หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 631 ทำทุกวิถีทางโดยไม่เลือก

บทที่ 631 ทำทุกวิถีทางโดยไม่เลือก

แววตาของเขาเพ่งมองนางอย่างจดจ้อง ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อจากนั้นก็มองที่มือของตัวเอง แล้วมองซ่างกวนหนานซู่ กลับไปกลับมาที่ตัวของตัวเองและใบหน้าของซ่างกวนหนานซู่สองสามครั้ง

สุดท้ายถอนหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรง……

“ท่านชนะแล้ว ฆ่าข้าเถอะ!”

ซ่างกวนหนานซู่ไม่หลงกล อีกทั้งตรวจออกมาได้ว่าบนมือของเขาถูยาพิษไว้ อีกทั้งพูดความคิดในใจของเขาออกมาอย่างแม่นยำไม่มีผิด

เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนางเป็นความจริง ถังมู่หวั่นวางยาพิษที่ไม่มียาถอนพิษให้ตัวเองดังคาด อย่างไงเสียก็มีชีวิตรอดไม่ได้แล้ว ก็ตายเช่นนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป เสียดายเพียงแค่แม้ว่าเขาจะตายก็ต้องพาหน้ากากหนังคนแผ่นนี้ไปด้วย แม้ตายก็ไม่มีทางเป็นตัวเองได้

เห็นซ่างกวนหนานซู่ไม่ได้ขยับ กลับหมุนตัวแล้วเดินจากไป

ฉินหวยก็ไม่ได้พูดอะไร ชักมีดสั้นด้ามหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อเตรียมจะแทงไปที่หัวใจของตัวเอง…….

ยาพิษบนมือใช้เพื่อต่อกรกับซ่างกวนหนานซู่จริงๆ แต่กลับเป็นยาพิษชนิดออกฤทธิ์ช้า อีกทั้งเขาก็เตรียมยาถอนพิษไว้แล้ว วางไว้ในที่ที่เขารู้จักเพียงผู้เดียว

จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้ซ่างกวนหนานซู่โดนยาพิษชนิดออกฤทธิ์ช้า ไม่ว่าเขาจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ล้วนต้องถอนพิษในร่างกายของเขา แต่เขาคิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ถังมู่หวั่นจะวางยาพิษที่ไม่มีทางแก้ให้เขาจริงๆ และซ่างกวนหนานซู่ก็ไม่ได้หลงกล

ความจริงก็เป็นเช่นนี้ เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่แล้ว

ใครจะรู้……

มีดสั้นแทงไม่ลง ถูกพลังที่แข็งแกร่งควบคุมไว้ เงยหน้ามอง ตรงหน้าชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ท่าทางเหมือนปัญญาชน แต่กลับทำให้มีความรู้สึกคาดเดาได้ยากยิ่ง

คนผู้นั้นขยับมือเพียงเล็กน้อย มีดสั้นในมือของฉินหวยก็เด้งออกในพริบตา ปักตรงลงในดินข้างๆ ไม่ทันได้ทำปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ฉินหวยรู้สึกเพียงช่วงคอแสบร้อนเป็นระยะ จากนั้นก็หมดสติ

หลานเยาเยาเดินเข้ามา มองดูใบหน้าที่เหมือนกับเย่แจ๋หยิ่งทุกอย่างนั้น นางขมวดคิ้วอย่างหนัก

“จะตายก็ไม่ควรเอาใบหน้านี้ไปตายด้วย”

“อาส้ง ช่วยเสริมหน่อย!”

…….

องครักษ์ลับสิบกว่าคนที่ฝึกฝนอย่างดี หลังจากที่ไร้ผลลัพธ์จากการสืบหา เย่แจ๋หยิ่งก็หาหานแสพบโดยลำพัง หานแสกลับบอกว่าฆ่าซ่างกวนหนานซู่ไปแล้ว เย่แจ๋หยิ่งไม่เชื่อเป็นธรรมดา ทั้งสองต่อสู้กันรอบหนึ่ง สุดท้ายหานแสเป็นฝ่ายแพ้

ขณะที่เย่แจ๋หยิ่งจากไป หานแสเช็ดคราบเลือดบนมุมปากอย่างรุนแรง กล่าวเสียงดังต่อแผ่นหลังของเย่แจ๋หยิ่ง:

“ข้ารู้แล้วว่านางเป็นใคร นางไม่ได้เป็นเพียงหลานเยาเยา อ๋องเย่ อย่าคิดว่าท่านครอบครองนางได้แล้ว”

ฝีเท้าของเย่แจ๋หยิ่งชะงักลง แต่ก็เพียงแปบเดียวเท่านั้น แล้วยกเท้าจากไปต่อ

หลานเยาเยาเป็นใคร เขากระจ่างแจ้งกว่าผู้ใด

แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้รับการคุกคามจากแขกต่างประเทศ เขาหวังเพียงนางเป็นหลานเยาเยา เป็นเพียงหลานเยาเยาของเขาเท่านั้น

เย่แจ๋หยิ่งกลับไปในป่าทึบผืนนั้นอีกครั้ง

เป็นดังคาดทั้งที่เห็นนางไม่ได้เป็นอะไรแต่กลับยังเป็นห่วงหลานเยาเยาเป็นพิเศษ

หลานเยาเยาก็เห็นเขาแล้ว จิตใจค่อนข้างวิตกกังวลเล็กน้อย นาทีนั้นที่เห็นเย่แจ๋หยิ่งอีก ทั้งหมดก็สงบลงแล้ว

เวลานี้ อาส้งกำลังอยู่ข้างกายนาง พวกเขาใช้บ้านที่พังถล่มทำเหมือนโต๊ะทำงานเป็นโต๊ะที่เรียบง่าย ด้านบนมีคนนอนอยู่หนึ่งคน

เห็นเพียงร่างกายของคนผู้นั้น ยังไม่เห็นใบหน้าของเขา ในสมองของเย่แจ๋หยิ่งปรากฏเหตุการณ์ในความทรงจำบางอย่าง ทำให้คิ้วของเขาขมวดแน่น จนได้เห็นใบหน้าของเขามีรอยเลือดเล็กน้อย เขาจึงได้แอบถอนหายใจ

ไม่ใช่เขา!

ฮ่องเต้รุ่นแรกที่วางแผนจะอยู่กับนางไปชั่วชีวิตผู้นั้น

“เยาเยา ในที่สุดข้าก็หาเจ้าพบ ไม่เป็นไรก็ดี”

เขาไม่กล้าเข้าใกล้มาก เพราะเวลานี้หลานเยาเยายังยุ่งมาก ในมือถือสิ่งของที่เป็นเหมือนหนังคนแผ่นหนึ่งไว้ ถามอย่างสงสัย:

“นี่คืออะไร?”

“หน้ากากหนังคน!” เย่แจ๋หยิ่งเคยเห็นหน้ากากหนังคน ทีแรกไม่อยากพูด เกรงว่าจะทำให้เขาอยากอาเจียน แต่หลานเยาเยารู้สึกว่ายังไงก็ต้องบอกเขา “อยู่ที่ถังมู่หวั่นนั่น เขาเป็นตัวแทนของท่าน”

ต่อจากนั้น นางพูดเรื่องที่เผชิญมารอบหนึ่ง และบอกกระทั่งความลับทุกอย่างที่ฉินหวยพูดออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจริงเท็จ แค่ตรวจก็รู้

ยิ่งฟังสีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งยิ่งเคร่งขรึม ดำจนเหมือนถูกสาดน้ำหมึก

ฟังจบ

เขากำหมดแน่นนานแล้ว น้ำเสียงเฉียบขาด “นาง คิดไม่ถึงว่านางจะกล้าเพียงนี้…….”

หาผู้ชายที่รูปร่างเหมือนเขาผู้หนึ่ง คลุมด้วยหน้ากากหนังคนของเขาแผ่นหนึ่ง ก็คิดว่านั่นคือเขาแล้ว? ยังทำเรื่องเช่นนั้นออกมาอีก

นี่คือการดูหมิ่นและการเหยียดหยามต่อเขาชนิดหนึ่งโดยแท้

“เย่แจ๋หยิ่ง อย่าใส่ใจ เจ้าคือเจ้า ฉินหวยคือฉินหวย ไม่ว่าถังมู่หวั่นกับเขาจะเกิดอะไรขึ้น นั้นล้วนเป็นเรื่องระหว่างถังมู่หวั่นกับฉินหวย ท่านจะรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องอัปยศชนิดหนึ่งทำไม? นางเพียงแค่อยากครอบครองท่านเกินไปเท่านั้น”

คำพูดนี้เดิมทีก็ไม่ผิด

กลับถูกเย่แจ๋หยิ่งมองอย่างเกรี้ยวกราด เสียงหนักแน่นเล็กน้อย: “เยาเยา…….”

“ได้ ไม่พูดถึงนางแล้ว เช่นนั้นพูดเรื่องฉินหวยเถอะ! เขาโดนยาพิษที่ไม่มีทางถอน ตอนนี้หน้ากากหนังคนบนใบหน้าถูกลอกออกแล้ว อย่างมากเขาก็มีชีวิตได้เพียงวันพรุ่งนี้ ต้องการจัดการกับเขาอย่างไร?”

ฉินหวยเป็นคนน่าสงสาร

เดิมทีเป็นเพียงปัญญาชนผู้หนึ่ง คิดเพียงสอบเพื่อผลงานและตำแหน่งชื่อเสียง สุดท้ายตกอับถึงจุดจบที่ต้องสูญเสียครอบครัว ตอนนี้เขาไม่ได้มีท่าทางที่บริสุทธิ์แล้ว เพื่อมีชีวิตรอดหรือเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของตัวเอง เขาเรียนรู้ที่จะทำทุกวิถีทาง

เช่นนี่เดิมทีก็ไม่มีอะไรให้ตำหนิมาก

ไม่ว่าผู้ใดที่มาถึงจุดนั้นเช่นเขา ก็ล้วนไม่ไร้เดียงสาอีก แต่สวรรค์ไม่ให้โอกาสเขาได้เป็นคนใหม่อีกรอบ ในไม่ช้าเขาจะตาย

“เยาเยาคิดว่าควรจะทำอย่างไร?”

“ข้าคิดดู” หลานเยาเยามองหน้ากากหนังคนในมือแวบหนึ่ง แม้ว่าจะเหมือนหน้าของเย่แจ๋หยิ่งเป็นที่สุด แม้ว่าจะมีมูลค่ามาก แต่นางยังทำลายสิ่งนั้นโดยไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย “ในเมื่อฉินหวยเกลียดแค้นถังมู่หวั่น เช่นนั้นก็ให้พวกเขาทำให้มันจบเอง”

ดีชั่วล้วนมีผลกรรม เพราะผลกรรมต้องได้รับการตอบสนอง ตั้งแต่ไหนแต่ไรรักษาสัจจะเสมอ

“ดี!”

ไม่ว่าอย่างไรก็ดี เพียงแค่อย่าทำให้เขาสะอิดสะเอียนอีก

เย่แจ๋หยิ่งเก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับศพคนโดนมนต์ดำที่ถังมู่หวั่นขโมยไปซ่อนในงานเลี้ยงดอกไม้นานาพันธุ์ปีนั้น นางบิดเบือนจำนวนคนของงานเลี้ยงดอกไม้นานาพันธุ์ ตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์จากศพคนโดนมนต์ดำอีก ใช้คนเป็นสร้างคนโดนมนต์ดำ เป็นอันตรายต่อประชาชน กลับเพียงเพื่อเรื่องส่วนตัว

ตอนนี้บวกกับการคุมขัง ฉินหวยอีก ฆ่าคนมั่วซั่วข้อหนึ่งนี้

ถังมู่หวั่นจำเป็นต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา

ในตอนกลางคืน ลมหนาวพัดกระหน่ำ พัดโชยใบไม้ต้นหญ้า ประตูหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดก็ถูกพัดเกิดเสียงดัง

ในจวนเฉิงเสี้ยง คืนนี้เงียบสงบผิดปกติ องครักษ์ที่ลาดตระเวนยังคงลาดตระเวนเหมือนปกติ แต่ไม่ได้มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด เพียงแต่ในจวนนี้กลับเผยความผิดปกติออกมาทุกที

อันดับแรกคือไฟในลานหลักของลานด้านหลังที่ส่องสว่าง หลังจากนั้นโคมไฟตรงระเบียงทางเดินมากมายไม่ได้จุด

ในห้องนอนของถังมู่หวั่น เป็นห้องเพียงห้องเดียวที่ดับไฟเทียนแล้ว

แต่นางกลับนอนไม่หลับ หมุนกลับไปมา ทั้งสมองล้วนเป็นเงาร่างของอ๋องเย่ และเสียงพูดเอาอกเอาใจที่กล่าวออกมา ผู้ชายที่เหมือนดั่งเทพเซียนเช่นนี้ ทำให้นางหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า

ผู้คนล้วนกล่าวว่า พวกเขาผู้ชายมีความสามารถผู้หญิงงดงาม เป็นคู่ที่สวรรค์กำหนด นางก็คิดเช่นเดียวกัน ในโลกนี้ผู้ที่พอจะคู่ควรกับอ๋องเย่ได้ มีเพียงนางแล้ว

น่าเสียดาย ไม่ว่านางจะงดงามโดดเด่นเพียงใด ตั้งแต่เริ่มจนจบก็ไม่ได้รับสายตาที่แตกต่างออกไปของอ๋องเย่

อ๋องเย่ที่ยังคงเย็นชาเหมือนดั่งน้ำแข็งผู้นั้น อ๋องเทพสงครามที่ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงคนใดเข้าใกล้ภายในสามก้าว เขาอยู่อย่างสูงส่ง อีกทั้งชื่อเสียงความดุร้ายภายนอก นางกล้ามองเพียงไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

ชื่นชอบอย่างระมัดระวังก็คือความงดงามชนิดหนึ่ง

แต่ทว่า…….

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท