หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 623 คิดถึงสุดใจรู้หรือไม่

บทที่ 623 คิดถึงสุดใจรู้หรือไม่

ปีนั้นเพื่อทำลายทุ่งดอกกระดูกขาวทั้งหมดทิ้ง ผู้ใต้บังคับบัญชาของเย่แจ๋หยิ่งเสียสละไปไม่รู้มากน้อยเท่าไหร่ และคนของนางก็เสียหายไปไม่น้อย

แม้แต่คุณปู่เย่นของนางก็อยู่ในทะเลทรายตลอดกาล

นางไม่ปรารถนาให้คนเหล่านั้นตายเปล่า ดังนั้นนางต้องการกำจัดหายนะไปตลอดกาล

อย่างน้อยต่อจากนี้รากฐานของประเทศก่วงส้าก็ไม่ได้โดนทำลายเพราะคนโดนมนต์ดำ

เมื่อนึกถึงเรื่องปีนั้น เย่แจ๋หยิ่งหนักใจขึ้นมาก เขาถอนใจอีกครั้ง เอื้อมมือไปเล่นผมของหลานเยาเยาเบาๆ

“ข้ารู้เป็นแน่ว่าพวกเขาไม่สามารถตายเปล่าได้ แต่วิธีจัดการมีมากมาย วิธีที่เจ้าพูดมันชั่วร้าย”

จุดนี้หลานเยาเยาไม่ปฏิเสธ

แต่แม้ว่าจะชั่วร้าย แต่กลับเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลโดยตรงมากที่สุด

นางไม่อยากสละชีพคนที่บริสุทธิ์มากมาย

อย่างไรเสีย หลังจากผ่านวันจับจ่ายช่วงปีใหม่ สถานภาพของแผ่นดินใหญ่ผืนนี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน หากประเทศก่วงส้าถูกคนโดนมนต์ดำบุกรุกและก่อกวนอีก เช่นนั้นความวุ่นวายทั้งภายนอกภายใน ไม่เป็นผลดีต่อประเทศก่วงส้าเป็นที่สุด

พูดจบ หลานเยาเยาก็ถูไถในอกของเย่แจ๋หยิ่ง หาตำแหน่งที่สบายพิง

เย่แจ๋หยิ่งเขี่ยจมูกนาง “ข้าจะสามารถทำอะไรเจ้าได้?”

เห็นนางตอบรับ หลานเยาเยาหัวเราะเย้าแหย่ กล่าว

“ไม่เช่นนั้นท่านก็กดข้าไว้บนโต๊ะทำทุกสิ่งที่ปรารถนา?”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งไปเย่แจ๋หยิ่งก็เผลอยิ้มออกมาในพริบตา มือที่เขี่ยจมูกนางชะงักทันที จากนั้นดีดหน้าผากของนางเบาๆ หัวเราะดุประโยคหนึ่ง: “ไม่รู้จักอาย”

ต่อจากนั้น เมื่อมือใหญ่โบก เอาพู่กันหมึกกระดาษแท่นหมึกกวาดไปอีกข้างทันที อุ้มหลานเยาเยาขึ้นบนโต๊ะ มองดูนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความรัก และเป็นไฟร้อน

หลานเยาเยาตะลึง ระหว่างที่ตะลึงเล็กน้อย นางก็ถูกกดบนโต๊ะแล้ว และเย่แจ๋หยิ่งทับบนตัวแล้ว

“ยังจะบอกว่าข้าไม่รู้จักอาย ท่านก็กลับปฏิบัติจริง ข้าแค่พูดเท่านั้น พวกเราไม่รีบในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เป็นกลางวันแสกๆ ข้ายังไม่ได้อาบ……อุบ……”

คำพูดด้านหลัง ทั้งหมดถูกบางคนกลืนลงท้อง สงครามของเซียนทั้งสองเริ่มขึ้นในห้องหนังสืออีกครั้ง

คุณชายเหลียงเฉินด้านนอกห้องหนังสือ เขาได้ยินแล้วว่าซ่างกวนหนานซู่มาที่นี่ จึงรีบมา เห็นประตูปิดสนิท เดิมทีคิดจะเคาะประตู พ่อบ้านเหมยหยุดเขาไว้

“พ่อบ้านเหมย ท่านขวางข้าทำไม? ข้ามีเรื่องสำคัญมากต้องการพบซ่างกวนหนานซู่”

“ตอนนี้รู้จักรีบร้อนแล้ว? ไม่มีประโยชน์ คุณชายซ่างกวนอยู่ด้านในหารือกับอ๋องเย่ของข้า คนไม่มีธุระข้องเกี่ยวห้ามเข้า”

พ่อบ้านเหมยเบ้ปาก

แน่นอนว่าเขารู้ว่าโม่เหลียงเฉินพบคุณชายซ่างกวนทำไม ยังคงเพราะแม่นางฮัว แต่ว่า คุณชายซ่างกวนช่วยแม่นางฮัวกลับมานานมากแล้ว ถูกจัดให้รักษาอยู่ที่อื่นโดยตลอด ทั้งๆที่บอกกับอ๋องเย่อย่างดีแล้วว่าต้องการให้โม่เหลียงเฉินช่วย แต่กลับไม่ไปพบสักที

โม่เหลียงเฉินรอเหลียวซ้ายเหลียวขวาอยู่ในจวน สุดท้ายยังคงไม่ได้ความ ในที่สุดก็อดทนไม่ไหว ไปพบคุณชายซ่างกวนเอง แต่ทุกครั้งก็หาคนไม่เจอ เป็นเช่นนี้สองสามครั้งโม่เหลียงเฉินก็รู้ คุณชายซ่างกวนตั้งใจหลบหน้าเขา

ผ่านไปหลายวันขนาดนี้ วันนี้ไม่ง่ายที่จะจับตาดูจนได้เบาะแสของคุณชายซ่างกวน จึงรีบมาอย่างรีบร้อน

ทั้งๆที่คนก็อยู่ในห้องหนังสือ แต่กลับเข้าไปไม่ได้ ในใจต้องร้อนรนดั่งมดที่อยู่บนหม้อร้อนเป็นแน่

ทำไมคุณชายซ่างกวนถึงเป็นเช่นนี้?

พ่อบ้านเหมยไม่รู้ แต่เขาก็ไม่ต้องรู้

คุณชายซ่างกวนเขามีความคิดมากมาย เวลาที่ควรพบก็จะพบเป็นธรรมดา เวลาที่ไม่ควรพบ จะคิดวิธีหลบเลี่ยง

ตอนนี้เวลานี้ เขาก็ไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรพบ

ดังนั้น พ่อบ้านเหมยจึงกั้นขวางไว้ตรงนี้ คนในห้องหนังสือต้องได้ยินความเคลื่อนไหวแล้วเป็นแน่ ควรหรือไม่ควรก็ให้คุณชายซ่างกวนตัดสินใจเอง

คุณชายเหลียงเฉินที่ถูกคิดว่าเป็นคนไม่มีธุระข้องเกี่ยวอึดอัดมาก

เขาเหลือบมองพ่อบ้านเหมือนแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ก่อนหน้านี้ไม่ชอบหน้าเขา นี่เพิ่งจะกี่วันเอง? ก็ถูกคนอื่นปลุกระดม ช่วยคนอื่นเขาพูดแล้ว ยังกลับมาว่าข้าเป็นคนไม่มีธุระข้องเกี่ยวอีก พ่อบ้านเหมย ท่านพูดมา หากว่าข้ามาช้ากว่านั้นอีกสองสามวัน ประตูใหญ่ท่านก็ไม่ให้ข้าเข้ามาแล้วใช่หรือไม่?”

มองดูเขาที่เต็มไปด้วยความเคือง พ่อบ้านเหมยตบไหล่เขา:

“เป็นเช่นนั้นจริงขอรับ!”

“…….” ยังจะสามารถพูดกันดีๆได้อีกหรือ?

ก่อนหน้านี้พ่อบ้านเหมยผู้นี้ไม่ใช่ว่ายังดีๆอยู่หรือ? ทำไมแค่ชั่วข้ามคืนก็เปลี่ยนแล้วล่ะ?

“ได้ได้ได้ ข้าไม่เข้าไปก็ได้”

ไม่ให้เขาเข้าไปสินะ!

เช่นนั้นเขาก็ไม่เข้าไป ก็รออยู่ตรงนี้ เขาไม่เชื่อว่าพ่อบ้านเหมยจะเอาไม้กวาดมากวาดเขาออกไปจากประตู

คุณชายเหลียงเฉินเอามือสองข้างไว้ด้านหลัง สายตาจับจ้องห้องหนังสือ ท่าทางจะไม่ยอมแพ้ถ้าไม่รอจนซ่างกวนหนานซู่ออกมา

เห็นดังนั้น พ่อบ้านเหมยหันหน้าแล้วเดิน

โม่เหลียงเฉินถาม: “พ่อบ้านเหมยไปไหน ไม่อยู่คุยเรื่อยเปื่อยเป็นเพื่อนข้าหรือ?”

“หาไม้กวาดขอรับ”

โม่เหลียงเฉินหูตั้ง ใจเกิดความระมัดระวัง: “หาไม้กวาดทำอะไร?”

“กวาดพื้นขอรับ!” พ่อบ้านเหมยเดินไปไกลแล้ว

“ท่านพ่อบ้านใหญ่ผู้หนึ่งยังต้องกวาดพื้นอีกหรือ?” เขาเปล่งเสียงดัง กล่าวกับพ่อบ้านเหมย

“ไม่เช่นนั้นล่ะ? จะต้องกวาดท่านคุณชายเหลียงเฉินผู้นี้ออกจากประตูงั้นหรือขอรับ?” หางเสียงยังไม่ทันสิ้นสุด เงาร่างของพ่อบ้านเหมยก็หายไปตรงที่ลึกสุดตรงทางเดิน

หลังจากไม่มีคนคุยด้วย โม่เหลียงเฉินทำได้เพียงเดินไปนั่งตรงศาลาที่อยู่ไม่ไกล ลมหนาวพลิ้ว อากาศเย็นยะเยือก โม่เหลียงเฉินทนลมหนาว รวบชุดคลุมที่หนาแน่นแต่ไม่ไร้ราศีไว้ รอเงียบๆ

ไม่นาน ประตูห้องหนังสือเปิดแล้ว

มีเพียงเงาของเย่แจ๋หยิ่งออกมาผู้เดียว โม่เหลียงเฉินมองอย่างงงัน เขารีบเดินเข้าไป

“แจ๋หยิ่ง คุณชายซ่างกวนล่ะ?”

เย่แจ๋หยิ่งสีหน้าเรียบเฉย แววตาเย็นยะเยือก ท่าทางเหมือนไม่พอใจ

ทำให้โม่เหลียงเฉินลูบศีรษะ แต่รู้สึกว่าคอก็เย็นเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่เป็นสุขที่สุด ในใจอดคิดไม่ได้: วันนี้ออกจากจวนน้อยมาก แต่เหมือนกับว่าไม่ได้ไปทำให้อ๋องเย่โกรธหรอกนะ! เมื่อก่อนพ่อบ้านที่สนิทกับเขาพูดจาเสียดแทง เพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กของตัวเองและเป็นเจ้านายครึ่งหนึ่งของตัวเองมีสีหน้าโกรธเคืองต่อเขา

นี่คืออย่างไรกัน?

“ท่านอ๋อง?” เขาถามเป็นการหยั่งเชิงอีกครั้ง

ปกติเวลาที่ไม่มีเรื่องอะไร เขาจะเรียกชื่อเย่แจ๋หยิ่งโดยตรง ในเวลาสำคัญหรือต่อหน้าคนนอกเขาจะเรียกว่าท่านอ๋อง ตอนนี้เขาเรียกเป็นการหยั่งเชิง ดูการตอบสนองของเย่แจ๋หยิ่ง

แต่ว่า!

เย่แจ๋หยิ่งยังคงมีท่าทางเช่นนั้น

เป็นเวลานานถึงเหลือบมองเขาแล้วกล่าว: “นางไปแล้ว!”

เรื่องสวยงามดีๆเรื่องหนึ่ง เป็นไปได้ยากที่หลานเยาเยาจะเริ่มก่อน กำลังเริ่มการเสพสุข ก็ถูกคนตรงหน้าผู้นี้รบกวน ทำให้ภรรยาของเขาตกใจแล้วจากไป

เจ้านี่‘ตัวการก่อเรื่อง’ดูเหมือนว่าจะไม่อยากได้ภรรยาแล้ว

“เขาไปแล้ว? ไปไหน ทำไมยังหลบข้าอีกล่ะ!” โม่เหลียงเฉินนั้นที่ร้อนรน!

หาซ่างกวนหนานซู่ไม่พบ เขาก็พบฮัวหยู่อันไม่ได้ ได้ยินว่านางบาดเจ็บสาหัสมาก ตามองดูก็แทบไม่รอดแล้ว เขาอยากพบหน้านาง ทำไมถึงยากขนาดนั้น?

“นางอยากทำให้เจ้าลิ้มรสความลำเค็ญในการตามหาคนผู้หนึ่ง”

นี่คือความตั้งใจของหลานเยาเยา

นางทำแทนฮัวหยู่อัน เพื่อทำให้โม่เหลียงเฉินเข้าใจเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นฮัวหยู่อันคิดไปเองว่าหาที่พึ่งพิงพบแล้ว พาเขากลับไปชนเผ่า แต่เขากลับวิ่งหนี

ด้วยเหตุนี้ฮัวหยู่อันเสียใจระยะหนึ่ง

ตอนนี้ในใจของโม่เหลียงเฉินมีฮัวหยู่อัน เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงสภาพจิตใจความรู้สึกในตอนนั้นของฮัวหยู่อัน

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เป็นเพราะตอนนั้นโม่เหลียงเฉินช่วยเขาทำธุระ ด้วยเหตุนี้จึงใช้อุบายชายรูปงาม ใครจะรู้ ว่าเขาจะเอาตัวเองเข้าไปด้วยจริงๆ

สามารถพูดได้เพียงว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว!

แม้ว่ายังคงไม่พอใจกับเรื่องเมื่อครู่ แต่เย่แจ๋หยิ่งรู้โม่เหลียงเฉินก็มีความลำบากใจ พ่อแท้ๆถูกราชครูเทียนเวิงคุมขังหลายปี บนตัวแบกภาระความแค้นแสนสาหัส เพื่อขุดรากถอนโคนคนสารเลวที่อดีตเคยทำเรื่องชั่วกับราชครูเทียนเวิง เขาพยายามทั้งวันทั้งคืน แทบจะทุ่มเททั้งกายใจเลือดเนื้อ

กระทั่งในหนึ่งปีก่อน แยกกับพลทหารของเขาเป็นสองทาง เผาทำลายทุ่งดอกกระดูกขาวอย่างราบคาบ โชคร้ายบาดเจ็บสาหัส

ดังนั้น จึงไม่สามารถไปทะเลทรายเป็นกับเขาได้

ตอนนี้ความแค้นอันยิ่งใหญ่ชำระแล้ว แต่กลับทำร้ายฮัวหยู่อัน

ได้ยินคำนี้ โม่เหลียงเฉินนิ่งเงียบแล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท