หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 516 เลี้ยงกองทัพมดเล่น

บทที่ 516 เลี้ยงกองทัพมดเล่น

บทที่ 516 เลี้ยงกองทัพมดเล่น

หลานเยาเยาใจสั่น จากนั้นก็หรี่ตา

ท่าทางแบบนี้ น่าจะเป็นท่าทางแบบที่ส้งเย่นกุยเป็นตั้งแต่แรก!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผยออกมาโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย หรือจะพูดได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงใบหน้าที่แท้จริงของเขาออกมาต่อหน้านาง

“ส้งเย่นกุย รีบคิดวิธีเร็ว”

นี่คือประโยคที่หันไปพูดกับส้งเย่นกุยเป็นประโยคแรก เสียงนี้ไม่ใช่การขอร้องอธิษฐาน แต่เป็นความรู้สึกเชื่อใจอย่างไม่มีเหตุผล

นี่ทำให้ส้งเย่นกุยตกใจเล็กน้อยไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างสุภาพ พูดอย่างไม่ร้อนรนว่า:

“วางใจได้ ปล่อยให้ข้าจัดการ”

พอสิ้นเสียง ท่าทางของส้งเย่นกุยกลายเป็นจริงจังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีรอยยิ้มแปลกๆออกมาที่มุมปาก

เขายื่นแขนเรียวยาวออกมา บ่มเพาะพลังขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นตรงหน้า ทำให้คนรู้สึกถึงความบีบรัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากนั้นก็กวาดมาทางพวกเขา

ในทุกสถานที่ที่กวาดไป ก็เหมือนกับเกิดลมพันโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ทำเอากองทัพมดทะเลทรายที่พุ่งมาโจมตีพวกเขาด้วยความเร็วต้องบินออกไปสองด้าน

เพียงวรยุทธ์โบกมือแค่ครั้งเดียว ถนนที่กว้างขวางปลอดภัย ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา……

พวกเขาทั้งกลุ่มล้วนตกใจ แต่ก็ไม่พูดอะไร รีบบินไปทางส้งเย่นกุยอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่กองทัพมดทะเลทรายถูกลมแรงพัดไปก็รวมตัวกันขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และมุ่งไปล้อมยังทิศทางที่พวกเขาหนี

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ที่พวกเขามุ่งไปทางส่วนลึกของทะเลทราย และก็ไม่รู้ว่ากองทัพมดทะเลทรายที่ไล่ๆมาหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยรวม ตลอดทางพวกเขาสนใจแต่วิ่งและบินหนี ไม่มีใครทันหันกลับไปมอง

พูดตามจริง ตั้งแต่หลังจากที่ส้งเย่นกุยช่วยพวกเขาหนีออกมาจากวงล้อมของกองทัพมดทะเลทราย ส้งเย่นกุยก็นำทางพาพวกเขามายังส่วนลึกของทะเลทราย

จนถึงตอนนี้ ส้งเย่นกุยก็หยุดลงตรงที่เนินทรายสูงๆ

หันหลังให้พวกเขา ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ ผมไม่ยุ่งเหยิง เสื้อคลุมโรยลงตามสายลมเอื่อยๆเล็กน้อย ทำให้คนรู้สึกไม่เหมือนจริง

ที่แตกต่างกับส้งเย่นกุยอย่างชัดเจนก็คือพวกกลุ่มของหลานเยาเยา

ผมเผ้าของพวกเขายุ่งเหยิง เสื้อผ้าสกปรกตั้งแต่การโจมตีของทรายเหลือง ท่าทางก็ดูจนตรอก

จื่อเฟิงเป็นผู้เดียวที่พลังงานหมดไปเร็วที่สุด!

อย่างไรเสีย!

ที่ไหล่ของเขายังแบกเย็นหงอยู่

แม้เย็นหงจะผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แต่ก็มีสิ่งที่แบกอยู่บนไหล่อย่างน้อยประมาณแปดสิบกิโล หามเอาไว้ตลอดทาง จื่อเฟิงก็ยังสามารถตามฝีเท้าพวกเขาได้ทัน มันเกิดขีดจำกัดแล้ว

หลังจากที่เห็นว่าส้งเย่นกุยหยุด

จื่อเฟิงก็วางเย็นหงลง หลังจากที่หลานเยาเยาจับชีพจรให้นางด้วยความเร็ว ก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

“นางไม่ได้เป็นอะไรมาก คาดว่าอีกไม่นานก็น่าจะฟื้น ป้อนน้ำให้นางเสียหน่อย!”

หลานเยาเยาหยิบกาน้ำเพียงใบเดียวจากเอวส่งให้จื่อเฟิง

จื่อเฟิงมองคุณหนูของตนเองด้วยสีหน้าแปลกใจ จากนั้นก็มองเย็นหงที่เอนอยู่ในอ้อมแขน ในที่สุดก็รับกาน้ำมา เงยหน้าให้จิบน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งไปที่ริมฝีปากแตกซีดของเย็นหง

นี่เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด!

ไม่เปลืองน้ำ และยังสามารถให้เย็นหงดื่มลงไปได้

“นางไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เย่หลีเฉินมาข้างกายหลานเยาเยา มองการกระทำของจื่อเฟิง ก็แปลกใจเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร!”

หลานเยาเยาพูดเรียบๆ

ก้มหัวมองแขนของเย่หลีเฉิน บนแขนมีรูเลือดที่ถูกกองทัพมดกัดกินอยู่ไม่กี่รอย บาดแผลลึกเล็กน้อย สามารถเห็นกระดูก ผิวรอบๆสีคล้ำ ขยายจนเกือบจะทั้งแขน ส่อให้เห็นว่าถูกพิษ

เมื่อเห็นสายตานาง เย่หลีเฉินก็เอาแขนไปหลบไว้ด้านหลัง และย้ายสายตาไปอย่างลุกลี้ลุกลน

หลานเยาเยาขยับริมฝีปาก!

“กองทัพมดทะเลทรายมีพิษ เจ้าและจื่อเฟิงต้องดูดพิษมันออกมาจากบาดแผล”

จื่อเฟิงที่เป็นคนที่ยากจะคาดเดามาโดยตลอด มีเรื่องอะไรก็เก็บไว้ในใจ

แต่นางรู้ว่าเขาถูกกัด เพียงแต่ไม่รู้ว่ารุนแรงหรือไม่?

“อื้ม ข้ารู้แล้ว”

เย่หลีเฉินพยักหน้าเงียบๆ กำลังจะหมุนตัวเดินไปอีกด้าน แต่ถูกหลานเยาเยาเรียกไว้

“เอามือมาให้ข้า!”

“ไม่ต้อง ข้าดูดออกมาเองได้”เย่หลีเฉินรีบปฏิเสธ

“ข้ารู้ ข้าแค่จะจับชีพจรเจ้า”นี่เขาคิดไปถึงไหนเนี่ย?

เย่หลีเฉินหน้าแดงเล็กน้อย ยกแขนขึ้นให้นางจับชีพจรอย่างอายๆ

นัยน์ตาหลานเยาเยาฉายรอยยิ้ม หลังจากที่จับชีพจรเสร็จก็พูดว่า: “พิษของกองทัพมดไม่มากนัก แต่ที่ที่ถูกกัดจะปวดมาก พอดูดพิษออกมาแล้วทนไปสองสามวันก็ดีขึ้น”

“อื้ม!”

หลังจากที่จับชีพจรให้เย่หลีเฉินเสร็จ หลานเยาเยาก็ไปจับชีพจรให้จื่อเฟิง

จื่อเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บจนชิน หลังจากที่ป้อนน้ำเย็นหงเสร็จ ก็ใช้กำลังภายในขับพิษออกมา

หลานเยาเยาตบๆไหล่เขา หมุนตัวเดินไปหาส้งเย่นกุยที่ยืนอยู่บนเนินทรายนิ่งไม่ขยับ

ทันทีที่มายืนอยู่ข้างเขา จู่ๆส้งเย่นกุยก็ยื่นมือออกมาไว้ตรงหน้านาง พูดเสียงเย็นชาว่า:

“ข้าเองก็โดนพิษ”

“โดนพิษ?”หลานเยาเยาสงสัย

มองไปบนแขนของส้งเย่นกุย มือขาวเรียวสะอาด ตรงข้อมือมีร่องรอยของการถูกกองทัพมดกัด บาดแผลตื้นมาก

คาดว่าถ้านางมาช้าไปก้าว บาดแผลก็จะประสานกันเอง

“อืม โดนพิษ หรือเพิ่งโดนพิษเมื่อครู่”

ภายใต้การตกตะลึงของส้งเย่นกุย หลานเยาเยากวาดตามองที่พื้น ก็มีศพของกองทัพมดตัวนึง ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน จึงพูดล้อเล่นว่า:

“เจ้าพากองทัพมดมาด้วย อย่าบอกนะ ว่าคนที่เลี้ยงพวกมันคือเจ้า”

ได้ยินดังนั้น!

ส้งเย่นกุยก็เสียงฮึดฮัดเย็นชา ดึงมือกลับไป มองนางอย่างแปลกๆ และพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า:

“คนที่เลี้ยงพวกมันก็คือท่าน”

อา!

นี่อาจจะไม่ตลกนัก นางไม่เคยมาที่นี่ และก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงของพวกนี้

แต่ว่า……

เมื่อเห็นสายตายืนหยัดของเขาที่ไม่เหมือนกับพูดโกหกเลยสักนิด จึงเอ่ยถามขึ้น

“งั้นเจ้าลองบอกมาซิ ว่าข้าจะเลี้ยงทำไม?”

“เล่น”

“……”

เลี้ยงกองทัพมดทะเลทรายไว้เล่น? นางบ้าหรือประสาทส้งเย่นกุยสับสน?

ก็ได้!

ที่ส้งเย่นกุยพูดก็เหมือนนิสัยนางจริงๆ

แน่นอนว่านางต้องเน้นนิดหน่อย:

“เรื่องตลกนี้มันไม่ตลกเลยสักนิด ม้วนหนังแกะไม่ได้อยู่ที่ข้า เจ้าลองบอกมาซิ ว่าต่อไปพวกเราควรจะไปทางไหน?”

ส้งเย่นกุยให้ม้วนหนังแกะของนางอยู่ที่ตัวยู่หลิวซู ตอนนี้กองขบวนถูกตีแตก ทั้งตาย ทั้งหนี คนที่อยู่ไม่กี่คนนี้ก็ยังไม่รู้จำนวน

เพียงแค่หวังว่าพวกเขาจะสงบสุขปลอดภัย!

นางเคยคัดลอกแผนที่ภูมิประเทศบนม้วนหนังแกะ แน่นอนว่าต้องรู้สถานที่ที่พวกเขาอยู่ ซึ่งอยู่ห่างจากทางที่นางกำหนดไว้มาก

“ไม่รู้”

ส้งเย่นกุยมองไปข้างหน้าด้วยแววตาที่สับสน และตื่นเต้นที่มีความหวัง

สุดท้าย เขาก็พูดเสริมขึ้นมา “ใช้ความทรงจำโอบกอดอดีต ใช้ความหวังโอบกอดอนาคต ความหวังจะมักจะมีอยู่”

เมื่อได้ฟังประโยคที่เขาพูดหลานเยาเยาก็ตกใจเล็กน้อย ประโยคนี้คือคติประจำใจของนางตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ทุกครั้งที่เจอกับหนทางที่ยากลำบากยากจะก้าวข้าม นางมักจะนึกถึงประโยคนี้ และบ่อยครั้งนางจะเอามาเป็นคำพูดเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

“เจ้ารู้จักคาลิล ยิบราน?”

คาลิล ยิบรานเป็นนักประพันธ์และนักกวีที่มีอิทธิพลมากในยุคปัจจุบัน คติประจำใจของนางก็พัฒนามาจากคำพูดที่มีชื่อเสียงในผลงานของเขา

ส้งเย่นกุยคงไม่ใช่คนข้ามภพใช่ไหม?

“ไม่รู้จัก พระคุณเจ้าหยวนซูเป็นผู้บอกข้า”

พระคุณเจ้าหยวนซูอีกแล้ว

พระคุณเจ้าหยวนซูนี่เป็นใครกันแน่?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท