หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 507 เกิดลมแล้ว รีบไป

บทที่ 507 เกิดลมแล้ว รีบไป

บทที่ 507 เกิดลมแล้ว รีบไป

รอจนกระทั่งทุกคนรวมตัวกันแล้ว หลานเยาเยาก็ตรวจนับจำนวนคน เดิมที คนของนางกับเย่หลีเฉินรวมกัน มี48คน พอมีมรสุม บวกกับการโจมตีของงูทอง ตอนนี้จึงเหลือเพียงยี่สิบกว่าคน

หายไปมากกว่าครึ่ง

ตอนนี้ทำได้เพียงรอทรายเหลืองที่ตลบอบอวลไปทั่วท้องฟ้าหายไป ถึงจะสามารถไปหาคนได้

โชคดีที่อากาศหลังมรสุมนั้นสงบเป็นพิเศษ ไม่มีแม้แต่ลม ยาผงที่โรยอยู่บนเนินทราย ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลมพัดกระจายหายไป ด้วยเหตุนี้งูทองทะเลทรายที่ตามมา อยากจะมุดเข้าเนินทรายมาโจมตีพวกเขาก็ทำไม่ได้

ดังนั้นในคืนนั้น พวกเขาจึงพักผ่อนอย่างสบายใจ

ถึงวันที่สอง

ทรายเหลืองที่อบอวลอยู่ในอากาศก็จางลงไปหมดแล้ว ท้องฟ้าไร้เมฆ แม้แต่พระอาทิตย์ก็ไม่มี

คนที่พักผ่อนอยู่รอบๆเนินทรายก็ตื่นขึ้นมาทีละคน

หลานเยาเยาดูเหมือนจะตื่นเช้าที่สุด แต่ที่จริงนางไม่ได้นอนทั้งคืน

เพราะยังหาจื่อเฟิงไม่พบ……

นางตบๆทรายเหลืองที่อยู่บนตัว และเดินไปยังข้างกายส้งเย่นกุยที่เฝ้ายามตลอดทั้งคืน หน้าเขาไม่มีความเหนื่อยเลย ยังคงดูมีท่าทางมีวิชาความรู้บุคลิกสง่างามและมีความอวดดีเล็กน้อยอยู่

นางยื่นมือไปตบๆไหล่เขา เพื่อดึงเขาจากความคิดกลับมาสู่ความเป็นจริง

“เจ้าอยากไปพักผ่อนเสียหน่อยไหม?”

แม้จะรู้ว่าประโยคนี้มันไม่จำเป็น แต่นางก็ยังถาม

ส้งเย่นกุยหันหน้ามา เอาสายตามามองยังมือเรียวที่วางอยู่บนไหล่เขา และนัยน์ตาก็วูบไหวเล็กน้อย จากนั้นก็สบตาหลานเยาเยา

“ข้าไม่เหนื่อย!”

เมื่อได้ยินเขาพูด หลานเยาเยาก็พยักหน้า ย้ายมือที่อยู่บนไหล่เขาออกไป จากนั้นก็หมุนตัวมาพูดกับทุกคน

“ทุกคนนับของดูเสียหน่อยและวางแยกกัน ผู้ที่บาดเจ็บเดินไม่ได้ก็ขี่ม้า ผู้บาดเจ็บนั้นเยอะ หากเดินได้ก็พยายามเดิน อีก15นาทีพวกเราจะออกเดินทาง”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง สายตาของหลานเยาเยาก็หยุดนิ่ง

รูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนขนาดใหญ่ตรงหน้านาง ห่างไปจากเนินทรายที่นางอยู่ไม่ถึงสองร้อยเมตร สีทั้งตัวนั้นเหมือนกับทะเลทราย ทั้งหมดเป็นสีดินโคลน แต่อ่อนกว่าสีของทรายเหลืองเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้เห็นทารกยักษ์หลับนอนมาก่อน ก็คิดมาตลอดว่าเป็นรูปปั้นทารกยักษ์ที่คนสร้างขึ้น พอได้มาเห็นกับตาถึงรู้ว่า มันก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติ หลับสนิทอยู่กลางทะเลทราย

กะด้วยสายตา รูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนนี้น่าจะสูงประมาณ5เมตร กว้างประมาณ7-8เมตร ยาวอย่างน้อยที่สุดก็เกือบจะ20เมตร

ทั้งตัวเป็นหินสีเหลือง ท่าทางการเคลื่อนไหวประสานกันมาก แม้แต่ปากเล็กเชอร์รี่ที่ดูมุ่ยๆเล็กน้อย กับขนตาที่โค้งงอน ก็ต่างดูเหมือนจริงมาก แม้แต่รอยยับของผ้าบนตัวทารก ก็ดูเป็นธรรมชาติกลมกลืนมาก

เดิมทีไม่อยากมาที่นี่ คิดไม่ถึงว่ามรสุมจะพัดเอาพวกเขามาที่นี่……

นี่สวรรค์กลั่นแกล้งหรือ?

แค่เคลื่อนไหวเล็กน้อย ก็มีลมเบาๆพัดผ่านหน้า มองเส้นผมที่ติดอยู่บนหน้า ถูกลมเบาๆพัดปลิว หลานเยาเยาก็ขมวดคิ้วน้อยๆ

เมื่อมองไปยังทุกคนที่ต่างยืนขึ้นจัดเก็บของ ตรวจสอบ อาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่เห็นว่าเสื้อคลุมและแขนเสื้อของพวกเขาจะปลิวไปตามลม

ส่วนสีหน้าของยู่หลิวซูและเย่หลีเฉินก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

“เกิดลมแล้ว พวกเราต้องรีบไป”

“ลมนี้มีแนวโน้มว่าจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้ายาผงที่โปรยบนเนินทรายก็จะถูกลมพัดไป งูทองที่ซ่อนอยู่ใต้ทรายเหลืองก็จะออกมาล่าเหยื่อ พวกเราต้องรีบเก็บของให้ไว”

ลมนี้บอกว่าจะมาก็มา หลังจากที่ลมมาแล้วก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก และยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ยาผงบนเนินก็ค่อยๆถูกพัดหายไปมาก

บริเวณเนินทรายรอบๆ พวกงูทองทะเลทรายก็โผล่หัวออกมาทีละตัวๆ แล้วก็พ่นภาษางูออกมาเงียบๆ มองพวกเขาด้วยสายตาที่สบายๆ

พวกมันมีจำนวนมาก สามารถอธิบายได้ว่ามีทั่วทุกที่

ซ้ำยังล้อมเนินทรายไว้รอบๆ รอบๆ และก็มีแนวโน้มที่จะค่อยๆวนขึ้นมาข้างบน

ยอดเยี่ยม!

ล้วนรอเหยื่อ!

สายตาของหลานเยาเยาหนักแน่น หยิบเอาถุงยาผงส่งให้ยู่หลิวซู “งูกลัวสิ่งนี้ เอาไปเปิดทาง และไปยังรูปปั้นหินทารกยักษ์นั่น รีบไป”

รูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนนั่นเหมือนกับวัง ใหญ่เพียงพอ อีกทั้งยังมีผิวเกลี้ยงเกลา งูทองทะเลทรายปีนขึ้นมาไม่ได้ เมื่อมองทิศทางลม ตราบใดที่พวกเขาซ่อนอยู่ด้านหลังรูปปั้นหินทารกยักษ์ ลมจะพัดไม่ถึงแน่ และนางก็ค่อยโรยยาผงไล่งูไว้ตามของรูปปั้นทารกยักษ์ พอถึงตอนนั้น งูทองก็จะไม่มีทางเข้าใกล้พวกเขาได้

“ขอรับ!”

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ยู่หลิวซูหยิบยาผงไปและพูดกับทุกคนเสียงดังว่า: “ไปกับข้า มุ่งไปยังรูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนนั่น”

มองยู่หลิวซูที่เริ่มใช้ยาผงไล่งูเปิดทาง ส่วนเย่หลีเฉินก็ตัดสินใจที่จะอยู่ท้ายสุด หลานเยาเยากับส้งเย่นกุยก็ไม่ได้เคลื่อนไหว

ทันใดนั้นตาเฒ่าเย่น และสมาชิกสำนักหงอีคนหนึ่งก็ต่างบินไปยังด้านข้างที่ยู่หลิวซูเปิดทางไว้ และฆ่างูทองที่คิดจะกระโดดโจมตีทุกคน

ลมได้พัดยาผงที่โปรยไว้บนเนินทรายไปหมดแล้ว หลานเยาเยาสั่งให้คนที่อยู่สุดท้ายถอยทัพโดยด่วน

ยืนบนเนินทราย มองพวกเขาค่อยๆไกลออกไปจากเนินทราย ก็ดึงสายตากลับมามองงูทองที่วนขึ้นมาเกือบจะถึงยอดเนินทราย

ยกเท้ากำลังจะไป

หางตาก็เห็นส้งเย่นกุยมองรูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอนไม่ขยับ

เหมือนเหม่อไปแล้ว……

เหมือนกับสถานที่นั้นทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้

หันไปตะโกนเรียกส้งเย่นกุย แต่เขาก็ไม่ได้ดึงสติกลับมา

ไม่มีวิธีแล้ว นางทำได้เพียงลากแขนของเขา พาเขาบินออกจากเนินทรายโดยเร็ว

ส่วนงูทองนั่นก็กระโดดขึ้นมา แทบจะพันเท้าของส้งเย่นกุย

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อครู่แค่แตะเท้าของเขา ก็เหมือนกับถูกอานุภาพขนาดใหญ่ดีดออก และถูกทำให้สั่นสะเทือนจนกลายเป็นผุยผง

แม้หลานเยาเยาจะมองไม่เห็นแต่ก็รู้สึกได้ ส้งเย่นกุยมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งผิดปกติ ที่มีการระเบิดเมื่อครู่นั้น แรงบีบมหาศาลก็ม้วนเข้ามาที่นาง

แรงบีบแบบนี้ ถ้าเทียบกับราชครูเทียนเวิงแล้วก็พอๆกัน

ในใจก็แอบตกใจ!

แต่ใบหน้าก็ไม่ได้แสดงอะไร เพียงแต่หันไปมองเขา

“สติกลับมาแล้วหรือ? ไม่เป็นไรนะ!”

“ไม่เป็นไร”ส้งเย่นกุยส่ายหัวเล็กน้อย

เพราะหลานเยาเยาได้รับบาดเจ็บภายในจากมรสุมทะเลทราย บวกกับที่ถูกชนทั่วทั้งตัวนั้นเจ็บมาก ดังนั้นนางจึงพาส้งเย่นกุยบินไปได้ไม่ไกลนัก

ไปหยุดลงที่ท้ายขบวน เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว เย่หลีเฉินที่รับผิดชอบอยู่ด้านหลังก็หันกลับมา เมื่อเห็นว่าเป็นพวกเขา ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“โชคดีที่พวกเจ้ามาแล้ว”

ถ้าผ่านไปอีกสักพัก เกรงว่าเขาจะอดไม่ไหว ต้องกลับไปหาพวกเขา

“ดูท่า งูทองพวกนี้คงหิวมาเป็นแปดร้อยปี ไม่เช่นนั้นทำไมงูทองทะเลทรายถึงมารวมกัน แล้วล่าพวกเราที่นี่หล่ะ!”

หลานเยาเยามั่นใจว่า ครั้งสุดท้ายที่นางหันกลับไปมอง หัวงูที่มุดออกมาพวกนั้นทำให้คนกลัวจับใจ พรั่งพรูมุ่งหน้ามาทางพวกเขาเป็นจำนวนมาก เทียบได้กับหนังมหันตภัยในยุคงู

เห็นได้ชัดว่าเย่หลีเฉินคิดไม่ถึงว่า ในตอนนี้แบบนี้ หลานเยาเยาจะยังมีกะจิตกะใจมาล้อเล่น

จนกระทั่งตอนที่เขาหันไปมองด้านหลังของหลานเยาเยา สีหน้าก็เปลี่ยนไป มันหนาแน่น พรั่งพรูมาเป็นผืนๆ ด้วยความเร็วที่เร็วมาก

จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดังไปข้างหน้า เพื่อให้ข้างหน้าเร่งความเร็วอีกหน่อย ด้วยความเร็วเท่านี้ ในไม่ช้าพวกเขาจะถูกไล่ทัน

เพื่อที่จะชะลอความเร็วของงูทอง หลานเยาเยาจึงหยิบถุงยาผงออกมาสองสามถุง และโรยไปที่พื้นเป็นครั้งคราว

ความเร็วของขบวนนี้แทบจะบินอยู่แล้ว แต่งูทองพวกนั้นก็ค่อยๆไล่ตามขึ้นมา

โชคดีที่มียาผงไปจำกัดความรู้สึกในการดมของพวกมันบางครั้งบางคราว แต่เมื่อไม่มีความรู้สึกในการดม พวกมันก็ยังมีตา

เมื่อเห็นว่าค่อยๆเข้าใกล้รูปปั้นหินทารกยักษ์หลับนอน จู่ๆหัวใจของหลานเยาเยาก็เหมือนปะทะเข้ากับอะไร…

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท