หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 557 ชาติก่อนชาตินี้ กลับมา

บทที่ 557 ชาติก่อนชาตินี้ กลับมา

บทที่ 557 ชาติก่อนชาตินี้ กลับมา

ชายชุดคลุมสีอ่อนมายืนอยู่ข้างกายนาง สังเกตนางรอบหนึ่งอย่างละเอียด จึงพยักหน้าอย่างพอใจมาก

“อยู่บนตัวของท่าน สมบูรณ์แบบมาก”

เห็นหลานเยาเยามองเขา ค่อยๆขมวดคิ้ว ส้งเย่นกุยรีบดึงสติความคิดอ่านทันที

“อ๋อ อีกร่างหนึ่งหรอ! ถูกฝังแล้ว ท่านจ้องข้าทำไมขอรับ? ไม่ใช่ข้าฝัง เรื่องนี้ท่านควรไปหาเย่หลีเฉิน เป็นเขาที่แอบฝังท่าน

เขาสาบานว่า ต้องการสร้างหลุมศพที่สวยงามโอ่อ่าให้ท่าน ท่านดูสิขอรับนี่ก็หนึ่งปีแล้ว ทั้งผืนทะเลทรายนี้นอกจากข้าและท่าน แม้แต่เงาของผีก็ไม่มี”

พูดจบ!

ส้งเย่นกุยทำท่าทางที่น่าเบื่อเอาเท้าเขี่ยทราย บนใบหน้าซ่อนความปีติไว้ไม่ได้

“หนึ่งปีแล้ว เฝ้ารอหนึ่งปีเต็มๆแล้ว ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว”

แต่ทว่า หลานเยาเยากลับจับใจความสำคัญในคำพูดของเขา ในแววตาแฝงความสงสัย

“หนึ่งปี?”

การปลุกความทรงจำ รู้สึกเป็นเพียงเวลาชั่วพริบตา คิดไม่ถึงว่าเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว มิน่าล่ะทั้งตัวของนางเต็มไปด้วยกลิ่นยาฉุนๆ

เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น หลานเยาเยาก็เศร้าหมองในทันที อารมณ์จิตใจค่อนข้างเจ็บปวด

นางยังมีหน้าอะไรไปเผชิญหน้ากับเย่แจ๋หยิ่งอีก?

นางคิดมาตลอดว่าตัวเองจิตใจแน่วแน่มั่นคง เป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์

แต่ตอนนี้ ข้ามเวลามาสองครั้งเกิดความรักทั้งสองครั้ง แม้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีความทรงจำ นั่นก็ไม่ควร

แม้ว่าพวกเขาจะเหมือนคนเดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน ห่างกันเป็นพันปี

เฮ้อ……

“เขาล่ะ?”

“ใครขอรับ?” ส้งเย่นกุยสงสัย แต่ในใจก็แอบเดาได้ว่าที่นางถามคือใคร

“เย่แจ๋หยิ่ง!”

ส้งเย่นกุยส่ายศีรษะ : “ไม่ทราบขอรับ ข้าอยู่กับท่านที่ทะเลทรายมาตลอด เดิมทีก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอก แต่เวลานั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังบาดเจ็บสาหัสเป็นที่สุด บวกกับบาดเจ็บทางจิตใจ คาดว่าคงไม่หายดีในสามปีห้าปีขอรับ”

อ๋องเย่ไม่กี่พันปีหลังนั้นเหมือนฮ่องเต้เมื่อไม่กี่พันปีก่อนเป็นที่สุด พบครั้งแรก เขาได้รับความตกใจไม่น้อย

อย่างไรเสียฮ่องเต้เป็นคนขี้หึง

เกลียดการเห็นเขาตามติดหลานเยาเยาทั้งวันทั้งคืนเป็นที่สุด แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ หลังจากที่พบว่าเขากลัวอุกกาบาตโดยบังเอิญ ก็แอบหลอกถามหลานเยาเยา จากนั้นก็รวบรวมอุกกาบาตมากมาย ซ่อนอุกกาบาตไว้ในพระราชวังตรงสถานที่พบปะกับหลานเยาเยา ทำให้เขาเข้าใกล้ไม่ได้

ยังจะมาสู้ตัวต่อตัวกับเขาแบบเปิดเผยและแบบลับๆ ตีเขายับเยินจนพ่อแม่จำไม่ได้แล้ว

พลังที่โหดร้ายนั้น ราวกับว่าต้องการจะกลืนเขาทั้งเป็นเช่นนั้น แต่อยู่ต่อหน้าหลานเยาเยา เขาก็นุ่มนวลราวกับลูกสุนัขตัวหนึ่ง บริสุทธิ์ไร้พิษสง แรงสังหารสักหน่อยก็ไม่มี

ทำให้วิธีการกลอุบายไม่กี่พันอุบายของเขาเจ้าระบบที่แอบซ่อนอยู่ในระบบก็สู้เขาไม่ได้

หลังจากถูกสั่งสอนอย่างทารุณสองสามครั้ง

เขาก็ยอมแพ้ด้วยใจจริง และโดนปราบปรามราบคาบแล้ว

นอกจากจะพูดว่าเอาชนะได้ ก็บอกว่ายอมรับชะตาดีกว่า อย่างไรเสียฮ่องเต้ก็รักหลานเยาเยาลึกซึ้ง รักเอ็นดูนางขึ้นหิ้ง ทำไมเขาจะไม่สนับสนุนเรื่องดีๆล่ะ?

ต่อมาหลังจากนั้น เรื่องที่ฮ่องเต้ทำเพื่อหลานเยาเยา เขาสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เขาเข้าใจโลกมนุษย์ยังมีความสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่สามารถทุ่มเททุกอย่างที่มีแต่คงไว้ซึ่งปณิธานแรกได้ แม้ว่าจะทุ่มเทเพื่อสิ่งนี้ทั้งหมด จนกระทั่งชีวิตก็ไม่เสียดาย

ดังนั้นในจิตใต้สำนึก เขาทั้งเกรงกลัวและเคารพต่อฮ่องเต้

หลังจากนั้นไม่กี่พันปี ครั้งแรกที่พบอ๋องเย่ เขาตกใจจนระบบแปรปรวน

“ตอนนั้นทำไมเจ้าไม่ลงมือ?” เสียงของหลานเยาเยาแผ่วเบา

ในน้ำเสียงไม่ได้แฝงการตำหนิ ไม่ได้โกรธเคือง กระทั่งไม่มีพูดคำหนักๆออกมาสักคำ

นางรู้ แม้ว่าเขาจะกลัวเย่แจ๋หยิ่ง ก็จะไม่ละทิ้งไม่สนใจนาง เขาไม่ลงมือก็มีเหตุผลที่เขาไม่ลงมือ

“ปรากฏการณ์วันนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่ปรากฏขึ้นก่อนที่ท่านจะข้ามเวลามาจากยุคปัจจุบันในครั้งแรกพอดี ท่านบอกว่า เวลานี้กาลเวลาแตกแยกออก

หลังจากนั้นท่านเพื่อช่วยฮ่องเต้ ใช้ความสามารถทุกอย่างที่มีปรุงยาฉางตานออกมา ก่อนจากไปเคยบอกข้าว่า หากท่านตายไป เพียงแค่จิตวิญญาณไม่ดับมอด ข้าก็จะไม่สูญหายไป รอจนได้พบกาลเวลาที่แตกแยกออกจากกัน ข้าก็จะกลับมาแล้ว

แต่ว่า!

รอคอยวันแล้ววันเล่า ประสบกับกาลเวลาเปลี่ยนแปลง ข้าก็ลืมตัวเองแล้ว หลงอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ในร่างกายของส้งเย่นกุย

จากเวลาที่ยาวนาน ระบบเริ่มปิดตัวเอง ข้าก็เกรงกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียความสามารถในความทรงจำ ดังนั้นใช้ยาหลอนประสาททุกวัน เกิดภาพหลอนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตไม่หยุด จากนั้นก็ปิดตัวเองขึ้น

จนท่านปรากฏตัวที่หมู่บ้านฝันฮั๋วอีกครั้ง ข้าจึงเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน ค่อยๆตื่นจากความฝันที่เลือนราง

แต่ว่าท่านไม่ได้เป็นท่านอีก ไม่มีร่างกาย มีเพียงจิตวิญญาณ อีกทั้งสามารถผสานเข้ากับร่างกายของท่านได้ภายใต้สถานการณ์ที่ท่านไม่รู้ตัว ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เวลานั้นข้าจึงรู้ ท่านจำเป็นต้องรีบกลับไปพระราชวังเดิมของฮ่องเต้ นั่นเป็นสถานที่พันกว่าปีก่อนของท่าน

กาลเวลาแตกแยกออกที่นั่น บางทีกาลเวลาอาจจะถูกแยกออกอีกครั้ง ร่างกายที่ท่านทิ้งไว้ในยุคปัจจุบันจะข้ามเวลามา ถึงเวลาแม้ว่าร่างกายกาฝากจะแก่ชราแล้วตาย ท่านก็ยังสามารถมีชีวิตต่อได้

แต่ว่า……

พบเวลาที่กาลเวลาแยกออกถึงได้เข้าใจ ที่แท้ข้าก็ไม่มีประโยชน์เลย กาลเวลาแยกออกเพราะว่าสนามแม่เหล็กของที่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลง มีผลกระทบกับข้ามากกว่าอุกกาบาต

พลังที่มีอยู่นิดหน่อย ทำให้ข้าคิดไปช่วยพวกท่านหลายครั้ง แต่ข้ากลับไม่สามารถทำได้ เพราะหากว่าร่างกายของท่านกลับมาแล้ว ก็จะไม่มีคนที่สามารถเฝ้ารักษาท่านได้แล้ว”

โชคดีก็คือ ร่างกายของเจ้านายมาแล้วจริงๆ

และเขาก็รอจนนางฟื้นขึ้นมาแล้ว

“เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่มีใครผิดใครถูก พวกเราไปกันเถอะ!”

“ไปไหนขอรับ?”

“ระบบได้เลื่อนขั้นหมดแล้ว กาลเวลาแยกออกหนึ่งพันปีพบได้ครั้งหนึ่ง ข้าเกรงว่าจะกลับไปไม่ได้แล้ว กลับไปไม่ได้ก็ดี สามารถเฝ้ารักษาคนที่ข้าอยากเฝ้ารักษาได้พอดี” แม้ว่าจะไม่มีคุณสมบัติที่จะครองรักนิรันดร์กับเย่แจ๋หยิ่งแล้ว แต่นางอยู่ข้างกายเงียบๆคุ้มครองเขา คุ้มครองให้เขาปลอดภัยทั้งชีวิตก็ได้

“ท่านต้องการไปหาอ๋องเย่? เช่นนั้นท่านวางฮ่องเต้ลงแล้วหรือขอรับ? แม้ว่าพวกเขาจะหน้าตาเหมือนกัน แต่ในใจของท่านกระจ่างแจ้งพวกเขาไม่ใช่คนเดียวกัน” เช่นนั้นความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ เกรงว่าหมุนวนกลับมาอีกร้อยชาติก็ลืมไม่ได้หรอก!

“ข้าเพียงอยากไปดูเขาเท่านั้น”

“เพียงเท่านี้จริงหรือขอรับ?” ส้งเย่นกุยสีหน้าไม่เชื่อ ในใจแอบด่า : คนหลายใจ

ใครจะรู้ สีหน้าหลานเยาเยาเปลี่ยนทันที กัดฟันจ้องมองส้งเย่นกุย : “เจ้าอย่าลืม พวกเราเป็นร่างเดียวกัน เจ้าคิดอะไรอยู่คิดว่าข้าไม่รู้?”

ส้งเย่นกุยรีบปิดปากไว้ทันที สีหน้าตกใจกลัว

ทำไมเขาถึงลืมจุดนี้ได้?

ดูเหมือนว่าจะอยู่ด้วยตัวเองนานเกินไป เกือบลืมตัวแล้ว ไม่ได้ การพูดจาหลังจากนี้……อ่อไม่ หลังจากนี้แม้แต่จะคิดก็ต้องทบทวนตรึกตรองอย่างลึกซึ้ง

“แบบนั้นยังพอว่า”

ฟังถึงตรงนี้ ดวงตาของส้งเย่นกุยก็เปิดกว้างอีกมาก โอ้โห ได้ยินอีกแล้ว

ชั่งไม่ยุติธรรมนัก

แม้ว่าข้ากับเจ้านายจะมีจิตใจส่งถึงกัน ก็ไม่สามารถที่จะรู้ความคิดทั้งหมดของนางได้ ก่อนหน้านี้ขณะที่ร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้านายยังไม่ผสานเข้าด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจกันได้อย่างดี แต่เจ้านายไม่รู้ความคิดในใจของเขา

ตอนนี้น่าเศร้านัก

หลังจากนี้หากว่ามีเรื่องขัดใจ อยากหาเจ้านายเพื่อระบายอารมณ์มากๆจะทำอย่างไร?

“เพี๊ย!”

โดนคนเขกหัวอย่างแรงทีหนึ่ง เงยหน้าก็เห็นหลานเยาเยายืนขึ้นแล้ว และเก็บมือกลับไปแล้ว เขามองนางอย่างงุนงง จากนั้นก็ตาเหลือก ล้มลงไป

“…..

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท