หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 498 ฮ่องเต้ที่ไม่นับญาติ

บทที่ 498 ฮ่องเต้ที่ไม่นับญาติ

บทที่ 498 ฮ่องเต้ที่ไม่นับญาติ

“เรื่องนี้ค่อนข้างแน่นอนมาก เทพธิดายังหยิบขวดยาขี้ผึ้งที่ล้ำค่าให้ส้งเย่นกุยเป็นค่าปิดปาก!”

ไม่ว่าเขาจะเป็นของจริงหรือไม่ หนังแกะม้วนต้องอยู่ในมือของฮ่องเต้ถึงจะเหมาะ

ได้ยินมาว่าแผนที่ภูมิประเทศทะเลทรายบนหนังแกะม้วนนั้น มีรายละเอียดและครอบคลุมมากกว่าที่เทพธิดามอบให้ฮ่องเต้ ถ้าได้หนังแกะม้วนแผ่นนั้น ยิ่งใกล้เคียงกับการค้นหายาฉางตาน

ยาฉางตาน นั่นคือยาอายุวัฒนะ มีใครบ้างที่ไม่อยากได้?

หลังจากได้ฟังคำพูดของขันที ฮ่องเต้ก็หรี่ตาลง และทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา มีเลศนัยและน่ากลัว ราวกับว่านี่คือใบหน้าที่แท้จริงของเขา

ขันทีด้านข้างเห็น ตกตะลึง

… …

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน สาดส่องทรายสีเหลืองจนเป็นสีแดง เหมือนกับเปื้อนด้วยเลือด

ทะเลทรายบนเนินทรายที่สูง มีกระโจมหลายสิบหลังตั้งอยู่ที่นั่น ไม่แออัด และไม่ห่างไกลมาก มองจากระยะไกลดูเหมือนแต่ละหลังไม่มีแสงไฟออกมา

ลมทรายในตอนกลางคืนจะแรงมาก กระโจมที่เพิ่งตั้งเสร็จก็ถูกปกคลุมไปด้วยทรายบางๆ และลมยามค่ำคืนก็พัดกระโจมราวกับเสียงครวญคราง ทำให้มันสั่นสะเทือนตลอด

กระโจมหลายสิบหลังเงียบสงบในเวลากลางคืน อาจเป็นเพราะแสงแดดที่แรงในเวลากลางวัน และอุณหภูมิที่สูง และเดินทางระยะไกลในทะเลทราย ประกอบกับความไม่เคยชินกับทะเลทราย ทุกคนนอนเร็วมาก

มีเพียงกระโจมหนึ่งที่ดูเหมือนยังคงส่องแสงเป็นประกาย ในทะเลทรายอันกว้างใหญ่นั้น ดูโดดเดี่ยวเงียบเหงาอย่างยิ่ง

ภายในกระโจม

ใบหน้าที่เย็นชา และผิวพรรณผ่องใสของหลานเยาเยา มือจับพู่กัน เคลื่อนไหวไปมาบนกระดาษที่เปิดออก บางครั้งก็ขมวดคิ้ว บางครั้งก็ยกมุมปาก

ดวงตาของนางจ้องบนกระดาษ รวบรวมสมาธิ แม้แต่ลมยามค่ำคืนที่พัดมาเหมือนเสียงครวญครางก็ไม่สามารถทำลายสมาธิของนาง

ในที่สุด มือของนางก็หยุดการเคลื่อนไหว มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก และก็บิดคอที่เมื่อยล้า

“ในที่สุดก็สำเร็จ”

หลังจากพูดเบาๆ ก็ค่อยๆเก็บกระดาษอย่างระมัดระวัง และม้วนหนังแกะม้วนที่วางอยู่ข้างๆวางไว้ในกล่องเล็กๆ จากนั้นเก็บมุกเย่หมิงที่ใช้ในการส่องแสงสว่าง และกระโจมที่มีแสงสว่างก็ดับไปในเวลากลางคืนทันที

เมื่อถึงเวลาใกล้ตีหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่กำลังนอนหลับใหล

เสียงร้องอันแหลมคม ทำลายความเงียบสงบของค่ำคืน

“ไฟไหม้แล้ว! รีบมาเร็ว! กระโจมของพระราชธิดาจาวหยางเกิดไฟไหม้… …”

การตะโกนครั้งนี้ เป็นเรื่องใหญ่ เกือบจะปลุกทุกคนในกระโจมออกมา

ทันทีที่ได้ยินว่ากระโจมนั้นเกิดไฟไหม้ และยังเป็นกระโจมของพระราชธิดาจาวหยาง แต่ละคนก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที โดยไม่ทันคิด ก็รีบพุ่งออกจากกระโจม และวิ่งไปที่กระโจมของพระราชธิดาจาวหยาง

หลานเยาเยาหัวใจหดหู่ พอรีบมาถึง ก็เห็นกระโจมของพระราชธิดาจาวหยางหยางเกิดไฟไหม้ และไฟนั้นแรงมาก มีร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างใน และเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก็ดังมาจากข้างใน

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ก็รู้ว่าเป็นเสียงของพระราชธิดาจาวหยาง

สีหน้าของหลานเยาเยาดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ หัวใจตื่นเต้นกังวลขึ้นมา

หลังจากครุ่นคิดเพียงเสี้ยววินาที เย่หลี่เฉินมาถึงก่อน ก็สาดน้ำใส่ตัวเอง และพุ่งเข้าไปในกระโจมที่ลุกเป็นไฟเพื่อช่วยชีวิตคน

เมื่อพระราชธิดาจาวหยางได้รับการช่วยเหลือ เสื้อผ้าบนร่างของนางยังคงลุกเป็นไฟ และมีรอยไหม้หลายจุดในร่างกาย ส้งเย่นกุยรีบเอาน้ำทั้งหมดที่เขาพกติดตัวมาสาดไปที่ร่างกายพระราชธิดาจาวหยาง เมื่อไฟดับสนิท พระราชธิดาจาวหยางที่ยังไม่ค่อยมีสติสุดท้ายก็เป็นลมทันที

“โหลวเยว่ โหลวเยว่… …”

หลานเยาเยาตะโกนสองสามครั้ง

เย่หลี่เฉินอุ้มพระราชธิดาจาวหยางด้วยความกังวลใจ ปากก็เรียกชื่อของนางตลอด หวังให้นางฟื้นคืนสติ เมื่อได้ยินเสียงของนาง เย่หลี่เฉินก็เงยหน้าขึ้นมองทันที และพูดอย่างกังวลว่า

“หลานเยาเยา รีบช่วยนางเร็วๆ”

“ได้!”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง นางก็รีบจับชีพจรของพระราชธิดาจาวหยาง

สภาพชีพจรไม่ดี อาจตกใจมากเกินไป รอยไหม้บนผิวหนังที่ทำให้นางเป็นลม

โดยเฉพาะส่วนหลัง ต้องจัดการก่อน

ขณะนี้!

ที่จอดรถม้า มีเสียงม้าร้องโหยหวนอย่างน่าเศร้า ไม่นานก็ได้ยินเสียงดาบที่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด

“มีคนฆ่าม้า!”

เมื่อยู่หลิวซูนำคนไปถึง คนที่ฆ่าม้าหลายคนได้ถูกฆ่าตายแล้ว เหลือไว้เพียงคนเดียว และคนๆนี้ก็สั่นไปทั้งตัวขณะที่ตาเฒ่าเย่นกำลังเหยียบบนร่างกายของเขา

“หึ ร้ายกาจมาก!”

หลังจากพูดคำนี้จบ สายตาตาเฒ่าเย่นจดจ่อกับเสียงควบม้าที่ดังอยู่ไม่ไกล กลุ่มคนที่ขี่ม้าถือด้วยคบเพลิง ข้ามเนินทรายอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็หายไปในสายตาของทุกคน

ยู่หลิวซูรีบตรวจสอบม้าที่ถูกฆ่า ตายไปตัวเดียว แล้วหันไปขอโทษตาเฒ่าเย่น

“ลำบากตาเฒ่าเย่น”

“ฮ่องเต้สุนัขและพรรคพวกวิ่งหนีไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม!

ปัญหาเรื่องนี้ยังไม่จบก็เกิดอีกเรื่องขึ้นมาอีก

ทันทีที่สิ้นเสียง ยู่หลิวซูรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงหันกลับไปมองทันที ทันใดนั้นกระโจมอื่นๆก็เกิดไฟลุกไหม้ ตามกระแสลม ไฟลุกไหม้จนไม่สามารถดับได้ และลุกลามไปแต่ละกระโจมอย่างรวดเร็ว

“กระโจมทั้งหมดถูกไฟไหม้ ตอนนี้ควรทำอย่างไร?”

คนข้างๆถามยู่หลิวซู

ยู่หลิวซูหรี่ตาลง และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ยังไม่ทันคิดมาก ก็ห่อเหี่ยวใจ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“สิ้นเปลืองน้ำไม่ได้ ภายในกระโจมถ้าสามารถดับได้ก็ดับ ไม่ไหวก็ไม่ต้องดับ ไปนับคน ดูซิมีคนบาดเจ็บหรือไม่”

จากนั้นก็สั่งทุกคนอยู่ห่างจากกระโจมที่ถูกไฟไหม้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บาดเจ็บ

หลังจากคำสั่งเสร็จสิ้น เขาก็รีบไปหาหลานเยาเยา

“เจ้าสำนัก ฮ่องเต้หนีไปแล้ว และมีเจตนาที่จะฆ่าม้าพวกข้า โชคดีที่ตาเฒ่าเย่นมาหยุดทันเวลา อย่างไรก็ตาม กระโจมถูกไฟไหม้หมดแล้ว ต้องการไปไล่ล่าพวกเขาหรือไม่?”

สถานการณ์เร่งด่วน ยู่หลิวซูพูดเร็วมาก

“ไม่ต้องไล่ตาม”หลานเยาเยาส่ายหัว สายตาจ้องไปที่พระราชธิดาจาวหยาง ริมฝีปากสีแดงสวยงามเปิดออก “อาการบาดเจ็บของโหลวเย่วสำคัญกว่า”

“ได้”

หลังจากนั้นหลานเยาเยาก็ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาโหลวเย่ว และยาที่นำออกมานั้นดีที่สุด

ตอนที่จัดการกับบาดแผลของพระราชธิดาจาวหยาง ได้ให้คนอื่นๆหลบไปก่อน หลังจากจัดการเรียบร้อย ก็ช่วยโหลวเย่วเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วส่งนางไปให้เย่หลี่เฉิน

“แผ่นหลังของนางได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ดังนั้นควรให้นางนอนคว่ำจะดีกว่า”

เย่หลี่เฉินดวงตาสีแดง พยักหน้าอย่างเงียบๆ และพูดขอบคุณเสียงเบา

มีเย่หลี่เฉินอยู่ หลานเยาเยาไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนโหลวเย่ว นางมาดูกระโจมที่ถูกไฟไหม้ กระโจมถูกไฟไหม้จนไม่เหลือชิ้นดี ดวงตาเย็นชาเล็กน้อย

ฮ่องเต้เหมือนสัตว์เดรัจฉานจริงๆ!

เดิมทีคิดว่าการรักษาระยะห่างจากโหลวเย่วจะเป็นการปกป้องนาง เพื่อไม่ให้นางได้รับอันตราย นึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้สุนัขนี้จะสติฟั่นเฟืองขนาดนี้ แม้แต่ชีวิตลูกสาวตัวเองแท้ๆก็ไม่สนใจใยดี

ยังจงใจเผาพระราชธิดาจาวหยางให้ตายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากนางอีกด้วย

เป็นคนที่ไม่นับญาติและเหี้ยมโหดจริงๆ

ณ ขณะนี้!

จัดการเรื่องต่างๆเสร็จยู่หลิวซูก็รีบร้อนเดินเข้ามา สีหน้าดูไม่ดีเล็กน้อย

“เจ้าสำนัก เมื่อกี้ข้าน้อยไปที่กระโจมของท่านเพื่อค้นหาสิ่งของ แต่พบว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างใน ดูเหมือนว่าฮ่องเต้วางแผนการเพื่อต้องการหนังแกะม้วน”

เมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ฮ่องเต้จากไปพร้อมกับคนของตัวเอง และคาดว่าหนังแกะม้วนคงตกอยู่ในมือของฮ่องเต้แล้ว

“ไม่เป็นไร ข้ามีสำรอง ม้าและสิ่งของอื่นๆเป็นยังไงบ้าง?”

“เสียหายแค่ม้าตัวเดียว กระโจมถูกไฟไหม้ อาหารแห้งและสิ่งอื่นๆถูกเก็บไว้อย่างดี”

โดยเฉพาะน้ำ

ก่อนที่จะหลับ หลานเยาเยาได้สั่งย้ายไปยังที่ปลอดภัยอย่างเงียบๆ

“ม้าที่ตายแล้วอย่าพึ่งทิ้ง ทำความสะอาดเรียบร้อย แบ่งแยกเป็นชิ้นแล้วเอาไปด้วย”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท