หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 545 ส้งเย่นกุยหวาดกลัว

บทที่ 545 ส้งเย่นกุยหวาดกลัว

บทที่ 545 ส้งเย่นกุยหวาดกลัว

“ฆ่าเสด็จพ่อ? ยาพิษก็เป็นท่านที่กินเข้าไปเอง ไม่มีใครไปบังคับท่าน”

เขาพบส้งเย่นกุยจริงๆ แต่พอคิดถึงว่าเสด็จพ่อของตนเองอาจจะยังมีชีวิตอยู่ จึงขอยาพิษที่แปลกๆ อย่างน้อยก็ดูแปลกตา ไม่ค่อยมีคนเห็นก็ได้แล้ว

คิดไม่ถึงว่าส้งเย่นกุนไม่เพียงแต่จะมี พอเขาหยิบยาพิษแปลกๆออกมา มันทำให้เขาต้องตะลึง

“แต่อะไร? อ้วก……”

“ข้านั้นคิดจะฆ่าเสด็จพ่อจริงๆ!”

พูดจบ เย่หลีเฉินดึงกระบี่คมออกมาจากเอว จับกระบี่ไว้ในมือแน่น เขาบังคับตัวเองให้ลืมตา แทงเข้าไปตรงท้องของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าที่คิดจะหนี

“เจ้าไม่สามารถ……อ๊า……”

“กระบี่นี้ เพื่อโจวหยาง”

หลังจากที่เขาดึงกระบี่ยาวออกมา ก็พยายามอดกลั้นเก็บอารมณ์ซับซ้อนที่ฆ่าพ่อตัวเอง และเล็งกระบี่ไปที่ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าอีกครั้ง

“กระบี่นี้……เพื่อตัวข้าเอง”

“ตอนที่กระบี่ดึงออกมาอีกครั้ง ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าก็หายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว ทำได้เพียงแต่มองเย่หลีเฉิน พูดคำพูดที่จะร้องขอชีวิตออกมาไม่ออก เพียงแต่เห็นน้ำตาก่อนความตายจะมาถึงไหลลงมา

จู่ๆเย่หลีเฉินก็หันไปกระทันหัน หลับตาลงนิ่งๆ และแทงเข้าไปอย่างแรงอีกครั้ง

“และดาบนี้……เพื่อทุกคนที่ต้องตายอย่างไม่ได้รับความยุติธรรม”

เมื่อดาบที่เปื้อนเลือดถูกเย่หลีเฉินดึงออกมาอย่างสั่นเทา เขาถึงจะหันกลับมาและมองฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าที่นอนตายตาไม่หลับ จากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างไร้แรง สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปปิดตาทั้งสองข้าของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า

ว่ากันว่าทุกราชวงศ์ ต่างก็มีคำสาปที่ทำลายไม่ได้

นั่นก็คือฆ่าพ่อแม่ตัวเอง!

เขาเคยคิดว่าเพียงแค่ตรงไปตรงมา เขาก็สามารถทำลายคำสาปนี้ได้แล้ว แต่ผลสุดท้าย เขาก็เดินบนทางที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง

คนที่ฆ่าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเสด็จพ่อของตัวเอง……

——

“คงเป็นไปไม่ได้? เห็นเจ้าก็หนีแล้ว ส้งเย่นกุยหวาดกลัวขนาดนั้นเลยหรือ?”

หลานเยาเยารู้สึกว่ามันเหลือเชื่อเล็กน้อย ทำเสียงสูงขึ้นมาก

“อื้ม เป็นเช่นนี้จริงๆ!”

เดิมทีก็เป็นแค่เกร็ดเล็กๆเรื่องหนึ่งที่ไม่สำคัญอะไร แต่พอฟังจื่อซีพูด ส้งเย่นกุยผู้นี้เผยความแปลกขึ้นมาได้ทุกที่ และมักชอบมาติดอยู่กับเยาเยาของเขา ดังนั้นจึงต้องสนใจหน่อย

ก่อนหน้านั้นตอนที่ไล่ตามเยาเยาตั้งแต่ริมทะเลสาบป่าไผ่ พอไปได้แค่ครึ่งทางก็พบกับนักฆ่า ไม่นานก็จัดการนักฆ่าจนหมด เหลือเพียงไม่กี่คน ที่ถูกคนที่มีท่าทางเหมือนนักปราชญ์ตัดหัวในกระบวนท่าเดียว

พอหันกลับไปมานักปราชญ์ผู้นั้น สีหน้าของนักปราชญ์ผู้นั้นก็ซีดทันที และวิ่งหนีไปราวกับเห็นผี

ขี้ขลาดเช่นนี้ เยาเยาคงไม่ชอบเขา

แค่กลัวเขาก็พอ ส้งเย่นกุยดอกนี้ก็เหมือนกับดอกท้อที่บอบบาง แค่เขาเด็ดก็จะขาด

ที่จัดการยากที่สุดก็คือเย่หลีเฉิน ดอกท้อเน่าดอกนี้ การแสดงออกมาในช่วงเกือบครึ่งปี แม้แต่เขาดูแล้วยังเจริญตา งั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเยาเยาที่ใจอ่อน

จากการบรรยายเป็นขั้นเป็นตอนของจื่อซี รูปแบบการปฏิบัติต่อกันของเย่หลีเฉินและเยาเยาก็เกือบจะเป็นเพื่อนกันแล้ว จะเห็นได้ว่าระดับความรู้สึกดีที่เยาเยามีต่อเขานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ได้!

เขาจะต้องดีกับเยาเยามากขึ้น ต้องดีกว่าใครๆ

“ข้าเองก็อยากเห็นว่าเขาจะหวาดกลัวจนเป็นแบบไหน”

หลานเยาเยาอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที และยังคาดหวังที่จะเห็นกับตาตัวเองว่าส้งเย่นกุยจะหวาดกลัวจนเป็นแบบไหน

แต่ว่า!

ส้งเย่นกุยคงไม่ได้กลัวเย่แจ๋หยิ่ง แต่กลัวที่เย่แจ๋หยิ่งนั้นมีหน้าตาเหมือนกับฮ่องเต้รุ่นแรกเปี๊ยบ ฮ่องเต้คงไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ทำให้ส้งเย่นกุยจดจำไปตลอดชีวิตใช่ไหม?

“เดี๋ยวจะได้เห็น” เขาเองก็อยากพาหลานเยาเยาไปดูด้วยกัน

แบบนี้ ส้งเย่นกุยก็ยิ่งไม่มีโอกาส

……

ส้งเย่นกุยที่กำลังโบกแขนเสื้อ จู่ๆก็จามออกมาอย่างไม่ค่อยสง่างาม

ใครมีเจตนาไม่ดีต่อเขา?

ทันใดนั้นก็มีใบหน้าเป็นอัมพาตเย็นชาปรากฏขึ้นมาในหัว และไหล่ของเขาก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ล้วนเป็นคนที่ไปสู่ปรโลกกันหมดแล้ว บางครั้งยังออกมาวิ่งทำให้คนตกใจอีก มีจิตสาธารณะบ้างไหมนี่?

ในใจก็รู้สึกโกรธที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เห็นจื่อเฟิงที่ใบหน้าเย็นชาเดินมาทางเขา กำลังจะเดินขึ้นไปถามว่าเขาเห็นหลานเยาเยาหรือไม่ จู่ๆก็เห็นจื่อเฟิงหลบสายตาเขา รีบหมุนตัว และเดินไปทางหัวมุมนึง เห็นได้ชัดว่าจังหวะการก้าวไวขึ้นมาก

เออ?

จื่อเฟิงจะไปไหน?

เขารีบเดินตามไป พอถึงหัวมุมก็ได้ยินเสียงของหลานเยาเยา แต่ดูเหมือนนอกจากหลานเยาเยาแล้ว ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง พวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่

ดังนั้น!

เขาจึงยืดตัวขึ้น จัดท่าทางมาดแข็งแรง ทันทีที่เพิ่งเลี้ยวไป สีหน้าก็แข็งทื่อ จิตใจที่ดีๆอยู่ก็พังทลายลงทันที วิต่อมาที่ตรงนั้นก็ไม่มีใครอยู่สักคน แม้แต่เงาก็ไม่เห็น

“จื่อเฟิง เจ้าบอกว่าส้งเย่นกุยก็อยู่ที่มุมโค้งที่นี่?”

แต่ว่า คนหล่ะ? ถูกกินไปแล้วรึ?

จื่อเฟิงมองไปยังที่ตรงที่ส้งเย่นกุยเคยยืนก่อนหน้านี้ แล้วก็มองไปรอบๆ นัยน์ตาก็มีความงงงวย อ้าปากพะงาบไม่พูดอะไร

หลานเยาเยามองไปที่เย่แจ๋หยิ่ง ทันใดนั้นก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเกิดอะไร

ดังนั้น!

ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และรวมตัวกับคนอื่นๆ

จนเกือบจะหนึ่งชั่วโมง

นอกห้องลับแห่งกลไกหลัก องครักษ์ลับที่เย่แจ๋หยิ่งพามา หลังจากได้รับสัญญาณ คนที่รอดชีวิตทั้งหมดก็ต่างมากันที่นี่

ส่วนคนของหลานเยาเยาด้านนี้น้อยจนน่าสงสาร ส้งเย่นกุยก็หายไป เย่หลีเฉินก็ไร้ร่องรอย ตาเฒ่าเย่นก็ไม่ปรากฏตัวที่นี่

หลานเยาเยารู้สึกกังวล แต่นางก็รู้ว่าไปหาพวกเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ทำได้เพียงแต่เรียกเย็นหงที่อยู่ในห้องควบคุมกลไกออกมา

“เทพธิดา บนหนังสือเล่มนี้มีกระดาษแปลนอยู่ใบหนึ่ง คือแผนที่การจัดวางกลไกทั้งหมด กลไกข้างบนมีทุกรูปแบบ ทำให้คนยากจะป้องกัน และก็ยังมีสิ่งที่แปลกมากอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ทุกที่ตั้งกลไกทุกจุดเหมือนจะมีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว และทั้งวังนี้ก็เหมือน……ก็เหมือน……”

เย็นหงที่อยู่ในห้องควบคุมกลไกหลัก ค้นคว้าหนังสือเล่มนี้มานาน แม้จะพบว่ามันผิดปกติแต่ก็พูดไม่ออก

หลานเยาเยา: “เขาวงกต!”

“ใช่ๆๆ เหมือนเขาวงกต เขาวงกตขนาดใหญ่” พอเทพธิดาพูดเช่นนั้น เย็นหงก็นึกขึ้นมาได้ทันที แต่พอนางไปมองที่แปลนก็เงียบลง

เพราะตรงกลางของแปลนนี้มีวงกลมว่างๆอยู่ ไม่ได้เขียนอะไร

หลานเยาเยารับแปลนไป สำรวจอย่างละเอียด

ตรงพื้นที่ว่างไม่ได้ทำอะไรที่เป็นพิเศษ เหมือนกับแปลนที่สมบูรณ์ก็คือแบบนี้ แต่ตำแหน่งที่ตรงกันกับพื้นที่ว่างก็คือ ห้องโถงใหญ่ที่ทรงว่าราชกิจ

พูดตามหลักเหตุผล ที่นั่นถึงจะเป็นที่ที่ควรออกแบบกลไกมากที่สุด?

อีกอย่าง!

นางเคยไปที่ห้องโถงใหญ่นั่น เพราะห้องโถงใหญ่นั่นไม่มีบัลลังก์มังกรและมีความประทับใจ ดังนั้นจึงปรึกษากับทุกคน นอกจากเย็นหงแล้ว พวกเขาทุกคนที่อยู่ที่นี่จะไปที่นั่น

โดยเย็นหงจะเปิดกลไกทั้งหมด กวาดคนของราชครูเทียนเวิงให้เรียบ

“วิธีนี้ดีมาก!”

ทุกคนต่างพากันเห็นด้วย หลังจากส่งเย็นหงเข้าห้องควบคุมกลไกหลัก พวกเขาทั้งกลุ่มก็มุ่งไปยังห้องโถงใหญ่ แต่ก็เห็นชายคนหนึ่งเดินมาอย่างตื่นตระหนก

“เย่หลีเฉิน เจ้าเป็นอะไร?”

ไม่เคยเห็นเขามีท่าทางเช่นนี้มาก่อน พอเห็นมันก็น่าตกใจเล็กน้อย

แม้แต่เย่แจ๋หยิ่งก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

เย่หลีเฉินค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองหลานเยาเยาที่เดินมาทางตัวเอง เขามีสายตากังวล และพึมพำออกมาว่า:

“ข้า……ฆ่าเสด็จพ่อตัวเอง”

ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ตกใจเล็กน้อย

ไม่ถูก สำหรับการตายของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า พวกเขานั้นยินดีที่เป็นแบบนั้น แต่สำหรับเย่หลีเฉินที่ฆ่าเขาเองกับมือ มันก็น่าตกใจ

“เขาสมควรตาย ถ้าเขาไม่ตาย ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนบริสุทธิ์กี่คนที่ตายอย่างไม่ได้รับความยุติธรรม เจ้าไม่ได้ทำผิด เจ้าเพียงแค่ขจัดความชั่วร้ายให้กับประชาชน ไปเถอะ! พวกเราไปห้องโถงกัน”

“ได้!”

เย่หลีเฉินพยักหน้า หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้มออกมา พอหลังจากเห็นเย่แจ๋หยิ่งก็รีบส่งเสียงทำความเคารพทันที:

“เสด็จอา”

“อื้ม!”แม้ใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งจะไร้อารมณ์ แต่ก็ยังพยักหน้า

หลังจากนั้นทั้งกลุ่มก็ไปที่ห้องโถงใหญ่

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท