หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 632 รู้สึกขยะแขยงใช่หรือไม่

บทที่ 632 รู้สึกขยะแขยงใช่หรือไม่

การปรากฏตัวของหลานเยาเยาทลายความงดงามทุกอย่างของนาง เหมือนว่าอ๋องเย่ชอบพอต่อนาง ปฏิบัติต่อนางแตกต่างอย่างมาก นางเคยไปทำความเข้าใจหลานเยาเยา เป็นบุคคลที่มีแผนการในใจมากมายผู้หนึ่ง ด้วยเหตุนี้นางทำได้เพียงหลอกใช้พี่สาวน้องสาวข้างกายของหลานเยาเยาทำให้นางรู้จักความลำบากและถอนตัว

แต่ไม่ว่านางจะทำอย่างไร ก็หยุดยั้งอ๋องเย่กับนางแต่งงานกันไม่ได้

ดีที่หลานเยาเยาตายแล้ว แต่เทพธิดาที่ขอพรเพื่อประชาชนก็โผล่มาอีกผู้หนึ่ง

เทพธิดาผู้นั้นแค่มองก็ไม่ธรรมดา อีกทั้งความสามารถยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ทุกประเทศล้วนต้องเกรงใจและยอมนาง มองดูอ๋องเย่และเทพธิดายิ่งใกล้ชิดกันเรื่อยๆ และตัวเองก็ต้องโดนบีบคั้นให้แต่งงาน นางจำเป็นต้องเสี่ยง วางแผนการอย่างแยบยล จากนั้นเรื่องหนึ่งสามารถได้รับผลประโยชน์สามอย่าง

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากเทพธิดาที่หายตัวไปกลับมา นางกับอ๋องเย่ดูเหมือนว่าจะยิ่งรู้ใจกัน อีกทั้งแววตาที่อ๋องเย่มองดูนางคือความรักความเอ็นดู

นางแค้นมาก!

คิดเองว่าหน้าตางดงาม ถูกผู้คนชมว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง แต่หลานเยาเยาที่ถอนความอัปลักษณ์ไปกลับสวยเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ นางเทียบแค่ส่วนเดียว ก็ด้อยกว่าแล้ว

เทพธิดายิ่งหยาดเยิ้ม ลึกลับและแข็งแกร่ง เดิมทีนางก็ไม่ถึงระดับ แม้เทียบก็เทียบไม่ได้

ดีที่

เทพธิดาก็ตายแล้ว

แต่ทำไม อ๋องเย่ยังคงไม่ได้สนใจนาง?

ดังนั้นนางทำได้เพียงทำให้นางเป็นเทพธิดา หน้าตาเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่วาจาพฤติกรรมสามารถทำได้ นางทำหมดทุกวิถีทาง

คิดไม่ถึงซ่างกวนหนานซู่โผล่มาอีกผู้หนึ่ง ดีที่เป็นเพียงการตกใจไปเอง ตอนนี้ไม่ง่ายที่อ๋องเย่จะสนใจนาง ทั้งๆที่นางดีใจ แต่ในใจกลับไม่เคยสงบสุข

เพราะว่านั่นคือความคงอยู่ของตัวแทน!

นางจำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่ทว่าฆ่าเขาเป็นเพียงแค่เรื่องกระดิกนิ้ว คิดไม่ถึงกลับทำให้ตัวแทนผู้นั้นหนีไปได้

แต่ไม่เป็นไร ตัวแทนผู้นั้นคืนนี้จำต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา เพียงหวังว่าคืนนี้คือเขาหนีไป แต่ไม่ใช่ไปหาอ๋องเย่

ความจริง แม้ว่าตัวแทนจะไปหาอ๋องเย่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่นัก เกรงว่ารู้ว่าเขาเป็นอ๋องเย่ปลอม ก็จะถูกฆ่าตาย

เพียงแค่……

นางไม่หวังจะให้อ๋องเย่มีความสงสัยต่อนางแม้แต่น้อย

เพื่อเหตุนี้!

ถังมู่หวั่นหลับอย่างลำบาก

“กึก” เสียงหนึ่ง

“ทำไมหรือ?” ถังมู่หวั่นสอบถามด้านนอกห้อง

“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ คุณหนู แค่แมวตัวหนึ่งเหยียบเศษกระเบื้องเจ้าค่ะ”

สาวใช้ด้านนอกตอบ

“เช่นนั้นก็ฆ่าแมวซะ”

สาวใช้ด้านนอกห้องขานรับ แต่กลับไม่มีการเคลื่อนไหว ถังมู่หวั่นก็ขี้เกียจยุ่ง อย่างไรเสียอย่ารบกวนนางอีกก็ดีแล้ว

ใครจะรู้……

จากนั้น”กึก”อีกเสียงหนึ่ง เสียงดังกว่าก่อนหน้านี้

“ทำไมอีก?” เสียงของนางรำคาญอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่งก็ทำไม่ได้ จะต้องการสาวใช้ไว้ทำไม? หากว่ามีอีกครั้ง พรุ่งนี้จะเอานางขายออกไป

น่าเสียดายกลับไม่มีเสียงสาวใช้ขานตอบ และถังมู่หวั่นก็รู้สึกผิดปกติแล้ว นางลุกขึ้นนั่ง ลงจากเตียง ใช้มือคลำที่เชิงเทียนแล้วจุดเทียน แสงเทียนเติมความสว่างให้ทั้งห้องในพริบตา

นางเรียกชื่อสาวใช้สองสามรอบ

ยังคงไม่ได้ยินเสียงตอบ นางวิ่งไปข้างประตูห้องในพริบตา และไม่ได้เปิดประตู แต่ใช้สลักลงกลอนประตูห้องทันที และลงกลอนจากด้านใน

เวลานี้นางไม่ได้วางใจ แต่พุ่งไปที่ข้างเตียง หยิบมีดสั้นออกมาจากใต้หมอน จับจ้องที่ประตูห้องตลอด ลมหนาวพัดมาอย่างไม่คาดคิด ยกเส้นผมของนางขึ้น

ถังมู่หวั่นมองไปทางลมหนาวทันที

เป็นหน้าต่าง!

หน้าต่างเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่?

นางสังเกตรอบๆ ไม่เห็นว่าในห้องมีคนเข้ามา นางรีบวิ่งเข้าไป ต้องการปิดหน้าต่าง

ใครจะรู้ เมื่อเงาดำแฉลบ มีสิ่งของตรงมาทางด้านหน้าของนาง พุ่งมาเต็มหน้าอก ทำให้นางตกใจอย่างรุนแรง

“อ้า……”

เมื่อมองอย่างแน่วแน่ เป็นเพียงแมวดำตัวหนึ่ง ถังมู่หวั่นจับแมวดำขึ้นมาก็หยิบมีดสั้นแทงเข้าไป จากนั้นเอาแมวที่ตายแล้วโยนไปด้านข้าง และรีบไปปิดหน้าต่าง แต่กลับถูกมือข้างหนึ่งขวางไว้ จากนั้นคือใบหน้าเลือดปรากฏตัวของต่อหน้าถังมู่หวั่น

นางรู้นั่นคือสาวใช้ อมเลือดในปาก เหมือนว่าจะถูกตัดลิ้นแล้ว แต่แววตาจ้องมองนางตรงๆ ขอความช่วยเหลือนาง

ถังมู่หวั่นตัดสินใจฉับพลัน โบกมีดสั้น ปาดมือของสาวใช้ที่ขวางหน้าต่างไว้โดยตรง

จากนั้นปิดหน้าต่างสนิทและลงกลอน กระทั่งอยู่ห่างจากหน้าต่าง แต่มีดสั้นในมือกลับกำไว้แน่นโดยตลอด ดวงตามองไปที่ประตูห้องครู่หนึ่ง มองหน้าต่างครู่หนึ่ง

“มู่หวั่น!”

เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังเชิงเทียน ถังมู่หวั่นรีบหมุนตัวไป เงาร่างคนผู้หนึ่งอยู่ด้านหลังเชิงเทียน เห็นหน้าไม่ชัด แต่กลับสามารถเห็นร่างกายที่คุ้นเคย

“อ๋องเย่?” จิตใจของถังมู่หวั่นมีความกลัว ถามอย่างระมัดระวังเสียงหนึ่ง

“เป็นข้า!”

เป็นเสียงของอ๋องเย่

นางรีบผ่อนความระวังตัว รีบเดินเข้าไป ใครจะรู้เมื่อเข้าใกล้ ใบหน้าที่แปลกตาก็ปรากฏขึ้นในม่านตา ถังมู่หวั่นชะงักทันที เกิดความกลัวทันใด ระวังตัวทั้งตัว

นางไม่เคยรู้จักใบหน้านี้

“เจ้าเป็นใคร?”

“ข้าคือใคร? ข้าคือฉินหวยไง! มักจะร่วมหลับนอนกับเจ้าอยู่เสมอ ฉินหวยที่มีความสุขใจทุกๆคืนไง! ทำไม มู่หวั่นจำไม่ได้แล้ว?” ฉินหวยแววตาเฉียบคม น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

“ไม่ คนที่มีความสุขกับข้าคืออ๋องเย่ ไม่ใช่เจ้า” ตีให้ตายถังมู่หวั่นก็ไม่ยอมรับ นางหลอกตัวเองมาตลอด ถึงตอนนี้ราวกับว่าเพิ่งจะตื่นจากความฝัน เจ้าของร่างกายผู้นั้นที่ถูกบีบบังคับให้มีความสุขร่วมรักกับนาง เป็นเพียงฉินหวยที่ถูกคลุมด้วยหน้ากากหนังคนหน้าอ๋องเย่เท่านั้น

แต่เช่นนั้นแล้วจะอย่างไร?

เวลาที่มีความสุข ใบหน้าเป็นใบหน้าของอ๋องเย่ นางก็คือคนของอ๋องเย่

“ไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้ไม่นับก็ไม่นับ ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าดู เอาเจ้าทับไว้ใต้ร่างกาย คนที่ครอบครองร่างกายของเจ้าอย่างโหดเหี้ยมคือใคร”

ตอนนั้น ถังมู่หวั่นข่มขู่บีบคั้นเขาอย่างไร ทำให้เขาได้รับความอัปยศอย่างไร วันนี้เขาจะคืนนางเป็นอีกเท่า

พูดจบ ฉินหวยเข้าใกล้ทีละก้าวๆ

“อย่าเข้ามา เข้ามาอีกข้าจะฆ่าเจ้า” ถังมู่หวั่นถอยหลังทีละก้าว

“ฆ่าเถอะ! ยังไงซะข้าก็เป็นคนที่ใกล้ตาย” ความเป็นความตายในตอนนี้สำหรับฉินหวยไม่สำคัญแล้ว เขาต้องการก็คือล้างแค้นถังมู่หวั่นอย่างโหดเหี้ยม ล้างแค้นแทนตัวเองและคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไป

“ไม่ ยาพิษที่ข้าวางให้เจ้ามียาถอนพิษ เจ้าปล่อยข้า ข้าให้ยาถอนพิษเจ้า”

ถูก นางยังสามารถใช้ยาถอนพิษที่ไม่มีจริงมาหยุดยั้งฉินหวยได้

“หน้ากากหนังคนได้ถอดออกไปแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้ายังสามารถหลอกข้าได้อีก? ข้าจะต้องตายเป็นแน่ ถังมู่หวั่น เจ้ายังมีโอกาสรอด จะไตร่ตรองหน่อยหรือไม่ วางมีดสั้นในมือลง?”

พูดพลาง ฉินหวยถลกแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อยพลาง บนแขนของเขาติดตั้งหน้าไม้ เพียงแค่กดปุ่มเปิดปิด ถังมู่หวั่นไม่มีแม้แต่ทางจะตอบโต้ แล้วจะตายภายใต้ธนู

มองดูฉินหวยที่มาอย่างเตรียมพร้อม

ในดวงตาของถังมู่หวั่นมีความหวาดกลัว และมีความเกลียดแค้น แต่นางไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงโยนมีดสั้นบนพื้น จากนั้นเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้า เพื่อเอาใจฉินหวย

ใครจะรู้……

ฉินหวยไม่ได้อ่อนโยนและระมัดระวังเช่นนั้นเหมือนตอนที่ถูกนางบีบบังคับ เกรงว่าจะทำให้นางเจ็บหรือทำให้นางไม่พอใจ ตอนนี้ฉินหวยผลักนางไปที่พื้น ไม่มีการเล้าโลมใดๆ ก็โจมตีเข้าไปโดยตรง ย่ำยีแก้แค้นนางอย่างป่าเถื่อน

รอยช้ำทั้งตัวทำให้นางได้รับความเหยียดหยามเป็นที่สุด แต่นางทำได้เพียงกัดปาดกัดฟันยอมรับ

มีความสุขหลายครั้ง ฉินหวยจึงได้หยุดลง ลองบีบคอนาง แต่กลับไม่ได้บีบคอนางให้ตาย เขาเพียงแค่มองดูมือของตัวเอง จากนั้นหัวเราะต่ำๆขึ้นมา

“สวมเสื้อผ้าให้ดี ช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลือจะต้องเหมาะสมหน่อย เจ้าไม่ปรารถนาให้ตอนที่อ๋องเย่เห็นศพของเจ้า ไม่ได้สวมเสื้อผ้าสินะ!”

ถังมู่หวั่นที่ผมเผ้ารุงรังอย่างยิ่งเชื่อฟังคำพูด แต่สายตากลับตกอยู่บนมีดสั้นที่ถูกโยนไปข้างๆ ขณะที่เก็บเสื้อผ้าบนพื้น นางก็เก็บมีดสั้นติดมือมาด้วย

ระหว่างนั้นฉินหวยเห็นแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น เพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา

รอถังมู่หวั่นสวมเสื้อผ้าดีแล้ว ฉินหวยเข้าใกล้แล้วถาม:

“รู้สึกน่าขยะแขยงใช่หรือไม่? รู้สึกว่าตัวเองได้รับการเหยียดหยามเป็นที่สุด?”

ถังมู่หวั่นไม่พูด เพียงแค่กำหมัดแน่น วางมาดยิ้มเล็กน้อยมองดู ปิดบังความแค้นในดวงตาไว้ลึกๆ

“ที่เจ้าฝืนบังคับข้า ตอนนี้ตัวเองก็รู้สึกสัมผัสได้แล้ว ผลกรรมไม่สนุกสินะ! เจ้าฆ่า…….” เจ้าฆ่าข้าเถอะ!

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท