หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 624 ภรรยาควบคุมอย่างเคร่งครัดสามีควบคุมอย่างเคร่งครัด

บทที่ 624 ภรรยาควบคุมอย่างเคร่งครัดสามีควบคุมอย่างเคร่งครัด

เย่แจ๋หยิ่งตบไหล่ของเขา: “นางไม่ได้ประสงค์ร้าย เพียงแค่อยากทำให้เจ้ารู้สึกเช่นเดียวกับฮัวหยู่อัน ประสบชะตาคล้ายกัน ความแค้นใหญ่หลวงของเจ้าต้องชำระ ยังมีพ่อแท้ๆให้พึ่งพา นางเดิมทีก็ตัวคนเดียว ตอนนี้ไม่มีแม้แต่เพื่อน”

นิ่งเงียบอยู่นาน ในที่สุดโม่เหลียงเฉินก็เปิดปากพึมพำ:

“นางยังสบายดีไหม?”

นางตรงนี้หมายถึงฮัวหยู่อัน

แน่นอนว่าเย่แจ๋หยิ่งเข้าใจ

แต่เขากลับไม่พูด ก่อนจากไปหลานเยาเยาเคยบอกไว้ ก็ต้องการให้จิตใจของโม่เหลียงเฉินเป็นกังวลตลอด ทำให้เขารู้ว่ามิตรภาพบางอย่างไม่เพียงแค่เมฆควันที่ลอยผ่าน แต่คือความคิดถึงเข้ากระดูก ยังบอกว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผลเป็นพิเศษกับคนเจ้าชู้อย่างโม่เหลียงเฉิน

เย่แจ๋หยิ่งจากไปแล้ว

โม่เหลียงเฉินยังคงถามกับอากาศ: “นางเป็นอย่างไรแล้วกันแน่?”

ห่างจากวันจับจ่ายสิ้นปีอีกหนึ่งวัน

ทุกครัวเรือนวุ่นวายกับการรอคอยวันข้ามปี ในสถานที่วางศพสมัยโบราณ ที่ที่กองศพไว้ มีเพียงเศษเสี้ยวไม่กี่ชิ้นที่ไม่มีคนมารับ เพราะว่าอากาศเหน็บหนาว วางไว้ที่นี่สองสามวันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โต

ผู้ที่เฝ้าสถานที่วางศพเป็นชายชราผมดำแซมผมสีเงิน เขาได้ทำการป้องกันให้ศพ และหลังจากที่เก็บของทุกอย่างในสถานที่วางศพแล้ว กำลังเตรียมกลับบ้านก่อน

ใครจะคาดคิด…….

เมื่อลงกลอนประตู ทันทีที่หมุนตัวก็ถูกกลุ่มเงาดำครอบคลุม จากนั้นคอเจ็บ สูญเสียความรู้สึกในพริบตา

มือข้างหนึ่งหยิบกุญแจจากมือของชายชราอย่างรวดเร็ว เปิดประตูสถานที่วางศพด้วยฝีมือช่ำชอง คว้าขาข้างหนึ่งของชายชรา แล้วลากเข้าไปอย่างรวดเร็ว รอจนเอาชายชราจัดวางไว้บนแท่นไม้ว่างที่ให้ศพนอน คนผู้นั้นก็ยืนขึ้นรอด้านข้าง

ในเวลาอันสั้น!

ผู้หญิงมาดผู้มีสติปัญญาเดินเข้ามา นางสวมหมวกงอบที่ล้อมด้วยผ้าโปร่ง คลุมทั้งตัว ไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง

ด้านหลังเป็นผู้ชายที่เป็นตัวเป็นหนุ่มรับใช้ พวกเขาแบกกระสอบป่านยาวๆ ดูท่าทาง ด้านในน่าจะใส่คนไว้

สองสามคนเดินไปด้านข้างแท่นไม้ที่ชายชรานอน ผู้หญิงมองสังเกตรอบๆอย่างดูถูกรอบหนึ่ง ใช้นิ้วชี้กดไว้ใต้จมูกเล็กน้อย เหมือนมีความรังเกียจต่อศพไม่กี่ศพที่อยู่รอบๆอย่างมาก

นางรีบใช้สายตาบอกใบ้สองคนด้านหลังเล็กน้อย

หนุ่มรับใช้สองคนเข้าใจทันที รับเอากระสอบป่านโยนไปบนพื้น จากนั้นนั่งยองลง เปิดออกอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นใบหน้าคนตายวัยหนุ่มแข็งทื่อและขาวซีดไร้ที่เปรียบออกมา เส้นเลือดเปลี่ยนเป็นสีดำ เหมือนดั่งรากต้นไม้เช่นนั้นปรากฏบนใบหน้า

อีกทั้งเสื้อผ้าบนร่างกายเปียกโชก ยังมีอายเย็นเล็กน้อย น่าจะเพิ่งออกมาจากช่องน้ำแข็งไม่นาน

หนุ่มรับใช้ผู้หนึ่งหยิบมือของศพที่แปลกประหลาดออกมา แขนเสื้อกองอยู่ที่ข้อศอก อุ้งมือ แขนทั้งหมดล้วนมีรอยมีด เรียบเป็นพิเศษ เมื่อดูก็รู้ว่าทำเสร็จหลังจากที่ตาย

หนุ่มรับใช้อีกผู้หนึ่งเอามีดสั้นออกมานานแล้ว วางลงไปที่แขนของศพออกแรงกรีดโดยตรง กรีดออกเป็นปากแผล จากนั้นหนุ่มรับใช้ที่ถือมีดสั้น ยืนขึ้นมาถลกแขนเสื้อของชายชราที่สลบขึ้นมา กรีดเป็นบาดแผลเหมือนกันที่แขนของเขา

ผิวหนังเนื้อที่แขนของชายชราปริออกในพริบตา เลือดไหลนองออกมาทันที

หนุ่มรับใช้รีบล้วงขวดเล็กๆที่ไม่รู้ชื่อออกมาอันหนึ่ง เปิดจุกออก แล้วโปรยยาผงลงไปบนบาดแผล ค่อยๆ เลือดยิ่งไหลยิ่งน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เลือดหยุดแล้ว

จากนั้นเขาก็ใช้มีดสั้นกรีดไปมาสองสามครั้งที่รอยบาดแผลที่ถูกกรีดออกของศพต่อ หลังจากแน่ใจว่าบนมีดสั้นเปื้อนเลือดเนื้อของศพ จึงได้เช็ดที่บาดแผลตรงแขนของชายชรา กระทั่งรู้สึกว่าพอประมาณแล้วจึงได้หยุดมือแล้วรายงาน

“คุณหนู ทำเรียบร้อยแล้วขอรับ!”

“ดี รอเขาฟื้นมาก็ป้อนเลือดคนให้เขาดื่ม หลังจากพลบค่ำก็เอาเขาไปทิ้งในหอแดง ให้แน่ใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว จากนั้นก็ล่อซ่างกวนหนานซู่มา”

มองดูมีดสั้นในมือหนุ่มรับใช้ หญิงสาวหัวเราะอย่างชั่วร้ายเย็นชาเสียงหนึ่ง

ชายผู้หนึ่งก็กล้าสมคบกับอ๋องเย่…….

ดูว่านางจะจัดการเขาอย่างไร

เวลานี้!

คนอีกผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในมือจดหมายลับถูกกำไว้แน่น

“คุณหนู องครักษ์ลับท่านเฟิงจวนอ๋องเย่ส่งจดหมายมาที่จวนฉบับหนึ่งขอรับ”

องครักษ์ลับท่านเฟิงเป็นองครักษ์ลับที่มีความสามารถที่สุดผู้หนึ่งของอ๋องเย่ นอกจากอ๋องเย่ ไม่มีใครสามารถพอสั่งการเขาได้

เช่นนั้นก็อธิบายได้ว่า เป็นจดหมายลับที่อ๋องเย่ให้นาง

เหมือนว่าจะนึกอะไรได้ ใบหน้าที่แดงระเรื่อของหญิงสาวปรากฏรอยยิ้มออกมา

ในที่สุดจนเขาส่งจดหมายมาแล้ว!

หญิงสาวอดใจรอที่จะเปิดจดหมายออกดูไม่ได้ รายมือสง่างามทรงอำนาจ คุ้นเคยเป็นพิเศษ ใบหน้าจิตใจปีติในพริบตา

บนจดหมายมีเพียงไม่กี่อักษรสั้นๆ: พรุ่งนี้เวลาเที่ยง ร้านชาจินยู่

แม้ว่าไม่มีชื่อผู้เขียน และไม่มีอักษรมากกว่านั้นสักตัว แต่นางที่เลียนแบบลายมือของอ๋องเย่อย่างทะลุปรุโปร่งนั้นรู้ เป็นอ๋องเย่เขียนเองกับมือ

“ร้านชาจินยู่!”

นั้นเป็นสถานที่ดีเชียว อยู่ข้างร้านประมูลเสินตู จากที่เข้าใจ อ๋องเย่ชอบไปที่โรงน้ำชาแห่งนี้ที่สุด

ได้ยินว่า ตอนนั้นก็เพราะหลานเยาเยาเอากระเป๋าพยาบาลอัตโนมัติแปลกประหลาดมาประมูลที่ร้านประมูลเสินตู จึงได้ดึงดูดความสนใจของอ๋องเย่ที่อยู่ในห้องส่วนตัวของร้านชาจินยู่

วันนี้อ๋องเย่นัดที่นั่น

อธิบายได้ว่าอ๋องเย่มั่นใจแล้วว่านางก็คือหลานเยาเยาแล้วใช่หรือไม่?

พรุ่งนี้?

ทันใดนั้นหญิงสาวรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลงอย่างฉับพลัน

นางยกเท้าก็เดินไปทางประตูใหญ่

มีคนเรียกนางไว้ ชี้ที่ชายชรา: “คุณหนูขอรับ เช่นนั้นคนผู้นี้……”

“ขังไว้ชั่วคราวก่อน”

“ขอรับ!”

…….

เที่ยงวันถัดมา

จวนอ๋องเย่ ในลานซวนซี

หลานเยาเยานั่งอยู่ด้านหน้ากระจก แต่งหน้ากับกระจก มัดผมทรงผู้ชายง่ายๆ จัดการชุดกระโปรงที่ไม่ได้มีรอยยับสักน้อย สะบัดศีรษะเล็กน้อย ให้หน้าม้าสวยงาม สะบัดไปด้านข้าง ไม่ต้องมาปิดบังตา

เห็นเงาร่างที่สูงโปร่งด้านหลังไม่ขยับสักที หลานเยาเยามองไปทางผู้ชายจากในกระจก กล่าวเร่งเร้า:

“เวลาเกือบเที่ยงแล้ว ยังไม่ขยับตัวอีก หากว่านิสัยป่าเถื่อนของถังมู่หวั่นออกอาการ ทำคนโดนมนต์ดำออกมาอีกครั้ง เช่นนั้นก็ไม่มีปัญญาที่จะฉลองปีใหม่ดีๆแล้ว”

เย่แจ๋หยิ่งไม่ขยับร่าง มือถือหวีไม้แดงที่ประณีต หวีผมให้นาง การกระทำอ่อนโยน แต่แววตากลับโกรธเคือง มองดูนางเงียบๆ

เขาเสียใจแล้ว!

ทำไมวันนั้นต้องตอบรับแผนการของหลานเยาเยา? ต้องเป็นความลุ่มหลงแน่ๆ หลานเยาเยาก็คือผีผู้หญิงนั้นที่ทำได้เพียงดูดวิญญาณเขา

“เยาเยา ข้ารู้สึกว่าไม่เหมาะสมอย่างมาก”

เย่แจ๋หยิ่งวางมาดของท่านอ๋องผู้สง่างามขึ้น เอ่ยคำพูดที่ไม่มีอำนาจสักนิด

“เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของพวกเรา รีบไปรีบกลับ”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป

เย่แจ๋หยิ่งก็จนปัญญาจะโต้แย้ง

ถูกแล้ว!

เพื่ออนาคตที่งดงาม จำเป็นต้องกำจัดอันตรายทิ้ง ดีที่สุดต้องถอนทั้งรากทั้งโคน ไม่เช่นนั้นจะเป็นหายนะในภายหลัง

เขาหวีผมช่อสุดท้ายให้ราบรื่นอย่างจนปัญญา จากนั้นวางหวีไม้แดง หมุนตัวจากไป ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรอีก เขาหยุดลงหันกลับมามองนางอีก มองอย่างอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย

หลานเยาเยาเลิกคิ้ว ยิ้มหวาน

“ต้องการผ้าเช็ดหน้าให้ท่านผืนหนึ่งหรือไม่ ให้ท่านเดินกาวหนึ่งหันกลับสามรอบ ส่ายก้นไปมา?”

“ไม่รู้จักหลอกล้อ หึ!”

เย่แจ๋หยิ่งตั้งใจทำเป็นโกรธแล้วจากไป

ผู้ชายที่ไม่มีเนื้อกิน ติดคนจริงๆ ยังไม่ได้แยกกันก็ทำใจได้ไม่แล้ว

เห้อ!

หลานเยาเยาส่ายหัว ไม่รู้ว่าเอาน่องไก่ย่างเหลืองกรอบออกมาจากไหน กัดลงไปด้วยความปวดใจอย่างมากคำหนึ่ง

“ฤดูหนาวเย็นเร็วเกินไป แต่ยังพอจะกินได้”

ไม่ใช่ว่านางกินคนเดียว แต่เพียงแค่อยู่ด้วยกันกับเย่แจ๋หยิ่ง เขาใส่ใจกับทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำของนางตลอดเวลา ควบคุมอาหารการกินของนางทุกขณะ ดื่มเหล้าชามใหญ่ แทะเนื้อคำโตท่าทางแบบนี้อับอายไม่สุภาพ ถูกปฏิเสธโดยตรง

หลานเยาเยารู้ ตอนนี้นางคือซ่างกวนหนานซู่ ชายที่สง่างามดั่งหยก เป็นธรรมชาติที่พฤติกรรมต้องสุภาพ ไม่สามารถเป็นเหมือนอดีตเช่นนั้นได้ ไม่สนใจไม่แยแส

อย่างไรเสีย!

ความรักความผูกพันจำเป็นต้องจัดการดีๆ

“แฮ่มแฮ่ม”

หลานเยาเยาแทะน่องไก่หันกลับไปอย่างน่ารัก ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งยืนอยู่ข้างประตู มองดูน่าอย่างจนปัญญา นางรีบกัดน่องไก่คำหนึ่งทันที จากนั้นเอาซ่อน เคี้ยวเนื้อไก่ในปากตามใจ แล้วกลืนลงไป

“หืม? ทำไมท่านยังไม่ไปอีก?”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าแอบซ่อนน่องไก่ไว้หรือ?” ทั้งห้องกระจายไปด้วยกลิ่นหอมของน่องไก่ เขาก็ไม่ได้ตาบอด ไม่รู้ได้อย่างไร?

“เพิ่งกินอาหารเที่ยง ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้ากินจนจุกเกิน ไม่ดีต่อลำไส้ อีกทั้งร่างกายของเจ้าจำเป็นต้องบำรุง ไม่เหมาะจะกินของมัน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เคี้ยวให้ละเอียดแล้วค่อยๆกลืนอีก

เด็กดี เอาน่องไก่วางด้านข้าง ผ่านไปครึ่งชั่วยามค่อยกิน ข้าสั่งให้ห้องจัดเตรียมภัตตาหารช่วยอุ่นให้เจ้าตลอด”

“อ่อ!”

หลานเยาเยาวางลงอย่างเชื่อฟัง

เหมือนกับเย่แจ๋หยิ่งยังคงไม่วางใจ เดินเข้ามาเอาน่องไก่ของนางถือไว้บนมือ ยังจะค้นขาหมูอีกอันหนึ่งที่เย็นไปแล้วจากด้านข้างออกมาอีก กล่าวอย่างจริงจังประโยคหนึ่ง

“ห้ามกินของเย็น และห้ามหยิบของกินง่ายๆออกมาระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ”

พูดจบจึงจากไป ดั่งลมระลอกหนึ่ง ไม่ให้โอกาสนางได้อ้อนแม้แต่น้อย

“……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท