หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 513 กลอุบาย? คนตาย?

บทที่ 513 กลอุบาย? คนตาย?

บทที่ 513 กลอุบาย? คนตาย?

เมื่อเห็นว่าคนของทางฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าอยากจะไปครอบครองสวนแตงโม ทางหลานเยาเยาก็มีคนร้อนรน

“เจ้าสำนัก…”

หลานเยาเยายกมือขัดขึ้นและก้าวเดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปทางสวนแตงโม

“แตงโมที่นั่นมันวิ่งหนีไม่ได้ สำรวจโดยรอบอย่างระมัดระวัง”

ความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง กลางทะเลทรายเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับแปลกประหลาด ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความตาย

ต้องระวังสุขุม ป้องกันเกิดเหตุอันตราย

คนของฮ่องเต้ไปถึงที่สวนแตงโมก่อนจากนั้นรีบทำเส้นแนวป้องกันไม่ให้คนของหลานเยาเยาเข้าใกล้

แม้ว่าในมือของพวกเขาจะไม่มีอาวุธ แต่เพื่อการกินแล้ว บนใบหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้เพียงน้อย แต่ละคนดวงตาสีแดงเข้มราวกับจะกินคนอย่างไรอย่างนั้น

“เทพธิดา โปรดอย่าเข้ามาใกล้อีก แตงโมพวกนี้เป็นของฮ่องเต้แล้ว กำลังพลของท่านมีน้ำมีอาหารอย่าได้แย่งกับพวกเราเลย”

คนของเทพธิดาแต่ละคนพกอาวุธมาด้วย ใบหน้าดุดันโหดเหี้ยม จำนวนคนก็มากกว่าพวกเขา พวกเขาหวาดกลัวว่าจะสู้ไม่ได้

แต่เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็ใช้ไม้อ่อน พวกเขาใช้วาจาในการจู่โจม

หลานเยาเยานำคนไปยื่นตรงหน้าพวกเขา สองมือกอดอก ไม่มองพวกเขาแม้แต่น้อย

มองข้ามพวกเขาไปยังสวนแตงโมที่อยู่ตรงหน้า บนใบและผลของแตงโมพวกนี้ล้วนมีทรายเหลืองอยู่เป็นชั้นๆ

แตงโมบางลูกถูกฝังอยู่ในทะเลทราย โผล่ขึ้นมานิดเดียว บางลูกโผล่ขึ้นมาครึ่งเดียว

ดูท่าแล้วที่พวกเขาไม่เห็นสวนแตงโมไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีอยู่ แต่เพราะว่ามรสุมทะเลทรายก่อนหน้านี้ ปกคลุมสวนแตงโมผืนนี้เอาไว้

เมื่อวานมีลมพัดแรง ยามค่ำคืนยังมีลมพัด

ทรายถูกพัดพาไป สวนแตงโมถึงได้ปรากฏขึ้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น ดวงตาอันสวยงามของหลานเยาเยามองไปยังเหล่าองครักษ์วังหลวง พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาว่า:

“หลบไป อย่าขวางทาง”

หลานเยาเยาไม่ได้ต้องการครอบครองสวนแตงโมคนเดียว แต่นางต้องตรวจสอบว่าที่นี่มีสิ่งอันตรายหรือไม่

แต่ทว่า!

ทั้งเหนื่อยทั้งหิวทั้งวิตกกังวล ทำให้พวกเขาถึงจุดพังทลาย เมื่อได้ยินนางพูดแบบนั้น แต่ละคนก็พูดถากถาง ตาแดงเย็นชา

“เทพธิดาไม่ใช่ว่าต้องอยู่ที่สูง และคอยอวยพรให้ผู้คนหรอกหรือ? ตอนนี้พวกเราเป็นชาวบ้าน เทพธิดาอยากแย่งแตงโมกับพวกเราชาวบ้านหรือ?”

“พวกท่านมีน้ำมีอาหาร หิวก็ไม่ตาย หรือว่าไม่ควรที่จะสงสารพวกเราที่หิวใกล้จะตายแล้วหรือ?”

“……”

พวกเขาสองสามคนต่างพูดกันเหมือนหมาบ้า

ผู้ที่อยู่ด้านหลังหลานเยาเยาแต่ละคนเบิกตาโต อดไม่ได้ที่ใช้กระบี่ฟันทีละคน ละคน

ปรารถนาดีแต่ไม่ได้ดีจริงๆเลย เจ้าสำนักไม่ได้ต้องการแย่งกับพวกเขา อีกอย่างแตงโมพวกนี้ก็ไม่ใช่ของพวกเขา ทำไมต้องให้พวกเขาครอบครองคนเดียว?

เย่หลีเฉินซึ่งอยู่ด้านข้างกำหมัดแน่น สถานการณ์ที่รุนแรงนี้องครักษ์วังหลวงที่ได้รับการฝึกฝนอบรมมาอย่างเข้มงวด ได้กลายเป็นแบบนี้แล้ว

เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะสีหน้าของหลานเยาเยานั้นสุขุม ในใจนางต้องมีความคิดบางอย่าง เพียงแต่เหนื่อยกับองครักษ์วังหลวงที่ใกล้บ้าเหล่านั้น

หลานเยาเยาเลิกคิ้ว ไม่พูดอะไร และใช้นิ้วมือสะกิดยู่หลิวซูที่อยู่อีข้าง

“อะแฮ่ม!”

เดิมคิดว่าหลานเยาเยาไม่พูดอะไรคงกำลังเรียบเรียงคำพูด คิดไม่ถึงว่านางจะให้เขาเอ่ยปากพูด

“อ้า! ครอบครองสวนแตงโม? แท้จริงแล้วใครได้ครอบครองนั้นยังไม่แน่!

อีกอย่างสวนแตงโมนั้นอยู่ในทะเลทรายไม่ได้อยู่ที่ประเทศก่วงส้า ไม่ใช่ของฮ่องเต้ของพวกเจ้า ผู้พบย่อมมีส่วนแบ่ง

ถ้าต้องการแย่ง พวกเจ้าแย่งพวกเราไม่ได้หรอก คิดจะสู้อย่างสุดชีวิต พวกเจ้าก็เอาอย่างงี้แหละ พวกเราขี้เกียจจะขยับ

แต่ว่า! พวกเราไม่สามารถกดดันทำให้คนสิ้นหวัง แบบนี้แล้วกัน แบ่งกันคนละครึ่ง”

ทันทีที่เขาพูดจบ องครักษ์วังหลวงที่อยู่ตรงข้ามรีบโต้ขึ้นมา: “ทำไมต้องแบ่งคนละครึ่ง เห็นอยู่ชัดๆว่าพวกเราเห็นก่อน สวนแตงโมต้องเป็นของพวกเรา”

“เอ่อ!”

ยู่หลิวซูยิ้ม ชำเลืองมองพวกเขาด้วยสีหน้าเยือกเย็น

“นี้ไม่ใช่การเจรจากับพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าไม่มีทางเลือก ถอยออกไปเสียดีๆ มิเช่นนั้น……”

พัดขนนกที่เอวถูกหยิบขึ้นมาในชั่วพริบตา ในพัดขนนกได้ซ้อนใบมีดคมไว้ แค่หยิบพัดขนนกขึ้นมา คนที่เหลือล้วนหยิบกระบี่ขึ้นมาทันที

เมื่อเห็นว่าพวกเขาท่าทางเอาจริง

เหล่าองครักษ์วังหลวงตกใจถอยออกไปหลายก้าว ต่างมองตากันแต่กลับไร้หนทาง

ทำได้เพียงแต่ส่งสายตามองไปยังฮ่องเต้ที่เดินมายังข้างพวกเขา

สถานการณ์ตึงเครียด ขันทีที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ตกใจจนหวาดกลัว แต่เขายังคงกล้าที่จะพูด:

“ไม่ได้ สวนแตงโมเป็นของฮ่องเต้อย่างไรก็ให้ไม่ได้”

ทันทีที่พูดจบ ก็ถูกฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าจ้องมองอย่างดุดัน

คิดอะไรสั้นๆ มองไม่เห็นหรือว่าฝ่ายตรงข้ามคนเยอะแค่ไหน?

แบ่งคนละครึ่งแล้วอย่างไร?

อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่เสียเปรียบ

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากขึ้น: “ในเมื่อไม่มีทางเลือก อย่างนั้นก็คนละครึ่งแล้วกัน!”

พูดจบ!

ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าก็รีบให้คนไปเลือกข้างที่มีแตงโมจำนวนมากที่สุดและผลโตที่สุด ไม่นานสวนแตงโมก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วน

หลานเยาเยากำลังนั่งยองๆ ยังไม่ทันได้ตรวจสอบ เพียงแค่นำผ้าวางบนแตงโม และหยิบกระบี่ยาวขึ้นมา เตรียมที่จะผ่าแตงโมออก

ก็เห็นทางด้านของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้ามีองครักษ์วังหลวงสามคนวิ่งเข้าไปในสวนแตงโมอย่างบ้าคลั่ง คนหนึ่งเลือกแตงโมลูกใหญ่ ใช้มือผ่าแตงโมเป็นสองซีก อดไม่ได้ที่จะกินอย่างเอร็ดอร่อย

แต่กินไปไม่ถึงสองคำ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยน ชั่วพริบตาก็อ้วกเอาแตงโมที่กินเข้าไปออกมา มือทั้งสองเกาคอไม่หยุด หลังจากนั้นก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด

สุดท้ายก็ล้มลงในสวนแตงโม กลิ้งไปตามพื้นไม่หยุด ปากร้องด้วยเสียงคร่ำครวญทรมาน เลือดที่อาเจียนออกมายิ่งมากขึ้นทุกที สีใบหน้าเปลี่ยนเป็นดำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าที่ยื่นอยู่สวนแตงโม มองฉากนั้น ในใจก็พอใจเป็นอย่างมาก เป็นเขาที่บอกพวกเขาให้ทำอย่างนั้น

คิดไม่ถึงว่าจะแสดงได้เหมือนจริง

ดังนั้น เขาแกล้งเปลี่ยนสีหน้าในทันที ร้องตะโกนดังว่า: “แตงโมนี้มีพิษ กินไม่ได้ พวกเจ้ารีบออกมา”

องครักษ์วังหลวงที่ล้มกลิ้งๆอยู่ที่พื้นไม่ขยับแล้ว ขันทีหน้าซีด ร้องเสียงสูง:

“ตายแล้ว พวกเขาทั้งสามตายแล้ว”

หลานเยาเยาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว สีหน้าท่าทางไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก สายตามองไปยังผ้าที่ใช้คลุมแตงโมไว้ สายตามองลึกซึ้ง แม้แต่ผ้าก็ไม่ได้หยิบขึ้นมา นางรีบยืนขึ้น ริมฝีปากแดงของนางเผยอกว้างขึ้น

“ไปเถอะ!”

ยู่หลิวซูนัยน์ตาเป็นประกาย มองสีหน้าของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าอย่างละเอียด จากนั้นจึงมองไปยังใบหน้าของหลานเยาเยา นัยน์ตาฉายความสงสัย

แต่ด้านหลังมีคนอยู่เยอะ เขาจึงไม่ได้เอ่ยปากถาม

หลานเยาเยารับรู้ถึงสายตาของยู่หลิวซู มุมปากยกขึ้นเล็กๆอยากที่จะเห็น นางรีบให้คนกลับไปที่รูปปั้นหินทารกยักษ์ก่อน ส่วนตนเองกับเขาค่อยๆ เดินกลับไปช้าๆ

เดินมาถึงครึ่งทางหลานเยาเยาไม่มองเขา พูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่รีบร้อนว่า:

“อยากถามก็ถามมา! เก็บไว้ในใจจะเกิดปัญหาได้”

ยู่หลิวซูและเย่หลีเฉินต่างเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่เย่หลีเฉินฉลาดในการจัดการ ส่วนยู่หลิวซูฉลาดในการตรวจสอบ นอกจากนี้ยู่หลิวซูยังมีวิชาการรักษา ดังนั้นสามารถตรวจสอบปัญหาได้ง่าย

“สวนแตงโมนั้น…”

“มีพิษอยู่จริง พูดให้ถูกต้องนั้นไม่ใช่แตงโม แต่เป็นน้ำเต้ายาที่เติบโตอยู่ในทะเลทรายและเจริญมาเหมือนแตงโม ถ้าไม่ดูอย่างละเอียดไม่มีทางมองออก เถาของมัน ใบ ผิว และผลล้วนมีพิษ กินเข้าไปถึงตายได้”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท