล้าที่จะพูดอีกต่อไป ได้แต่ทนรอ

“อยากตายหรือไง”

เมื่อน้ำเสียงที่เย็นเยียบผ่านคำง่ายๆ สองคำเข้ามา ขนตามร่างกายของป่ายเม่ยเซิงก็ลุกชูชันขึ้นทันที ขณะที่มองเจ้าของเรือของตนเอง ใบหน้าแฝงไปด้วยอารมณ์แปรปรวนนั้น ดูเหมือนว่าสายตาเขาอย่างกับกำลังแทงด้วยมีดอย่างไรอย่างนั้น และเขาก็ส่ายหน้าอย่างรุนแรง

“เจ้านายยกโทษให้ข้าเถอะ!”

ถ้าไม่สามารถเรียกเจ้าของเรือได้ อย่างนั้นเขาก็เป็นได้แค่เจ้านายแล้วล่ะ

“ฮึ!”

หานแสแสยะยิ้มอย่างเย็นชา และสะบัดแขนเสื้อข้างหนึ่งแล้วเดินจากไป จากนั้นทุกคนต่างก็รีบตามไป ขณะที่จื่อซีและจื่อเฟิงเดินผ่านป่ายเม่ยเซิงนั้น ทั้งสองกลอกตาอย่างไม่สนใจ

แต่กลับกลายเป็นว่าซาหมั่นเฉิง

ขณะที่เดินไปหาเขา ก็มองเขาด้วยความรังเกียจ และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ไม่มียางอายหรือไง”

แม้จะลวนลามคนอื่นก็ช่างเถอะ แต่ถ้ายังกล้าลวนลามหลานเยาเยาต่อหน้าเจ้าของเรือละก็ คงจะอยากตายจริงๆ !

“ช่วยหน่อยเถอะ!”

พูดไปหลายรอบแล้วไม่ใช่หรือ!

ปกติก็เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นใบหน้าอันเยือกเย็นของเจ้าของเรือกลายเป็นแบบนั้น เอาล่ะ ดูเหมือนว่าเจ้าของเรือคงจะหึงเข้าแล้วล่ะ!

ป่ายเม่ยเซิงยื่นมือไปทางซาหมั่นเฉิง แม้ว่าซาหมั่นเฉิงจะรังเกียจเขามาก แต่ก็ยังช่วยพยุงเขาขึ้นมา แต่ก็มองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นกัน เมื่อป่ายเม่ยเซิงหันหน้าไปมอง ซึ่งบังเอิญสบตากับเย่หลีเฉินพอดี

เอ่อ!

ยังมีอีกผู้หนึ่ง

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถพูดไร้สาระได้ ดังนั้นจึงต้องก้าวเดินไปด้านหน้ากับซาหมั่นเฉิง

เย่หลีเฉินถอนสายตากลับ มองไปที่หลานเยาเยา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า

“คนของหานแสล้วนแต่เสียมารยาทกับเจ้าขนาดนี้เลยหรือ”

หานแสรู้จักเขาดีว่าเขาเป็นผู้ที่เข้มงวดกับตนเองมาตลอด และจะไม่เอาผิดกับพวกลูกน้องเหล่านี้มากนัก

“ไปกันเถอะ!”

หากเย่หลีเฉินรู้ว่าหานแสเป็นเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง และคนที่เพิ่งจะลวนลามนางนั่นคือป่ายเม่ยเซิง บางทีก็อาจจะไม่ถามเช่นนี้

พูดจบ!

ในขณะที่หลีเฉินอยู่ในความสงสัย ทั้งสองคนก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน

……

พวกท่านชายและคุณหนูที่ถูกบังคับให้อยู่ในสวนว่างฮัว ในตอนนี้แต่คนต่างกำลังเดินไปเดินมา ดูแล้วเหมือนทุกคนจะเป็นคนโดนมนต์ดำ มีท่านชายที่มีความกล้าอันน้อยนิดไม่กี่คน ที่ต้องการจะฉวยโอกาสตอนองค์ชายรัชทายาทไม่อยู่และหาจังหวะออกไป

แต่เมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตู ก็ถูกองครักษ์ขัดขวางเอาไว้โดยตรง จึงทำให้พวกเขาตกใจ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท