หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 502 ลมพายุทะเลทรายที่แปลกประหลาด

บทที่ 502 ลมพายุทะเลทรายที่แปลกประหลาด

บทที่ 502 ลมพายุทะเลทรายที่แปลกประหลาด

จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการคิดไม่ซื่อของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า คิดไม่ถึงว่าคืนนั้นเข้าก็ลงมือแล้ว แม้ว่าจะเตรียมป้องกันล่วงหน้าแล้ว แต่เกิดเรื่องอย่างกะทันหัน จึงทำให้กระโจมเสียหายไปมากขนาดนั้น

มองดูแผนภูมิศาตร์ในมือ ตอนนี้ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ เข้าใกล้ทารกยักษ์หลับนอนในแผนที่นั้นเป็นอย่างมากแล้ว

มองไกลออกไป ที่ไกลๆสามารถมองเห็นทารกยักษ์หลับนอนเหมือนจุดดวงดาว ห่างกันไกลเพียงนี้ ยังสามารถมองเห็นลักษณะทารกยักษ์ที่เล็กมากๆได้

นี่ก็ทำให้นางตกตะลึงเป็นอย่างมากแล้ว มิน่าล่ะในแผนภูมิศาสตร์ถึงสามารถปรากฏลักษณะทารกยักษ์หลับนอนแห่งนี้ออกมาได้ เดิมทีคิดว่าเปรียบได้กับเนินทรายแห่งหนึ่ง

ตอนนี้ดูแล้ว ทารกยักษ์หลับนอนนี้ใหญ่กว่าที่นางคิดไว้มาก

ยู่หลิวซูและเย่หลีเฉินขี้นมายืนอยู่ทางซ้ายขวาของหลานเยาเยาเป็นเวลานาน มองดูนางขมวดคิ้วเล็กน้อย พวกเขาสองคนก็เอนตัวเข้าไป มองดูแผนภูมิศาสตร์บนมือของนาง

พวกเขามองดูทารกยักษ์หลับนอนนั้นของแผนภูมิศาสตร์ จากนั้นก็มองตามสายตาของหลานเยาเยาไปที่ไกลๆอีก

เย่หลีเฉินชี้ไปทางทารกยักษ์หลับนอนไกลขนาดเท่าจุดดวงดาว ปากเปิดขึ้นเล็กน้อย :

“พวกเราอยู่ใกล้กับที่นั่นมากๆแล้ว เพียงแค่เร่งการเดินทางให้เร็วขึ้น ไม่ช้าก็สามารถไปถึงแล้ว”

ยู่หลิวซูที่อยู่อีกข้างก็พยักหน้าพร้อมกล่าว :

“เจ้าสำนัก ข้าเห็นว่าสองวันนี้สีของท้องฟ้ามีความผิดปกติ โดยเฉพาะวันนี้ สภาพอากาศแปลกประหลาดเป็นพิเศษ มืดครึ้มน่ากลัว พวกเราต้องรีบหาสถานที่กำบังขอรับ”

พูดจบ เขาก็เอาสายตาตกทอดไปบนทารกยักษ์หลับนอนที่ไกลๆ บางทีในนั้นเป็นที่พักที่ไม่เลว

อีกทั้ง!

ทุกทิศล้วนเป็นทะเลทราย กว้างใหญ่ไพศาล เหมือนกับว่าไม่มีจุดสิ้นสุด พอที่จะสามารถเป็นที่กำบังได้ เกรงว่ามีเพียงทารกยักษ์หลับนอนบนแผนภูมิศาสตร์แล้ว

หลานเยาเยาได้ยินดังนั้น เอาสายตาเคลื่อนไปทางท้องฟ้าที่มืดครึ้ม

สภาพอากาศสองสามวันนี้ สองวันก่อนแสงอาทิตย์ยังคงแผดเผาเป็นอย่างมาก สองวันนี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มแล้ว

นางมองเห็นด้วยตาเก็บไว้ในใจ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของทะเลทรายชนิดนี้ จะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นแน่

อีกทั้ง นางยังมีลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีอีกด้วย ดังนั้นสองวันนี้นางได้เร่งความเร็วมาโดยตลอด

เพียงแค่…….

ทารกยักษ์หลับนอนตรงนั้นสามารถเป็นที่กำบังได้จริงหรือ?

ฉับพลันนั้นก็นึกอะไรได้ แววตาของนางเปล่งประกายแวบหนึ่ง หันกลับเอาสายตาตกไปบนร่างของส้งเย่นกุย มุมปากอมยิ้ม ยกมือเรียกเขาเข้ามา

“เทพธิดา มีคำสั่งอะไรขอรับ?”

ส้งเย่นกุยรีบมาด้านหน้า เสียงเหมือนดั่งปกติ แต่ในน้ำเสียงกลับเผยให้เห็นถึงความโอ้อวดที่สงบแฝงมาเล็กน้อย

โดยเห็นได้จากจุดนี้ เช่นเดียวกับที่อันธพาลของหมู่บ้านในยามพระอาทิตย์ตกวันนั้นกล่าวว่าเขาเป็นปัญญาชนที่หยิ่งผยอง และไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐาน

ดูท่าแล้ว ความโอ้อวดนี้ยังมาแผ่กระจายออกมาจากในกระดูกอีกด้วย

หลานเยาเยาเลิกคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงเริ่มขยับ :

“จากที่เจ้าเห็น พวกเราควรหรือไม่ควรไปที่นี่?”

หลานเยาเยากางแผนภูมิศาสตร์ออกเอามือวาดให้เขาดู นิ้วชี้ที่ขาวละเอียดเรียวชี้ไปบนทารกยักษ์หลับนอนนั้น

ยู่หลิวซูและเย่หลีเฉินที่อยู่ข้างกายของหลานเยาเยามองดูหลานเยาเยาอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอาสายทอดบนร่างของยังส้งเย่นกุย

รู้สึกแปลกมาก ภายใต้สถานการณ์ปกติหลังจากที่หลานเยาเยาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนล้วนจะตัดสินใจเพียงผู้เดียว

แต่ว่าทำไม ตั้งแต่ที่ส้งเย่นกุยมอบแผนภูมิศาสตร์ทะเลทรายให้แล้ว นางล้วนสอบถามคำถามบางอย่างกับส้งเย่นกุยเป็นระยะๆ ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปก็ล้วนทำตามที่เขาบอกทั้งหมด

หรือว่าหลานเยาเยาถูกหลอกให้ลุ่มหลงแล้วหรือ?

แต่ว่าดวงตาของนางชัดเจน เพราะการกระทำเหมือนเมื่อก่อน และไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม พวกเขาเพียงแค่มองไว้ในตา และไม่ได้พูดอะไร

เพราะว่าพวกเขาเชื่อหลานเยาเยา รู้สึกว่านางทำเช่นนี้ก็มีเหตุผลของนาง

ราวกับว่าส้งเย่นกุยมองไม่เห็นสายตาที่แปลกประหลาดของคนอื่น และเอาสายตามองไปยังทารกยักษ์หลับนอนนั้นที่มือของหลานเยาเยาชี้อยู่โดยตรง แววตาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เงียบไปครู่หนึ่ง จึงได้เปิดปากพูดเบาๆ :

“แม้ว่าข้าจะไม่เคยเข้ามาในทะเลทราย แต่พระคุณเจ้าหยวนซูเคยกล่าว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมากลางทะเลทรายก็ไม่เคยมีที่กำบัง สามารถกำบังได้มีเพียงตัวเอง

สิ่งนี้มองดูแล้วเป็นเพียงท่าทารกที่นอนอย่างสงบ แต่ทุกหนแห่งกลับเต็มไปด้วยสัญญาณของลางร้าย ข้าคิดว่า ยังไงก็เดินอ้อมหน่อยดีกว่าขอรับ”

หลังจากพูดจบ ไม่รู้ว่าเขานึกอะไรได้ เก็บแววตาที่เหยเก จากนั้นก็เอาสายตาวางไว้บนทารกยักษ์หลับนอนตรงที่ไกลๆ สีหน้าจึงได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย

มองดูภายใต้ท่าทางหลับนอนที่สงบไม่มีพิษภัย อันตรายที่แอบซ่อนอยู่จึงจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด สามารถเลี่ยงได้ก็เลี่ยง เลี่ยงไม่พ้นค่อยคิดวิธีรับมือ

ได้รับคำตอบที่แม่นยำ หลานเยาเยาพยักหน้า

วินิจฉัยจบแล้ว ไม่ใช่กระต่ายขาวตัวน้อยที่ไร้เดียงสาไร้พิษภัยดังคาด แต่เป็นหมาป่าหางใหญ่ตัวหนึ่งที่กระดิกหางร้องขอความเมตตาเป็น

ผู้ชาย เหอะ……

“ดีเช่นนั้นก็ตามที่เจ้าพูด หลบเลี่ยงจุดไกล…….”

คำพูดยังพูดไม่จบ คลื่นลมที่พัดพาลมความร้อนสายหนึ่ง โจมตีผ่านร่างกายพวกเขา คลื่นความร้อนนี้พัดมาจากด้านหลัง

ทันใดนั้นก็มีคนร้องตะโกนด้วยความตกตะลึงหน้าถอดสี :

“เจ้าสำนัก รีบดูด้านหลังขอรับ ม่านเมฆเหล่านั้นกำลังเคลื่อนที่อย่างพลุ่งพล่านรุนแรง เหมือนกับว่าต้องการจะตกลงมาจากบนท้องฟ้าเช่นนั้น เมื่อครู่ยังไม่มีวี่แววสักนิด ตอนนี้ราวกับว่าปรากฏขึ้นกลางอากาศเช่นนั้นขอรับ”

คนที่พูด เป็นคนของสำนักหงอีที่รับผิดชอบสังเกตการณ์สถานการณ์โดยรอบๆ มีความคิดจิตใจระแวดระวังมาตลอด แค่ไม่ได้มองด้านหลังเพียงครู่เดียว ก็ปรากฏเหตุการณ์ที่พิสดารขนาดนี้แล้ว

บรรดาผู้คนได้ยินดังนั้น รีบหันกลับไปดู แต่ละคนล้วนเบิกตากว้าง

เมฆครึ้มยาวๆแถวหนึ่ง ราวกับน้ำตกที่ไหลทะลักมาเช่นนั้น จากความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาการรวมตัวกันจากท้องฟ้าถึงพื้น หลังจากตกพื้นแล้วก็พลิกเป็นคลื่นเมฆ ลากเป็นเส้นที่ไม่เป็นระเบียบเส้นหนึ่งพาดกวาดเข้ามา

ก็เหมือนแรงระเบิดหลังจากที่ระเบิดปรมาณูระเบิดแล้ว รวดเร็วเป็นที่สุด ราวกับเป็นเค้าลางของการทำลายล้างโลก

หลานเยาเยาขมวดคิ้วอย่างหนัก

“ไม่ดี เป็นลมพายุทะเลทราย”

อีกทั้งยังเป็นประเภทที่พบได้ยากชนิดนั้น การปกคลุมทะเลทรายของทั้งผืนต่อเป็นเส้นกลิ้งเข้ามา ดั่งเสียงคำรามของม้าหมื่นตัวที่วิ่งควบ

นางตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวทันที :

“ขี่ม้าด้วยความเร็วที่สุดไปด้านหน้า จำไว้จำเป็นต้องตามติดขบวนกองกำลัง อีกทั้งต้องเอียงไปทางซ้าย จำเป็นจะต้องหลบหลีงทารกยักษ์หลับนอนที่อยู่ไกลๆ”

เรื่องจะรอช้าไม่ได้ หลานเยาเยายกแส้ขึ้นสะบัด

“ฮึ้ย……”

“ฮึ้ย…..”

“……”

ม้าสิบกว่าตัววิ่งอย่างบ้าคลั่งไปด้านหน้าอย่างเร็วที่สุด

แต่ทว่า!

ความรวดเร็วแห่งลมพายุทะเลทราย ไม่ใช่สิ่งที่ม้าสี่เท้าจะสามารถเทียบได้อย่างสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ที่ม้าวิ่งไม่ใช่ที่ราบ แต่เป็นทะเลทรายที่ยวบยาบไม่ราบเรียบ บรรดาผู้คนพยายามฟาดม้าให้พุ่งไปด้านหน้าอย่างสุดชีวิต

ทั้งหมดไม่ต้องใช้เวลานาน ลมพายุทะเลทรายก็ค่อยๆไล่ตามทันพวกเขา และกลืนพวกเขาผสมปนเปไปกับทรายสีเหลือ ต่อจากนั้นก็ซัดสาดไปอย่างรุนแรง

สถานที่ที่ถูกลมพายุทะเลทรายม้วนวน คนเอยม้าเอยล้วนไม่มีแรงตอบโต้ทั้งสิ้น ทำได้เพียงหมุนวนเป็นวงๆตามลมพายุทะเลทราย

หลังจากที่โดนลมพายุทะเลทรายกลืนกินแล้ว กลุ่มของพวกหลานเยาเยา ก็ราวกับว่าจะตกอยู่ในระลอกคลื่นที่ลึกไม่อาจคาดเดาได้ เมฆครึ้มทรายสีเหลืองที่หมุนวนรอบๆ คนทั้งคนบางเวลาลอยขึ้นฟ้า บางเวลากระแทกพื้น บางเวลาก็โดนมุดเข้าไปในพื้นกลางทรายสีเหลือง

ไปๆมาๆเช่นนี้ สุดท้ายตามลมพายุทะเลทรายที่ยิ่งหมุนก็ยิ่งไกล จึงค่อยหลุดออกจากระลอกคลื่น

บ้างโดนเหวี่ยงไปไกลมาก บ้างถูกฝังอยู่ในทรายสีเหลือง ยังมีบ้างที่ตกลงมาจากกลางอากาศโดยตรง

ดังนั้น ทุกหนแห่งหลังจากที่ลมพายุพัดหินทรายอย่างบ้าคลั่งแล้วล้วนเป็นทรายสีเหลืองปกคลุมทั้งแผ่นฟ้า หมอกขมุกขมัว เหลืองหม่นไร้ขอบเขต ไม่เป็นกลางวัน ราวกับว่าตัวตกอยู่ในความสับสนมึนงงไร้ที่สิ้นสุด ให้คนรู้สึกถึงความว่างเปล่าชนิดหนึ่ง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท