หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 499 หัวใจกับร่างกายที่ว่างเปล่า

บทที่ 499 หัวใจกับร่างกายที่ว่างเปล่า

บทที่ 499 หัวใจกับร่างกายที่ว่างเปล่า

ในทะเลทราย ใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด ม้าที่ตายแล้วในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สามารถมีบทบาทสำคัญ ที่สำคัญมันสามารถช่วยชีวิตคนได้ และจะต้องไม่สูญเปล่า

ตอนกลางคืนมีลมทรายพัดแรงมาก

ไม่มีกระโจม อาการบาดเจ็บของโหลวเย่วไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ

หลาเยาเยาได้สอบถามส้งเย่นกุยที่เติบโตในทะเลทรายโกบี กลางคืนมีวิธีหลีกเลี่ยงลมทรายยังไง ส้งเย่นกุยพูดว่า

อยู่หลังเนินทรายจะดีกว่า แต่ก็อาจจะกินทรายได้ง่าย ถ้าลมทรายพัดมาแรงมาก ก็อาจจะโดนทรายทับถมได้ง่าย

ในที่สุดนางก็ตัดสินใจที่จะค้างคืนหลังเนินทราย และอยู่ที่นั่นสองวันโดยไม่ขยับ อาการบาดเจ็บของโหลวเยว่ก็ดีขึ้นมาก แต่มักจะร้องไห้เงียบๆ

หลานเยาเยายืนอยู่ที่เนินทราย มองขึ้นไปบนฟ้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

ทันใดนั้นเอง!

หูของนางขยับเล็กน้อย และเมื่อหันกลับไป ก็มีร่างสองร่างปรากฏต่อหน้านาง ซึ่งทำให้ดวงตาของนางเป็นประกาย แต่ในไม่ช้าก็หรี่ตาลง

เมื่อพิจารณาจากพื้นที่เพาะพันธุ์พิษกู่จิ้น พวกเขาทั้งสองไม่น่าจะปรากฏที่นี่

พวกเขาสองคนแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายที่แข็งแกร่ง เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ และเต็มไปด้วยฝุ่น หลังจากที่ได้เห็นนาง ก็รีบคุกเข่าลงด้วยเข่าข้างหนึ่งทันทีและกุมมือคารวะ

“คุณหนู… …”

เรียกครั้งเดียว ไม่มีคำพูดใดๆต่อไป แต่ศีรษะของพวกเขายิ่งก้มต่ำลง

คือจื่อซีและจื่อเฟิง!

ก่อนออกจากเมืองหลวงก็สั่งงานให้พวกเขาเรียบร้อย

หลานเยาเยาประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามว่า

“ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

ก่อนที่จะออกจากเมืองหลวง นางก็ได้สั่งให้ทั้งสองคนแอบติดตามเย่เจ๋หยิ่ง เพราะจื่อซีเคยทำงานการแพทย์ในหน่วยองครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่ง และจื่อเฟิงเป็นผู้ควบคุมกองกำลัง

ให้พวกเขาไปด้วย นางจะได้วางใจ

แต่ตอนนี้เห็นพวกเขา และใบหน้าของพวกเขาดูไม่ค่อยดี คิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น หัวใจหดหู่ลงทันที

“เรียนคุณหนู พวกข้าตามไปได้ครึ่งทาง พวกข้าก็ถูกอ๋องเย่จับได้ เขารู้ความตั้งใจของท่าน และเป็นห่วงท่านมาก จากนั้นได้ออกคำสั่งเด็ดขาด ให้พวกข้ากลับมา”

ผู้พูดคือจื่อซี

เขามักจะพูดมาก ตลบตะแลง ซึ่งไม่น่าเชื่อถือ

ดังนั้น หลานเยาเยามองไปที่จื่อเฟิง โดยไม่พูดอะไร เพียงแค่จ้องมองตากัน และถามอย่างเงียบๆ

ดวงตาของจื่อเฟิงกระพริบสองสามครั้ง ดูเหมือนกำลังจะหลบสายตา และในที่สุดก็ก้มศีรษะลง พูดด้วยเสียงดังฉะฉาน “เป็นอ๋องเย่ที่ให้พวกข้ากลับมาปกป้องคุณหนู”

หลานเยาเยาไม่พูดอะไร

เมื่อนึกถึงโหลวเย่ว และมองไปที่จื่อซี คิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะพูดว่า “โหลวเย่วได้รับบาดเจ็บ ไปเยี่ยมหน่อยสิ!”

เมื่อจื่อซีได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นทันที แววตาของเขาแสดงความกังวล แต่เขาก็รีบเก็บอาการ อยากถามอะไรบางอย่าง และในที่สุดก็ไม่ถาม กุมมือไว้ที่อกแล้วคารวะหลานเยาเยา จากนั้นก็หันตัวค่อยๆเดินออกไป

หลังจากนั้น ฝีเท้าของเขาก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดเขาก็วิ่งเร็วเหมือนบินไปที่ด้านล่างของเนินทราย

หลานเยาเยาถอนหายใจ

แต่ก่อนเพียงแค่สงสัย แต่ตอนนี้ยืนยันได้ จื่อซีมีคนรู้ใจแล้ว

แต่น่าเสียดาย… …

คนที่อยู่ในใจนางคือเซียวซื่อจื่อ

เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ริมฝีปากเปิดออกเล็กน้อย

“เรื่องนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

แม้ว่านิสัย(จื่อเฟิง)ไม่เฉื่อยชา พูดมีหลักการ แต่เขาก็ไม่เหมาะกับการพูดโกหก โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้านาง จื่อซีที่ชอบพูดตลบตะแลง นางมองเห็นชัดเจน มีแต่จื่อเฟิงที่ไม่ถนัดในการพูดโกหก

“คุณหนู เรื่องนี้… …”

“ยังนับถือข้าเป็นคุณหนูอยู่หรือไม่? จื่อเฟิง ไม่ใช่วันหรือสองวันที่คลุกคลีกับพวกเจ้า นิสัยพวกเจ้าข้ายังไม่เข้าใจอีกเหรอ? พวกเจ้า! มีจุดอ่อนอย่างหนึ่ง มีความรักและความยุติธรรมมากเกินไป การปฏิบัติต่อคนที่ไว้ใจ ไม่เหมาะที่จะพูดโกหก”

ดวงตาของหลานเยาเยาหมองหม่น เหมือนเมฆที่เย็นชา และคำพูดที่ตรงไปตรงมา แต่มีความในใจ

นางไม่มองจื่อเฟิง แต่รับรู้ถึงความประหลาดใจและละอายใจที่จื่อเฟิงแสดง

“คุณหนู ขอโทษ ที่ข้าน้อยพูดโกหก”

“อืม ข้ารู้แล้ว พูดซิ!”

สำหรับท่าทางของจื่อเฟิง หลานเยาเยาพอใจอย่างมาก

“ขอรับ!” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถปิดบังได้ต่อไป จื่อเฟิงจึงเล่าเรื่องทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง

ที่แท้

ตอนที่อยู่ในเมืองหลวง (ก่อนที่หลานเยาเยากำลังเปลี่ยนพลังความชั่วร้าย) และก็พบจื่อซีกับจื่อเฟิง ให้พวกเขาแอบไปช่วยเย่แจ๋หยิ่ง ในคืนที่ออกจากเมืองหลวง นางได้ไปหาเย่แจ๋หยิ่ง คุยกับเขาตั้งนาน

ประการแรกคือบอกลา!

ประการที่สองคือให้จื่อซีและจื่อเฟิงแอบเฝ้าดู รอจนกว่าเย่แจ๋หยิ่งจากไป ก็ให้พวกเขาตามไป

ตอนแรก เย่แจ๋หยิ่งยังไม่รู้ มีครั้งหนึ่งที่ทุ่งดอกกระดูกขาวถูกไฟไหม้ เย่แจ๋หยิ่งถูกโจมตีโดยคนมนต์ดำ และยังติดอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่กำลังลุกไหม้ ฉะนั้นจื่อซีและจื่อเฟิงจึงเผยตัวเข้ามาช่วย

แต่ไม่คาดคิดว่า… …นี่เป็นกักดัก

เป็นเย่แจ๋หยิ่งที่จงใจตกอยู่ในอันตรายเพื่อล่อทั้งสองคนออกมา!

หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ได้รับคำสั่งให้มาที่ทะเลทราย

หลังจากฟังเสร็จ

ตามที่คาดไว้ หลานเยายกมุมปากขึ้นช้าๆ และถอนหายใจเฮือกใหญ่

ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ นางจะไม่ปล่อยให้จื่อซีและจื่อเฟิงวิ่งไปวิ่งมาเช่นนี้

“ดูใบหน้าที่เหนื่อยล้าของพวกเจ้า รีบไปพักผ่อนกันเถอะ!”

ดูเหมือนว่า รออยู่ที่นี่ เย่แจ๋หยิ่งคงไม่มาแล้ว พรุ่งนี้เริ่มออกเดินทางกันเลย!

หลังจากสั่งเสร็จ หลานเยาเยาก็เดินลงจากเนินเขา

จื่อเฟิงมองด้านหลังของหลานเยาเยาที่จากไป และค่อยๆก้มหน้าลง

ในความเป็นจริง!

เขายังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้พูด

หลังจากถูกเย่แจ๋หยิ่งจับได้ ขณะนั้นใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งเคร่งเครียดมาก บรรยากาศรอบๆมีความเยือกเย็นกระจายออกมา และก็พูดประโยคหนึ่งต่อมา

“ตอนที่อยู่ในชนเผ่าหยินไห่ ข้าออกคำสั่งอย่างไร?”

จื่อซีและจื่อเฟิงตกตะลึง ทั้งคู่คุกเข่าลง เสียงดัง

“เจ้านาย”

“พูด!”

“พระชายามีชีวิตอยู่ ข้าน้อยก็มีชีวิตอยู่ พระชายาตาย ข้าน้อยตายก่อน” พูดถึงตรงนี้ ดวงตาของพวกเขาแดงขึ้นเล็กน้อย

“ในเวลาเพียงสามปี (ความคิดพวกเจ้าเปลี่ยนไปหมดแล้วหรือ?) ข้าเคยพูดไว้ เยาเยาเป็นหัวใจของข้า พวกเจ้าไม่ปกป้องหัวใจ แต่กลับมาปกป้องร่างกายที่ว่างเปล่า? มีประโยชน์อะไร”

ได้ยินคำพูดนี้!

จื่อซีใช้ความกล้าและพูดว่า

“เจ้านาย คุณหนู… …ไม่ใช่ เป็นพระชายา พระชายาเป็นห่วงท่าน ถ้าพวกเราไม่มา นางจะวางใจได้ยังไง?”

สิ่งที่จื่อซีกำลังพูดเป็นความจริง เย่แจ๋หยิ่งจะไม่เข้าใจได้ยังไง?

จื่อซีและจื่อเฟิงเป็นองครักษ์ที่มีความสำคัญที่สุด และตอนนี้พวกเขาถูกหลานเยาเยาอบรมจนมีหัวจิตหัวใจ เขาไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี

แต่ใบหน้าของเขากลับเย็นชาลง “รีบไปที่ทะเลทราย อย่าให้มีข้อผิดพลาด”

เสียงที่เยือกเย็นและน่ากลัวดังขึ้น บ้าอำนาจและเย็นชา และดวงตาของเขาก็หรี่ลง

สีหน้าไร้ความรู้สึก แต่หัวใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นึกถึงท่าทางของหลานเยาเยา อยากที่จะปรากฏตัวในทะเลทรายทันที อยู่ข้างๆนาง เพื่อร่วมเผชิญปัญหากับนาง

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” ทั้งสองกล่าวพร้อมเพรียงกัน

อ๋องเย่เป็นเจ้านายของพวกเขา ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เปลี่ยนแปลง หลานเยาเยาเป็นภรรยาของเจ้านาย เป็นที่รักของเจ้านายและเป็นคุณหนูที่ดีกับพวกเขามากที่สุด

พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเจ้านาย แต่พวกเขาก็ไม่อยากที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของคุณหนู

อย่างไรก็ตาม!

เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้านายพูดอีกครั้ง ทั้งสองก็ยิ่งเข้าใจ

ตราบใดที่คุณหนูยังมีชีวิตอยู่ เจ้านายก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องปกป้องหัวใจของเจ้านาย นั่นคือการปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับคุณหนูและเจ้านาย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท