หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 614 ดีมาก รู้จักเข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์

บทที่ 614 ดีมาก รู้จักเข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์

เออะ?

เป็นผู้ชายหมด เขาไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกัน เขาเป็นบ้าถึงได้ทำตัวรุ่มร่าม

แต่เผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่ง ป่ายเม่ยเซิงผู้ที่รู้จักเข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์ เขาเพียงแค่เบนปาก แสดงถึงความจองหองของตัวเอง จากนั้น สะบัดแขนเสื้อ เดินไปอีกทาง ทว่าแขนเสื้อคลุมที่เปียกโชกติดบนแผ่นหลังโดยตรง ไม่เพียงแต่ไม่ผ่าเผย ลักษณะท่าทางยังตลกมากเป็นที่สุด

ขึ้นฝั่ง เดินตรงไปทางขวาเข้าไปในส่วนลึกของป่า

ค่อยเป็นค่อยไป ก็ได้ยินเสียงเล็กๆที่ซับซ้อน ดังมาจากที่ไกลๆ ราวกับว่าคนเยอะมาก เสียงค่อนข้างเหมือนกันเล็กน้อย

ป่ายเม่ยเซิงชี้ไปอีกด้าน กดเสียงต่ำ

“ทางนั้นมีถนนเส้นทางใหม่สร้างเสร็จเมื่อครึ่งปีที่แล้ว จากฝั่งตรงถึงสถานที่ก่อสร้าง รถม้าสามารถดำเนินได้ สะดวกในการรับสิ่งของที่เรือส่งมา

พวกเราไปทางนั้นไม่ได้ ที่นั่นคนมากมาย เดินทางนี้ ตามข้ามา”

ป่ายเม่ยเซิงพาพวกหลานเยาเยาเดินมาอีกทางหนึ่ง

แล้วก็ถึงจุดที่สร้างเรืออย่างรวดเร็ว

สถานที่นั้นเดิมทีน่าจะเป็นป่าทึบ เป็นที่ที่เต็มไปด้วยหญ้ามากมาย ตอนนี้ต้นไม้ถูกโค่น ต้นหญ้าถูกทำลาย สะสางออกมาเป็นที่ว่างผืนใหญ่มาก

บนที่ว่าง เป็นเรือลำใหญ่ที่ใกล้จะสร้างเสร็จผุดขึ้นมาจากพื้นดิน แค่เพียงเท่านี้ ก็มีลักษณะของเรือแห่งความสิ้นหวังแล้ว

เสียงเมื่อครู่เหล่านั้นก็ดังออกมาจากด้านใน

เรือใหญ่มาก ผู้คนมากมาย กระจายอยู่แต่ละมุมบนเรือ

ดูเหมือนว่า เป้าหมายของหานแสคืออยากเอาเรือในปัจจุบัน สร้างให้เหมือนเรือแห่งความสิ้นหวังในอดีตทุกอย่าง

ดูอยู่ครู่หนึ่ง

หลานเยาเยาไม่ได้สังเกตเห็นเงาร่างของหานแส

จึงมองไปทางป่ายเม่ยเซิงที่อยู่ข้างกาย “โดยปกติท่านชายหยิ่งอยู่ที่ไหน?”

“บนต้นไม้”

“บนต้นไม้?”

หลานเยาเยาขมวดคิ้ว เงยหน้ามองสำรวจรอบๆ ในที่สุดด้านข้างพื้นที่ที่โล่งกว้าง บนต้นไม้โบราณที่แผ่กิ่งก้านเขียวชอุ่ม พบศาลาต้นไม้หลังหนึ่ง ลักษณะไม่ต่างกับศาลาธรรมดา เพียงแต่ศาลาต้นไม้ใช้ท่อนไม้ทำ อีกทั้งสร้างบนต้นไม้สูงลึกลับ

ในศาลาต้นไม้ กั้นด้วยใบไม้หนาทึบ มองเห็นเงาร่างสีม่วงอย่างเลือนราง

เป็นเขา!

ก็คือหานแส!

คนหาเจอแล้ว เพียงแค่อยู่บนต้นไม้ นางปีนขึ้นไปลำบาก

อีกทั้งที่นี่คนมากมาย หากว่าต่อสู้ขึ้นมา นางและอาส้งจะเสียเปรียบ

ดังนั้น นางกระดิกนิ้ว ส้งเย่นกุยจึงได้เอนตัวเข้ามา ใบหูเข้าใกล้นาง รอเจ้านายของตัวเองพูด หลังจากหลานเยาเยาซุบซิบไม่กี่ประโยค ส้งเย่นกุยจึงแฉลบตัวหายไปจากด้านหน้าของนาง

ป่ายเม่ยเซิงมองดูคนที่หายตัวไปอย่างกะทันหัน ค่อนข้างกังวลใจแล้ว

“เขาไปไหนแล้ว?”

“ไปหาท่านชายหยิ่ง” พูดจบ หลานเยาเยาก็หมุนตัวจากไป เดินไปทางทะเลสาบ

“เจ้าจะไปไหนอีก?”

“ข้างทะเลสาบมีศาลาเล็กๆ ข้าไปรอคนที่นั่น” นางพูดจบก็เดิน ไม่ได้อธิบายว่าทำไมต้องไปรอที่นั่น และไม่ได้บอกว่าส้งเย่นกุยจะล่อหานแสไปที่นั่นได้อย่างไร

กลับเป็นระหว่างที่หมุนตัว ทิ้งรอยยิ้มที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งให้เขา

รอยยิ้มนั่นทำให้ในใจของป่ายเม่ยเซิงเกิดความกลัว

“งั้นข้าล่ะ? ต้องตามเจ้าไปด้วยหรือไม่?” เสียงที่พูด แฝงไปด้วยความสั่นเทาเล็กน้อย

“เจ้ากล้าหรือ?” หลานเยาเยาถามกลับ

“ไม่กล้าไม่กล้า” ยังไงซะต่อหน้าซ่างกวนหนานซู่ เขาก็ไม่มีหน้าให้เสียนานแล้ว ถูกเขาถามเช่นนี้ จึงแสดงความขี้ขลาดต่อหน้า แต่ในใจมีความกังวลเล็กน้อย “เจ้าจะหักหลังข้าหรือไม่?”

หากว่าถูกเจ้าของเรือรู้ เขาจะต้องตายโดยไร้ที่ฝังศพ

“เป็นเจ้าหักหลังเขาก่อน” หลานเยาเยาพูดอีกครั้ง กลับถูกจุดสำคัญ

“ข้า…….” ข้าถูกบังคับ

แต่ป่ายเม่ยเซิงไม่ได้พูดออกมา

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หักหลังแล้วก็คือหักหลัง ไม่สนใจสาเหตุก่อนหน้าและกระบวนการ เจ้าของเรือที่ให้ความสำคัญเพียงผลลัพธ์ เพียงแค่คนที่ทรยศเขา ไม่ว่าเป็นใคร จุดจบล้วนน่าสังเวชเป็นอย่างมาก

“งั้นข้าจะทำอย่างไร?”

เจ้าของเรือหูตามากมายเป็นที่สุด มีบางคนแม้กระทั่งเขาก็ล้วนจำไม่ได้ เพียงแค่เจ้าของเรือสืบ ก็รู้ว่าซ่างกวนหนานซู่รู้สถานที่สร้างเรือได้อย่างไร ตลาดดำเขากลับไปไม่ได้แล้วเป็นแน่

ที่ใดที่เขาสามารถพำนักได้?

“ถ้าไม่รอความตาย ก็กลับสำนักหงอีเปิดเผยทุกอย่างออกมา เจ้าน่าจะรู้ว่ายิ่งถ่วงเวลายิ่งลำบาก ถ้าหากพวกเขาฆ่าเจ้า เจ้าบอกชื่อข้าไป บางทีพวกเขาจะให้อภัยเจ้าครั้งหนึ่ง

ถ้าให้ข้ารู้ว่า เจ้ามีแผนชั่วต่อสำนักหงอี วิธีการของข้าจะโหดเหี้ยมมากมายกว่าหานแสนัก”

น้ำเสียงค่อยๆเย็นชา พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย ทั้งๆที่เห็นเพียงความเฉยเมย ป่ายเม่ยเซิงกลับรู้สึกถึงความเหน็บหนาวบาดถึงกระดูก

เวลานี้ ป่ายเม่ยเซิงเชื่อเล็กน้อยแล้ว ซ่างกวนหนานซู่ก็คือคนเบื้องหลังของเย่แจ๋หยิ่ง

“วางใจ ชีวิตนี้ของข้ามีให้เลือกแค่สองอย่าง แม้ว่าทั้งสองครั้งล้วนเป็นความจำใจ ความจำใจครั้งนี้ กลับประจวบเหมาะกับความต้องการ” ป่ายเม่ยเซิงปิดซ่อนสีหน้าที่ไม่ไร้การควบคุมไว้ สีหน้าจริงจังฉับพลัน ทำมือเคารพต่อซ่างกวนหนานซู่ คุกเข่าข้างหนึ่ง “ขอบคุณมาก!”

พูดจบ ไม่รอให้คนด้านหน้าพูดอะไร รีบลุกขึ้น จากนั้นเหาะจากไป

……..

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่

ริมฝั่งทะเลสาบมีศาลาหลังหนึ่ง ยืนเงียบๆอยู่บนผิวน้ำ ตรงกลางมีระเบียงยาวทำจากท่อนไม้เชื่อมต่ออยู่ลอยไปมา

หลานเยาเยายืนอยู่ในศาลาบนน้ำ หันหน้าไปทางทะเลสาบ มองจากด้านหลัง ตัวตรง มือหนึ่งไว้ด้านหลัง มือหนึ่งวางบนราวของศาลาเบาๆ ดูท่าทางงดงาม สง่าสบายและอิสระ

ในตำแหน่งที่คนอื่นมองไม่เห็น สีหน้าที่ค่อนข้างแข็งทื่อแล้ว

นับนิ้วมือ ไม่ดี

เท้าชา มือก็ชาแล้ว

แต่ว่าขยับไม่ได้นี่! เพราะนางรู้สึกได้ถึงบนระเบียบยาวที่ลอยไปมา มีเสียงฝีเท้าเบาๆ จากไกลถึงใกล้ อีกทั้งเกือบจะเข้าใกล้ศาลาแล้ว

ผู้ที่มาเป็นหานแสแน่นอน!

คำนวณเวลาดีแล้ว รอจนหานแสใกล้จะเข้าศาลา หลานเยาเยาหมุนตัวอย่างอิสระงดงาม มุมปากเพิ่งจะยกขึ้นบางๆ ก็ละห้อยลงมาก่อนแล้ว

ด้านหน้าว่างเปล่าไร้ผู้คน

แต่นางกลับสัมผัสได้ถึงความคงอยู่ของคนอีกผู้หนึ่ง นางยิ้มอย่างเย็นชา สะบัดแขนเสื้อ นั่งบนเก้าอี้ไม้ รินชา จิบเองเบาๆคำหนึ่ง สีหน้าเย็นชาไปมาก

บนผิวน้ำด้านหลังของนาง หานแสสวมชุดสีม่วง พร้อมด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย จากบนลงล่าง หยุดลงบนผิวน้ำ ยื่นมือทั้งสองข้างที่เรียวยาวขาวสะอาดด้วยแรงสังหารออกมาแล้ว มือของเขาดูดคนมาถึงมือ เปลี่ยนเป็นเลือดเนื้อ เหลือเพียงเสื้อผ้าและโครงกระดูกเลือด

แต่ทว่า กำลังต้องการจะออกแรง

ฉับพลันนั้นเงาคนแฉลบมา มีเงาร่างที่มีเสน่ห์และรัศมีที่สูงส่ง ยืนอยู่ด้านหลังของหลานเยาเยาอย่างเงียบเชียบ ปิดบังร่างเล็กอรชรของนางไว้ เผชิญหน้ากับหานแสบนผิวน้ำ

ส้งเย่นกุยที่สะอาดบริสุทธิ์ แฝงพลังของเทพเซียนในตัว

สบตากันแวบหนึ่ง ใบหน้าของหานแสกระตุกเล็กน้อย

เขาพร้อมรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม ปลายเท้าจรด ลงมาอย่างไร แล้วก็ขึ้นไปเช่นนั้น หายตัวไปจากสายตาของส้งเย่นกุย จากนั้นน่าจะปรับอารมณ์ดีแล้ว ลงมาจากด้านบนอีก ลงมาจากบนระเบียงยาวของศาลาบนน้ำอย่างเบาๆ ปรากฏตัวในสายตาของหลานเยาเยา

เพิ่งจะยืนอย่างมั่นคง ก็เห็นชายที่สง่างามนั่งอมยิ้มบนเก้าอี้ไม้ ราวกับว่าเห็นทะลุเหตุการณ์ที่ค่อนข้างน่าอายเมื่อครู่

หานแสกำหมัดแน่น วางไว้ข้างริมปากที่แดงจนเริ่มม่วง กระแอมเบาๆเสียงหนึ่ง

“แฮ่ม!”

ขึ้นหน้าไปช้าๆก้าวหนึ่ง และเพียงแค่ก้าวหนึ่ง ก็หยุดลง

เสียงของหานแสดังขึ้นอย่างสบายๆ : “คุณชายผู้นี้มาเยี่ยมเยือน ไม่รู้ว่าด้วยเรื่องอันใด?”

“ข้าเคยเจอ เจ้าอยู่บนหลังคาบ้านตรงลานที่ทรุดโทรมนั่น” หลานเยาเยาหยอกล้อ ราวกับว่าเพียงแค่พูดคุยเรื่องทั่วๆไป

“ท่านชายพูดติดตลกแล้ว……”

หางเสียงไม่ทันสิ้นสุด ดวงตาของหลานเยาเยาหรี่ลง เปล่งเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชา “อาส้ง!”

การเรียกครั้งนี้ ส้งเย่นกุยรู้ความหมายของเจ้านายตัวเอง หายแสก็รู้ว่าคนตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร ขณะที่ส้งเย่นกุยยกฝีเท้าเล็กน้อย หานแสยกมือ เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง

“ช้าก่อน ในเมื่อคุณชายคิดว่าเคยเจอมาก่อน เช่นนั้นเคยพบมาก่อนก็ได้”

“ดีมาก รู้จักเข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์”

คำพูดนี้ น้ำเสียงนี้ เหมือนกับการพูดจาโดยปกติของหานแสทุกอย่าง

หานแส : “…….”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท