หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 459 ข้าเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังของเจ้านิรันดร์

บทที่ 459 ข้าเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังของเจ้านิรันดร์

บทที่ 459 ข้าเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังของเจ้านิรันดร์

หลานเยาเยาเข้ามาใกล้โดยตรง กอดเขาในอ้อมกอดจากทางด้านหลัง

ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลานเยาเยาจะเริ่มเองเช่นนี้ เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกว่าตัวเองที่เป็นเทพแห่งสงครามที่สง่างามเป็นเหมือนกับภรรยาตัวน้อยๆเช่นนั้น?

ดังนั้นเขาจึงขัดขืน

“เยาเยา ยังไงก็ให้ข้ากอดเจ้านอนเถอะ?”

ใครจะรู้……

หลานเยาเยาหรี่ตาลงเล็กน้อย : “ท่านลองพูดอีกรอบ? กล้าพูด ข้าจะถีบท่านตกเตียงไปตรงๆ”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป

เย่แจ๋หยิ่งก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

จนปัญญา เขาทำได้เพียงแค่ยอมจำนน เมื่อไตร่ตรอง เยาเยาสามารถริเริ่มเข้ามากอดเพียงนี้ เขาดีใจแทบไม่ทัน!

ใครกอดใครก็ล้วนเหมือนกัน

แต่ความจริงพิสูจน์ว่า ไม่เหมือนกันจริงๆ หลานเยาเยานอนไม่อยู่ไม่สุก มักจะชอบถูร่างกายของเขาไปมา

และเดิมทีร่างกายนางก็อ่อนนิ่ม บวกกับนางเป็นผู้หญิง ทั้งยังเป็นคนที่เขาคิดอยากจะรังแกอยู่ตลอด คนทั้งคนถูไถบนร่างเขา ก็ยากที่จะไม่ทำให้คิดเพ้อไปไกล

แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาต้องอดกลั้นไว้

แต่ว่า อดกลั้นไปอดกลั้นไปเขาก็พบความผิดปกติแล้ว

เพราะเวลานี้

ไม่รู้อย่างไร มือของหลานเยาเยาเริ่มอยู่ไม่นิ่งขึ้นมา

“เยาเยา อย่าแกล้ง!”

หูเขาแดงไปหมด หายใจก็หนัก แต่คว้ามือข้างหนึ่งได้ก็ยังมีมืออีกข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งก็เริ่มก่อความจลาจล

จนมืออีกข้างหนึ่งถูกเขาจับไว้ หลานเยาเยาถึงได้เริ่มสงบ

เพียงแต่……

ก็เพียงแค่สงบลงครู่หนึ่ง มือของนางขยับไม่ได้ แต่นางยังมีขา

ก็ต้องการแกล้งเขาดีๆสักรอบ

หลานเยาเยาคิดไม่ดี

ทำให้ท่านจิตใจไม่สงบ ทำให้ท่านคิดอยากเอาเปรียบ ตอนนี้ก็ทำให้นางได้เอาเปรียบดีๆสักหน่อย โอกาสเช่นนี้มีไม่มาก!

ไม่เอาเปรียบก็ไม่เอาเปรียบเปล่าๆ เอาเปรียบแล้วเขาก็ต้องอดทน

นอกจากเขาจะไล่นางไป

ดูว่าหลังจากนี้เขาจะยังกล้าตั้งใจแอบแกล้งให้นางอยู่ต่ออีกหรือไม่

คราวนี้ เย่แจ๋หยิ่งพยายามอดทนเป็นที่สุดแล้ว : “อย่าแกล้งแล้ว เยาเยา ข้ายังบาดเจ็บอยู่นะ ขยับไม่ได้”

นับว่าเขาเข้าใจแล้ว หลานเยาเยาริเริ่มที่ไหนกันล่ะ! เห็นได้ชัดว่ากำลังทรมานเขา เวลานี้เขาหวังมากเพียงไหนว่าตัวเองจะมีท่าทีที่แข็งแรงร่าเริง

“บาดเจ็บอยู่ดีสิ! ข้าชอบให้ท่านเจ็บ มามามา ร้องออกมาให้ข้าได้ฟังหน่อย ไม่ว่าอย่างไรท่านร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครกล้าเข้ามา ให้ข้าได้มีความรู้สึกเหมือนเป็นคุณท่านสักหน่อย”

ก็เพราะว่าเย่แจ๋หยิ่งบาดเจ็บอยู่ เวลานี้หลานเยาเยาถึงได้กล้าทำอะไรตามอำเภอใจ

มิเช่นนั้นให้ดีหมีแก่นางสิบอันนางก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม แน่นอน นางรู้จักพบของดีก็ต้องเก็บ จะไม่ยุให้เขาโกรธเด็ดขาด

ที่แน่ๆ แผลของเขาก็ต้องมีเวลาที่หาย มีความกลัวนิดหน่อยว่าหลังจากนี้จะรับกับความผิดที่ตัวเองก่อไม่ได้

“แฮ่มแฮ่ม!”

หลานเยาเยากระแอมเสียงหนึ่ง กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า :

“เป็นท่านให้ข้าหยุดแกล้ง อีกครู่ท่าก็อย่าแกล้งข้า เตะก็ห้ามเตะต้อง ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำให้ท่านนอนไม่หลับคืนนี้ ได้ยินหรือไม่”

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนาง เย่แจ๋หยิ่งมุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้

ที่แท้นางก็มีความคิดเช่นนี้ เมื่อรู้สึกได้ว่าหลานเยาเยาเก็บมือและเท้ากลับไปแล้ว ก็หันหลังให้เขาแล้วนอนหลับไป

และเขาก็ทำได้เพียงมองดูเงาแผ่นหลังของนางด้วยแววตาที่สุกใส

มุมปากแขวนด้วยรอยยิ้มบางๆ ในตาเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดู……

วันที่สอง

ฟ้ายังไม่สว่าง เย่แจ๋หยิ่งก็ตื่นแล้ว เขาเอามือพาดไปทางด้านในของเตียง กลับพาดไปที่ว่าง เมื่อลืมตาขึ้น

เตียงด้านในก็ว่างเปล่า

นางไปแล้ว!

เอื้อมมือไปลูบผ้าปูที่นอนที่หลานเยาเยาเคยนอน ไม่เหลือแม้แต่ความอุ่น คาดว่าหลังจากที่นางรอให้เขาหลับแล้วก็จากไป

นึกถึงท่าทางเช่นนั้นของนางเมื่อคืน เย่แจ๋หยิ่งก็พูดกับตัวเอง:

“เจ้าเพิ่งจะจากไปข้าก็คิดถึงเจ้าแล้ว คิดถึงประโยคที่ว่าไม่เจอหนึ่งวันเหมือนไม่ได้เจอสามปีก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล”

ก็เริ่มตั้งแต่คืนนั้น หลานเยาเยาต่อจากนั้นอีกหลายวัน ปีนกำแพงในตอนค่ำทุกวัน แอบเข้าห้องบรรทมของเย่แจ๋หยิ่งใช้ชีวิตไปวันๆ

หลานเยาเยาถือว่าวันเหล่านี้เป็นการรักษาช่วยชีวิตคน บวกกับย้ายบ้านนอน

เย่แจ๋หยิ่งเรียกวันเหล่านี้ว่าเป็นการนัดพบอย่างลับๆของหนุ่มสาว เพิ่มขึ้นจากนี้คือการเพิ่มความสัมพันธ์

แน่นอน!

มีคืนวันแรกที่หลานเยาเยาจงใจทรมาน เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้แอบให้องครักษ์ลับลงกลอนประตูหน้าต่างจากทางด้านนอกอีก ถึงอย่างไรเขาตอนนี้เขาก็ไม่สามารถรับผลของการถูกทรมานได้แล้ว

ใจหนึ่งก็หวังว่าบาดแผลของตัวเองไม่ต้องหายเร็วขนาดนั้น กระนั้นแล้ว นางก็จะต้องมาทุกคืน และอีกใจก็หวังว่าบาดแผลของเขาจะหายไวไว เช่นนี้จะได้สามารถตอบแทนการกระทำทั้งหมดที่หลานเยาเยาได้กระทำในคืนนั้น

ในความขัดแย้งเช่นนี้ คืนวันนี้ เย่แจ๋หยิ่งก็ได้เฝ้ารอการมาของเงาร่างที่คุ้นเคยของหลานเยาเยา นางเปลื้องชุดคลุมของเขาอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ชำระล้างบาดแผลให้เขา แล้วก็ใส่ยาต่อ จัดการทุกอย่างอย่างชำนาญ รวดเร็ว

หลังจากเปลี่ยนยาแล้ว

หลานเยาเยามองดูผ้าขาวบนท้องของเย่แจ๋หยิ่งเงียบๆ

“โดยพื้นฐานบาดแผลสมานกันแล้ว พันแผลให้ท่านอีกสองรอบก็น่าจะได้แล้ว แต่ร่างกายของท่านยังอ่อนแอมาก ต้องการบำรุงร่างกายมากๆ”

เงยมองขณะพูดจบ เย่แจ๋หยิ่งได้เอื้อมมือไปจัดปอยผมที่ห้อยอยู่ด้านหน้า พันรอบนิ้วมืออย่างสบายๆ การกระทำเบานุ่มนวล ยกมุมปากขึ้น

ใบหน้าเทพเซียนเช่นนั้น รอยยิ้มที่สุขสบายใจงามมากที่สุดเช่นนั้น แฝงด้วยแรงเย้ายวนอย่างที่สุด หลานเยาเยาชำเลืองมองแวบหนึ่ง สายตาแทบจะเคลื่อนออกไปไม่ได้

เย่แจ๋หยิ่งเอาเส้นผมเคลื่อนมาที่ปลายจมูก ดมเบาๆ

“หอมมาก!”

“……” นางพูดอารมณ์ความรู้สึกออกไปมากขนาดนั้น เขาไม่ได้ฟังเข้าไปแม้สักคำ ด้วยเหตุนี้ นางคว้าผมของตัวเองดึงกลับคืน

“ยังมีอีกสองสามวันก็เป็นพิธีเซ่นไหว้ใหญ่แล้ว ถึงเวลานั้นอันตรายนับไม่ถ้วน แม้ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่ข้ากล้ามั่นใจ นั่นจะเป็นเหตุการณ์ที่โกลาหลครั้งยิ่งใหญ่

คนในตำหนักเทพธิดาโยกย้ายไปหมดแล้ว เรื่องคนโดนมนต์ดำยังไม่ถูกระงับอย่างสมบูรณ์แบบ พิธีเซ่นไหว้ใหญ่ก็รีบร้อนจัดเตรียมขึ้นแล้ว

นอกจากฮ่องเต้ต้องการอยากจะนำตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าป่าวประกาศต่อโลกแล้ว ยังจะมีแผนการอื่นเป็นแน่ ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือต้องการกำจัดความชั่วร้ายที่เหลืออยู่ของราชวงศ์เก่าให้หมดสิ้น

สำหรับเขาแล้ว ข้าเทพธิดาผู้นี้ เหมือนกับว่าจะยืนอยู่ข้าเขาฝั่งนั้น แต่เขาก็เหมือนกับว่าจะเชื่อราชครูเทียนเวิงมากกว่า

สำหรับราชครูเทียนเวิงมีหรือไม่มีการกล่าวให้ร้ายอะไรข้าต่อหน้าเขา ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้ ฮ่องเต้หวาดกลัวต่อท่านเป็นอย่างมาก คิดอยากกำจัดท่านมานานแล้ว และราชครูเทียนเวิงก็ไม่เชื่อใจท่าน ดังนั้นเมื่อพิธีเซ่นไหว้ใหญ่พวกเขาจะเล็งหัวหอกมาตรงท่าน ดังนั้นท่านไม่ต้องไปดีที่สุด”

“เยาเยา เป็นห่วงข้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”

ทั้งๆที่นางอยู่ในที่การต่อสู้ที่ดุเดือด คิดไม่ถึงนางกลับคิดกลับมาที่เขา ในใจเขาอบอุ่น

เอื้อมมือไปจับนางมาไว้ในอ้อมอก เพื่อไม่ให้บาดแผลของเขาคงอยู่ หลานเยาเยาก็ไม่ได้ดิ้นรน

“ห่วงใยมาตลอด!”

หากว่าเขาเกิดเรื่อง แหล่งเสบียงอาหารที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายของนางก็ไม่มีแล้ว ขาอ่อนนี้ก็ต้องกอดไว้แน่นๆ ยังต้องรักษาไว้ดีๆ

“เยาเยา เจ้าอยากทำอะไรก็ไปทำให้เต็มที่ ผู้สนับสนุนเบื้องหลังนิรันดร์ของเจ้าคือข้า ไม่ต้องเป็นห่วง”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท