หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 471 นางคือหลานเยาเยา

บทที่ 471 นางคือหลานเยาเยา

บทที่ 471 นางคือหลานเยาเยา

หนึ่งในนั้น ก้าวขึ้นไปแล้วกล่าว :

“ราชครูยื่นอุทธรณ์ต่างๆ นานา โดยไม่มีหลักฐาน จะทำให้พวกข้าเชื่อได้อย่างไรว่าเทพธิดาและท่านชายหยิ่งเป็นพวกเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าชื่อเสียงของท่านชายหยิ่งจะน่าเกรงกลัว แต่เขาก็เป็นเพียงพ่อค้าผู้หนึ่ง จะทำร้ายฝ่าบาทได้อย่างไร? อีกอย่างหนึ่ง พระชายาเย่ตายไปแล้ว ราชครูจะกล่าวขึ้นในเวลานี้ เพื่ออะไรอีก?”

แม้ว่าวาจาของราชครูทำให้บรรดาผู้คนสงสัยงวยงง คำพูดของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ท่านนี้ ก็เป็นสิ่งที่ในใจของพวกเขาสงสัยพอดี

“หึ! หรือว่าพวกท่านลืมไปแล้ว คนโดนมนต์ดำปรากฏตัวขึ้นที่สวนว่างฮัว แต่ว่าเทพธิดาและท่านชายหยิ่งสังหารด้วยกัน หากว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน ทำไมจึงได้ปรากฏตัวพร้อมกัน?

ยิ่งกว่านั้น!

ผู้ดูแลคนที่สี่ของเรือแห่งความสิ้นหวังหายตัวไปสองปี ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งเมื่อปรากฏตัวก็ทำให้เรือแห่งความสิ้นหวังวุ่นวายยกใหญ่

จากที่ข้าส่งคนออกไปสะกดรอยตาย เทพธิดาผู้นี้ความจริงแล้วก็เป็นคนที่สี่ของเรือแห่งความสิ้นหวัง

ทักษะวิชาการรักษาของพวกนางเหมือนกัน ไม่มีผู้ใดสามารถชนะได้ นอกจากนี้ ในตำหนักของเทพธิดายังซ่อนคนเก่าของราชวงศ์เก่าไว้ในตำหนักจำนวนหนึ่ง”

ความหมายของราชครูเทียนเวิงชัดเจนมาก

เทพธิดาไม่เพียงเป็นพวกเดียวกันกับท่านชายหยิ่ง พวกเขายังมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เก่า กระทั่งทำเรื่องเพื่อราชวงศ์เก่า

“เทพธิดาเป็นผู้ดูแลคนที่สี่ของเรือแห่งความสิ้นหวัง? ทำไมถึงรู้สึกค่อนข้างแปลกนะ?”

“ความจริงคิดอย่างละเอียด ราชครูก็พูดถูก วิชาการรักษาของพวกเขาสองคนเหมือนกันจริงๆ มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นคนเดียวกัน”

“แต่หากว่าพวกเขาทำเรื่องให้ราชวงศ์เก่า เช่นนั้นน่าจะไม่ใช่ เรือแห่งความสิ้นหวังปรากฏตัวนานแล้ว สืบทอดรุ่นต่อรุ่น นอกจากทำการค้าหาเงิน แต่ไหนแต่ไรก็เหมือนกับไม่เคยก้าวก่ายเรื่องการบริหารราชการของแต่ละประเทศมาก่อน”

บรรดาผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา มีบางคนที่จับจุดสำคัญได้แล้ว

หนึ่งในขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นพรรคของราชครูโดยสิ้นเชิง ยืนออกมาถามด้วยเสียงดัง :

“ผู้ดูแลคนที่สี่ของเรือแห่งความสิ้นหวัง อดีตพระชายาเย่ ยังมีเทพธิดาในตอนนี้ วิชาการรักษาของพวกเขาล้วนล้ำเลิศ อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงเหมือนกัน หรือว่าพวกนางเป็นคนเดียวกัน?”

เมื่อสิ้นสุดคำนี้

ก็เงียบกริบในพริบตา เงียบเหมือนตายแล้วเช่นนั้น

ราชครูบอกว่าหลานเยาเยาไม่ได้ตาย…….

ราชครูบอกว่าหลานเยาเยากลับมาแล้ว…….

วิชาการรักษาของพวกนางล้วนสามารถช่วยคนตายให้ฟื้นได้ เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกัน หรือว่าพวกนางเป็นคนเดียวกัน?

พวกนางเป็นคนเดียวกัน……

คำพูดเหล่านี้ดังวนไปมาที่ข้างหูของเย่หลีเฉินตลอด ไม่ได้ยินเสียงรอบข้างอีก มือที่กำหมัดแน่นมากๆ ค่อยๆ สั่นเทาเล็กน้อย

เขาควรจะรู้ตั้งนานแล้ว……

บางครั้งทั้งๆ ที่นางมีความคุ้นเคยมาก แต่เขากลับไม่คิดลึกไป อย่างไรเสียนิสัยของนาง และวิธีการจัดการเรื่องต่างๆ ก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ภายใต้ความเงียบ

สายตาของทุกคนมองไปทางหลานเยาเยา ราชครูเทียนเวิงก็ไม่ได้ตอบคำถามของคนผู้นั้น แต่บรรดาผู้คนก็ล้วนมั่นใจแล้ว

ราชครูมองดูหลานเยาเยา แววตาครุ่นคิด

“เทพธิดากล้าลบเครื่องสำอางบนใบหน้าหรือไม่?”

แม้ว่าคำพูดนี้จะแฝงไปด้วยความหมายของการหารือ แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็คือบีบบังคับนางให้ลบเครื่องสำอางหนาๆ ที่งามหยาดเยิ้มบนใบหน้า

อีกทั้ง!

ขณะที่พูดคำนี้ ฝ่ามือของเขาได้ขับเคลื่อนกำลังภายในแล้ว ยกมือขึ้นเบาๆ เป้าหมายเล็งตรงไปที่หานแสที่สลบไม่ได้สติ ราวกับว่าเพียงแค่นางกล้าพูดว่าไม่คำหนึ่ง เขาก็จะลงมือโดยไม่ลังเล

เวลานี้ของหานแสอันตรายอยู่ใกล้ๆ ทนความทรมานไม่ได้อีก

หลานเยาเยาก้าวขึ้นไปด้านหน้าก้าวหนึ่งเล็กน้อย มุมปากยกขึ้น หัวเราะออกเสียงเบาๆ

“ลบเครื่องสำอางเท่านั้น มีอะไรไม่กล้า?” เห็นราชครูเทียนเวิงมีความสงสัยเล็กน้อย รอยยิ้มบนหน้าของนางก็ลึกซึ้งขึ้น “ผู้ที่สามารถบีบบังคับข้าให้ทำเรื่องได้ โดยปกติแล้วจะต้องชดใช้ค่าตอบแทน ราชครูเทียนเวิง ท่านจะต้องคิดให้ดีนะ”

“เชิญเถอะ!”

ราชครูเทียนเวิงไม่พูดพร่ำกับนาง หลานเยาเยาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาเย็นชาลงไปมาก

ฮ่องเต้รีบออกคำสั่งให้กงกงไปเอาน้ำสะอาดมาอ่างหนึ่ง จากนั้นหลานเยาเยาก็ต่อหน้าเหล่าบรรดาขุนนางทหาร ค่อยๆ ลบเครื่องสำอางหนาๆ บนหน้าออก

ลบเครื่องสำอางแล้ว แม้ว่าหน้าสดของหลานเยาเยาจะหันขึ้นฟ้า ไม่มีความสายตาที่เย็นชาและงามหยาดเยิ้มเหมือนปกติ ผิวยังคงขาวสะอาดหมดจด โฉมหน้าก็งามเลิศ แม้แต่รอยประทับดอกไม้ดอกนั้นบนแก้มยังคงมีอยู่

มีรอยประทับของดอกไม้ปิดบังไว้ บวกกับรัศมีของหลานเยาเยาเมื่อสามปีก่อนก็มีรัศมีที่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นก็มองไม่ออกว่าเป็นคนเดียวกัน

ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์งงงันเป็นที่สุด แม้แต่ราชครูเทียนเวิงก็เช่นกัน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่เป็นไปได้อย่างไร?

เขาไม่เชื่อ ดังนั้นเขาจึงคิดต้องการจะลบรอยประทับดอกไม้บนใบหน้าของหลานเยาเยาชนิดนั้นทิ้งไป

ด้วยเหตุนี้มือที่แก่ชราโบกขึ้น ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวิชาการรักษาดีเยี่ยมก็เดินออกมา หลังจากทำมือเคารพต่อเขาแล้ว ก็เดินเข้าไปทางหลานเยาเยา จากนั้นก็เพ่งมองรอยดอกไม้บนใบหน้านางอย่างพินิจ

หลานเยาเยาก็ไม่ขยับ ปล่อยให้เขาสังเกต

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง!

คนผู้นั้นลังเลอยู่นาน จึงได้รายงาน :

“รายงานราชครู รอยดอกไม้นี้ มีตั้งแต่เกิด ไม่ใช่การจงใจทำขึ้นในตอนหลังขอรับ”

แม้ว่าวิชาการรักษาของเขาไม่เท่าเทพธิดา แต่รอยประทับเหล่านี้คือมีตั้งแต่ออกจากท้องแม่ หรือว่าจงใจทำขึ้นในตอนหลัง เขายังสามารถมองออกได้

เรื่องราวยิ่งสับสนขึ้นเรื่อยๆ เหล่าขุนนางทหาร กระทั่งฮ่องเต้ก็ล้วนงงงัน

นี่ใช่หรือไม่ใช่หลานเยาเยากันแน่ล่ะ?

เหล่าขุนนางทหารกระทั่งฮ่องเต้ก็ล้วนเคยเห็นโฉมหน้าของหลานเยาเยา งามสุดในเมือง บนใบหน้าไร้รอยตำหนิ งดงามตราตรึงใจทำให้คนปรารถนา

แต่ไม่มีรอยประทับดอกไม้

วิชาการรักษาคือไม่ผิดแล้ว เป็นลูกผู้หญิงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ใบหน้านี้……หรือว่าวิชาการรักษาของหลานเยาเยาสูงจนสามารถเปลี่ยนใบหน้าได้แล้ว?

แน่นอน!

นอกจากเย่หลีเฉิน

เพราะเขาได้ยืนยันแล้วว่านางคือหลานเยาเยา

หลานเยาเยาหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง

“เป็นอย่างไร? ยังมีข้อสงสัยอะไรอีก?”

เหอะ!

สามปีก่อน เพราะนางตกลงไปกลางสระน้ำปรโลกโดยไม่ทันได้ระวัง ปรากฏโฉมหน้าที่งดงามเป็นเลิศออกมา รอยดอกไม้นี้มีตั้งแต่เกิดจริงๆ แต่น้ำปรโลกชนิดนี้ ก็ไม่สามารถเปิดเผยเอารอยประทับบนใบหน้าตั้งแต่เกิดของนางออกมาได้

จะปรากฏออกมา ก็เป็นในบางโอกาส เวลานั้นนางได้เป็นเทพธิดาแล้ว เพื่อความสวยงามยิ่งขึ้น ขณะที่นางแต่งหน้าหนา จะตั้งใจวาดรูปรอยประทับให้งามหยาดเยิ้มยิ่งขึ้น

นางก็ไม่คิดอยากลบรอยประทับทิ้ง ไป เช่นนี้ก็พอดี กลายเป็นสัญลักษณ์พิเศษของเทพธิดา

นางเคยคาดคิดไว้ว่าจะต้องมีวันเช่นนี้

แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสถานการณ์เช่นนี้ นางคิดว่าผู้ที่จะสงสัยโฉมหน้าของนางจะเป็นเย่แจ๋หยิ่ง คาดไม่ถึงว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่มีความสงสัย และจำนางได้ผ่านอย่างอื่น

ราชครูเทียนเวิงจ้องมองหน้าของเขาอยู่นาน

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมั่นใจว่านางคือหลานเยาเยา ตอนนี้เขาลังเลใจแล้ว

แต่ว่า!

เทพธิดาไม่ใช่หลานเยาเยาก็ไม่เป็นไร แต่นางคือผู้ดูแลคนที่สี่ของเรือแห่งความสิ้นหวังคือเรื่องจริงอย่างแน่นอน

เขาเปล่งน้ำเสียงไม่พอใจออกมาเสียงหนึ่ง กล่าวอย่างแน่วแน่

“แม้ว่าท่านจะไม่ใช่หลานเยาเยา แต่ท่านก็คือผู้ดูแลเรือแห่งความสิ้นหวังคนที่สี่”

จุดนี้ หลานเยาเยาเพียงแค่เลิกคิ้ว และไม่ได้ปฏิเสธ

“ใช่แล้วอย่างไร? ไม่ใช่แล้วอย่างไร?”

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ท่านก็สลัดความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เก่าไม่หลุด อีกทั้งยังทำเรื่องแทนองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าอยู่ตลอด”

คำพูดของราชครูเทียนเวิงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทำให้ในใจของหลานเยาเยาค่อนข้างกังวลใจ

เขายังมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก?

“อ๋อ? ราชครูก็พูดมา ข้ามีความข้องเกี่ยวกับราชวงศ์เก่าได้อย่างไรอีก?”

ราชครูเทียนเวิงหรี่ตาลงเล็กน้อย

เหตุผลที่ไม่ได้จัดการนางอย่างลับๆ ก็เพื่อยาฉางตาน แต่สถานที่เลี้ยงบำรุงดอกกระดูกขาวถูกทำลาย ความแค้นนี้ไม่ตอบสนองไม่ไ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท